ตอนที่ 372 โชว์ของชาแนล

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

หลังจากสำรวจพื้นที่จัดงานแสดงแล้ว ฉู่หลิงก็ไปจัดการให้คนสร้างเวทีและจัดบริเวณที่นั่ง ถังซีกับเฉียวเหลียงไปชมแฟชั่นโชว์ของชาแนล ถังซีสวมชุดยาวของชาแนลรุ่นล่าสุด กับรองเท้าส้นสูงชาแนลรุ่นผลิตจำกัด ที่ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของชาแนลมอบให้ถังซีโดยตรง และมีชื่อย่อของถังซีอยู่ด้วย 

 

 

ถังซีสวมหน้ากากแนบผิวหนังกลับคืนสู่ตัวตนเดิม เฉียวเหลียงกำลังรอถังซีอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ห้องพักโรงแรม ทันทีที่เห็นถังซีเดินออกมาเขาก็ตกตะลึงกับความงามของเธอ เขาวางนิตยสารลงบนโต๊ะน้ำชาโดยไม่รู้ตัว เดินเข้าไปหาเธอ แล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “จะเรียกช่างผมมาทำผมให้คุณไหม” 

 

 

ถังซีส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า “ฉันมีช่างส่วนตัวค่ะ แต่ครั้งนี้ฉันไม่ต้องการใช้ช่าง” เธอสวมหน้ากากผิวหนัง ผู้คนทั่วจะดูไม่ออกเพราะไม่ได้เข้าใกล้เธอ แต่ช่างทำผมอาจสังเกตเห็นได้ เธอไม่มั่นใจว่าช่างทำผมจะไม่ล่วงรู้ความลับของเธอ 

 

 

“แล้วถ้าอย่างนั้นผมของคุณล่ะ… “  

 

 

“ฉันเตรียมไว้แล้วค่ะ” ถังซียิ้ม หวีผมลวกๆ พร้อมกับเรียก 008 ในนาทีถัดมาเฉียวเหลียงก็เห็นว่าถังซีจัดทรงผมที่เข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยมือของเธอเอง จากนั้นก็เริ่มแต่งหน้า เธอใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการแต่งหน้าจนเสร็จ เธอวางลิปสติกลง แล้วยิ้มให้เขา 

 

 

เฉียวเหลียงอึ้ง “…” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอแต่งหน้าได้รวดเร็วขนาดนี้ 

 

 

ถังซีดูกระจก และต้องตกใจเมื่อเห็นตัวเอง 008 นี่ช่างวิเศษจริงๆ! การแต่งหน้าสมบูรณ์แบบ! เธอดูดีไม่มีที่ติ! ไม่มีใครหาข้อบกพร่องใดๆ ในการแต่งหน้าและเสื้อผ้าของเธอได้เลย 

 

 

แม้ว่าการแต่งหน้าและแต่งกายของเธอจะสมบูรณ์แบบทุกครั้งที่ปรากฏตัวในที่สาธารณะ แต่นั่นเป็นเพราะความพยายามของสไตลิสต์จำนวนนับไม่ถ้วน และเธอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายชุด เธอจึงประหลาดใจที่ 008 สามารถจัดการสร้างผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้ ในช่วงเวลาสั้นๆ และเธอก็ดูสวยสมบูรณ์แบบทุกครั้ง 

 

 

เมื่อเห็นถังซีชื่นชมตัวเองในกระจกอย่างมีความสุข เฉียวเหลียงก็ยิ้มและถามว่า “คุณอยากให้ผมไปกับคุณไหม” 

 

 

ถังซีรีบส่ายศีรษะ “ไม่ค่ะ!” 

 

 

เฉียวเหลียง “ฮึ ทำไมล่ะ” 

 

 

ถังซีกล่าวอย่างลังเล “คุณก็รู้ เราปรากฏตัวด้วยกันไม่ได้!” เฉียวเหลียงมองเธออย่างสงสัย ถังซีโกรธขึ้นมาทันที เธอกล่าวเสียงดัง “ตอนนี้ฉันคือถังซี ไม่ใช่เซียวโหรว! คุณมาปารีสกับเซียวโหรว แต่กลับไปดูแฟชั่นโชว์กับถังซี คุณอยากเป็นข่าวพาดหัวหรือไง” 

 

 

จากนั้นถังซีก็บ่น “นอกจากนี้คุณยังจะสร้างความประทับใจในทางลบให้คุณพ่อคุณแม่ฉันอีกด้วย!” 

 

 

เฉียวเหลียงยิ้ม เลิกคิ้วมองเธอ แล้วดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขน ก้มลงมองเธอแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ความประทับใจในทางลบหรือ” 

 

 

ถังซีเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง ยิ้มและกล่าวว่า “คุณไม่อยากเจอคุณพ่อคุณแม่ฉันเหรอ ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องได้รับอนุญาตจากคุณพ่อคุณแม่ให้แต่งงานกับเซียวโหรว จริงไหม” 

 

 

“ก็จริง” เฉียวเหลียงหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “ผมต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับพ่อตาและแม่ยายของผม แต่ผมสามารถปลอมตัวเป็นบอดีการ์ดของคุณ และไปกับคุณได้” 

 

 

ถังซีกะพริบตาปริบๆ หันไปมองเฉียวเหลียง และกล่าวอย่างโกรธๆ ว่า “คุณจะพยายามทำลายภาพลักษณ์ของฉันเหรอ! ใครๆ ก็กำลังซุบซิบกันเรื่อง ‘ถังซีกับบอดีการ์ดของเธอ’ อยู่แล้ว! ฉันจะพาคุณไปงานแฟชั่นโชว์ของชาแนลได้ยังไง ฉันจะไปดูแฟชั่นโชว์นะไม่ใช่พาคุณไปแสดงความรักต่อหน้าผู้คน” 

