’อยากจะให้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้างั้นเหรอ?’

มัตเตโอหรี่ตามองจัสติน จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างดูแคลนและหันหลังเดินจากไป

เขาคิดภายในใจ ‘เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะทอม ดิ๊กหรือแฮรี่ก็ต้องการยกย่องข้าให้เป็นท่านอาจารย์ของพวกเขา’

“ท่าน ท่าน!” จัสตินร้องตะโกนในขณะที่เขาก้มกราบอย่างไม่หยุดหย่อน

ดูเหมือนว่ามัตเตโอจะทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเขา ขณะที่เดินห่างออกไป

จากนั้นลิลี่ก็เข้ามาพยุงตัวจัสตินลุกขึ้นยืน “จัสติน ทำไมคุณถึงอยากเป็นลูกศิษย์ของเขา?”

จัสตินปาดคราบเลือดที่เปื้อนอยู่ออกไปและกล่าว “ลิลี่ ที่นี่มันไม่ใช่จักรวาลโลก มันยากมากที่จะตามหาแดร์ริลและผมเองก็ต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้เพื่อปกป้องคุณ”

จัสตินรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งตามมัตเตโอไป ในระหว่างที่ลิลี่ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจและวิ่งตามไป

มัตเตโออยู่มีกำลังภายในอยู่ที่ระดับเท่าไหร่? เขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็รู้ตัวทันทีว่าจัสตินยังคงวิ่งไล่ตามเขาอยู่ “เจ้า ทำไมเจ้ายังมีหน้ามาวิ่งไล่ตามข้าอีก? เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าทิ้งรึไง?”

จากนั้นรัศมีอันทรงพลังก็ปะทุออกมาจากตัวมัตเตโอ

จัสตินก็หยุดเดินทันทีและกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ด้วยสีหน้าที่หวาดผวา

จากนั้นไม่กี่วินาที จัสตินก็รวบรวมความกล้าและกล่าว “ท่าน ผมเป็นคนธรรมดาแต่ท่านเป็นผู้มีพลัง ท่านคงไม่ฆ่าผมถ้าไม่มีเหตุผลอันควรหรอก”

ถึงแม้ว่าจัสตินจะกล่าวเช่นนั้นแต่เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัว เพราะถึงอย่างไร มัตเตโอก็เป็นถึงรองเจ้าสำนักประกายแสงและอารมณ์ร้อนสุดขีดอีกด้วย ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อไม่มีใครเข้าใจความคิดของมัตเตโอเลยแม้แต่น้อย

มัตเตโอเย้ยและหยักหน้า “ใช่ แน่นอนที่สุด ข้าคงไม่อยากจะเสียแรงฆ่าคนอย่างเจ้า แต่ความอดทนของข้าก็มีจำกัด”

จัสตินกัดฟันขณะเขาคุกเข่าลงอีกครั้ง “ท่าน ผมอยากจะเป็นลูกศิษย์ของท่านจริง ๆ ผมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เป็นลูกศิษย์ของท่าน” สีหน้าของจัสตินมีความหวัง

“ทุกอย่างงั้นเหรอ?” มัตเตโอกล่าวก่อนจะยิ้มอย่างวายร้าย

จัสตินไม่พยักหน้าตอบรับอย่างไม่ได้ไตร่ตรอง “ใช่ ทุกอย่างเลย”

“ได้…” มัตเตโอเงียบไปชั่วครู่ในขณะที่สายตาของเขามองไปที่ลิลี่ “เอาสตรีนางนี้มาให้ข้า ในเมื่อเจ้าอยากจะเป็นลูกศิษย์ของข้า”

มัตเตโอยิ้มเยาะชอบใจ ความจริงเขาก็เป็นคนวิตถารพอ ๆกับพวกโจร แตกต่างกับเพียงอย่างเดียวก็คือเขาเป็นคนมีหลักการ เขาจะไม่บังคับผู้หญิง

