ตอนที่ 565 : ข่าวร้าย

Crazy Leveling System

ตอนที่ 565 : ข่าวร้าย

 

หลังจากยกระดับเสร็จ อี้เทียนหยุนก็ให้รู้สึกพอใจอย่างมาก จากนี้ไป เมื่อพบกับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอีก เขาก็ไม่จําเป็นต้องลงมือสังหารพวกเขาในทันทีแล้ว แต่จะใช้พลังของพวกเขาเพื่อช่วยเปิดทางให้กับตน เพราะนี่จึงจะเป็นหนทางที่สั้นที่สุดในการสร้างสายลับภายในขึ้น

 

แน่นอนว่าสายลับพวกนี้สามารถใช้จัดการกับคนได้เช่นกัน หากว่าเขาสามารถยกระดับได้มากขึ้น ก็จะสามารถควบคุมฝั่งตรงข้ามที่มีพลังแข็งแกร่งขึ้น แบบนี้ก็จะสามารถได้ข้อมูลที่สําคัญขึ้นด้วย!

 

นี่คือเหตุผลที่เขายกระดับให้กับมันอย่างบ้าคลั่ง หากว่าเขาต้องการคนไว้ช่วยสู้กับศัตรูกลุ่มหนึ่ง อย่างนั้นเขายกระดับให้กับร่างแยกไม่ดีกว่าเหรอ ทําไมถึงต้องยกระดับให้กับเนตรเสน่ห์ถึงสองครั้งติดด้วยล่ะ

 

เพราะสําหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณถือว่ามีค่า ดังนั้น ข้อมูลที่มาจากปากของผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ จึงคุ้มค่าแก่การควบคุม นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขายกระดับ

 

หลังจากควบคุมคนอื่นแล้ว นอกจากจะสามารถได้ข่าวสารในทันทีแล้ว แต่ยังสามารถช่วยเป็นสายลับภายในด้วย นี่เหมือนกับการควบคุมคนอื่นที่ไหน นี่มันไม่ต่างกับสัตว์เลี้ยงของตนชัดๆ!

 

“เยี่ยม การสุ่มครั้งนี้คุ้มค่าจริงๆ ติดที่ว่าราคาแพงเกินไป ไม่อย่างนั้นข้าจะสุ่มอีกหลายๆครั้งให้มันหนําใจเลย”

 

อี้เทียนหยุนส่ายหัว เขาอยากจะใช้ค่าความคลั่งสักหลายล้านเพื่อสุ่มดู แต่มันจะเป็นการล้างผลาญเกินไป หากว่าเป็นรางวัลที่ได้จากการต่อสู้ข้ามระดับ แบบนั้นเขาจะไม่กังวลเลย

 

หลังจากสุ่มรางวัลเสร็จ เขาก็ทําการเรียกรวมผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณทั้งหมดในทันที พวกเขาพากันวางงานในมือทั้งหมดลง ไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนเรียกพวกเขามาเพื่อที่จะบอกอะไร

 

“ที่ข้าเรียกพวกเจ้าทุกคนมาในวันนี้ก็ง่ายมาก คือข้าอยากจะมอบสัตว์เลี้ยงไว้เป็นคู่หูของทุกคน!”

 

พูดเสร็จ เขาก็ทําการโบกมือ พร้อมกับสัตว์อสูรหลายตัวตัวปรากฏขึ้นบนพื้นที่ที่ว่างเปล่า สร้างความตกใจให้กับพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาเคยเห็นสัตว์อสูรจํานวนมากแบบนี้มาก่อน แต่ใครจะรู้ว่าคราวนี้เทียนหยุนจะเรียกพวกเขามาเพื่อมอบพวกมันให้เป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเขา!

 

“ราชาภูต ท่านหมายความว่า จะให้พวกเขาเลือกสัตว์อสูรพวกนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเราอย่างงั้นเหรอ?” พวกเขาพากันกลืนน้ําลาย คิดว่านี่ช่างน่าตกใจจริงๆ

 

ผู้ที่จะมีสัตว์อสูรทรงพลังเป็นคู่หูได้ ก็มีแต่ผู้ฝึกสัตว์เท่านั้น แต่พวกเขาไม่ใช่ผู้ฝึกสัตว์ ดังนั้นจึงไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้มาก่อน

 

“ใช่แล้ว แต่ว่าพวกเจ้าวางใจได้ สัตว์อสูรพวกนี้จะไม่มีวันทรยศ และจะเชื่อฟังคําสั่งของพวกเจ้าเป็นอย่างดี”

