ตอนที่ 762 เคารพผู้น้ำตระกูล!

Godly Model Creator

GMC ตอนที่ 762 เคารพผู้น้ำตระกูล!

 

 

 

 

 

 

 

นอกเมืองเทียน

 

 

 

หลังจากซูฮ่าวออกมา เขาก็มุ่งหน้าไปในทิศทางที่เขาเดินมา

 

 

 

เขาไม่คิดว่าเมื่อเขาเดินไปเล้กน้อยเขาจะเห็นชายคนหนึ่งรอเขาอยู่ไกลๆ แน่นอนว่ามันเป็นชายคนเดียวกันกับคนตัวเดียวที่ไม่มีสมาชิกในครอบครัว เขาจ้องซูฮ่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เฮ้อ.. ซูฮ่าว ภัยคุกคามที่เรียกว่าตัวประกันมันไม่ได้มีผลสำหรับทุกคน ฉันอยากจะเห็นนัก แกวิธีที่แกจะต่อสู้กับไอ้เก่าเหล่านั้น”

 

 

 

วูป!

 

 

 

ภาพเลือนอลาง ชายคนนั้นก็เริ่มที่พุ่งเข้ามา

 

 

 

บูม!

 

 

 

อย่างไรก็ตามเสียงนุ่มนวลดังขึ้น

 

 

 

ทันใดนั้นชายคนนั้นก็หยุด ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อขณะที่ดวงตาของเขาขยายใหญ่ จากภาพสะท้อนจากดวงตาของเขา ใครๆ ก็สามารถเห็นกระสุนที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศและใกล้เข้ามาทุกวินาที ความเร็วนั้นเป็นอะไรที่เร็วมาก

 

 

 

บูม!

 

 

 

1 นัดและมันตรงเข้าศีรษะของเขาอย่างแม่นยำ

 

 

 

แรงกระทบรุนแรงทำลายร่างกายของเขาไป

 

 

 

ซูฮ่าวมองดูเขาอย่างเย็นชา ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ขยับใดๆ  เพียงปล่อยให้ชายคนนี้วิ่งเข้าใส่เขาแล้วชายคนนี้ก็ล้มคุกเข่าลง

 

 

 

เมื่อเห็นว่าวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้จบไป ซูฮ่าวก็หันไปมองตระกูลเทียนอีกครั้งก่อนจะหันหลังกลับ

 

 

 

เจาะเกราะ!

 

 

 

เฉาเฟิง!

 

 

 

ใครจะคิดว่าชายผู้อยู่จุดต่ำสุดของชั้นคัดเลือกอัจฉริยะ คนที่ไม่อาจจะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยจะกลายเป็นนักฆ่าตัวฉกาจเช่นนี้

 

 

 

หนึ่งนัดต่อหนึ่งชีวิต!

 

 

 

มันเป็นเพราะความช่วยเหลือของเฉาเฟิงจึงทำให้ซูฮ่าวสามารถทำตามแผนการนี้ได้สำเร็จ ในขณะนี้เขารู้ว่าสิ่งที่ชายชราพูดนั้นเป็นความจริง หากเขาทำสิ่งนี้ตั้งแต่แรกผลลัพธ์ก็คงจะไม่ใช่สิ่งนั้น แล้ว หลี่เตียนเตียน และ เซียวเดีย ก็คงไม่เป็นอะไรไป?

 

 

 

เขาคิดว่าเขามีผลกำไร แต่ใครจะสนใจ

 

 

 

เป็นการยากที่จะเข้าใจความคิดของคน

 

 

 

ในโลกนี้สิ่งที่ซับซ้อนที่สุดคือมวลมนุษยชาติ เขาสามารถรักษาสิ่งที่เรียกว่าความเมตตาของเขา แต่ถ้าเขาพ่ายแพ้ตระกูลเทียนก็จะไม่ปล่อยครอบครัวของเขา นี่ไม่ใช่เกมบ้านที่ใครจะสามารถเริ่มใหม่ได้หลังจากแพ้ ถ้าตายทุกอย่างคือจบ

 

 

 

“มนุษยชาติเหรอ?” ซูฮ่าวนึกถึงคำๆ นี้แล้วกลับไปที่จุดเริ่มต้น

 

 

 

อย่างที่เขาคาดไว้ ชายชราคนนั้นกำลังรอเขาอยู่ เมื่อเห็นเขากลับมาชายชราคนนั้นเพียงยิ้มอย่างพึงพอใจ “ไปเถอะ ตามฉันกลับไป”

 

 

 

“อืม” ซูฮ่าวพยักหน้า ตอนนี้เขาตัวคนเดียวไม่มีอะไรให้เขากังวล ในทางตรงกันข้ามเขาอยากจะเห็นว่าชายชราคนนี้วางแผนที่จะทำอะไร?

