ตอนที่ 549 ริเริ่มออกแบบ / ตอนที่ 550 ทั่วทั้งงาน

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 549 ริเริ่มออกแบบ

 

 

“นายมีอะไรอยากพูดกับฉันไหม” สวีอันหรานจับเท้าของเหยียนเค่อไว้ได้ข้างหนึ่งเอ่ยถามขึ้นยิ้มๆ

 

 

เหยียนเค่อลอยตัวอยู่บนน้ำ รอบตัวเต็มไปด้วยความเย็นของน้ำทะเลโอบล้อมอยู่ เอ่ยอย่างสบายๆ “ดูแลสวีรั่วชีดีๆ ขอให้พวกนายครองรักอยู่ด้วยกันตลอดไป”

 

 

“อือ” สวีอันหรานตอบรับ “ก็ขอให้นาย…”

 

 

สวีอันหรานยังพูดไม่ทันจบ เหยียนเค่อก็ออกแรงถีบไปที่เท้าจนเกือบทำให้สวีอันหรานกับเสิ่นจิ้งเฉินที่จับเท้าอยู่จมไปในน้ำ

 

 

“หุบปาก” เขาไม่อยากได้ยินอะไรทำนองว่า ‘ขอให้นายกับสวีอิ๋งอิ๋งครองรักกันตลอดไป’

 

 

เพื่อความปลอดภัยของชีวิตของตนสวีอันหรานคิดว่าเขาควรรีบขึ้นจากน้ำ ทั้งหมดรีบว่ายไปที่ฝั่ง ว่ายไปก็แกล้งกันหัวเราะกันไป คนที่อยู่ด้านบนต่างรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้

 

 

คุณชายทั้งห้าของเมือง N มารวมตัวกันได้นี่ถือได้ว่าหาได้ยากมาก ไม่มีทางจะนัดเจอพวกเขาทั้งห้าคนพร้อมกันได้ง่ายๆ ต้องรีบถือโอกาสนี้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

 

 

พวกเขาอยู่ห่างจากชายฝั่งไม่ไกล เดินอีกสองสามก้าวก็ถึงแล้ว พวกเขาแช่อยู่ในน้ำกันนานก็เพื่อพูดคุยกัน ไม่ใช่แค่คนอื่นหรอกที่ค่อยไม่เห็นพวกเขารวมตัวกัน พวกเขาก็ไม่ได้นัดรวมตัวกันนานมากแล้วจริงๆ โอกาสแบบนี้จึงถือว่าหาได้ยากมาก

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินนับถือไอเดียของเหยียนเค่อจริงๆ “นายนึกถึงวิธีที่ผลักสวีอันหรานลงไปในน้ำได้อย่างไรกัน”

 

 

“สมองมันแล่นไง” สวีอันหรานเอ่ยแขวะ “ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมตอนออกแบบต้องไปในน้ำลึกขนาดนั้น แล้วยังต้องทำทางทอดยาวให้ไกลจากชายฝั่งขนาดนี้ด้วย”

 

 

“ความคิดนายกับสิ่งที่ซย่าเสี่ยวมั่วคิดเกี่ยวกับการออกแบบนี่ต่างกันโครตๆ” เสิ่นจิ้งเฉินเบ้ปาก ถ้าซย่าเสี่ยวมั่วรู้ว่าการออกแบบที่ทำให้หล่อนซาบซึ้งนั้นออกแบบไว้เพื่อจะถีบให้คนลงไปในน้ำ หล่อนจะยังรู้สึกซาบซึ้งอีกไหมนะ

 

 

“หึ” เหยียนเค่อสะบัดผมที่เปียกน้ำของตน พูดคำพูดที่คนฟังต้องหมั่นไส้ “แล้วอย่างไร หล่อนก็ชอบแล้วกัน”

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินหมดคำพูด เหยียนเค่อพูดถูก ไม่ว่าจุดประสงค์มันคืออะไร แต่ถ้าหล่อนชอบมันก็คือการออกแบบที่ดีที่สุด

 

 