 

เขาแค่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงพวกนี้ทําตามคําสั่งพวกเขาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะทําอะไร และเมื่อเกิดสงครามขึ้น เขาก็จะได้ค่าประสบการณ์จากการสังหารของสัตว์เลี้ยงพวกนี้เหมือนกับเหล่า

 

ขุนพลเทพของเขา

 

เพราะการจะควบคุมสัตว์เลี้ยงพวกนี้ทั้งหมดค่อนข้างเป็นเรื่องยาก ดังนั้น การมอบทั้งหมดให้พวกเขาสั่งการจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

 

พวกเขาต่างก็เห็นร่องรอยแห่งความตกใจในสายตาของกันและกัน ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความสุขอย่างล้นเหลือ!

 

จากนั้น พวกเขาก็เริ่มเลือกสัตว์เลี้ยงของตนอย่างรวดเร็ว สัตว์อสูรจํานวนมากก็ได้ ถูกเลือกไปกลายเป็นสัตว์เลี้ยงคู่กายของผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณทุกคน

 

ในตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณจํานวนมากต่างก็พากันตื่นเต้น พร้อมกับค่าความชอบที่พวกเขามีต่ออี้เทียนหยุนก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณนั้นมีอยู่น้อยมาก และที่อยู่ต่อหน้าเขาก็มีอยู่ 200 กว่าคน ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะตอนนี้ที่เขาได้ทําการขยายอิทธิพลออกไปเป็นจํานวนมาก ทําให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับเขา แต่สําหรับอี้เทียนหยุนแล้ว มันก็ยังแปลกมากอยู่ดี

 

ตอนนี้ ภายใต้รางวัลระดับนี้ ก็ได้ทําให้ค่าความชอบที่พวกเขามีต่อเขาเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง

 

หลังจากจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ทําการเรียกผู้ฝึกตนระดับก่อแกนวิญญาณเข้ามา พร้อมกับจัดการมอบสัตว์อสูรให้พวกเขาอีกครั้ง ถึงยังไง เขาก็มีสัตว์อสูรเป็นจํานวนมาก จะให้เก็บไว้แต่ในช่องเก็บสัตว์เลี้ยงก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้นมอบให้พวกเขาไปฝึกน่าจะดีกว่า

 

แม้ว่าเขาจะมอบสัตว์อสูรไปมากกว่าพันตัว แต่ระดับของมันสําหรับเขาแล้ว ถือว่ายังต่ําเกินไป หากว่าสูงกว่านี้ คงจะมีประโยชน์กว่า

 

หลังจากจัดการเสร็จ เขาก็ไปยังวังเทียนหยุนในทันที และก็จัดการมอบสัตว์อสูรพวกนี้ออกไปเช่นกัน แต่คราวนี้เขาได้มอบให้กับผู้ฝึกตนที่มีระดับตั้งแต่หลอมรวมขึ้นไป จัดการให้สัตว์อสูรพวกนี้เชื่อฟังคําสั่งของพวกเธอ

 

ทันใดนั้น ทั่วทั้งวังเทียนหยุนก็เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้อง ประมุขกลับมาพร้อมกับมอบของดีให้กับพวกเธอ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเธอดีใจได้ยังไง?

 

พร้อมกันนั้น ชื่อเสียงของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง คนที่ยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมกับวังเทียนหยุน ก็ได้ถูกเรื่องนี้ดึงดูด พร้อมกับขอเข้าร่วมกับวังเทียนหยุนในทันที เมื่อกลายเป็นศิษย์วังเทียนหยุน พวกเขาก็จะได้รับรางวัลจํานวนมากพร้อมกับวิชายุทธ์ แล้วจะไม่ให้อยากเข้าร่วมด้วยได้ยังไง

 

“ท่านประมุข เรื่องเจ้าตําหนักชิ” อื้อวี่เหว่ยกับพวกพากันกรูเข้ามา พวกเธอก็เหมือนกับเย่ชิงเสวียน ต่างก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน

 

“เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว” เทียนหยุนพยักหน้าแล้วพูดขึ้น

 

“รู้อยู่แล้ว…” อื้อวี่เหว่ยกับพวกพากันมองหน้ากัน เมื่อเห็นอี้เทียนหยุนไม่เป็นอะไรก็รู้สึกวางใจ “งั้นท่านประมุขจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?”