มันก็คงจะดีถ้าหากจัสตินยินยอมยกเธอให้กับเขา

จัสตินถึงกับเครียดเมื่อได้ยินคำขอของเขา ขณะคุกเข่าและจ้องมองไปที่มัตเตโออย่างอ้ำอึ้ง

เขาคิดว่าเขาได้วางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว มัตเตโอคงอยากจะรับเขาเป็นลูกศิษย์และเขาจะยอมทำทุกอย่างไม่ว่ามันจะยากลำบากหรือท้าทายขนาดไหน เขาสามารถที่จะอดทนได้อย่างหนักแน่นตราบใดที่เขาจะแข็งแกร่งมากขึ้น

เขาไม่ได้คาดคิดว่ามัตเตโอจะยื่นข้อเสนอมาแบบนี้!

ลิลี่ตัวสั่นจากความงวยงงเมื่อความประทับใจที่มีต่อมัตเตโอก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงทันที

จัสตินกัดฟันขณะเขาค่อย ๆกล่าว “ผมขออภัย ผมยอมที่จะทำทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้”

ลิลี่รู้สึกตื้นตันใจที่เห็นว่าจัสตินดูแลเธอดีขนาดไหน

“ฮ่าฮ่า!” มัตเตโอห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะต้องขบขัน ขณะเขากล่าวช้า ๆ “เจ้า เจ้าบอกเองว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อที่เป็นลูกศิษย์ของข้า แต่กับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้ เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง?

เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าบรรดาจอมยุทธที่ทรงพลังต่างก็เป็นพวกสันโดษ คนอย่างเจ้าไม่มีวันที่จะปล่อยวางอารมณ์ของตัวเองไปได้ และจะไม่มีทางแข็งแกร่งนับประสาอะไรกับการที่เจ้าจะคู่ควรกับการเป็นศิษย์ของข้า”

มัตเตโอหัวเราะเมื่อกล่าวเช่นนั้น “ใช่ ข้าก็เพิ่งจะมีความคิดที่จะรับลูกศิษย์ แต่ลูกศิษย์ของข้าจะต้องเป็นผู้ที่ท่องไปทั่วทั้งยุทธภพอย่างไม่ย่อท้อและทรหด! ข้าต้องการให้ลูกศิษย์ของข้าปล่อยวางทุกอย่างที่เขามีและการปล่อยวางจากคนรักมันจะทำให้เจ้าไร้เทียมทาน! แค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้แต่มีหน้ามาขอเป็นศิษย์ของข้า?ฝันไปเถอะ” มัตเตโอเย้ยหยันและเดินจากไป

จัสตินกำหมัดแน่นขนัดในตอนที่มองแผ่นหลังของมัตเตโอ เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าตัวเขาเพิ่งจะพลาดโอกาสของเขาไป

จากนั้นลิลี่ก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ และกล่าวอย่างจริงใจ “ขอบคุณมากจัสติน”

ลิลี่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่จัสตินยอมคลานลอดใต้หว่างขาของใครบางคน เพียงเพื่อปกป้องเธอผู้ซึ่งติดตราฝังลึกอยู่ในใจของเขา

จัสตินก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและฉีกยิ้ม “ลิลี่ คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก เพราะคุณคือคนที่สำคัญที่สุดในใจผม”

ลิลี่รู้สึกตื้นตันท่วมท้น เธอเดินเข้าไปหาจัสตินและจับมือของเขา “คุณดูแลฉันดีมาก ไปต่อกันเถอะ”

จัสตินรู้สึกเบิกบานร่าเริงในทันทีเมื่อเทพธิดาของเขาจับมือเขา! เขารู้สึกอัศจรรย์ใจ!