 

 

 

วูป!

 

 

 

แสงกระพริบ

 

 

 

ชายชราจับซูฮ่าวบินออกไป พลังงานรอบข้างสั่นไหวเมื่อเริ่มเคลื่อนไหว เขาไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเดินทางเร็วแค่ไหน เมื่อถูกห้อมล้อมด้วยพลังงานต้นกำเนิดซูฮ่าวก็ไม่รู้สึกถึงลมกระแทกใดๆ

 

 

 

“เจ้าคิดว่ารายชื่อของเจ้าสามารถระงับตระกูลเทียนได้หรือไม่” ชายชราพูดขึ้นในทันที

 

 

 

“อย่างน้อยตอนนี้มันก็มีผล” ซูฮ่าวกล่าวต่อไปโดยไม่สนใจ “แต่ตระกูลเทียนอาจจะเริ่มแผนบางอย่างเพื่อปกป้องพวกเขา เมื่อตัวประกันทั้งหมดได้รับการคุ้มครองพวกเขาอาจจะกลับมาเริ่มลงมืออีกครั้ง”

 

 

 

“โอ้?” ชายชราฟังอย่างอยากรู้อยากเห็น “เจ้าค่อนข้างคิดได้รอบครอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นแผนต่อไปของเจ้าคืออะไร?”

 

 

 

“ขึ้นอยู่กับว่าของขวัญแบบไหนที่ผู้อาวุโสให้” ซูฮ่าวกล่าวอย่างสงบ “ถ้ามันเป็นการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของผม ผมก็จะยึดตามความแข็งแกร่งที่ฟื้นกลับมา ถ้าไม่ผมก็มีแผนสำรองตามสถานการณ์นั้นๆ ”

 

 

 

ซูฮ่าวตอบอย่างซับซ้อน

 

 

 

ชายชราคนนั้นมองอย่างว่างเปล่าขณะที่ฟัง ก่อนที่เขาจะหัวเราะเสียงดัง “เยี่ยมยอด เยี่ยมยอด ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนสนิทของเจ้าจะเป็นอัจฉริยะกันทุกคน”

 

 

 

“เพื่อนของผม?” ซูฮ่าวดูเหมือนจะกลับมากระตือรือร้น “แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหนล่ะ?”

 

 

 

“ชายที่มีผมสีเงินคนนั้นจากไปแล้ว เขากล่าวว่าเขาต้องการเดินตามเส้นทางของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเด็กน้อยที่น่าขำคนหนึ่งโดนพ่อของเขาลากไป สำหรับสาวน้อยคนนั้นเธอบอกว่าเธอจะไปกับเจ้า ถึงฉันจะส่งเธอจากไป” ชายชราคนนั้นดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตลก

 

 

 

“จริงงั้นหรอ” ซูฮ่าวกล่าว

 

 

 

ทั้งสามคือโจวหวัง หลี่ซินและเฉินอี้หรายตามลำดับ ทีมของเขาหายไปหนึ่งคน! หัวใจของซูฮ่าวนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า

 

 

 

ชายชราคนนั้นเพียงส่ายหัวและเร่งความเร็วขึ้นทันที ซูฮ่าวมืดและสลบไป

 

 

 

“หืม?” ชายชราตกตะลึงก่อนยิ้ม “ฉันลืมไปว่าปัจจุบันซูฮ่าวเป็นแค่คนธรรมดา”

 

 

 

ชายชราถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ก่อนห่อหุ้มซูฮ่าวด้วยกฎแห่งพลังก่อนที่จะเร่งความเร็วอีกครั้ง เหมือนสายฟ้าฟาดพวกเขาหายอย่างรวดเร็ว

 

 

 

********

 

 

 

สามวันต่อมา

 

 

 

ซูฮ่าวตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง

 

 

 

เมื่อเปิดตา เขาก็ได้กลิ่นของธรรมชาติ ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในบ้านไม้ไผ่ ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าจอแขวนอยู่ที่มุมห้องซูฮ่าวคงจะคิดว่าเขาได้เดินทางข้ามมายังอีกโลกหนึ่ง

 

 

 

เอี๊ยด!

