เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าท้องของเธอจะไม่รักดีขนาดนี้!
เธอกับเขาเพิ่งจะเจอกับเป็นเวลาสั้นๆสองสามครั้ง แต่ทุกครั้งกลับมีเรื่องให้ขายหน้า เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายแบบเขา เธอยิ่งรู้สึกขายหน้าจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี
สิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ เธอได้ทำมันไปทั้งหมดแล้ว!
“อาหารเที่ยงคุณอยากทานอะไร?” สายตาของเขามองมาที่เธอแล้วพูดเรียบๆ “ผมเลี้ยงเอง”
อยากทานอะไร…
สมองของยู่ยี่ปรากฏภาพก๋วยเตี๋ยวต้มยำแทบจะในทันที ทันใดนั้นน้ำลายในปากของเธอก็แตก
น้ำมันพริกสีแดงลอยอยู่ชั้นบน เส้นที่ทั้งเล็กทั้งยาว ต้นหอมสีเขียวและขาว และเนื้อแสนอร่อยที่ลอยบนผิว…
แค่คิดเธอก็รู้สึกว่ามันอร่อยสุดๆและอยากกินสุดๆด้วย
แต่ผู้ชายข้างๆดูไม่ใช่คนที่จะสามารถกินของแบบนั้นได้ เธอเลียริมฝีปากแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ส่งฉันลงในเมืองก็พอ”
จากนั้นเธอค่อยไปแก้ปัญหาท้องที่หิวด้วยตัวเอง ในใจเธอคิดเช่นนั้น
ฉันทัชหลับตาลง ริมฝีปากขยับพูดว่า “ผมไม่ชินกับการที่ให้ผู้หญิงเลี้ยง…”
ยู่ยี่รู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องที่ร้านอาหารเรื่องนั้น เธอพูดอธิบายว่า “รบกวนคุณมาตั้งหลายครั้ง ฉันก็แค่อยากแสดงความขอบคุณเท่านั้น”
“ระหว่างทั้งสองอย่างนี้มันไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอ?” เขาเลิกคิ้วถามกลับ
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะหายหิวแล้ว ไม่อยากจะกินอะไรแล้ว…จ๊อกจ๊อก…”
พอเธอพูดจบเรื่องท้องร้องนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันทัชเงยหน้าเล็กน้อยกวาดมองเธอที่กำลังเขินมากๆ แก้มเธอแดงราวกับเลือดกำลังจะพุ่งออกมาจากแก้ม นิ้วเรียวยาวเคาะพวงมาลัย ริมฝีปากบางขยับโค้ง “ท้องของคุณขายคุณซะแล้ว…”
ได้ฟังดังนั้นแก้มเธอก็แดงก่ำ รีบโบกมือปฏิเสธ “ฉันไม่หิวจริงๆค่ะ!”
“ถ้าหากไม่ยินดีที่จะทานข้าวกับผม งั้นผมก็ไม่บังคับ คุณจะลงที่ไหน?” ฉันทัชหันหน้ามาน้อยๆ ดวงตามองมาที่เธอ
ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังประดับด้วยรอยยิ้มที่น่าหลงใหล เสียงที่น่าดึงดูดราวกับไวน์ที่กลมกล่อม ไม่มีความโกรธเคืองเจือปน
แต่ความสง่างามและความเป็นสุภาพบุรุษเช่นนี้ของเขากลับทำให้ยู่ยี่รู้สึกทำตัวไม่ถูก รู้สึกผิด มาคิดดูแล้ว เธอเลียริมฝีปากแล้วพูดตามความจริง “สิ่งที่ฉันอยากกินมันไม่ค่อยเหมาะกับคุณเท่าไร…”
เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ไม่เหมาะยังไง?”
