ตอนที่ 612 ฉันจำที่รับปากคุณได้ / ตอนที่ 613 ต๊องไปแล้วเหรอ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 612 ฉันจำที่รับปากคุณได้  

 

 

“ฉันจำที่ฉันรับปากกับคุณได้ เผยหนานเจวี๋ย คุณอย่างอแงเหมือนเด็กได้ไหม ตอนนี้ใจของฉันสับสนมาก ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณเพราะเรื่องพวกนี้” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าเผยหนานเจวี๋ยไร้เหตุผลจริงๆ แล้วก็เป็นทุกข์มากด้วย บางทีผู้ใหญ่ยังเอาใจยากกว่าเด็กเสียอีก

 

 

“ตอนนี้คุณรักษาตัวเองให้ดีก็พอ อาการของจวิ้นฉือตอนนี้ ฉันไม่สนใจเขาไม่ได้หรอก” ฉู่เจียเสวียนบอกความคิดในใจของตัวเองออกมา ตอนนี้กงจวิ้นฉือต้องการเธอมากกว่าเผยหนานเจวี๋ย

 

 

เผยหนานเจวี๋ยเงียบไปไม่พูดจา เขาหาเหตุผลมาคัดค้านไม่ได้ แต่ละคำพูดของฉู่เจียเสวียนล้วนมีเหตุผล ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ควรเพิ่มเรื่องปวดหัวให้ฉู่เจียเสวียนอีก แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เลย ตอนนี้เขารู้สึกไร้หนทางเป็นอย่างมาก

 

 

“คุณกินข้าวแล้วหรือยัง” เผยหนานเจวี๋ยต้องการให้พวกเขาทั้งคู่สงบลง จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อทันใด

 

 

ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ตอนนี้เธอไม่ความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย รู้สึกไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น

 

 

“ถ้าคุณยังไม่กินอะไรแบบนี้อีก คนที่ทรุดจะกลายเป็นคุณเองนะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากด้วยความเป็นห่วง

 

 

ฉู่เจียเสวียนแปลกใจเล็กน้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเผยหนานเจวี๋ย ในเมื่อเขาไม่พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว เธอก็จะไม่เอ่ยถึงมันอีก แบบนี้นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขาสองคน เธอก็แค่ไหลไปตามคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

“หลี่เฮ่า พาคุณหนูฉู่ไปทานข้าว” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก เรียกหลี่เฮ่าที่อยู่ข้างนอกเข้ามา

 

 

“ครับ” หลี่เฮ่าพยักหน้าอย่างนอบน้อม

 

 

“ฉันไม่หิว”

 

 

“แต่ผมหิวแล้ว ผมเองก็ยังไม่ได้กิน เดี๋ยวตอนคุณกลับมาซื้อข้าวขึ้นมาให้ผมด้วย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างเอาแต่ใจ สายตามองตรงไปที่เธอ

 

 

เธอจะเป็นแบบนี้ต่อไปได้อย่างไรกัน เดี๋ยวพอพวกเขาหายแล้ว เธอล้มป่วยแล้วจะทำอย่างไร

 

 

เมื่อได้ยินว่าเผยหนานเจวี๋ยยังไม่ได้กินข้าว หลังจากฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้าลง เดินออกจากห้องผู้ป่วยไปกับหลี่เฮ่า

 

 

“คุณหนูฉู่ คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ” หลี่เฮ่าเดินอยู่ข้างๆ ฉู่เจียเสวียน เห็นว่าใบหน้าของเธอซีดขาวจึงถามขึ้นด้วยความเป็นกังวล

 

 

           “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” ฉู่เจียเสวียนตอบเสียงเบา อย่างไรเสียก็รีบกินสักหน่อยแล้วกลับไปดีกว่า ไม่รู้ว่าป่านนี้กงจวิ้นฉือจะตื่นแล้วหรือยัง

 

 

หลังจากฉู่เจียเสวียนกินอิ่มแล้ว เธอก็ซื้อโจ๊กอ่อนๆ ถุงหนึ่งไปฝากเผยหนานเจวี๋ย เพราะว่าคุณหมอกำชับเป็นพิเศษว่าเผยหนานเจวี๋ยสามารถกินได้แต่อาหารอ่อนเท่านั้น

 

 

หลังจากฉู่เจียเสวียนกับหลี่เฮ่าจากไปแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็มองดูทิวทัศน์ที่นอกหน้าต่าง

 

 