 

 

 

ซูฮ่าวลุกขึ้นจากเตียงทำให้เกิดเสียงเสียดสีจากบนพื้น

 

 

 

เมื่อเดินออกจากประตู เขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยเนินเขาสีเขียวขจีและน้ำทะเลใส ฉากดังกล่าวน่าสนใจมาก มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งยองๆ อยู่ข้างลำธารขณะที่กำลังซักเสื้อผ้า ซูฮ่าวมองลงไปและสังเกตว่าเสื้อผ้าของเขาเปลี่ยนไป

 

 

 

“นายตื่นแล้วหรอ?” เฉินอี้หยานได้ยินสัญญาณการเคลื่อนไหวและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเพื่อเดินเข้ามาในขณะที่ยังประหลาดใจ ความเร็วดังกล่าวทำให้ซูฮ่าวตกใจ จากนั้นเขาก็นึกได้ว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา สายตาของเขาไม่สามารถตามความเร็วนี้ทันได้ นี่คือสิ่งที่เขายังไม่คุ้นเคย

 

 

 

“ที่นี้อยู่ไหนงั้นหรอ?” ซูฮ่าวปรับสภาพจิตใจของเขาเล็กน้อยและสังเกตสภาพแวดล้อมของเขา

 

 

 

“เอ่อ… ป่าไผ่ ผู้อาวุโสคนนั้นทิ้งเราไว้ที่นี่และจากไป เขาบอกว่าเมื่อนายตื่นขึ้นมาเราจะรู้ได้เอง” เฉินอี้หยานพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

 

 

 

“ผู้อาวุโสคนนั้นเขาเป็นนักมายากลหรืออะไรอย่างนั้นหรือยังไง?” ซูฮ่าวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ “ลงไปดูที่นั่นกันเถอะ”

 

 

 

“อือ” เฉินอี้หยานคอยช่วยซูฮ่าวขณะลงมาจากบ้านไม้ไผ่

 

 

 

อากาศโดยรอบนั้นสะอาดและบริสุทธิ์ ซูฮ่าวจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เขาได้ชมทิวทัศน์ที่น่าทึ่งเช่นนี้ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ในทางตรงกันข้ามด้วยร่างที่ไร้พลังในปัจจุบันทำให้เขารู้สึกสงบ หนึ่งชายหนึ่งหญิงจับมือกันในป่าไผ่ที่สวยงามแห่งนี้ หากเวลาหยุดลงเพียงเท่านั้น นี่ก็คงจะเป็นฉากที่สวยงามตลอดไป

 

 

 

ซูฮ่าวจิตใจสงบมาก

 

 

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาได้มากกว่าคือของขวัญจากผู้อาวุโสคนนั้น มันจะเป็นอะไรกัน? เขายังจำได้ ก่อนที่เขาจะไปเมืองเทียนชายชราคนนั้นพูดกับเขาว่าถ้าเขาทำสำเร็จชายชราจะให้โอกาสใหญ่แก่เขา! ในขณะที่คุยกับเฉินอี้หยานจากบางแห่งมีเสียงดังขึ้น

 

 

 

ติก ติก~

 

 

 

“มีคนอยู่ที่นี่” เฉินอี้หยานตื่นตัว

 

 

 

“เรื่องจริง” ดวงตาของซูฮ่าวก้มมองต่ำ แม้ว่าความสามารถต้นกำเนิดของเขาจะหายไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกถึงอันตรายของเขาจะหายไป หันกลับไปมองที่เฉินอี้หยาน “มีสัตว์ร้ายในถิ่นทุรกันดารนี้งั้นหรอ?”

