ตอนที่ 364

The Novel’s Extra

บทที่ 364 กระบวนการของโชคชะตา (6)

 

“ว้าว … .”

 

ผมอยากดูเธอต่อสู้อีกเล็กน้อย แต่ผมไม่มีเวลามากพอ ผมหลบมาที่นี่อย่างลับๆทำไมวันนี้มีแขกมากมายเหลือเกินนะไม่นานก็มีเสียงข้างๆหู ของผม

 

“นายปิดบังมันไว้หรือว่านายเรียนรู้มันจากหอคอยงั้นหรอ”

 

“… .”

 

ผมหันมามอง เป็นแมวกำลังพูดกับผม

 

“แต่ จินซาฮยอค เองก็ได้เรียนรู้ทักษะดีๆมากมาย ดังนั้นฉันไม่คิดว่าเธอจะแพ้….”

 

เมื่อมองไปที่จินซาฮยอค บนพื้นแมวก็ยิ้มเบาๆ

 

“ช่างน่ากลัวจริงๆ”

 

ตอนนั้นผมก็รู้ว่าเขาเป็นใคร เป็นพรสวรร ‘ร่างกายเวทมนต์’ มีพลังที่สามารถทำได้ทุกอย่าง คงเป็นเบลล์ ผมพูดเพียงสิ่งเดียวกับเขา

 

“พาตัวเธอไป”

 

แมวดวงตาเบิกกว้าง

 

“จริงๆเหรอ?”

 

ผมพยักหน้าอย่างอ่อนแอ

 

“บอกเธอว่าฉันจะไม่ฆ่าเธอ”

 

วันนี้ผมเห็นความเป็นไปได้ในจินซาฮยอค ในเนื้อเรื่องเดิมจินซาฮยอค เป็นตัวละครที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ไกลจากคำว่า ‘ความตาย’ ไม่แม้แต่กับ

คิมซูโฮ ที่สามารถเอาชนะเธอได้และเธอก็สู้กับเขาได้ถึงครึ่งหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ แต่นั่นไม่ใช่ตอนนี้ ทันใดนั้นแมวก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“…นายอาจจะเสียใจในภายหลัง”

 

ผมไม่ตอบเขาและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองเข้าไปในไซต์ขุดเจาะ

การต่อสู้ของผมสิ้นสุดลงและการแก้แค้นของ แชนายอน ก็มาถึง

จุดสุดท้าย

 

– …ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ

 

กันยูเดน นอนแผ่อยู่บนพื้นดิน กันยูเดนขอร้องเธอ ผมหัวเราะเบาๆแม้ว่ามันจะไม่ใช่เวลาที่จะมาหัวเราะก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่างเธออยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับผม

 

*************************************************************************

 

“…ได้ไว้ชีวิตข้าเถอะ”

 

ชิ

 

ชายผู้ซึ่งเต็นล้นไปด้วยความมั่นใจจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้กำลังนอนแผ่อยู่บนพื้นเพื่อขอร้องให้ชีวิต ใบหน้าหชของแชนายอนเต็มไปด้วย

รอยยิ้มที่เหยียดหยาม

 

“นาย….”

 

แชนายอน เดินไปที่ตรงหน้าของ กันยูเดน อาวุธมหึมาของเธอยังคงเต็มไปด้วยพลังเวทมนต์ ดาบที่เขาคิดว่าจะแทงทะลุหัวใจของเขากลับเก็บไปบนหลังของ แชนายอน

 

“แกคิดว่าฉันจะเหมือนแกหรือไง”

 

“…อะไรนะ?”

 

แชนายอน หยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของเธอ พวกมันดูไม่แตกต่างจากกุญแจมือธรรมดาๆ แต่มันเป็นไอเท็มที่สามารถระงับ

พลังเวทมนต์เอาไว้ได้ เธอวางไว้บนข้อมือของ กันยูเดน และ ยูโดเรน

 

“ฉันจะตัดแกนเวทมนต์ของแกออกและสอบสวนแกอย่างละเอียด

ฉันจะขังแกไว้ในเรือนจำปีศาจเพื่อแกจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้”

 

“… .”

 

“แกจะไม่สามารถตายได้แม้ว่าแกอยากจะตาย ไอ้สารเลว”

 

แชนายอน จ้องมอง กันยูเดน แล้วขู่เขา

 

“…จริงๆนะ.”

 

“แน่นอน. แกรอได้เลย ฉันจะให้แกทรมาณแบบนี้อยู่ไม่สู้ตาย”

 

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงง!

 

เธอทุบ กันยูเดน พร้อมกับฝักของเธอ กันยูเดน ผู้ซึ่งพลังเวทย์ถูกผนึกเอาไว้สลบไปอย่างง่ายดายและ แชนายอน เดินเสๆ อาการวิงเวียนศีรษะฉับพลันทำร้ายเธอ โลกหมุนตัวและวิสัยทัศน์ของเธอก็กลับหัวกลับหาง

 

“อาาาาา… .”

 

มีคนจับตัวเธอไว้ขณะที่เธอกำลังล้มลง

 

“อ่า … ?”

 

แชนายอน เงยหน้าขึ้นมองท่ามกลางอาการวิงเวียนศีรษะ ในตอนแรกภาพหลอนจางๆทับซ้อนกับร่างที่จับเธอไว้ ตรงหน้าเธอเป็นใบหน้าของคิมฮาจินอย่างไม่ต้องสงสัย เขามองเธอด้วยท่าทางที่คุ้นเคยของเขา

 

“นะ……นาย.”

 

“นายอนn! เธอปลอดภัยดีไหม?”

 

“…ยีจินยูน?”

 

แต่ภาพหลอนก็หายไปและใบหน้าของคิมฮาจินก็กลายเป็นของยีจินยูน

 

‘ฉันจะบ้าไปแล้วเหรอ?’

 

แชนายอน รีบตั้งสติและดึงตัวเองขึ้นมา

 

“เธอรู้สึกดีขึ้นไหม ฉันรีบมาที่นี่จนมาเจอเธอ!”

 

“ฉันสบายดี. แล้ว…?”

 

ในที่สุดแชนายอนก็สังเกตเห็นชายคนหนึ่งอยู่ข้างๆยีจินยูน ถึงแม้ว่า ‘Desolate Moon’ จะดูแลอยู่ที่ชั้น 4 แต่ชินจงฮักก็ยืนอยู่ข้างหลัง

ยีจินยูน

 

“ทำไม.”

 

ชินจงฮักจ้องมองเธอ หอกและชุดเกราะของเขาเต็มไปด้วยเลือดและ

สิ่งสกปรก ดูเหมือนว่าเขาจะผ่านการต่อสู้มาอย่างหนัก

 

“ทำไม ชินจงฮัก ถึงมาที่นี่”

 

“… .”

 

เมื่อต้องเผชิญกับคำถามที่ไร้เดียงสาของ แชนายอน ชินจงฮักก็เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่สามารถบอกเธอได้ว่าเขามีสายลับอยู่ในกิลด์

Essence of the Strait มาแจ้งให้เขาทราบถึงสถานการณ์ คราบน้ำตาที่อยู่ใต้ดวงตาของเธอก็ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก เขาไม่กล้าพอที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมาได้ เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

 

“ฉันก็อยู่ที่นี่ตลอดนั้นละ”

 

*************************************************************************

 

…ละครที่อยู่ตรงหน้าผมเป็นเหมือนฉากที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆ

แชนายอน เอาชนะศัตรูของเธอ แต่ไม่ได้ฆ่าเขาและ ชินจงฮัก ประกาศอีกครั้งว่าเขาจะไม่ยอมแพ้เรื่องของ แชนายอน ไม่นานคิมซูโฮมาสมทบ

เรื่องราวของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปโดยที่ไม่ต้องมีผม…เหมือนเดิมผมยิ้มอย่างขมขื่น

 

“ คิมฮาจิน”

 

เสียงเย็นชาเรียกผม ผมแทบจะหายใจไม่ออกเมื่อหันหลังกลับไป

ผมรู้แล้วว่าใคร เมื่อผมได้ยินเสียงเป็นบอสอย่างแน่นอน ใบหน้าของบอสแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังโกรธ

 

“อ๊ะ บอส คุณมาได้ยังไง?”

 

“นั่นคือทั้งหมดที่นายจะพูดงั้นเหรอ? ฉันคิดว่าฉันบอกนายแล้วนะว่า

ไม่ให้เข้าร่วม”

 

“… .”

 

บอสมองมาที่ผมและผมก็เงยหน้าขึ้นมามองบอสอย่างเงียบๆ บอสขมวดคิ้วหนักขึ้นเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าผมไม่กลัวอย่างที่ตั้งใจ

 

แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่กลัว

 

ผมเห็นมือขาวๆของเธอภายใต้เสื้อคลุมของเธอ

 

“อืม… .”

 

เมื่อมองมือเหล่านั้นผมก็นึกได้ว่ามันต้องมี ‘แหวน’ ผมไม่รู้ว่าทำไม

เป็นเพราะผมเพิ่งได้เห็น แชนายอน และ ชินจงฮัก? ฉันจำได้ว่า

‘แหวนของโฮเมอร์’ ยังอยู่และยังไม่มีเจ้าของที่เหมาะสม

 

ผมต้องมอบแหวนนี้ให้กับ แชนายอน จริงๆเหรอ? มันเป็นไอเท็มที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ แชนายอน และแก้ไขจุดอ่อนของเธอ

 

– การควบคุมพลังเวทมนต์และความโง่เขลา

 

– แต่ฉันจะไปมอบให้เธอได้ยังไง?

 

มันเป็นไปไม่ได้ ในเนื้อเรื่องเดิมหากแชนายอนขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ แชฉินฮยอค จะตามหาไอเท็มที่เหมาะสมและอาจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ ‘แหวนของโฮเมอร์’ โดยบังเอิญเขาอาจพบเอเย่นต์แห่งความจริงของผมและขอให้หน่วยงานแห่งความจริงหาที่อยู่แหวนของ

โฮเมอร์ จากนั้นผมก็เอาไปเสนอให้เขาพร้อมรับรางวัลที่เหมาะสมสำหรับความบังเอิญดังกล่าว

 

แต่ตอนนี้ผมเห็นใบหน้าของ แชนายอน ในวันนี้เธอได้รับชัยชนะด้วย

ตัวเธอเองและไม่ได้จบการแก้แค้นด้วยการฆ่า เธอมีความสุข อย่างน้อยก็วันนี้ เธอภูมิใจในตัวเอง

 

ดังนั้นเธออาจจะไม่ขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ ดังนั้นถ้ามันจะจบลงแบบนี้เธอเอาไม่ได้ไอเท็มชิ้นนี้ไป

 

… แต่

 

ถ้าวันหนึ่ง แชนายอน ขอสิ่งนี้จริงๆ…ถ้าความปรารถนาของเธอคือการแข็งแกร่งขึ้นแล้วถ้าเราสามารถทำอะไรได้ละก็…

 

“…ฉันจะสร้างมันให้เธอด้วยตัวเอง”

 

ผมน่าจะเป็นทายาทเพียงคนเดียวจากมรดกของคนแคระ ‘การเพิ่มระดับสติปัญญา’ อาจเป็นไปไม่ได้ แต่ผมสามารถสร้าง

[การขยายพลังเวทมนต์] ที่แหวนของโฮเมอร์มีได้ สิ่งที่ผมต้องทำก็คือรวบรวมวัสดุที่ดีที่สุดในโลกและใช้เวลาทำงานประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน

 

“ทำอะไรน่ะ?”

 

บอสที่ยังจ้องมองผมอยู่

 

ผมหัวเราะเบา ๆ

ตอนนี้ต่อจากจุดที่เราค้างไว้: บอสเป็นสัตว์ประหลาดพลังเวทมนต์ไม่น้อยหน้าไปกว่า แชนายอน พลังเวทมนต์ของ แชนายอน นั้น

‘ถูกจำกัด ด้วยดาบ’ ดังนั้นบอสอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าเธอ

แต่แหวนก็เหมาะสำหรับบอสเช่นกัน ถ้ามันเป็นของขวัญจากผมเธอก็คงจะไม่ขายเหมือนที่เธอทำในเนื้อเรื่องเดิม

 

“บอสมานี่หน่อยสิ”

 

“คิมฮาจิน ฉันไม่ได้ล้อเล่น ตอบมาว่านาย”

 

“ผมมีบางอย่าง…”

 

นอกจากนี้ผมอยากเอาใจบอส

 

“…ที่ผมอยากมอบให้คุณ”

 

“…เฮ้ออออออออออออออออ.”

 

บอสถอนหายใจพร้อมใบหน้าแดงก่ำสุดๆ แต่ก็เดินเข้ามาหาผม

 

“อะไรละ?”

 

บอสเงยหน้ามองผมและถาม

 

ผมคิดว่าจะให้เธอยังไงและก็คิดออก

 

“หลับตาลงนะ.”

 

“…นาย….ไม่ได้นะ…พวกเราอยู่ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ

นายไม่ควรทำแบบนี้ เจนเองก็อยู่ใกล้ๆ ถ้านายจะทำอะไรฉันว่า…”

 

“เงียบ”.

 

ดูเหมือนว่าผมจะให้เธอหลับตาลงจนได้ ดังนั้นผมจึงยื่นมือไปปิดตาของเธออีกต่อ จากนั้นผมพยายามใส่แหวนที่นิ้วของเธอ…

 

“เอาละ”

 

มันแปลกที่ผมจะใส่แหวนบนนิ้วเธอโดยตรง แหวนนิ้วนิ้วชี้…ไม่มันไม่สำคัญ ผมรู้สึกผิดที่ผมจะต้องใส่ให้เธอ ดังนั้นผมจึงเปิดมือของบอสและวางแหวนบนฝ่ามือของเธอ

 

“นี่ไงเสร็จแล้ว”

 

“มันคืออะไร…?”

 

เธอยังพูดไม่ทันจบประโยค ผมยิ้มเบาๆและมองไปที่บอส เธอยืนนิ่งราวกับว่าเวลาถูกหยุดเอาไว้แค่เธอเท่านั้น เธอจ้องมองไปที่แหวนโดยที่ปากของเธออ้าค้างไว้และไม่กระพริบตา

 

“…”

 

เจ้าของแหวนก็จะเปลี่ยนไป แน่นอนผมอาจเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ในภายหลัง แต่อย่างน้อยในวันนี้ผมได้เห็นใบหน้าตลกๆของเธอขณะที่เธอมองที่แหวนบนฝ่ามือมันก็คุ้มค่า……..

 

“เป็นยังไงบ้าง? ผมเจอมันระหว่างทางที่นี่”

 

มากเกินพอแล้วละ…..