 

“ตอนนี้ข้ายังไม่มีความคิดอะไร เอาไว้จัดการเรื่องที่นี่เสร็จก่อน ข้าค่อยไปยังโลกสวรรค์” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง

 

“ใช่! ท่านต้องไปพาเจ้าตําหนักชิกลับมา เธอลงทุนกับที่นี้ไปมาก การตัดสินใจไปของเธอ ข้ารู้สึกว่าเจ้าตําหนักชิทําอย่างนี้ไปก็เพื่อท่านประมุข ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เลือกที่จะไปจากที่นี่

 

อี้เทียนหยุนเงียบไป คิดว่าเขาไม่รู้อย่างงั้นเหรอ? คิดจะไปโลกสวรรค์ พวกเขาก็ไม่รู้วิธีที่จะไป แล้วอย่างนี้จะให้เจอกันได้ยังไง? ที่สําคัญคือนั่นเป็นที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่ที่ที่คุ้นเคยคือที่นี่

 

การจากไปเพียงคนเดียวพร้อมกับต่อสู้ดิ้นรนอยู่ที่นั่น กลัวว่าคงมีอุปสรรคมากมาย

“ไปพบเธอ เรื่องนี้ข้าต้องทําแน่!” เทียนหยุนสายตาเย็นชา แต่อย่างแรกคือเขาต้องเพิ่มระดับก่อน และทําภารกิจหลักให้สําเร็จ นั่นคือจุดสําคัญ

 

หากว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงยังไม่ถูกทําลายจนสิ้นซาก อีกฝ่ายก็สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณมาที่นี่ได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ระดับราชาเซียนจะมาไม่ได้ แต่แค่นี้ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลแล้ว

 

แต่ขอแค่ที่นี่ยืนหยัดได้อย่างมั่นคง เขาก็สามารถไปโลกสวรรค์ได้ในทันที พร้อมกับพาชิเสวี่ยอวิ๋นกลับมา

 

“หวังว่าท่านน้าจะไม่ได้ถูกบังคับพาไป ไม่อย่างนั้น” นัยน์ตาของอี้เทียนหยุนปล่อยจิตสังหารออกมา หากว่าศัตรูทําการขู่ชิเสวียอวินว่า หากไม่ตามมาก็จะทําลายสํานักของเธอทิ้งแล้วล่ะก็

 

หากว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ต่อให้เป็นขุมอํานาจในโลกสวรรค์ เขาก็จะทําการกวาดล้างพวกมันทั้งหมดอยู่ดี!

 

“ท่านประมุข ทูตของอาณาจักรเทียนหลงขอเข้าพบครับ!” ในตอนนี้เอง มีผู้คุ้มกันเข้ามารายงานอย่างเร่งรีบ

 

“ทูตของอาณาจักรเทียนหลง?” อี้เทียนหยุนหยุดคิด จากนั้นก็พูดว่า “ให้เขาเข้ามา”

 

อย่างรวดเร็ว ทูตของอาณาจักรเทียนหลงก็เดินเข้ามา ระดับของอีกฝ่ายคือผันแปรวิญญาณ เพราะมีเรื่องเร่งรีบให้รายงาน ดังนั้นจึงแทบจะบินมา

 

“คารวะองค์ชาย!” ทูตของอาณาจักรเทียนหลงทักทายเขา

 

“เกิดอะไรขึ้นกับอาณาจักรเทียนหลง?” เทียนหยุนถามเข้าเรื่องในทันที

 

หากว่าอาณาจักรเทียนหลงไม่เกิดเรื่อง ก็คงจะไม่ส่งทูตมาอย่างนี้

 

“องค์ชาย เรื่องนี้เป็นเรื่องสําคัญอย่างยิ่ง มีขุมอํานาจระดับอาณาจักร 4 อาณาจักรได้รวมตัวกัน พร้อมกับเตรียมที่จะจัดการกับอาณาจักรทั้ง 2 ของพวกเราในที่เดียว!” ทูตของอาณาจักรเทียนหลงพูดอย่างจริงจัง

 

เพิ่งมาถึงก็ได้เอ่ยข่าวใหญ่ออกมา ทําให้อี้เทียนหยุนกับพวกพากันตกใจ ขุมอํานาจระดับอาณาจักร 4 แห่งรวมหัวกันมาโจมตีพวกเขา เหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปหาเรื่องใครเลยนะ?