ตอนที่ 414 สอนให้ลั่วอิงเข้าใจ / ตอนที่ 415 งานเลี้ยงธรรมดา

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 414 สอนให้ลั่วอิงเข้าใจ

 

 

“หนีได้แน่นอน อีกเดี๋ยวพวกลูกก็จะพาหลานชายแม่ไปแล้ว ถ้าไม่รีบดูตอนนี้จะให้แม่ดูตอนไหน”คุณแม่ลั่วเมื่อคิดว่าหลานชายคนโตของตนเองจะต้องกลับไปกับลั่วเซ่าเชินก็ทำใจไม่ได้

 

 

“อาเซิน ไม่งั้นพวกลูกพาเสียวอวี่มาอยู่ที่นี่สักสองสามวันมั้ย ลูกทำงานยุ่ง โจวโจวก็ต้องทำงานใช่ไหม แม่ช่วยพวกลูกดูลูกชายให้ ลูกว่าเป็นยังไง” คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าตัวเองต้องหาวิธีดีๆ สักวิธี ด้วยวิธีนี้ เธอจะได้สอนหลานชายว่าต่อไปให้รักเธอ

 

 

“แม่ครับ แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกครับ โจวโจวยังไม่ไปทำงานครับ พวกเราจะพาเสียวอวี่มาเองครับ” ลั่วเซ่าเชินเห็นใจผู้สูงวัยทั้งสองที่ร้อนรนคิดถึงหลาน แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลนั้นเสียทั้งหมด ถ้าให้คุณแม่ลั่วเลี้ยงจริงๆ ยังไม่รู้ว่าท่านจะเลี้ยงลูกเขากลายเป็นแบบไหน

 

 

คุณแม่ลั่วเห็นว่าลั่วเซ่าเชินไม่เต็มใจจึงพูดขึ้นว่า “ความหวังดีของแม่นี่ พวกเธอยังไม่คิดจะถนอมน้ำใจเลยนะ”

 

 

“พอแล้ว คุณพูดให้น้อยหน่อย เซ่าเซิน ในเมื่อตอนนี้พวกลูกมีลูกชายแล้ว เรื่องราวในอดีตพ่อกับแม่ของลูกจะไม่พูดถึงอีกแล้ว ลูกและโจวโจวต้องใช้ชีวิตให้ดี แค่พาเสียวอวี่มาเยี่ยมพวกเราบ่อยๆ ก็พอแล้ว”

 

 

คำพูดของคุณพ่อลั่วฟังแล้วรื่นหูมาก “ผมรู้แล้วครับ ต่อไปพวกเราจะพาเสียวอวี่มาหาพ่อแม่บ่อยๆครับ”

 

 

ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ใช่จะไม่เห็นใจคุณพ่อลั่วและคุณแม่ลั่ว เพียงแต่คำพูดของคุณแม่ลั่วก่อนหน้านี้ทำให้เขาพูดไม่ออก แม่ที่ไหนจะไม่ยอมเลี้ยงลูกแล้วให้ย่ามาเลี้ยงแทน เว้นแต่จะมีเหตุผลจำเป็น แต่ถังโจวโจวเองก็ไม่มีความกดดันในชีวิต ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องใช้วิธีแบบนี้ ลั่วเซ่าเชินเองก็คงไม่ส่งเสียวอวี่ให้กับคุณแม่ลั่วด้วย เขากลัวมากว่าคุณแม่ลั่วจะหลงหลานชายเกินไป นั่นไม่ใช่หวังดีต่อเขา แต่เป็นการทำลายเขา

 

 

เพียงแต่คำพูดนี้ลั่วเซ่าเชินไม่สามารถพูดตรงๆ กับคุณแม่ลั่วได้ รอให้คุณแม่ลั่วคิดขึ้นได้เธอก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว

 

 

 

 

พักอยู่ที่บ้านตระกูลลั่วหนึ่งวัน หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ พวกลั่วเซ่าเชินก็เตรียมตัวกลับกันแล้ว คุณแม่ลั่วมาส่งพวกเขาขึ้นรถ มองดูเสียวอวี่ที่หลับแล้วจึงพูดขึ้นว่า “ขับรถระวังนะ ระวังอย่าทำให้เสียวอวี่ตื่น”