ที่นอกหน้าต่างนั้น ดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าไปอย่างช้าๆ ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีเทา ฤดูหนาวในเมือง A ปีนี้ดูเหมือนว่าจะอบอุ่นกว่าปีก่อนๆ อยู่บ้าง

 

 

มันนานมากแล้วที่เขาไม่มีเวลาว่างแบบนี้ เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับงาน

 

 

ทุกวันของเขามีแต่งาน บางครั้งถึงกับต้องนอนในออฟฟิศ วันยุ่งๆ และตารางงานที่แน่นเอี๊ยดสามารถดึงความคิดส่วนใหญ่ของเขาออกไปได้

 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่เขาสงบลงเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉู่เจียเสวียน และคิดถึงทุกๆ รายละเอียดในอดีต

 

 

ชีวิตไม่สามารถย้อนกลับได้ เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าเขาติดอยู่ในทางตันที่ไม่สามารถหาทางออกมาได้ เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับอดีตได้อย่างสบายใจ

 

 

ในเวลากลางดึกอันเงียบสงัด เขามักจะถามตัวเองอยู่เสมอว่า ถ้าหากตอนนั้นเขาสนใจฉู่เจียเสวียนมากขึ้นสักหน่อย ไม่วางอำนาจแบบนั้น ไม่เผด็จการและเห็นแก่ตัวแบบนั้น ยอมสละเวลาเล็กน้อยเพื่อมองเธอด้วยความจริงจัง ตอนนี้พวกเขาก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่า

 

 

เพียงแค่คิดว่าฉู่เจียเสวียนให้อภัยเขา เขาก็รู้สึกราวกับว่ากำลังฝันไป เดิมทีนึกว่าชั่วชีวิตนี้เธอจะไม่มีวันให้อภัยเขาอีกแล้ว

 

 

สำหรับเขานั้น การให้อภัยของฉู่เจียเสวียนก็เป็นเหมือนกับแสงสว่างในความมืดมิด ทำให้เขาหวงแหนเป็นพิเศษ เขากลัวว่าจะมีบางอย่างผิดปกติไป และแสงที่ส่องสว่างได้อย่างยากลำบากนั้นจะมอดดับลง

 

 

 

 

 

ตอนที่ 613 ต๊องไปแล้วเหรอ  

 

 

ระหว่างที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ฉู่เจียเสวียนก็ได้เข้ามาในห้องผู้ป่วยแล้ว เผยหนานเจวี๋ยยังคงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้ว่าท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างจะมืดสนิทในขณะนี้

 

 

“หนานเจวี๋ย คุณกินอะไรสักหน่อยเถอะ” เสียงที่ชัดเจนของฉู่เจียเสวียนดังขึ้น ดึงสติของเผยหนานเจวี๋ยกลับมา

 

 

“กลับมาแล้วเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยหันมา จึงพบว่าฉู่เจียเสวียนเข้ามาในห้องผู้ป่วยแล้ว เขาไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด

 

 

ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะแย่มากแล้วจริงๆ เมื่อก่อนแม้แต่เสียงลมพัดผ่านใบหญ้าเขาก็ยังรับรู้ได้

 

 

เขาต้องรีบฟื้นฟูและรักษาร่างกายให้ดีถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่สามารถปกป้องเธอได้

 

 

ฉู่เจียเสวียนเปิดฝาถ้วยออก เพียงครู่เดียวกลิ่นหอมก็กระจายฟุ้งเต็มห้อง เผยหนานเจวี๋ยกลืนน้ำลายลงคอ ความหิวจู่โจมเข้ามาโดยพลัน

 

 

มองดูฉู่เจียเสวียนที่ถือโจ๊กอยู่ในมือ โจ๊กนั้นมีไออุ่นลอยขึ้นมา

 

 

ฉู่เจียเสวียนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเผยหนานเจวี๋ย ยื่นโจ๊กในมือให้เขา มองเขาด้วยสีหน้ารอคอย

 

 

เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรอคอยของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่อาจปฏิเสธ ยื่นมือออกไปรับโจ๊กมาแล้วเริ่มกิน

 

 

ภายใต้สายตาของฉู่เจียเสวียนนั้น เผยหนานเจวี๋ยกินโจ๊กหมูไม่ติดมันเต็มถ้วยจนหมด เมื่อเห็นก้นถ้วยแล้ว เธอก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ

 

 

เมื่อเห็นว่าเผยหนานเจวี๋ยกินโจ๊กจนหมดถ้วย เธอก็ควรไปดูแลกงจวิ้นฉือแล้ว เธออยากให้เวลาหยุดลงในตอนนี้เป็นอย่างมาก