สวีอันหรานรู้ว่าตอนนี้เหยียนเค่อกำลังทำสงครามเย็นกับซย่าเสี่ยวมั่ว แกล้งเอ่ยเหน็บ “ชอบการออกแบบไม่ได้ชอบนายซะหน่อย น่าอวดตรงไหน ฮะ”

 

 

เหยียนเค่อจ้องสวีอันหรานนแวบหนึ่ง อยากจะจับโยนลงทะเลไปอีกสักรอบ

 

 

สวีอันหรานจ้องกลับอย่างไม่พอใจ ถูกเหยียนเค่อแกล้งให้โดดลงทะเลความจริงก็น่าอายอยู่ จะเปลี่ยนชุดตรงนี้ก็เปลี่ยนไม่ได้ จึงทำได้แค่เดินกลับไปเปลี่ยนชุดในรถโดยมีผู้ช่วยพาไป

 

 

สวีรั่วชียืนอยู่บนเวทีคนเดียวลงไปดื่มไวน์ฉลองก็ไม่ได้ ทำได้แค่ยืนโดนพวกที่อายุไล่เลี่ยกันตื้ออยู่ รอให้สวีอันหรานกลับมาก่อนค่อยลงไปพร้อมชายหนุ่ม

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วโดนมู่หยางตามตอแยจนแทบอยากจะกระโดดหนีลงทะเล เธอเกาะติดสวีรั่วชีเป็นปลิงคอยหาเรื่องพูดคุยด้วยตลอดเวลา ทำเป็นมองไม่เห็นการมีอยู่ของมู่หยาง

 

 

“เธออย่าเอาหน้าอกมาดันฉัน” สวีรั่วชีทนไม่ไหวแล้วจริงๆจึงเอ่ยออกมา “รู้แล้วว่ามีนม ไม่ต้องพิสูจน์ให้ดูหรอก”

 

 

“ชิ” ถ้าไม่เห็นแก่ว่าหล่อนท้องอยู่ซย่าเสี่ยวมั่วก็อยากจะผลักจะหล่อนลงไปในทะเลอยู่เหมือนกัน “ตอนเธอเลือกมู่หยางมา คิดถึงฉันบ้างไหม ฉันไม่สนใจนายนั่นสักนิด”

 

 

“ความสนใจมันต้องใช้เวลาบ่มเพาะ” สวีรั่วชีกระซิบข้างหู

 

 

“เหอะๆ” ซย่าเสี่ยวมั่วยิ้มเย็น “มีเด็กไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่พิการในช่วงที่กำลังบ่มเพาะความสนใจ”

 

 

สวีรั่วชีเบิกตาพูดพล่ามต่อ “เธอก็พิการอยู่แล้วหนิ ดีไม่ดีเดี๋ยวจะหายเป็นปกติด้วยซ้ำ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากขัดอารมณ์ของเพื่อน เอ่ยอย่างจนใจ “ฝันไปเถอะ”

 

 

ทั้งสองคนยังเถียงกันไม่จบ สวีอันหรานก็กลับมารับตัวสวีรั่วชี

 

 

ซย่าเสี่ยมั่วไม่อยากปล่อยมือ ช่วงที่มออบสวีรั่วชีให้สวีอันหรานเธอก็เอ่ยคำอวยพรของตัวเองออกไปอย่างจริงใจที่สุด

 

 

“ขอให้พวกเธอมีความสุขตลอดไปนะ”

 

 

“อื้อ” สวีอันหรานพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น ประคองแขนสวีรั่วชีให้ลงมา แล้วเริ่มพิธีต่อ

 

 

พวกเสิ่นจิ้งเฉินก็คอยล้อมดูแลบ่าวสาว รอดื่มเหล้าฉลองแทน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจ เดินปลีกตัวออกมา เธอจองตั๋วเครื่องบินรอบบ่ายวันนี้ไว้ กะว่าจะรีบไปสนามบินเลย ไม่คิดจะกลับไปเอากระเป๋าเดินทางที่ยังอยู่ที่โรงแรมด้วยซ้ำ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 550 ทั่วทั้งงาน