 

 

 

“ไม่!” เฉินอี้หยานส่ายหัว “ฉันเคยตรวจสอบมาก่อนแล้ว ภายในรัศมีหนึ่งร้อยไมล์ไม่พบสัตว์ร้ายแม้แต่ชนิดเดียว นอกจากนี้ออร่าเหล่านี้ดูเหมือนมาจากมนุษย์”

 

 

 

วูป!

 

 

 

ร่างมนุษย์ปรากฏ

 

 

 

ผู้คนมากมายเดินออกมาจากป่าไผ่หนา ซูฮ่าวมีสังเกตอย่างรวดเร็วและรู้สึกตกใจในทันที

 

 

 

นั่นเขา?

 

 

 

ซูหมิงฮุ่ย

 

 

 

ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในจานเจียงเด็กใหม่ห้องของ 8  ซูหมิงฮุ่ยได้พยายามที่จะยั่วยุเขาหลายครั้ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีอะไรอื่นนอกไปจากศัตรูคู่อาฆาต เหตุใดซูหมิงฮุยจึงปรากฏตัวขึ้นในขณะนี้

 

 

 

“จิตสังหาร!” ดวงตาของซูฮ่าวมีประกายเย็นชา

 

 

 

เขาเห็นในมือซูหมิงฮุ่ยถือมีดซึ่งย้อมด้วยเลือดขณะที่ปล่อยจิตสังหาร ด้านหลังของซูหมิงฮุ่ยมีผู้คนจำนวนมากที่สวมเครื่องแบบคล้ายกันเดินออกมาตามหลังซูหมิงฮุ่ย พวกเขาก้าวมาทางซูฮ่าว

 

 

 

ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?

 

 

 

สมองของซูฮ่าวทำงานอย่างรวดเร็ว

 

 

 

อะไรคือสิ่งที่เศร้าที่สุดสำหรับผู้ชาย เป็นเสือที่ถูกขย้ำโดยสุนัข หากเป็นช่วงเวลาปกติไม่ต้องพูดถึงซูหมิงฮุ่ยแม้แต่หนึ่งร้อยซูหมิงฮุ่ยก็ไม่ได้ทำให้ซูฮ่าวกังวล

 

 

 

แต่ตอนนี้?

 

 

 

เขาต้องระวังตัวอย่างสุดขีด!

 

 

 

ชายชราคนนั้นทิ้งเขาไว้ที่นี่ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ควรปลอดภัย แต่ซูหมิงฮุ่ยรู้เกี่ยวกับที่อยู่ของเขาได้อย่างไร สิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงสิ่งที่เลวร้ายยิ่งขึ้นเนื่องจากซูหมิงฮุ่ยสามารถค้นหาตำแหน่งของเขาได้แล้วคนอื่นๆ ล่ะ? ศัตรูคนอื่นๆ? ของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

 

 

 

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

 

 

 

ซูฮ่าวคิดในใจ

 

 

 

หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเขาสามารถคิดได้เพียงเรื่องของที่นี่เท่านั้น ไม่ใช่เพราะไอคิวของเขาไม่สูงพอ แต่เวลาสำหรับการคิดของเขาน้อยเกินไป!

 

 

 

ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขาคือวิธีการจัดการกับซูหมิงฮุ่ย!

 

 

 

“ไม่กีแน่” ใบหน้าของเฉินอี้หยานเริ่มเย็นชา

 

 

 

“ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นอย่างไร” ซูฮ่าวถามเสียงต่ำ

 

 

 

เฉินอี้หยานมองอย่างละเอียดและใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที “คนที่อยู่ตรงหน้าคือเอสเปอร์มืออาชีพสูงสุด สำหรับส่วนที่เหลือพวกเขาเป็นเอสเปอร์โดเมนทั้งหมด! ในหมู่พวกเขามีเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์สิบคนและเอสเปอร์โดเมนชีวิตสามคน”

 

 

 

แม้แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าศัตรูจะทรงพลังเช่นนี้!

 

 

 

ถ้าซูฮ่าวยังเป็นซูฮ่าวเมื่อหลายวันก่อนแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัย แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกหลบหนีและความตายกำลังรอพวกเขาอยู่หากพวกเขาเข้าปะทะ!