“คุณดูสูงส่งเกินไป ไม่เหมือนคนที่จะสามารถกินสิ่งนั้นได้” ความรู้สึกที่เขาแผ่ออกมามันทำให้คนรู้สึกว่าเขาดูไฮโซเกินไป ที่เธอพูดมาล้วนเป็นความจริง
ผู้คนต่างความรู้สึกว่าเขาเหมือนคนที่เข้าออกโรงแรมห้าดาวแต่กำเนิดหรือว่าภัตตาคารหรูชื่อดังของชนชั้นสูง ส่วนอย่างอื่นล้วนไม่เหมาะกับเขา
ริมฝีปากฉันทัชขยับขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “นี่คือคำชมหรือคำตำหนิว่าผมกินแค่ของดีๆครับ?”
เธอตอบอย่างรวดเร็วตามจริงอย่างตาแป๋วว่า “ฉันสาบานว่าฉันชื่นชมจากใจจริง!”
แสงแดดในตอนบ่ายของฤดูใบไม้ร่วงสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่กระทบกับเส้นผมและใบหน้าของเธอเล็กน้อย
ผิวของเธอที่สะท้อนกับแสงแดดดูขาวผ่อง โปร่ง แม้แต่ขนเล็กๆบนแก้มก็สว่างขึ้น กระเหล่านั้นดูมีชีวิตชีวาบนใบหน้าของเธอ ดวงตาสว่างราวกับน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์
ทั้งๆที่เป็นแม่ของลูกแล้ว แต่ยังคงเหมือนสาววัยแรกแย้ม…
ฉันทัชมองเธอ ดวงตาของเขาลึกราวกับทะเลผันผวน ราวกับมีระลอกคลื่น ในช่วงเวลาสั้นๆก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง เขากลืนน้ำลาย เปล่งเสียงออกมา “ผมเชื่อคุณ ที่อยู่ล่ะ?”
ยู่ยี่ขมวดคิ้วมองเขานิ่ง “จะไปจริงๆเหรอคะ? แน่ใจว่าจะไปใช่ไหมคะ?”
คุณตอบสนองแบบนี้ทำให้ผมนึกว่าตัวเองจะไปกินอาหารมื้อสุดท้าย ที่อยู่ล่ะ…” เขาขยับริมฝีปาก ร่างสูงโน้มตัวไปข้างหน้า นิ้วเรียวกดแตะแอพนำทางรอคำตอบจากเธอ การขยับตัวนี้ทำให้ชุดสูทของเขารัดแน่นเล็กน้อย แต่ร่างกายเขากลับยังคงดูสง่างามองอาจอยู่
เธอบอกที่อยู่ ฉันทัชกดแตะอย่างรวดเร็ว จากนั้นป้อนที่อยู่ แล้วสตาร์ทรถขับออกไป
มองจากระยะไกล ยู่ยี่ยังคงเห็นซารางตัวน้อยกระโดดโบกมือด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา
ไม่รู้ว่าในอนาคตลูกของเธอจะหน้าตาเป็นอย่างไร จะหน้าเหมือนใคร
ที่อยู่ที่เธอบอกค่อนข้างไกล ร้านอยู่ในซอยเล็กๆที่ลึกและแคบ รถหรูสีเงินเคลื่อนตัวอยู่ในนั้น
สุดท้ายรถจอดหน้าประตูร้าน ร้านดูเก่าแก่และไม่ได้ตกแต่งมานานจึงดูโทรมไปหน่อย
ยู่ยี่เปิดประตูลงจากรถ แขนกางชี้ที่ประตู มองชายผู้สูงศักดิ์ในรถ “กลับตัวตอนนี้ยังทันนะ”
ปฏิกิริยาตอบกลับของฉันทัชมีเพียงแค่ยิ้มบางๆ เขาลงจากรถตามหลังเธอไป กะพริบตา ยู่ยี่ก็เดินเข้าไปในร้าน
ตอนนี้เป็นเวลามื้อเที่ยง ดังนั้นลูกค้าในร้านจึงแน่นมาก ทันทีที่ฉันทัชเดินเข้ามาก็ดึงดูสายตาของคนทั้งหมด
เจ้าของร้านสาวเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยเฉพาะเมื่อมองฉันทัช ก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก!