จัสตินรู้สึกราวกับว่าเขาได้ฉีดยากระตุ้น ตัวของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังอันล้นหลาม

พวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองในเวลาตอนเย็นและตามคนในท้องถิ่นเรียกชื่อเมืองนี้ว่า เมืองมังกร

ท้องถนนของเมืองมังกรมีเสียงจอแจและเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา! ร้านค้าต่าง ๆ ก็คึกคักเต็มไปด้วยลูกค้า มันแตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับเมืองเล็ก ๆ สองสามเมืองที่พวกเขาเดินทางผ่านมา

จัสตินรีบถามคนเดินผ่านไปมาและพบว่าพระราชวังอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเพียงสิบกว่ากิโลเมตร

เมื่อรู้เช่นนี้ ลิลี่ก็รู้สึกดีใจและปลื้มปริ่มกับความคิดที่ว่าเธอจะได้เจอกับแดร์ริลในอีกไม่ช้า

ในคืนนั้น ทั้งคู่ก็เข้าพักในโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งและลิลี่ก็เรียกหาจัสตินอยู่หน้าห้องหลังจากที่พวกเขาเช่าห้องแยกกัน

จัสตินยืนอยู่ข้างประตูห้องด้วยรอยยิ้มและกล่าวถาม “ลิลี่ มีอะไรรึเปล่า?”

เขายังคงรู้สึกหวานแหววและอ่อนระทวยจากความคิดที่ว่าลิลี่จับมือเขาในตอนกลางวัน

ลิลี่กัดริมฝีปากของเธอและกล่าวเบา ๆ “จัสติน ขอบคุณที่คุณคอยปกป้องฉันมาตลอด ฉันคิดว่าเราควรจะแยกกันไปคนละทางในวันพรุ่งนี้ เพราะถนนจากเมืองมังกรไปที่พระราชวังมันปลอดภัยแล้วและก็มีคนพลุ่กพล่าน ฉันเลยไม่คิดว่ามันน่าจะอันตรายแล้ว

มันเป็นเรื่องที่หนักหน่วงสำหรับคุณที่จะต้องคอยปกป้องฉันมาตลอดทาง แต่ฉันไม่อยากจะทำให้คุณลำบากอีกต่อไป และฉันยังกลัวอีกว่าแดร์ริลจะเข้าใจผิดในเรื่องของเราสองคน…”

อะไร?

รอยยิ้มบนใบหน้าของจัสตินหดหายไปในทันที ขณะเขาคิดว่าเขาได้ยินไม่ชัด เขามองไปที่ลิลี่อย่างวิตกกังวล “ลิลี่ เธออยากจะแยกทางกับผมงั้นเหรอ?”

ลิลี่รู้สึกจุกอกเมื่อได้ยินจัสตินกล่าวเช่นนั้น

เขาเดินทางบากบั่นดั้นด้นมาถึงที่นี่กับเธอและเริ่มรู้สึกเคยชินกับการที่ได้เฝ้าคอยดูแลเธอในทุก ๆ วัน เขาไม่อยากจะแยกทางกับเธอ

“จัสติน ฉันรู้ดีว่าคุณดูแลฉันดีแค่ไหน แต่มีผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นในชีวิตของฉันและเขาคือ แดร์ริล คุณกับฉันไม่ได้ถูกลิขิตมาเพื่อให้เป็น…” ลิลี่ขบริมฝีปากของเธอและกล่าวเบา ๆ

จัสตินรู้สึกว่าจิตใจของเขาห่อเหี่ยวราวกับเรี่ยวแรงของเขาทั้งหมดหายไปจากตัว เขารู้สึกผิดหวังแต่เขาก็ยังฝืนยิ้ม “โอเค ผมขอให้คุณกับแดร์ริลมีความสุข ผม… ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมจะไม่ตามคุณอีก”

ลิลี่สัมผัสได้ถึงความผิดหวังของเขาขณะที่เธอกัดริมฝีปากของเธอ ก่อนจะกอดจัสตินเบา ๆ จากนั้นเธอก็ฉีกยิ้มและกล่าว “เอาล่ะ ถ้าอย่างงั้น… ฝันดีนะ!”