 

 

“แต่ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไม่เปลี่ยนใจ” เฉียวเหลียงกล่าว แตะปลายจมูกเธอพร้อมกับกล่าวอีกว่า “เมื่อวานคุณอาการโคม่า ถึงแม้จะฟื้นขึ้นมาเร็ว และดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ผมก็ยังเป็นห่วงสุขภาพคุณ ถ้าคุณไม่อยากให้ผมไปกับคุณด้วยตัวตนของเฉียวเหลียง ผมก็จะไปกับคุณโดยปลอมตัวเป็นบอดีการ์ด เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง” 

 

 

ท้ายที่สุดถังซีก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนน และพาเฉียวเหลียงไปชมแฟชั่นโชว์ บางทีอาจเป็นเพราะเธอหายไปจากวงการแฟชั่นมาระยะหนึ่ง ทันทีที่ลงจากรถเธอก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสื่อมากกว่าคนดังระดับแนวหน้าคนอื่นๆ นักข่าวห้อมล้อมเธอและเฉียวเหลียง โดยไม่สนใจเหล่าคนดัง หางตาถังซีหรี่ลง เธอหันไปมอง ‘บอดีการ์ด’ ของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างไร้ความรู้สึก และกล่าวเบาๆ “เฮ้ คุณบอดีการ์ด พาฉันเข้าไปที่เวทีแฟชั่นโชว์สิ!” 

 

 

แต่นักข่าวไม่ให้โอกาสถังซีปลีกตัวออกไป พวกเขารีบยิงคำถามใส่เธออย่างต่อเนื่อง ขณะฟังคำถามที่ถามมาในภาษาต่างๆ ถังซีรู้สึกว่าหัวเธอกำลังหมุน เธอยิ้มและกล่าวว่า “ฉันไม่ใช่ดาวเด่นของงานโชว์นี้นะคะ พวกคุณควรให้ความสนใจกับนางแบบ และเสื้อผ้าเครื่องประดับที่สวยงามมากกว่า ฉันเชื่อว่างานแฟชั่นโชว์ในวันนี้ควรค่าแก่ความสนใจของพวกคุณ และผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบจะนำเสนอแฟชั่นโชว์ที่สมบูรณ์แบบ” 

 

 

“คุณถังคะ วันนี้คุณดูสวยสง่ามาก สไตลิสต์ของคุณเป็นใครคะ หรือเป็นเพราะคุณอารมณ์ดีคุณจึงดูสวยมาก” 

 

 

ถังซียิ้ม หันไปสบตานักข่าว และถามว่า “คุณหมายความว่า ก่อนหน้านี้ฉันไม่สวย และไม่เคยอารมณ์ดีเลย อย่างนั้นหรือเปล่า” 

 

 

ฝูงชนส่งเสียงหัวเราะ และเฉียวเหลียงพาถังซีเดินไปที่บริเวณจัดงาน พร้อมกับกล่าวว่า “ขอโทษนะครับ” 

 

 

ถังซียิ้มขอโทษนักข่าว และเดินตามเฉียวเหลียงเข้าไปในบริเวณจัดงาน ขณะทั้งสองเข้าไปด้านใน ถังซีก็เดินผ่านเหล่าดาราที่มีผู้ดูแลและทีมงานคอยถ่ายรูปให้ เมื่อเจอที่นั่งสำหรับแขกพิเศษที่สำรองไว้สำหรับเธอ เธอก็นั่งลง และพบว่าคนที่นั่งข้างเธอคือสวีฟัง สวีฟังยิ้มเยาะแล้วละสายตาไปทางอื่น จากนั้นดีไซเนอร์ก็เข้ามาทักทายถังซีด้วยรอยยิ้ม “คุณถัง ไม่ได้เจอกันนานเลย” 

 

 

ดาราเล็กๆ หลายคนเข้ามารวมตัวกันทันที สวีฟังยิ้มและกล่าวทักทายดีไซเนอร์ เขาเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ของชาแนล และเป็นทีมที่สนิทสนมกลมเกลียวกันอย่างยิ่งกับผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ถังซียืนขึ้นและยิ้มให้เขา “เลียร์ นานมากจริงๆ ค่ะ ที่เราไม่ได้เจอกัน” 

 

 

“ผู้อำนวยการบอกผมว่าคุณอาจจะไม่มา เขาต้องตื่นเต้นแน่ที่ได้พบคุณที่นี่ มากับผมสิ ไปพบผู้อำนวยการกัน เขาคิดถึงคุณมาก” เลียร์จูงมือถังซีพาเดินไปหลังเวที 

 

 

ทันทีที่ถังซีจากไป ดาราเล็กๆ กลุ่มนั้นก็ร้องอุทานว่า “โอ๊ย น่าอิจฉาจัง คนดังในงานนี้เป็นเพื่อนเธอทุกคนเลย และเธอก็สวยมาก ว่ากันว่าเสื้อผ้าเธอล้วนแต่เป็นของขวัญจากแบรนด์หรู เธอไม่ต้องใช้เงินซื้อเสื้อผ้าเลย แล้วถ้าเธอจะซื้ออะไร ของสิ่งนั้นต้องแพงมาก ไม่น่าแปลกใจที่เธอเป็นบุคคลวีไอพีของแบรนด์หรูเหล่านี้ ไม่ว่าใครก็อยากให้เธอสวมใส่เสื้อผ้าที่พวกเขาออกแบบกันทั้งนั้น”