ร้านที่นั่งเต็มแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านสาวถูกความหล่อดึงดูดใจหรือเปล่า ที่เคลื่อนย้ายของห้องที่เธอพักอาศัยจริงๆออกมาแล้วจัดวางโต๊ะอาหาร
ยู่ยี่ต้องถอนหายใจกับความน่าดึงดูดของเขา ผู้หญิงตั้งแต่สาวยันมีอายุล้วนถูกเขาพิฆาตจนแทบทั้งหมด
แต่ผมว่าก็ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ทั้งสองคนมีที่นั่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำถูกยกเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมก็โชยออกมา
เธออยากกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำมาสักพักแล้ว พอตอนนี้ได้เห็นของที่ตัวเองอยากกินจะทนได้อย่างไร เธอหยิบตะเกียบ ก้มหน้าก้มตากิน
เมื่อเทียบกับการกระทำของเธอ ฉันทัชใช้ทิชชูเช็ดตะเกียบจนสะอาดก่อนแล้วยื่นให้เธอ จากนั้นก็เช็ดอีกคู่หนึ่ง
ในด้านรายละเอียดเหล่านี้ ยู่ยี่รู้สึกละอายใจกับตัวเอง
เขากินอย่างสบายๆแต่กลับไม่มีเสียง เก้าอี้ที่เจ้าของร้านสาวหามาให้เตี้ยไปหน่อย และเพราะร่างกายของเขาสูงเกินไป ดังนั้นขาเขาจึงต้องแยกจากกัน
ยู่ยี่เงยหน้าขึ้นและชำเลืองมองดูเขา แม้ว่าต้องนั่งในที่ทั้งเล็กและโทรมขนาดนี้กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำแสนถูก แต่ท่าทางการขยับตัวของเขาก็ยังดูสูงศักดิ์
จากที่เธอได้รู้จักๆกับเขาจริงๆ เธอว่าเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณใส่ชุดหรูมากเท่าไหร่ มีเงินมากแค่ไหน ขับรถอะไร ปรากฏตัวในสถานที่แบบไหน เพื่อให้คนอื่นได้เห็นว่าคุณรวยแค่ไหน ดูสูงศักดิ์แค่ไหน
ฐานะที่สูงส่งที่แท้จริงของเขามันแผ่ออกมาจากภายในสู่ภายนอก ไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงไหน คนอื่นก็สังเกตเห็นคุณในทันที กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับห้าดาว หรือร้านอาหารมอซอเล็กๆ
ความสูงส่งเป็นสิ่งที่คุณมอบให้กับรอบข้าง ไม่ใช่สิ่งที่รอบข้างขับให้คุณเด่นขึ้น
เธอนึกว่าเขากินเผ็ดไม่ได้ แต่ดูเหมือนเขาจะกินได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว “รสชาติเป็นไงบ้าง?”
“ดีมาก…” ตะเกียบในมือเขาหยุด เงยหน้าขึ้นแล้วขยับริมฝีปากบางตอบเธอ
ยู่ยี่ยิ้ม ในคำพูดแฝงด้วยคำหยอกล้อ จงใจพูดว่า “งั้นต่อไปคุณจะกลับมากินข้าวที่นี่อีกไหม?”
“มาบางครั้ง…” ฉันทัชพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ สายตามองไปรอบๆห้องที่นั่งอยู่ “ผมค่อนข้างใส่ใจเรื่องความสะอาด…”
รสชาติของอาหารสามารถยกไว้เป็นลำดับสองได้ ร้านอาหารเล็กๆก็ได้เช่นกัน แต่เงื่อนไขแรกของเขาคือจะต้องสะอาด
เธอกะพริบตา ดื่มซุปร้อนๆ ที่ทำให้อุ่นถึงกระเพาะ”คุณเป็นพวกบ้าความสะอาดใช่ไหม?