 

 

“ครับ แม่ครับ แม่นี่ยิ่งมายิ่งขี้บ่นนะเนี่ย” ลั่วเซ่าเชินตอบกลับอย่างไม่คิดอะไรมาก

 

 

ถังโจวโจวเห็นว่าสีหน้าของคุณแม่ลั่วไม่ค่อยดีนักจึงรีบเข้าไปห้ามศึก “คุณแม่คะ คุณแม่คุณพ่อรีบกลับเข้าบ้านเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวพวกเรากลับไปถึงบ้านจะรีบโทรหาค่ะ”

 

 

“ได้ ขับรถระวังหน่อย”

 

 

ตอนนี้คุณแม่ลั่วยังดีใจเรื่องเสียวอวี่เลยไม่ได้เอ่ยขัดอะไรเธอ ก่อนหน้านี้ได้มองดูความน่ารักของหลานชายก็ให้รู้สึกอาวรณ์ แต่ช่วงบ่ายผ่านไปแล้วเสียวอวี่ก็ยังกระปรี้กระเปร่าอยู่ คุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วอายุมากแล้วไม่ควรเหนื่อยมากเกินไป

 

 

“เรื่องของคุณพ่อคุณแม่นี่คือไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม” ถังโจวโจวรู้สึกว่าการมีเสียวอวี่ทำให้คุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วมีทัศนคติต่อเธอต่างไปมาก คงเป็นเพราะมีหลานชายคนนี้

 

 

“แน่นอน ไม่เห็นที่เมื่อกี้พ่อแม่ทำดีต่อคุณเหรอ” ดีขนาดไหนที่จริงแล้วนับไม่ได้ เพียงแต่ดีกว่าเมื่อก่อน นั่นก็ดีมากแล้ว

 

 

“อืม แล้วคุณไม่ดีใจเหรอ” เมื่อไม่มีความวิตกกังวลอีก ลั่วเซ่าเซินย่อมดีใจกว่าเธออยู่แล้ว

 

 

ถังโจวโจวสังเกตเห็นว่าตั้งแต่ลั่วอิงขึ้นรถมาก็ไม่ยอมพูดเลยตลอดทาง ไม่เหมือนตอนมาที่นี่ครั้งก่อน ตอนนี้เธอดูเหมือนจะเบื่อหน่าย

 

 

“ลั่วอิง เป็นอะไรไปจ๊ะ” ถังโจวโจวเปลี่ยนตำแหน่งการอุ้มเสียวอวี่ ซึ่งทำให้เธอมองเห็นสีหน้าของลั่วอิงชัดเจนขึ้น เด็กคนนี้ยังคิดมากอยู่อีกหรือ

 

 

“แม่โจวโจว ต่อไปคุณแม่กับคุณพ่อจะรักน้องชายมากกว่านี้ไหมคะ หนูเองก็รักน้องชายมาก แต่คุณพ่อกับคุณแม่อย่ารักแต่น้องชายแล้วลืมหนูได้ไหมคะ”

 

 

ลั่วอิงได้กลับมาที่บ้านตระกูลลั่วแต่ไม่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วเหมือนตอนที่เธอได้รับตอนอายุเธอยังน้อยอีก ตอนนั้นเธอคือหลานคนโปรดของคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่ว ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อก่อนครอบครับตระกูลลั่วก็มีเธอเพียงคนเดียว จึงยิ่งรักใคร่ถนอมเธอดั่งไข่ในหิน

 

 

ถังโจวโจวฟังคำร้องขอของเธอแล้ว ในใจก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่ว นี่มันเรื่องอะไรกันถึงทำให้เด็กดีๆ ต้องกลายเป็นแบบนี้ไปได้

 

 