 

 

 

“ให้ฉันพวกเขาหยุด” ใบหน้าของเฉินอี้หยานนั้นเย็นชาเช่นเคย

 

 

 

“ ไม่จำเป็น” ซูฮ่าวส่ายหัว “เธอไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้”

 

 

 

“ถ้างั้นให้พวกเราก็จะตายด้วยกัน!” เฉินอี้หยานพูดอย่างสงบและทันใดนั้นก็หยุดเคลื่อนไหวตรงหน้าซูฮ่าว กำแพงน้ำแข็งสีฟ้าก่อตัวขึ้นป้องกันไม่ให้ทุกคนจากตระกูลซูเข้าถึงพวกเขา เมื่อซูหมิงฮุ่ยและคนอื่นๆ มาถึงด้านหน้าของกำแพงพวกเขาก็หยุดลงอย่างกระทันหัน พวกเขาไม่ได้เริ่มโจมตีแต่อย่างใด พวกเขาเพียงเงยหน้าขึ้นมองซูฮ่าว

 

 

 

“หากพวกคุณต้องการแตะต้องเขาพวกคุณต้องก้าวข้ามศพของฉันไปก่อน” เฉินอี้หยานสงบและเย็นชา ซูฮ่าวปกป้องเธอเสมอมา ในที่สุดเธอก็มีโอกาสได้ปกป้องซูฮ่าวคืนบ้าง! แม้ว่าสิ่งนั้นจะส่งผลให้เธอตาย  เธอก็ไม่รู้สึกไม่พอใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

กำแพงน้ำแข็งสีฟ้าแบ่งเขตป่าไผ่

 

 

 

ซูฮ่าวและเฉินอี้หยานยืนอยู่อีกฝั่งขณะที่ซูหมิงฮุ่ยและคนอื่นๆ อยู่อีกด้านหนึ่ง ข้างหลังพวกเขามีบรรยากาศเสียงน้ำไหลในลำธาร

 

 

 

บรรยากาศเงียบสนิทจนททำให้ผู้คนหวาดกลัว

 

 

 

“เฉินอี้หยานถอยมา” ซูฮ่าวพูดขึ้น

 

 

 

“อืม” เฉินอี้หยานมองย้อนกลับไปก่อนที่จะถอยห่างจากซูฮ่าวและเฝ้าอยู่ใกล้ๆ เขา ถ้าเธอสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติอะไรเธอสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกเวลา

 

 

 

แก็ก!

 

 

 

น้ำแข็งสีฟ้าแตก

 

 

 

ซูหมิงฮุ่ยและคนอื่นๆ พุ่งเข้ามาทันที

 

 

 

“หยุด” ซูฮ่าวพูดอีกครั้ง

 

 

 

นี่เป็นฉากที่ไร้สาระ ถ้าคำพูดของเขาถูกพูดกับเฉินอี้หยานก็คงไม่แปลกอะไร แต่หากจะพูดกับซูหมิงฮุ่ยและคนอื่นๆ ถ้าคนอื่นๆ ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้พวกเขาอาจจะหัวเราะเยาะซูฮ่าว อย่างไรก็ตามด้วยคำพูดจากซูฮ่าว ซูหมิงฮุ่ยและคนอื่นๆ หยุดเคลื่อนไหว

 

 

 

แม้แต่เฉินอี้หยานเองก็ช่วไม่ได้ที่จะมีความประหลาดใจในสายตาของเธอ

 

 

 

นี่คือ…

 

 

 

ซูหมิงฮุ่ยเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขามีลักษณะที่ซับซ้อน เมื่อมองไปที่ซูฮ่าวผู้เฉยเมยตรงหน้าเขา เขาถอนหายใจ ปิดตาและในที่สุดเขาก้าวออกไปและคุกเข่าต่อหน้าซูฮ่าว “ซูหมิงฮุ่ยในฐานะศิษย์ของตระกูลซู กระผมของเคารพผู้น้ำตระกูล!”

 

 

 

วูป!

 

 

 

ทุกคนคุกเข่าหนึ่งข้างในแบบเดียวกันแล้วตะโกนออกมาดังๆ “ ในฐานะศิษย์ของตระกูลซู เราขอเคารพผู้น้ำตระกูล!”

 

 

 

ในป่าไผ่ไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆ ได้นอกจากเสียงของพวกเขาที่ทำความเคารพผู้น้ำตระกูลของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง