ตอนที่ 749 ไปผิดทิศทาง

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ตอนที่ 749 ไปผิดทิศทาง

 

หลังจากจงไคพูดจบทั้งบรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบทันที ทุกคนจ้องไปที่จงไคและฉางกวนยวีซินด้วยสายตาตื่นตระหนก เกิดอะไรกับทั้งคู่ขึ้นตอนเด็กกัน? ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี้คือไม้ตายที่จงไคต้องชนะแน่ๆ!

  

ชูฮันเองก็แอบวืดอยู่ในอกแววตาดำสนิทดิ่งลึก เขาแกว่งแก้วไวน์ในมือ จับตามองว่าจงไคจะทำอะไรต่อไป

  

ฉางกวนหลงเองก็เกิดความสงสัยเขาประหลาดใจที่ได้รู้ว่าทั้งสองหนุ่มสาวดูเหมือนจะรู้จักกันดี “จงไคและยวีซินเคยเล่นด้วยกันตอนเด็กเหรอ?”

  

”ใช่ครับท่านลุง” จงไคพยายามเข้าหาผ่านทางฉางกวนหลง เขากระตือรือร้นรีบอธิบายต่อทันที “ในตอนนั้น ในค่ายฝึกทหาร บังเอิญผมติดตามพ่อของผมไปสำรวจค่ายทหาร และได้เจอกับเด็กสาวที่น่าทึ่งท่ามกลางสายฝน ยวีซินเป็นเด็กสาวที่น่ารักและฉลาดมาตั้งแต่เด็กครับ”

  

แม่ง…

  

หน้าของชูฮันหงิกงอ…เขารู้สึกรังเกลียดไอ้จงไคนี่เหลือเกิน

  

”นี่มันโชคชะตาชัดๆ!”ฉางกวนหลงดูเหมือนจะไม่เห็นสีหน้าของชูฮัน

  

อย่างไรก็ตามขณะที่ฉางกวนหลงกำลังจะพูดต่อและจงไคก็เจอโอกาสที่จะแสดงต่อ ทว่าฉางกวนยวีซินขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้นมาก่อน “จำได้มั้ยเหรอ ไม่ใช่แค่จำได้ว่าตอนนั้นฉันอายุแค่สิบขวบ ส่วนพลโทจงไคอายุสิบห้าปี จำได้ว่าคุณพูดว่าสถานะต่ำต้อยของฉันก็ควรแล้วที่จะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นั้น และถึงฉันจะได้เกิดมามีสถานะสูงกว่านี้ ฉันก็จะทำได้แค่ยืนข้างคุณและคอยส่งร่มส่งน้ำคอยรับใช้คุณเท่านั้น”

  

ทันทีที่ฉางกวนยวีซินพูดจบสีหน้าของฉางกวนหลงก็หมองคล้ำทันที ส่วนจงไคก็หน้าซีดเผือด เวลามันผ่านมากกว่าสิบปี จริงๆเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเจอกับฉางกวนยวีซินในค่ายทหาร เขาสืบข้อมูลของฉางกวนยวีซินก่อนจะมาที่นี้และได้เจอว่าเธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ค่ายทหารเป็นเวลาหลายปีและระยะเวลามันตรงกัน

  

เขาจึงคิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงโชคชะตาแต่มันกลับจบลงด้วยเหตุการณ์ที่แย่กว่าเดิม จงไคไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองได้พูดจาแย่และน่าอับอายกับฉางกวนยวีซินไปแบบนั้น

  

”มันน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ?”จงไคที่กำลังตื่นตระหนกรีบแก้ตัวทันที

  

”คุณจงไคอาจจะความทรงจำไม่ดีอยากให้ดิฉันทบทวนภาพเหตุการณ์ในอดีตมั้ยคะ?” ฉางกวนยวีซินยิ้มอย่างสะใจ แววตาร้ายลึกที่ซ่อนอยู่ของเธอนั้นไม่ต่างอะไรกับแววตาของชูฮันทำราวกับกำลังนั่งดูหนังอยู่อย่างสนุกสนาน

  

”ไม่ไม่ ไม่ต้องครับ” จงไครีบโบกมือปฏิเสธรัวๆ ถอยหลังหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งตัวซีดราวกับไม่มีเลือด เหงื่อเย็นๆซึมเต็มหน้าผาก คำพูดของฉางกวนยวีซินแสดงให้เห็นว่าโอกาสเขามันถูกระเบิดกระจุยไปหมดแล้ว!

  

เ*ย!ทำไมกลายเป็นเขามีปัญหากับฉางกวนยวีซินในอดีตไปได้?

  

เมื่อความจริงเผยออกมาฉางกวนหลงก็ไม่คิดจะสนทนากับใครทั้งนั้นอีก เขานั่งอยู่หัวโต๊ะด้วยสีหน้าอูมตูม แววตาแสดงความไม่สบอารมณ์ นึกย้อนเสียใจเรื่องราวในอดีตของฉางกวนยวีซินที่ต้องพบเจอ ลูกสาวของเขาควรจะได้รับความรักจากพ่อที่เขาไม่เคยให้ลูกเลยตอนเด็ก และที่เสียใจยิ่งกว่าคือลูกเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากมายด้วยตัวเองมามากแค่ไหน!

  

เมื่อเห็นสีหน้าของฉางกวนหลงมันก็มีรอยยิ้มฉายขึ้นในแววตาของชูฮัน

  

กริ้ง!

  

เสียงชนแก้วไวน์ดังขึ้นเบาๆฉางกวนหลงเหลือบมองชูฮันที่อยู่ข้างๆด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย

  

เมื่อมองเห็นแววตาของชูฮันที่สบตามาซึ่งมันมีความหมายที่สื่อออกมาได้ว่า ‘ไม่ต้องเศร้าไป ลุง ฉันเข้าใจลุง’ การกระทำของชูฮันมันแสดงออกมาจากใจจริงๆ มันคือความจริงใจที่ไม่ได้เสแสร้ง

  

สำหรับความขัดแย้งในใจของฉางกวนหลงนั้นชูฮันซึ่งเป็นพลเอกเหมือนกันค่อนข้างจะเข้าใจดี เขาก็หวังว่าญาติสนิทและเพื่อนพ้องของเขาจะไม่ได้เสี่ยงอันตรายและอยู่อย่างสุขสบาย อีกทางกลับกันเขาก็กลัวว่าคนรอบข้างเขาก็อาจจะเจอกับอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เมื่อเราอยู่ในตำแหน่งสูง

  

ฉางกวนหลงตกใจกับความจริงใจที่สื่อออกมาผ่านสายตาของชูฮันฉางกวนหลงยิ้มเบาๆ ส่ายหัวและยกแก้วไวน์ขึ้น…สรุปว่าเขานั่งดื่มกับชูฮัน

  

สิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือตำแหน่งพลเอก คนหนึ่งแก่กว่า คนหนึ่งเด็กกว่า คนหนึ่งแข็งแกร่งทรงพลังด้วยอำนาจ อีกคนยโสอวดดี ตอนนี้ทั้งสองกลับมีความคิดที่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน ราวกับว่ารู้จักกันมานาน

  

หลายคนบนโต๊ะอาหารเห็นภาพความสามัคคีของชูฮันและฉางกวนหลงทันใดนั้นมันก็ทำให้ทุกคนที่เห็นรู้สึกราวกับมองเห็นภาพ พ่อและลูกเขยขึ้นมาทันที ในปัจจุบันคนที่เหมาะสมกับฉางกวนยวีซินนั้น แน่นอนว่าชูฮันเป็นตัวเลือกอันดับที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ที่ทุกคนรีบมุ่งหน้ากันมาค่ายหนานตู้อย่างใจร้อนเพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสอีกแล้วหลังจากนี้

  

ตวนเจียงเหว่ยซึ่งก็เป็นพลเอกเช่นกัน และก็เป็นคนที่ใครๆก็อิจฉามากมาย แต่ตวนเจียงเหว่ยนั้นกลับไม่มาปรากฏตัวที่ค่ายหนานตู้ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะพุ่งความสนใจมาที่ชูฮันคนเดียว

  

ทว่าตอนนี้เมื่อได้เห็นภาพนี้ ทันใดนั้นทุกคนก็เอาความคิดที่จะสู้กับชูฮันพักไปไว้ข้างๆก่อน เพราะฉางกวนหลงได้สร้างมิตรกับคนอื่นแล้ว!

  

หลายคนถอดใจและล้มเลิกความตั้งใจไปแล้วขณะที่เฉินยุนโหลวยังคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาพยายามดึงความสนใจของฉางกวนหลงและฉางกวนยวีซินกลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง

  

”คุณยวีซินครับผมมาด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง ผมอยากรู้ว่าคุณยินดีจะให้โอกาสผมมั้ยครับ?” แววตาของเฉินยุนโหลวเต็มไปด้วยความคาดหวัง

  

นัยน์ตาของฉางกวนยวีซินมีประกายบางอย่างวาดผ่านน้ำเสียงรายเรียบ “สรุปว่าคุณเฉินยุนโหลว คุณเป็นพลโทใช่มั้ยคะ?”

  

”ครับ”เฉินยุนโหลวไม่คิดว่าฉางกวนยวีซินจะพูดเรื่องนี้ เขารีบพยายามเปลี่ยนหัวข้อทันที “ตำแหน่งพลโทมันไม่อะไรนอกจากสถานะ นอกจากตำแหน่งแล้ว ผมก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่นชมคุณฉางกวนยวีวินครับ”

  

แม้ฉางกวนยวีซินจะมีสถานะต่ำหรือเรียกได้ว่าไม่มีสถานะทางทหารเลย แต่เฉินยุนโหลวกลับอ่อนน้อมต่อฉางกวนยวีซิน นั้นเป็นเพราะเขาเกรงกลัวต่อตำแหน่งและอำนาจของฉางกวนหลง

  

น่าเสียดายสำหรับเฉินยุนโหลวแววตาร้ายกาจของฉางกวนยวีซินนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก เธอค่อยๆพูดออกมาช้าแต่ชัดเจน “แต่ฉันชอบผู้ชายที่มีพละกำลังต่อสู้สูง และมีความมุมานะต่อตำแหน่งที่สูงที่สุด ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีความกล้าที่จะเป็นผู้นำ เป็นที่หนึ่ง มีอำนาจเป็นผู้นำของค่ายและก็มีสถานะเหนือกว่าทุกคนทั่วหน้า!”

  

เสียงของผู้หญิงที่ทรงพลังดังออกจากปากของฉางกวนยวีซินทุกคนในห้องเงียบสนิทและตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนหน้านี้พวกเขาไปผิดทิศทางกันหมด

  

ฉางกวนยวีซินไม่ได้ชอบคนตำแหน่งสูงแต่ตรงกันข้าม ถ้าเธอต้องการแต่งงาน เธอต้องการแต่งงานกับคนที่ทรงพลังที่สุดต่างหาก!

  

มองไปที่สีหน้าของใครบางคนที่จู่ๆก็เห่อแดงขึ้นมาเล็กน้อยฉางกวนยวีซินหันไปยิ้มอย่างขี้เล่นให้กับชูฮันและเอ่ยถาม “ไม่ว่าคนคนนั้นจะอยู่ที่ไหน ใครก็ตามที่ตรงตามเงื่อนไขที่ฉันบอกมา ฉันจะแต่งงานกับเขา”