 

 

ช่วงที่ใกล้เสร็จพิธี สวีรั่วชีถึงได้สังเกตว่าซย่าเสี่ยวมั่วหนีไปแล้ว แต่คนที่รู้ก่อนเธอก็คือเหยียนเค่อ

 

 

ตอนที่ซย่าเสี่ยวมั่ววิ่งออกไปด้านนอก ชายหนุ่มก็รู้แล้ว แต่เขาไม่ได้พูดออกไป เดินตามสวีอันหรานไปเพื่อดื่มเหล้าฉลองแทน

 

 

“ทำไมปล่อยให้เธอไป!” สวีรั่วชีโมโหกัดฟันกรอด “มางานแต่งงานฉันเนี่ยมันยากขนาดนั้นเลยหรือไง”

 

 

อันหรานที่อยู่ด้านข้างส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง วันนี้เธอเห็นหน้าซย่าเสี่ยวมั่วแค่ครั้งเดียวเอง มัวแต่วุ่นวายไม่มีเวลาคุยกับซย่าเสี่ยวมั่วเลย พอว่างแล้วถึงได้รู้ว่าหล่อนกลับไปแล้ว

 

 

“หล่อนคงกลัวว่าจะโดนเธอกักตัวมั้ง”

 

 

“หึ” สวีรั่วชีดึงผ้าคลุมแต่งงานที่หัวออก แล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ “หนีราวกับพระแอบหนีออกจากวัด”

 

 

อันหรานง่วงจนต้องหาวออกมา วันนี้เธอยุ่งมาทั้งวัน ตอนนี้เหนื่อยจนแทบไม่ไหวแล้ว

 

 

สวีรั่วชีแตะไปที่ไหล่หล่อนเบาๆเป็นเชิงให้ไปนอน “เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับไปพักเถอะ อีกเดี๋ยวสวีอันหรานก็มาแล้ว”

 

 

อันหรานพยักหน้า “อย่างนั้นเธอดูแลตัวเองดีๆนะ ฉันไปนอนก่อนล่ะ”

 

 

ด้านนอกยังมีรปภ.ดูแลอยู่ อันหรานเลยวางใจได้ หลังกำชับเรียบร้อยก็รีบกลับห้องไปนอนพัก

 

 

สวีรั่วชีก็เหนื่อยมาทั้งวัน พออันหรานออกไปเธอก็นอนหลับไปบนเตียง

 

 

พวกผู้ใหญ่กลับกันไปหมดแล้ว พวกผู้ชายพอเมาแล้วก็ไปกันใหญ่ ต่างก็ไม่ห่วงหน้าตากันอีกแล้ว ปกติพวกที่ไม่ค่อยสนิทกับเจ้าบ่าวเท่าไหร่แต่วันนี้ก็ต่างกรูกันเข้ามาขอชนแก้ว คนนั้นทีคนนี้ที เวลาไปสังสรรค์ออกงานสวีอันหรานยังไม่ดื่มมากขนาดนี้เลย ตอนนี้แทบจะอาเจียนออกมาอยู่แล้ว

 

 

พวกคุณชายพวกนั้นไม่กล้ากับเหยียนเค่อสักเท่าไหร่ พอเหยียนเค่อออกมาดื่มแทนสวีอันหรานพวกนั้นก็ไม่กล้าคะยั้นคะยอต่อ เหยียนเค่อก็ดื่มไปพอๆกับสวีอันหราน แต่ว่ากลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ใบหน้ายังคงนิ่งเฉยอยู่อย่างเดิม

 

 

“ฉันไม่ไหวแล้ว” สวีอันหรานรู้สึกมึนหัว หันไปขอความช่วยเหลือจากเหยียนเค่อ

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินกับฉินซื่อหลานออกงานสังสรรค์บริษัทน้อยกว่าคนทั้งคู่ อีกทั้งสายอาชีพของพวกเขาก็ไม่ได้ดื่มบ่อยมากนัก ถึงแม้แต่ก่อนฝึกมาแต่ตอนนี้ก็เริ่มไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

