บทที่ 479 ตบหน้าคุณแล้วมีปัญหาไหม”

Mars เจ้าสงครามครองโลก

บทที่ 479 ตบหน้าคุณแล้วมีปัญหาไหม?”
ไป๋เหวินเซวียนตกใจจนหน้าขาวซีด เพราะคนอย่างเขานั้นรักชีวิตมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป!

ซุนหลงที่เขาเสียเงินมากมายจ้างมาเป็นบอดี้การ์ด กลับพ่ายแพ้ให้กับเย่เซิ่งเทียนด้วยกระบวนท่าที่มีชื่อเสียงที่สุดของตนเอง!

ซุนหลงเป็นปรมาจารย์แห่งหมัดแปดเก็ก!

เขาเห็นด้วยตาตนเองว่าซุนหลงใช้แนบพิงเขาเหล็กจนทำให้บล็อกปูนซีเมนต์ขนาดหนึ่งเมตรแตกละเอียด!

แต่ซุนหลงยังคงพ่ายแพ้!

ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะต่อต้าน!

นี่คือพลังอะไรกันเนี่ย?

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เหรอ?

มีเพียงปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น ที่สามารถบดขยี้ ซุนหลงได้อย่างง่ายดาย!

“คุณ คุณคิดจะทำอะไร!”

ไป๋เหวินเซวียนตกใจจนต้องปล่อยให้ลูกชายตนเองล้มลงบนพื้น

เพี๊ยะ!

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้อธิบาย แต่ตบไปที่หน้าของ ไป๋เหวินเซวียนทันที

“แก แกกล้าทำร้าย……”

ไป๋เหวินเซวียนจับหน้าตนเองตามสัญชาตญาณ

เพี๊ยะ!

เย่เซิ่งเทียนตบไปที่หน้าอีกข้าง

ไป๋เหวินเซวียนยังคงปากแข็งและกล่าวว่า “สัตว์เดรัจฉาน……”

ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ เย่เซิ่งเทียนก็ตบหน้า ไป๋เหวินเซวียนอีกครั้ง

“ผม……”

เพี๊ยะ ๆ ๆ ๆ………

เขาตบหน้า ไป๋เหวินเซวียนติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้คนรอบข้างต่างตกใจ

ไป๋เหวินเซวียนผู้นำตระกูลไป๋ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลวีรบุรุษของเมืองโมตูถูกคนตบหน้าต่อหน้าสาธารณชน!

“ผมผิดไปแล้ว! ผมขอโทษ!”

ไป๋เหวินเซวียนคุกเข่าต่อหน้าเย่เซิ่งเทียน

“ดังนั้น การที่ผมตบหน้าคุณแล้วมีปัญหาไหม?”

เย่เซิ่งเทียนถามอย่างเย็นชา

“ไม่…ไม่มีปัญหา”

ไป๋เหวินเซวียนใช้สองมือจับหน้าของตนเองเอาไว้ และไม่กล้าเงยหน้า

“ยังมีใคร? ถ้าไม่เห็นด้วย ก็ยืนออกมาได้”

เย่เซิ่งเทียนเหลือบมองไปรอบ ๆ แล้วคนที่ถูกมองรีบหันหน้าทันที!

นี่คือนักฆ่า!

นี่คือผู้ทรงพลังจากต่างถิ่น!

แม้แต่ผู้มีอำนาจท้องถิ่นอย่าง ไป๋เหวินเซวียนก็ถูกเขาจัดการ!

“คุณ…คุณชื่ออะไร? ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป สำนักแปดเก็กกับคุณ ถ้าไม่ตายไปข้างก็จะไม่ยอมรามือ!”

สุดท้าย ซุนหลงรู้สึกดีขึ้น เขากัดฟันด้วยความโกรธแค้นและกล่าวออกมา

เย่เซิ่งเทียนเหยียบขาของ ซุนหลงทันที ทุกคนได้ยินเสียงกระดูกหัก และเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของ ซุนหลง

“คุณไม่มีคุณสมบัติ!”