ลั่วอิงแววตาสั่นไหว กลัวว่าถังโจวโจวจะต่อว่า แม้เมื่อครู่แม่โจวโจวก็พูดออกมาชัดเจนแล้ว เพียงแต่ในใจของเธอก็อดคิดไม่ได้

 

 

 

 

ตอนที่ 415 งานเลี้ยงธรรมดา

 

 

“ลั่วอิง ลูกไม่ต้องกังวล คุณปู่คุณย่าก็คือคุณปู่คุณย่า พ่อกับแม่จะไม่ทำแบบนั้นกับลูก ลูกต้องรู้ว่าเสียวอวี่คือที่รักของพวกเรา ลูกเองก็เหมือนกัน ลูกเป็นลูกรักคนโต ส่วนน้องเป็นลูกรักคนเล็ก”

 

 

ถังโจวโจวรู้ว่าลูกรับรู้ได้ว่าคนรอบข้างปฏิบัติต่อเธอไม่เหมือนเดิม ภายในใจต้องเจ็บปวดแน่ๆ ต้องรู้ว่าเมื่อก่อนลั่วอิงเป็นคนโปรดเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีคนมาแบ่งความรักไปครึ่งหนึ่งและจะมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ทำอย่างนั้น

 

 

ถังโจวโจวเข้าใจความรู้สึกนี้ของเธอดี เธอรู้ว่าลั่วอิงไม่ได้ไม่ชอบเสียวอวี่ แต่เพราะคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วจงใจเกินไป เด็กเล็กขนาดนี้ก็ยังทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความแตกต่าง แม้จิตใจและร่างกายของเธอโตขึ้นแต่ก็คงไม่ได้ช่วยอะไร

 

 

“แม่โจวโจว มีแค่คุณปู่คุณย่าใช่ไหมคะที่เป็นแบบนี้” ในใจของลั่วอิงเข้าใจดี ถึงแม้ว่าคุณพ่อถังและคุณแม่ถังจะไม่ได้เอ็นดูเธอมากเท่าเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้แสดงออกว่าความรักที่มีต่อน้องชายไม่เหมือนกับที่มีต่อเธอ

 

 

ถังโจวโจวไม่ได้พยักหน้าหรือส่ายหน้า ทำได้เพียงใช้สายตามองไปที่ลั่วเซ่าเชินที่ขับรถอยู่ด้านหน้า “เซ่าเซิน คุณ…”

 

 

“ใช่ มีแค่ปู่กับย่าที่เป็นแบบนี้ แต่พวกเขาก็มีเหตุผล ลั่วอิงแค่มีความรักจากพ่อกับแม่ก็พอแล้ว คนอื่นๆ รักน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ” ลั่วเซ่าเซินไม่คิดจะให้พวกเธอคิดแก้ปัญหาที่ไม่มีทางออกนี้

 

 

แม้ว่าคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วจะรักลั่วอิงไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วยังไง น้อยลงหน่อยก็ไม่สำคัญ ขอแค่เขากับถังโจวโจวยังคงเหมือนเดิมก็พอแล้ว

 

 

“รู้แล้วค่ะพ่อ ต่อไปหนูจะไม่ถามแบบนี้อีก” สุดท้ายลั่วอิงก็เผยรอยยิ้มออกมา ถึงแม้ถังโจวโจวจะคิดว่าวิธีการพูดของลั่วเซ่าเชินจะดูหยาบกระด้างเกินไปหน่อย แต่ก็ได้ผลดี แล้วยังต้องสนใจอะไรมากมายอีกเล่า

 

 

ถังโจวโจวพักอยู่ที่บ้านหลายวันไม่ได้ออกไปทำงาน เพราะเปลี่ยนใจมาดูแลเสียวอวี่ อยู่แต่ที่บ้านก็ค่อนข้างเหงา เธอจึงคิดที่จะหาอะไรมาทำ ความคิดของเธอเมื่อก่อนก็ออกมาอีกครั้ง

 

 

เพียงแต่ตอนนี้เสียวอวี่อยู่คนเดียวไม่ได้ ถังโจวโจวมีไอเดียนั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะเลิกทำงานและดูแลเสียวอวี่แทน