 

 

เซ่าหมิงฟ่านส่งสายตาแลกเปลี่ยนความเห็นกับเหยียนเค่อ คนหนึ่งพาทั้งสามคนไปส่ง อีกคนอยู่รับมือต่อที่นี่

 

 

สวีอันหรานเริ่มเอ่ยขึ้นสองสามคำ “ภรรยาฉันรออยู่ คงไม่ได้อยู่ต่อแล้ว ให้เหยียนเค่ออยู่ดื่มต่อแทน ขอบคุณพวกนายทุกคนที่สละเวลามาร่วมงานแต่งของฉันนะ” จากนั้นก็ดื่มหมดแก้ว แล้วก็ขอตัวกลับก่อน

 

 

พอได้ยินว่าพวกเขาจะไปแล้ว คนที่เหลือในงานก็เริ่มแตกตื่น มีเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้น

 

 

“วันนี้งานแต่งอันหราน เขาจึงไม่อาจอยู่ร่วมได้จนจบ ฉันอยู่ดื่มแทนแล้วกัน” เหยียนเค่อชูแก้วในมือขึ้น เอ่ยอย่างสบายๆ

 

 

“เฮ” คนด้านล่างโห่ร้องขึ้น ถึงแม้จะมีบางคนมีความแค้นกับสวีอันหรานอยู่แต่ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้านคำพูดของเหยียนเค่อ

 

 

สวีอันหรานกับเซ่าหมิงฟ่านช่วยกันประคองเพื่อนอีกสองคนที่เมาไม่รู้เรื่องออกจากงาน ในช่วงเวลาสำคัญก็มีเหยียนเค่อนี่แหล่ะพึ่งพาได้มากที่สุด

 

 

“เหยียนเค่อนายกล้ารับดาบแทนเพื่อน[1] ดีๆ มาฉันดื่มให้นาย” หลี่หมิงฉวียืนขึ้นยกแก้วดื่ม

 

 

เหยียนเค่อกวาดตามองแวบหนึ่ง จากนั้นดื่มหมดแก้ว มองไปที่หลี่หมิงฉวีที่ในแก้วยังคงเหล้ามีเหลืออยู่กว่าครึ่งแก้ว ดูท่าแล้วคงต้องเททิ้งแทน

 

 

เหยียนเฟิงไม่ชอบใจท่าทางเย่อหยิ่งโอ้อวดของเหยียนเค่อ เทเหล้าในแก้วแล้วลุกขึ้นยืน “พวกเรามาอวยพรให้ต่อจากนี้สวีอันหรานมีแต่ความสุข” จากนั้นก็ดื่มหมดแก้วอย่างสบายๆ

 

 

เหยียนเค่อเติมแก้วให้เต็มอีก ในใจอยากจะอ้วก คนพวกนี้พูดพล่ามอะไรกันอยู่นั่น คนประเภทนี้นี่มีเยอะจริงๆ

 

 

บางคนดื่มให้ไปแล้ว บางคนไม่กล้าเข้าหาเหยียนเค่อ ได้แต่มองอยู่ข้างๆแล้วชนแก้วกับพวกคนของซีเฉิง

 

 

เหยียนเค่อจดจำคนของซีเฉิงทุกคนที่เข้ามาหาเรื่องได้แม่นยำ ในใจยิ้มเย็นยิ่งเข้ามาขอดื่มมากเท่าไหร่ก็ถือเป็นการโจมตีมากเท่านั้น ไม่รู้ว่าเอาความมั่นใจจากที่ไหนมาขอชนแก้วกับเขา ดื่มจนสุดท้ายก็ไม่แคร์ใครเข้ามาก็ดื่มด้วยหมด นี่ถ้าซย่าเสี่ยวมั่วยังอยู่แล้วเห็นว่าเหยียนเค่อดื่มไปเยอะขนาดนี้หล่อนคงต้องปวดใจเป็นแน่

 

 

 

 

——

 

 

[1] รับดาบแทน สำนวนแปลว่าเสียสละหรือช่วยทำอะไรๆแทนคนอื่น