โม่ซางคงกล่าวว่า “ก็เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มีประโยชน์กับเสี่ยวซียังไงหล่ะ!”

ยาวิญญาณ ยาวิญญาณที่นางหลอมออมานั้นล้วนแต่มีประสิทธิภาพกว่าเม็ดยาเหล่านี้มาก!

หยกวิญญาณ ดูเหมือนว่านางเองก็มีหยกวิญญาณคุณภาพสูงกว่านี้อยู่ไม่น้อยเลย

อาวุธวิญญาณ อาวุธวิญญาณระดับต่ำเช่นนี้ นางเองก็สามารถหลอมได้ ทั้งนี้ก็มีเพียงแค่แกนวิญญาณเท่านั้นที่นางสนใจเป็นพิเศษ

ฉินปากล่าว “คนพวกนี้จะปล้นพวกเรา ข้าไม่ยอมคืนให้พวกมันแน่! งั้นเรามาแบ่งเท่ากัน แบ่งเท่า ๆ กัน……” ฉินปาไม่เกรงใจ และโม่ซางคงก็ไม่เกรงใจเช่นกัน

เมื่อเห็นพวกเขาแบ่งผลประโยชน์ที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรมเช่นนี้ ในใจของพรานอิสระเหล่านี้ก็เจ็บปวดยิ่งนัก พวกเขามองไปที่มู่เฉียนซี และกล่าวว่า “แม่นางน้อย ตอนนี้เจ้าจะเอายาแก้พิษให้พวกข้าได้หรือยัง!”

มู่เฉียนซีมองพวกเขาอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอาขวดหยกออกมายื่นให้กับพวกเขา

พวกเขากินยานั้นลงไปด้วยความตื่นเต้น และเป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ พวกเขากระฉับกระเฉงขึ้น พลังวิญญาณก็สามารถใช้ได้แล้ว

พวกเขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความโกรธแค้น ฉินปากล่าวขึ้นว่า “ทำไม ? พวกเจ้าแก้พิษได้แล้วก็คิดจะลงมืออีกงั้นเหรอ ?”

สุดท้ายพวกเขาก็ยังอดทนเอาไว้ได้ สาวน้อยผู้นี้ใช้ยาพิษได้อย่างชำนาญมาก ไม่อาจล่วงเกินนางได้ พวกเขาจึงคิดที่จะรีบหนีไป!

พรานล่าเงินรางวัลอิสระเหล่านี้หันหลังคิดหนีราวกับว่ามีสัตว์ป่าดุร้ายไล่ตามหลังก็มิปาน

ทว่า ทันใดนั้นเองเสียงอันราบเรียบเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ช้าก่อน ข้าบอกให้พวกเจ้าไปได้แล้วงั้นเหรอ ?”

ร่างของพวกเขาแข็งทื่อไปในชั่วขณะ “แม่นาง จะเอายังไง! พวกข้าไม่ได้ซ่อนอะไรไว้แล้วจริง ๆ!”

“ฮือฮือฮือ! พวกเราน่าสมเพชมากพอแล้ว ต่อไปวันข้างหน้าพวกเราคงต้องขุดดินกินเป็นแน่”

มู่เฉียนซีกล่าว “แต่ถ้าพวกเจ้าจากไปเช่นนี้ แล้วจะแก้พิษได้ยังไงหล่ะ!”

“แก้พิษ พวกเราแก้พิษไปแล้วไม่ใช่เหรอ ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าแน่ใจเหรอ ยาที่ข้าให้พวกเจ้าไปเมื่อครู่ มันไม่ใช่ยาแก้พิษ!”

“ไม่ใช่ยาแก้พิษแล้วมันยาอะไร ?”

“มันเป็นยาพิษอีกชนิดหนึ่ง แต่มันสามารถยับยั้งพิษก่อนหน้านี้ของพวกเจ้าได้”

พิษ!

เมื่อครู่นั่นคือยาพิษ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าพวกเขาจะกินยาพิษลงไปด้วยความปีติยินดีเช่นนั้น!

พรวด! ชั่วครู่หนึ่งพวกเขาก็บาดเจ็บภายในขึ้น!

“แม่นาง เป็นเพราะพวกข้ามีตาแต่หามีแววไม่ ที่ได้ล่วงเกินเจ้า! เจ้าถึงได้ทรมานพวกข้าเช่นนี้”

“ใช่ ใช่! พวกข้าไม่ใช่คนเลวที่จิตใจชั่วร้ายอำมหิต พวกข้าก็แค่อยากปล้นทรัพย์สินของมีค่าก็เท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายจิตใจอย่างแน่นอน ปล่อยพวกข้าไปเถอะนะ!”