 

 

แต่ว่าเข็มนาฬิกากำลังเดินเสียงดัง ติ๊กต๊อกๆ เตือนสติฉู่เจียเสวียนว่าตอนนี้เวลาล่วงเลยไปมากแล้ว

 

 

เผยหนานเจวี๋ยดูออกว่าใบหน้าของฉู่เจียเสวียนนั้นเป็นกังวล เขาขึงเอ่ยปากขึ้นว่า “คุณไปดูแลกงจวิ้นฉือเถอะ”

 

 

เขาตัดสินใจที่จะไม่เพิ่มความวุ่นวายให้กับฉู่เจียเสวียนอีก อย่างไรเสียเวลานี้ฉู่เจียเสวียนก็เป็นของเขา ถ้าเธอทำอย่างนี้แล้วสบายใจเขาก็จะปล่อยให้เธอทำไป

 

 

เขาเชื่อใจฉู่เจียเสวียนและเชื่อมั่นในคำพูดของเธอ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เขาจะทำให้เธอลำบากใจไปทำไมกัน

 

 

“ขอโทษนะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยขอโทษ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครผิดก็ตาม

 

 

“ขอโทษทำไมกัน คุณต๊องไปแล้วเหรอ?” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากด้วยความเอ็นดู แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม

 

 

ฉู่เจียเสวียนออกจากห้องผู้ป่วยของเผยหนานเจวี๋ยด้วยอารมณ์ที่สับสนเป็นอย่างมาก จากนั้นก็เข้าไปในห้องของกงจวิ้นฉือด้วยความสับสนนั้น

 

 

เมื่อถังถังเห็นว่าฉู่เจียเสวียนกลับมาแล้วเธอก็เอ่ยปากอย่างดีใจ “เจียเสวียน เธอกลับมาแล้วเหรอ”

 

 

ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า ในห้องผู้ป่วยตอนนี้คุณย่ากงตื่นแล้ว เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนกลับมา ความยินดีก็เปล่งประกายในดวงตาของเธอ

 

 

“คุณย่าคะ คุณย่ากินข้าวแล้วหรือยังคะ” ตอนที่เธอจากไปคุณย่ากงยังคงนอนหลับอยู่ เธอก็ไม่ได้รบกวนท่าน เมื่อคิดแบบนี้ท่านก็น่าจะไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน

 

 

“กินแล้ว”

 

 

“วางใจเถอะ เจียเสวียน ฉันให้พวกเขากินข้าวกันหมดแล้ว” ถังถังเอ่ย

 

 

ฉู่เจียเสวียนพยักหน้ากับถังถังด้วยความซาบซึ้ง เธอลืมไปได้อย่างไรว่าทางนี้ยังมีถังถังอยู่

 

 

“เจียเสวียน นี่เป็นมื้อเย็นที่เธอซื้อมาเหรอ” คุณย่ากงสังเกตเห็นถุงใบหนึ่งในมือของฉู่เจียเสวียน

 

 

“เอ่อ ฉันซื้อโจ๊กมานิดหน่อยค่ะ คุณย่าอยากทานอีกหรือเปล่าคะ” ฉู่เจียเสวียนถาม

 

 

คุณย่ากงส่ายหน้า “ประเดี๋ยวให้จวิ้นฉือกินเถอะ เขายังไม่ตื่นเลย”

 

 

หลังจากที่ฉู่เจียเสวียนจากไปในช่วงบ่าย กงจวิ้นฉือก็รอฉู่เจียเสวียนและหลับไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากเขาได้กลิ่นหอมของโจ๊ก เขาคงต้องตื่นมาแน่

 

 

ถังถังดึงแขนเสื้อของฉู่เจียเสวียนน้อยๆ “ถ้ายังไงคืนนี้ฉันมาดูแลพวกเขาเองก็ได้นะ เธอกลับไปพักผ่อนดีไหม?” เธอตั้งใจลดเสียงให้เบาลง

 

 

“ไม่ต้องหรอกถังถัง เธอยุ่งกับงานที่ร้านชุดแต่งงานทุกวัน เธอจะมาได้ยังไง ตอนนี้ธุรกิจที่ร้านชุดแต่งงานก็กำลังไปได้ดี ยังไงเธอก็ต้องกลับไป ฉันอยู่ที่นี่ได้น่ะ” มีเธออยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวก็พอแล้ว เธอไม่มีเวลาดูงานที่ร้าน จึงไม่ต้องการให้ถังถังเหนื่อยไปด้วย