หลังจากกล่าวจบ เย่เซิ่งเทียนจูงมือหวางซี และเดินตรงเข้าไปข้างใน

จนกระทั่งเย่เซิ่งเทียนและหวางซีหายไป คนเหล่านี้ถึงกล้าพูดและตะโกนว่า “แม่งฉิบหาย บ้าคลั่งเกินไปแล้ว รังแกพวกเราชาวเมืองโมตูว่าไม่มีคนเก่งใช่ไหม?”

“เด็กเปรตมาจากไหน? กล้ามาทำตัวป่าเถื่อนที่นี่ ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว!”

“ผมไม่สามารถกล้ำกลืนฝืนทนความอัปยศนี้ได้! แล้วต่อไปพวกเราชาวเมืองโมตูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”

“เรียกคนมา แล้วฆ่ามันให้ตาย!”

“ประธานไป๋ คุณเป็นคนตัดสินใจ!”

“ปรมาจารย์วซุนโทรเรียกอาจารย์ของคุณมา ผมไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้!”

สีหน้าของ ไป๋เหวินเซวียนและซุนหลงมืดมน และไม่ได้พูดอะไร พวกเขานั้นจะกล้ำกลืนฝืนทนความอัปยศนี้ได้อย่างไร!

คนหนึ่งเป็นผู้นำตระกูลไป๋ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลวีรบุรุษแห่งเมืองโมตูส่วนอีกคนหนึ่งเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งของหมัดแปดเก็กแห่งเมืองโมตู

ถึงแม้ว่าจะต้องตาย แต่ก็เสียหนาไม่ได้!

พวกเขาโทรศัพท์ไปเรียกคน

ขณะนี้ หวางซีและเย่เซิ่งเทียนเข้าไปถึงข้างในแล้ว

ความปั่นป่วนด้านนอกนั้นไม่มีผลต่อด้านใน เมื่อเทียบกับเหล่าผู้มีอิทธิพลทางการแพทย์ที่อยู่ด้านในแล้ว ไป๋เหวินเซวียนและซุนหลงนั้นไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจและไม่มีใครสนใจพวกเขา

เพราะในโลกการแพทย์นั้นมีคนบ้าอยู่มากมาย นอกจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ไม่มีอะไรที่สามารถทำให้พวกเขาสนใจได้

ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ด้านนอกและด้านในนั้น ถูกแยกจากกันด้วยทางเดินยาวหนึ่งร้อยเมตร ต่อให้คนที่อยู่ด้านนอกต่อสู้กัน คนที่อยู่ด้านในก็ไม่มีใครรู้

หลังจากเย่เซิ่งเทียนเดินเข้ามาถึงข้างในแล้ว มีชายชราชาวประเทศอาทิตย์คนหนึ่งเดินเข้ามา และกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “เย่ซามะ การที่ผมสามารถพบคุณที่นี่ ช่างมันเรื่องที่ดีจริง ๆ”

หวางซีอึ้งไปครู่หนึ่ง “ซามะ” เป็นการเรียกอีกฝ่ายด้วยเคารพนับถือมากที่สุดของชาวประเทศอาทิตย์ ชายชราชาวประเทศอาทิตย์คนนี้ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดา ทำไมเขาถึงได้ใช้คำว่า “ซามะ” ที่เป็นระดับที่เคารพสูงสุดเช่นนี้เรียกเซิ่งเทียน?

“โอ้ หวางซี นึกไม่ถึงว่าจะได้พบคนชั้นต่ำอย่างคุณที่นี่ ครั้งที่แล้วฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลย! นึกไม่ถึงว่าจะได้พบคุณที่นี่! วันนี้ คุณกับสามีที่ไม่เอาถ่านคนนี้อย่าหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้!”

ยังไม่ทันที่หวางซีจะได้รู้ว่าชายชราชาวอาทิตย์คนนี้เป็นใคร เธอได้ยินเสียงที่โหดเหี้ยมดังขึ้นมา

ที่แท้เป็นหงเสี่ยวเหมย!