ชายที่มีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวเหล่านี้ ตอนนี้ถูกทรมานจนน้ำตาคลอเบ้า น่าสงสารยิ่งนัก

ฉินปารู้สึกเห็นใจพวกเขาขึ้นมาบ้างแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “ต่อไปช่วยทำงานให้ข้าหน่อย รอให้การทดสอบเสมือนจริงของสำนักศึกษาครั้งนี้จบลง ข้าจะให้ยาแก้พิษแก่พวกเจ้า!”

“โปรดสั่งมาได้เลย! ขอเพียงแค่ให้ยาแก้พิษกับพวกข้า พวกข้าก็จะทำทุกอย่าง!”

มู่เฉียนซีกล่าว “สำนักศึกษาของพวกข้ามีนักเรียนที่ฝีมือดีเป็นจำนวนมาก พวกเขาน่าจะฆ่าสัตว์วิญญาณและได้แกนวิญญาณมาไม่น้อย พวกเจ้าลงมือปล้นพวกเขาซะ!”

ฉินปา “พี่ใหญ่มู่ ให้พวกเขาไปปล้นนักเรียนคนอื่น มันจะดีเหรอ ?”

โม่ซางคงกล่าว “สาเหตุที่อาจารย์ใหญ่ปล่อยให้พวกเขาลงมือกับนักเรียน ก็เพราะจะฝึกความสามารถของนักเรียนในดำรงชีวิตรอดอยู่ในป่า และความสามารถในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ดังนั้น……”

ฉินปาพยักหน้าและกล่าวว่า “ที่แท้ ที่พี่ใหญ่มู่ให้พวกเขาลงมือ ก็ทำไปเพื่อเพื่อนนักเรียนนี่เอง!”

มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้น นางก็แค่อยากได้แกนวิญญาณมากกว่านี้ก็เท่านั้น

เจ้าตะกละอู๋ตี้ตอนนี้ต้องการแกนวิญญาณจำนวนมากเพื่อที่จะเลื่อนขั้นระดับสี่ นางจึงฉวยโอกาสกอบโกยให้มากหน่อย

ถึงแม้ว่าแกนวิญญาณเหล่านี้จะไม่ใช่ระดับสูง ไม่เพียงพอที่จะยัดปากอู๋ตี้ แต่จำนวนที่มากนั้นก็ยังคงเพียงพอจะที่ช่วยให้อู๋ตี้เลื่อนขั้นได้เร็วขึ้น

เมื่อพรานล่าเงินรางวัลอิสระเหล่านี้ได้ยินว่ายังสามารถปล้นสำนักศึกษาได้อยู่ พวกเขาที่ได้กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวสามารถหาความมั่งคั่งได้ต่อไป ดวงตาก็ลุกวาวขึ้นทันที

“ได้ เรื่องนี้ไม่มีปัญญาเลย!”

“เพียงแต่ข้ามีคำถามหนึ่งอยากจะถาม!” พี่ใหญ่ของพวกเขาเอ่ยปากถามขึ้น

“ว่ามา!”

“เพื่อนนักเรียนเหล่านั้นของเจ้า คงจะไม่มีใครเป็นนักพิษผู้วิปริตเช่นเจ้าหรอกใช่ไหม!” โดนเข้าไปครานี้พวกเขาถึงกับหวั่นกลัวเลยทีเดียว

มู่เฉียนซีกล่าว “น่าจะไม่มี คนเดียวที่น่าจะรับมือได้ยากก็คงจะเป็นหญิงสาวชุดแดง นางมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสองอยู่ตัวหนึ่ง!”

“ก็แค่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง หากสู้ไม่ได้พวกข้าก็ยิ่งหนีได้! แต่หากเจอคนเช่นเจ้า แม้แต่คิดหนีก็ไม่มีทางหนีรอด!” พวกเขาบ่นขึ้น

“พวกเจ้าไปลงมือได้ หลังจากที่ปล้นเสร็จ แกนวิญญาณเอามาให้ข้า อย่างอื่นพวกเจ้าเอาไปแบ่งกัน สัตว์วิญญาณและแกนวิญญาณที่ล่ามาในช่วงเวลานี้ข้าก็เอาด้วย”

“ขอรับ!”

มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าว “เอาหล่ะ ไปลงมือได้แล้ว แต่ก็ต้องรบด้วยหล่ะ!”

“ขอรับ!”

พวกเขาล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาล่าถอยไปได้ไกลแล้ว ก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง

“ฮือฮือฮือ! พี่ใหญ่ พวกเราช่างน่าเวทนาเสียจริง! ปล้นไม่สำเร็จแล้วยังโดนปล้นกลับจนสิ้นเนื้อประดาตัวเช่นนี้อีก!”

“เฮ้อ โดนปล้นนั่นก็ช่างเถอะ ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราก็หนีมาได้แล้ว”

“อีกอย่าง พิษที่พวกเราโดนนั้นคงไม่ถึงตายหรอกกระมัง!”

พี่ใหญ่ของพวกเขากล่าวขึ้นว่า “เช็ดน้ำตาซะ พวกเราเป็นถึงชายผู้แข็งแกร่ง พยายามทำต่อไปเดี๋ยวก็ได้เห็นแสงสว่างเอง!”

“พี่ใหญ่พูดถูก!”

อาจารย์ผู้คุมสอบหลายคนที่แอบซ่อนตัวอยู่พึมพำกันว่า “สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแต่ขุดหลุมฝังศัตรู แม้แต่เพื่อนนักเรียนตัวเองนางก็ขุดหลุมฝังเช่นกัน เจ้าคิดว่าข้าควรจะไปรายงานดีหรือไม่!”

“รายงานอะไรหล่ะ ? ตาเฒ่าหนานเฟิงนั่นยินดีปรีดาอยู่แล้ว! เพียงแต่ว่า ด้วยความปราดเปรื่องของสาวน้อยผู้นี้แล้ว การสอบเข้าสำนักศึกษาซวนเสียครานี้ อัจฉริยะของสำนักศึกษาอื่นคงต้องทุกข์ทรมานซะแล้วหล่ะ”

“เหอะเหอะเหอะ! ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”

มู่เฉียนซีกล่าว “ล่าสัตว์ต่อไป!”

เป้าหมายในการล่าสัตว์ ไม่เพียงแต่สัตว์วิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีพรานล่าเงินรางวัลอิสระเหล่านั้นอีกด้วย

เดิมทีรับมือกับสำนักศึกษาอื่นได้อย่างสบาย แต่เมื่อได้เจอกับมู่เฉียนซีแล้ว นับว่าเป็นความโชคร้ายของพวกเขาจริง ๆ!

“นี่ตกลงว่าเป็นการทดสอบเสมือนจริงของสำนักศึกษา หรือว่าเป็นการรวมกลุ่มเพื่อรวบรวมแกนวิญญาณของสาวน้อยผู้นี้กันแน่!”

อาจารย์ผู้คุมสอบที่แอบซ่อนตัวอยู่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แล้วก็อดที่จะพูดแขวะไม่ได้

“ข้ารู้สึกว่าแกนวิญญาณทั้งหมดของป่าโยวอ้าน ล้วนแต่ถูกสาวน้อยผู้นี้เหมาหมดแล้ว แล้วนางจะเอาแกนวิญญาณมากมายเช่นนั้นไปทำไมกัน!”

“สาวน้อยผู้นี้โหดร้ายเกินไปแล้ว ข้าทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว! ข้าไปรายงานได้หรือไม่!”

“นางทำผลงานได้ดี ไม่ได้ผิดกฎอะไร เจ้าไปรายงานแล้วจะทำอะไรได้ ?”

รายงานก็ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ดูสาวน้อยผู้นี้ขาดสามัญสำนึกต่อไปแล้วหล่ะ

หลังจากที่ได้เข้ามาในป่าโยวอ้านหลายวัน พวกเขาทั้งสามก็ได้แกนวิญญาณมาไม่น้อยเลย มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “มีคนมาอีกแล้ว!”

ฉินปากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “หรือว่าจะเป็นพรานล่าเงินรางวัลอิสระผู้โชคร้ายเหล่านี้อีก!”

นักเรียนคนอื่นพบกับพรานล่าเงินรางวัลอิสระก็รู้สึกว่าตนเองนั้นโชคร้าย ทว่า สำหรับฉินปานั้น ผู้ที่โชคร้ายกลับเป็นพรานล่าเงินรางวัลอิสระเหล่านั้น

มู่เฉียนซีกล่าว “ผู้ที่มานั้นเป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง แต่ก็เพียงแค่คนเดียว น่าจะไม่ใช่พรานล่าเงินรางวัลอิสระ แต่เป็นนักเรียนคนหนึ่ง!”

โม่ซางคงกล่าว “นักเรียนในสำนักศึกษาเรายังไม่มีใครที่มีความแข็งแกร่งถึงจักรพรรดิแห่งภูตระดับสองเลยนะ เว้นแต่ว่าเพิ่งจะทะลวงพลังได้ไม่นาน เช่นนั้นคนผู้นั้นก็น่าจะเป็น……”

เสียงดังก้องกังวานขึ้น “ข้าเอง! เซียวเสี้ยว!”

น้ำเสียงนั้นเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสองเพียงคนเดียวของสำนักศึกษาหนานเฟิง เขามีสิทธิ์ที่จะเย่อหยิ่งอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูว่าจะเย่อหยิ่งต่อหน้าใคร!