 

 

ป้าหลิวตอนนี้นอกเหนือจากรับผิดชอบงานบ้านแล้วยังมาช่วยเธอดูแลเสียวอวี่อีก เดิมทีลั่วเซ่าเชินเตรียมที่จะหาแม่บ้านให้ แต่หลังจากถังโจวโจวรู้ก็ปฏิเสธ คุณแม่ถังได้ยินว่าเพราะถังโจวโจวต้องดูแลลูกทำให้ไม่ได้ดูแลเรื่องอื่นๆ ในบ้านเลยรีบมาที่บ้านลั่วเพื่อเสนอตัวช่วย

 

 

คราวนี้จึงดีขึ้นมาบ้าง ถังโจวโจวมีความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ภาระที่แบกอยู่จึงเบาบางลง บ้านลั่วมีห้องไว้สำหรับให้คุณแม่ถังพักผ่อนโดยเฉพาะ เพียงแต่ห้องนี้ไม่ค่อยได้ใช้

 

 

ทุกๆ ช่วงกลางวันคุณแม่ถังจะมาช่วยถังโจวโจวเลี้ยงลูกและตอนค่ำก็กลับไปบ้าน เดิมทีถังโจวโจวอยากให้คุณแม่ถังพักอยู่ด้วยเลย แต่คุณแม่ถังฟังแล้วก็ส่ายหัวทันที “พ่อของลูกอยู่บ้านคนเดียว แม่ไม่วางใจ”

 

 

“ก็ให้พ่อมาอยู่ด้วยกันที่นี่เลยสิคะ”

 

 

เรื่องนี้คุณแม่ถังไม่ทำแน่ “พวกเราจะอยู่กับลูกที่นี่ได้ยังไงกัน ถึงเวลาพวกญาติๆ รู้เข้าจะถูกนินทาลับหลังเอาได้”

 

 

           วันนี้ตอนบ่ายลั่วเซ่าเชินส่งข้อความมาบอกว่ามีงานเลี้ยง อยากจะให้ถังโจวโจวไปเป็นเพื่อน ถังโจวโจวจึงให้คุณแม่ถังพักอยู่ที่บ้านหนึ่งคืนซึ่งครั้งนี้เธอไม่ได้ปฏิเสธ “ลูกวางใจเถอะ แม่จะช่วยดูแลเสียวอวี่เอง”

 

 

ประมาณห้าโมงเย็น ลั่วเซ่าเชินก็ขับรถมารับถังโจวโจว หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไปยังร้านทำผม เมื่อทำผมเสร็จ เลือกชุดเรียบร้อย เวลาก็ล่วงเลยไปจนใกล้หนึ่งทุ่มแล้ว โชคดีที่งานเลี้ยงอยู่แถวนั้นพอดี ขับรถสิบนาทีก็ถึงแล้ว ดังนั้นจึงไปงานได้ทันเวลา

 

 

“วันนี้มาร่วมงานเลี้ยงอะไรคะ” ลั่วเซ่าเชินไม่ทันบอกอะไรเธอมากนักก็รีบร้อนพาเธอออกมา

 

 

นานมากแล้วที่ถังโจวโจวไม่ได้เข้าร่วมงานแบบนี้ โชคดีที่เมื่อก่อนมีโอกาสได้มาอยู่บ้างและยังไม่ลืมจึงไม่ถึงกับตื่นเต้น

 

 

“ก็เป็นงานเลี้ยงธรรมดางานเลี้ยงหนึ่ง”

 

 

เห็นลั่วเซ่าเชินพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไร ถังโจวโจวยังคิดว่าเป็นงานเลี้ยงทั่วไปจริงๆ ที่ไหนได้เมื่อไปถึงที่งานถึงเพิ่งรู้ว่าที่พูดว่าธรรมดาก่อนหน้านี้นั้นไม่จริงเลย ลั่วเซ่าเซินคนโกหก งานใหญ่ขนาดนี้ ยังกล้าพูดว่างานเลี้ยงธรรมดาอีก