บทที่ 697 คลื่นใต้น้ำ

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 697 คลื่นใต้น้ำ

อะไรนะ?

ฆ่าไอ้เด็กเปรตคนหนึ่ง แถมยังบอกว่าสังหารได้ดีอย่างนั้นหรือ?แต่นี่คือลูกชายของจักรพรรดิใต้ดินของฮั่นจง เชียวนะ!

เมื่อบอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆ ได้ยินฉินเทียนพูดดังนั้น ก็รีบวิ่งกรูเข้ามากันทันที

“ฆ่ามันให้ตาย! เพื่อแก้แค้นให้กับคุณชาย!”

“ฆ่ามัน!”

พวกเขาคำรามด้วยความโกรธ โบกอาวุธที่อยู่ในมือและมุ่งตรงเข้าหาฉินเทียน

หวังเป่ายู่เป็นลูกชายสุดที่รักของหวังเหล่าหู่ ในสายตาของพวกเขาแล้ว เขาก็คือเจ้าชายของที่นี่ เมื่อตอนนี้ถูกฆ่าตาย พวกเขาเองก็หนีความรับผิดชอบนี้ไปไม่พ้น

มีเพียงอย่างเดียวคือต้องฆ่าตัวฆาตกรให้ได้เท่านั้น ถึงจะไปอธิบายกับหวังเหล่าหู่ได้

ดังนั้น การลงมือของพวกเขา จึงเป็นการลงมืออย่างโหดเหี้ยมแบบไม่คิดชีวิต

ราวกับฝูงสุนัขจิ้งจอกตาแดงยังไงยังนั้น

ฉินเทียนยืนหยัดไม่ถดถอย คำรามด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา ยกขาขึ้นพรวดพราดและเตะออกไป

โครมโครมโครมโครม!

ชั่วพริบตา เขาเตะไปที่หน้าอกของกลุ่มคนพวกนั้นอย่างไม่หยุด ท่ามกลางเสียงร้องโอดครวญ คนเหล่านี้กระอักเลือดและล่าถอยไป

บางคนร่างถูกกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง จากนั้นก็ล้มลงไปกองกับพื้น

ชั่วอึดใจเดียว ทุกคนต่างตกใจและหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก

“อยากจะแก้แค้นไหม? บอกหวังเหล่าหู่ด้วยนะว่า ฉันกับราชาเถียสิบสามจะรอที่คฤหาสน์ราชาเถียสิบสาม!”

“ราชาเถียสิบสาม หานหลิง พวกเราไปกันเถอะ!”

ฉินเทียนพา เถียโถว และหานหลิงเดินออกไปด้านนอก ผู้คนรอบข้างต่างกรีดร้องและหนีถอยกันออกไป ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางกันเลยสักคน

หลังจากขึ้นรถแล้ว อาการผวาของหานหลิงถึงค่อยดีขึ้น เขาพูดทั้งน้ำตาว่า “เป็นเพราะฉันไม่ระวังตัว เลยตกหลุมพรางของพวกเขาได้”

“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ที่หวังถูคนนั้นพาฉันออกไปทานข้าว จริงๆ แล้ว….”

เมื่อนึกไปถึงตอนที่ทานข้าว หวังถูหาข้ออ้างเพื่อจะปลีกตัวออกไป จากนั้นหวังเป่ายู่ที่ดื่มจนเมามายก็เข้ามาแทน และปฏิบัติกับคุณอย่างไม่สนใจไยดี จนหานหลิงแทบจะล้มทั้งยืน

“ไม่มีอะไรแล้ว!”

“มีฉันอยู่นี่ จากนี้จะไม่มีใครมารังแกคุณได้อีก!”

“นอกซะจาก___จะข้ามศพฉันไปก่อน!”

เถียโถว ยืนกัดฟันอยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็กุมมือของหานหลิงเอาไว้

หานหลิงตัวสั่นเมื่อนึกถึงช่วงเวลาน่าสิ่วน่าขวานนั้น แล้วเถียโถวก็เข้ามาปกป้องตน ใช้มีดแทงหวังเป่ายู่ จู่ๆ เธอก็รู้สึกได้ถึงการถูกให้ความสำคัญและความปลอดภัยที่ได้จากการปกป้องขึ้นมา

ฉินเทียนที่กำลังขับรถอยู่ เมื่อได้เห็นฉากนี้แล้ว ก็ปรากฏรอยยิ้มแห่งความปลื้มใจผ่านทางแววตาของเขาออกมา

เขาพูดเบาๆ ว่า “ถ้าเป็นไปตามคาด นี่น่าจะเป็นแผนการชั่วร้ายของ หยางต้าว”

“ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งสามตระกูลใหญ่ของพวกเขาไม่อยากต่อต้านพวกเราโดยตรง ดังนั้นจึงวางอุบายให้พวกเราไปฆ่าลูกชายของหวังเหล่าหู่ และยืมมือหวังเหล่าหู่มาฆ่าพวกเราอีกที”

“ในที่สุดบ่อน้ำฮั่นจงก็เริ่มสร้างคลื่นใต้น้ำซะแล้ว จากนี้พวกเราแค่รอหวังเหล่าหู่มาหาอย่างเงียบๆ ก็แล้วกัน”

มีอีกหนึ่งอย่าง ที่เขายังคงไม่เข้าใจ นั่นก็คือ ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นที่โทรมายังเบอร์ส่วนตัวของเขาอีกสองครั้ง แถมยังเอาความลับของอีกฝ่ายมาแจ้งให้ตนทราบ ตกลงเขาว่าเขาผู้นั้นคือใครกันแน่

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาไปตรวจสอบแล้ว

เมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์ หูซื่อ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นคฤหาสน์ ราชาเถียสิบสามแล้ว ฉินเทียนก็เรียกทุกคนมารวมตัว และเริ่มมอบหมายงานกัน

จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรต้องตระเตรียมหรอก แค่จะบอกทุกคนว่า ทำตัวให้กระปรี้กระเปร่า เตรียมพร้อมนองเลือด

หูเฟยท่าทีนิ่งเงียบและเรียกฉินเทียนไปที่ที่ไม่มีคนในสวนหลังบ้าน เขาพูดเบาๆ ว่า “คืนวันนั้น เว่ยเทียนเหอ กับ จ้าวคง เชิญครอบครัวของพวกเราไปงานเลี้ยงขอบคุณที่พวกเราดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี”

“ตอนนั้น เนื่องจากความล้มเหลวทางการลงทุนในต่างประเทศ จึงเกิดข่าวลือขึ้นทั่วฮั่นจง ว่าตระกูลหูของพวกเรากำลังจะล้มละลาย”

“ตอนนั้น พ่อของฉันหงุดหงิดมาก”

“เว่ยเทียนเหอกับจ้าวคงแสดงให้พวกเราเห็นว่า พวกเขาพร้อมยอมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยพวกเราระงับข่าวลือนั้น พ่อของฉันดีใจมาก และบอกว่าเขามองคนไม่ผิดจริงๆ เขาตัดสินใจถูกแล้วที่ชุบเลี้ยงพวกเขามา”

“คืนวันนั้น เขาดื่มเหล้าหนักมาก…”

ฉินเทียนฟังอย่างเงียบๆ และพูดว่า “เพราะดื่มจนเมา ดังนั้นตอนที่ไฟลุก เลยวิ่งหนีออกมาไม่ทัน”

“แล้วคุณหล่ะ?”

“คุณดื่มจนเมาด้วยไหม?”

แววตาของเขาดูปวดร้าวและพูดเบาๆ ว่า “ฉันออกมาได้ครึ่งทางแล้ว เพราะหยางต้าว บอกฉันว่า เขาจะสอนเลือดเหล็กสิบสามมืออันล้ำค่าให้กับฉัน”

“หยางต้าวได้รับสมญานามว่าเป็นสุดยอดมือเหล็กแห่งฮั่นจง ฝ่ามือทรายเหล็กกับฤทธิ์มีดบินของเขา ไม่มีใครเทียบได้ ส่วนเลือดเหล็กสิบสามมือ เป็นการผสมผสานระหว่างฝ่ามือทรายเหล็กกับฤทธิ์มีดบินนั่นเอง”

“หลังจากที่ฉันได้ยินแล้ว แน่นอนว่าฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก คืนวันนั้นฉันเลยไปฝึกซ้อมกับเขาที่สวนหลังบ้านเป็นเวลานาน เหนื่อยล้าไปทั้งตัว…”

ฉินเทียนพูดเบาๆ ว่า “ดังนั้นคุณเลยสงสัยว่าเว่ยเทียนเหอและจ้าวคงรวมหัวกันมอมเหล้าพ่อของคุณ ส่วนหยางต้าวอ้างการถ่ายทอดวิทยายุทธ เพื่อล่อให้คุณเหนื่อยจนหมดแรง จุดประสงค์เพื่อให้คุณหลับสนิท”

หูเฟยกัดฟันและพูดว่า “ฉันหาคำอธิบายอื่นไม่ออกจริงๆ!”

“ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ตระกูลหูเกิดเรื่อง พวกเขาก็รีบแบ่งทรัพย์สมบัติของพวกเรา ส่อแววชัดเจนว่า ทั้งหมดนี้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้านานแล้ว”

“นอกจากนี้ พวกเขาน่าจะสมรู้ร่วมคิดกับหวังเหล่าหู่รวมทั้งคนของมังกรซ่อนรูปอีกด้วย”

“ตอนนั้นพวกเรายังมีธุรกิจบันเทิงอยู่อีกมากมาย แต่หลังจากเกิดเรื่อง ธุรกิจพวกนี้ ก็ถูกหวังเหล่าหู่ยึดครองไปทั้งหมด”

“ส่วนผลการสืบสวนของมังกรซ่อนรูป ออกมาว่าเป็นอุบัติเหตุเพลิงไหม้ ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำว่า “มังกรซ่อนรูป” สายตาของฉินเทียนก็แปลกๆ ขึ้นมา เขาในวันนี้มีเกล็ดมังกรห้อยอยู่ที่เอว และยังอยู่ในสถานะของแส้มังกรอีกด้วย แต่จนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้ไปมังกรซ่อนรูปตะวันตกเลย

ทางตอนใต้ เขาสังหารไป๋เสี่ยวจิ้งลูกบุญธรรมของไป๋เลี่ยนตัวแทนของซีจุน เรื่องนี้ ไป๋เลี่ยนคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ อย่างแน่นอน

ฉินเทียนเองก็ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขารู้แล้วว่า ตอนนี้ตนมาถึงฮั่นจงแล้ว

แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ปรากฏตัว ดูเหมือนว่าเขาสามารถข่มอารมณ์ไว้ได้เก่งจริงๆ

จู่ๆ เขาก็คิดขึ้นว่า ถ้ายั่วยุให้หวังเหล่าหู่โกรธ และทำยังไงก็ได้ให้หวังเหล่าหู่มาแก้แค้นตน ถ้างั้นนอกจากหยางต้าวแล้ว มังกรซ่อนรูปจะอยู่เบื้องหลังอีกด้วยหรือเปล่านะ?

“ดูเหมือนว่าตอนนี้ พวกเขาคิดจะยอมสละ หวังเหล่าหู่เพื่อให้มาจัดการกับพวกเรา” ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราลงมือจัดการกับเจ้าเสือตัวนี้ก่อนก็แล้วกัน

“คุณสบายใจเถอะ ฉันรับรองกับคุณได้ว่า อีกไม่นานเรื่องนี้ก็จะน้ำลดตอผุด เมื่อถึงเวลานั้น ทุกคนที่ทำร้ายคนของ ตระกูลหู จะต้องได้รับการชดใช้อย่างแน่นอน!”

หูเฟยตอบด้วยความตื้นตันใจว่า “ขอบคุณนะ ฉินเทียน!”

“แต่หวังเหล่าหู่ครอบงำฮั่นจงมานานหลายปี อำนาจของเขาก็ไม่ใช่เล่นเลย เพื่อเป็นการจัดการกับเขา ฉันคิดว่าเรายังต้องหาคนมาช่วยเพิ่ม”

“ห่ะ?” ฉินเทียนตะลึงไปชั่วครู่ “หาใครกัน?”

“หรือว่าคุณยังมีตัวช่วยอื่นอีก?”

หูเฟยพูดเสียงเบาๆ ว่า “ถึงเวลาเดี๋ยวคุณก็รู้เอง”

……

เมื่อได้รับรายงานว่าบุตรชายเกิดเรื่อง หวังเหล่าหู่นำคนสนิทจำนวนหนึ่ง บุกเข้าไปยังอาคารสำนักงาน เป่ายู่

เขามีลูกเมื่อตอนอายุมาก ดังนั้นลูกคนนี้จึงเปรียบเสมือนดั่งแก้วตาดวงใจ สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดเลยก็ว่าได้

ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีอยู่แล้วว่าที่เขามีทั้งหมดในวันนี้ได้ ล้วนมาจากการเข่นฆ่าต่อสู้ รวมถึงวิธีการบางอย่างที่ไม่บริสุทธิ์ จึงไม่สามารถแสดงตนต่อหน้าสาธารณชนได้อีก

เขารู้สึกปลื้มใจที่ลูกชายของเขาสามารถบริหารบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่เช่นนี้ได้

แม้จะรู้ว่าลูกชายของเขานั้นมีข้อบกพร่องบางอย่าง ทำร้ายเด็กสาวมาแล้วมากมาย แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

ในฮั่นจงยังมีเรื่องอะไรที่หวังเหล่าหู่จัดการไม่ได้อีกหล่ะ? เด็กสาวเหล่านั้นได้รับความโปรดปรานจากลูกชายของตน นับว่าเป็นเรื่องโชคดีของพวกเขาเสียด้วยซ้ำ

เบื้องหลัง เขาปูทางให้หวังเป่ายู่เอาไว้อย่างมากมาย แอบเตรียมการช่วยดันให้ลูกชายขึ้นตำแหน่งสูงๆ อย่างลับลับ ชิงตำแหน่งต่อสู้กับหยางต้าว เว่ยเทียนเหอ และจ้าวคง และตั้งตนตระกูลใหญ่อันดับที่สี่ของเมืองฮั่นจง

เมื่อได้ยินว่าลูกชายของเขาเกิดเรื่อง เขายังคิดว่า ลูกชายตนไปตีคนอื่นอยู่เลย

จะมีใครกล้าแตะต้องลูกชายของหวังเหล่าหู่ด้วยหล่ะ?เกรงว่าแค่ขนหายไปหนึ่งเส้น หวังเหล่าหู่ก็จะไปคิดบัญชีกับฝ่ายตรงข้ามแล้วซะมากกว่า!

ตอนที่เห็นหวังเป่ายู่นอนจมกองเลือด ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างอย่างตายตาไม่หลับ เขาก็หน้ามืด อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกนานไปครึ่งวัน