มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 665

เมื่อประตูรถหลักเปิดออกในท้ายที่สุด ฝูงชนก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน

ชายผิวขาวและค่อนข้างอ้วนกลมที่มีดวงดาเล็กเท่ากับเม็ดฟักทองก้าวออกมา ขณะที่เขาโบกมือให้ฝูงชนในชุดสูทที่สง่างามของเขา

“เขาคือคุณคลอฟอร์ดใช่ไหม?”

“จริงหรือเปล่า?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่! ฉันจำได้ว่าเขาเป็นใคร! เขาคือโยเอล โฮลเดน! ลูกชายของชายที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐมณฑล!”

“อย่างงั้นเหรอ? ฉันเดาจากที่เห็นนะ โยเอลมาเข้าร่วมแทนคุณคลอฟอร์ด ใช่ไหม?”

ขณะที่ฝูงชนยุ่งอยู่กับการพูดคุยกันในหมู่กันเองอีกครั้ง ผู้จัดการเวทีก็ดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเห็นโยเอลแทนที่จะเป็นเจอรัลด์

แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงต้องให้สำคัญกับโยเอลอยู่ดี ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โยเอลก็ยังเป็นหนึ่งในแขกวีไอพีเช่นกัน

ในทางกลับกัน มีล่าไม่ได้คุ้นเคยกับโยเอล นี่จึงทำให้เธอประหลาดใจ และผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเธอเห็นเขา

‘ทำไมเจอรัลด์ไม่มาล่ะ…?’

แม้เจอรัลด์จะมาปรากฏตัว เธอก็คงจะหลบซ่อนอยู่ในมุมหนึ่ง เพื่อที่เขาจะไม่สามารถพบเห็นเธอได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกที่อย่างน้อยเธอหวังว่าจะได้พบเขา

แม้มีล่าไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นที่ชอบจะโอ้อวด แต่ผู้หญิงคนไหน ๆ ก็คงจะใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งแน่ถ้าพวกเธอเห็นแฟนหนุ่มของพวกเธอเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้

น่าเสียดาย ไม่ใช่แฟนของเธอที่อยู่ในรถ ดูเหมือนโยเอลก็ไม่รู้จักว่าเธอเป็นใครเหมือนกัน

ขณะที่ไกด์นำโยเอลขึ้นบันไดไป ฮอลลี่ ที่กลัวจนขาดไหวพริบไปเหมือนกัน กล่าวขึ้นมา “แหม แหม แหม นี่มันอะไรเนี่ย? ทำไมแฟนของเธอไม่มาทักทายเธอล่ะ?”

เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามที่จะเยาะเย้ยมีล่า

“ให้ตาย! ไม่ใช่คุณคลอฟอร์ดหนิ ทำไมเขาถึงไม่มาที่นี่ล่ะ?” มอลลี่พูดอย่างค่อนข้างผิดหวัง เธอมั่นใจว่าฮอลลี่ต้องรู้สึกยินดีมากแค่ไหนในขณะนั้น

“เธอกำลังพยายามที่จะทำอะไร ห๊ะ นังนี่? เธอไม่ได้พูดว่าแฟนของเธอยิ่งใหญ่มากแค่ไหนหรอกเหรอก่อนหน้านี้? ช่างน่าอาย! ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้ตบเธอแรงพอก่อนหน้านี้นะ!” ฮอลลี่ดูถูก มีความโกรธเล็กน้อยในน้ำเสียงของเธอ

ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรอีก ก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นดังขึ้นอีกครั้ง

“พระเจ้า! ให้ตายเถอะ บ้าไปแล้ว สุดยอดเลย!” ใครบางคนตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

“พวกนั้นคือรถประเภทไหนกันเนี่ย?”

“บ้าไปแล้ว! พวกนั้นคือรถแลมบอร์กินีรุ่นพิเศษไม่ใช่เหรอ? ออกแบบให้เพียงลูกค้าชั้นนำของบริษัทเท่านั้น? ฉันคิดว่าประมาณสามปีก่อนเมื่อพวกเขาเปิดเผยทางออนไลน์ว่ารถแต่ละคันจะมีราคาอยู่ที่ประมาณสิบล้านดอลลาร์! รถแต่ละคันก็ติดตั้งระบบปัญหาประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมและตัวรถก็กล่าวได้ว่ายังแข็งแรงกว่ารถกันกระสุนอีกด้วยซ้ำ! ฉันไม่คิดว่าฉันจำเป็นต้องพูดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบที่น่าทึ่งของพวกเขานะ!”

“เธอล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย? สิบล้านดอลลาร์สำหรับรถหนึ่งคันเนี่ยนะ…พวกมันมีประมาณ…ห้า สิบ…ยี่สิบคันเชียวนะ!”

“บ้าสุด ๆ! เธอกำลังบอกฉันว่าสิ่งที่พวกเรากำลังเห็นอยู่ตอนนี้คือ ขบวนรถที่มีมูลค่าถึงสองร้อยล้านดอลลาร์งั้นเหรอ?!”

ไม่ใช่แค่พวกคนหนุ่มตรงทางเข้าที่กำลังรอด้วยความคาดหวังในคราวนี้ แม้แต่นักธุรกิจก็ยังมึนงงด้วยความตื่นเต้นกัน

ในขณะที่คนมั่งคั่งส่วนใหญ่ที่นั่นผ่านความยากลำบากหลายครั้งหลายคราเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่พวกเขามีในวันนี้ แต่แขกวีไอพีที่จะมาปรากฏตัวเร็ว ๆ นี้กลับมีขบวนรถที่มีมูลค่าถึงสองร้อยล้าน!

คนส่วนใหญ่ในฝูงชนถึงกับซีดเซียวไปแล้ว แม้ไม่ใช่ทุกคนก็ตาม เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นมากเกินไปกับการเข้าอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้

ขณะที่คนที่เดินนำผู้จัดงานเบี่ยงสายตาไปมองผู้จัดการเวที เขาก็เห็นได้ว่าผู้จัดการเวทีเองก็กำลังสูดหายใจเข้าลึกอยู่หลายครั้งเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง

“นี่คือแขกวีไอพีหลักของวันนี้ ใช่ไหมผู้จัดการเวที?” ใครบางคนถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“ใช่ นั่นคือเธอ! บอกให้ทุกคนเริ่มให้ความสนใจเดี๋ยวนี้! อย่าทำอะไรผิดพลาดไปไม่อย่างงั้นคุณจะได้รับการจัดการตามนั้น!” ผู้จัดการกล่าว น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

หลังจากรถมาหยุดอยู่ด้านหน้าทางเข้า ผู้จัดการเวทีก็เริ่มเดินไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็วเพื่อทักทายแขกวีไอพีหลัก

มอลลี่ ฮอลลี่ และหญิงสาวคนอื่น ๆ ก็แข็งทื่อไปด้วยความคาดหวังเช่นกัน พวกเธอทั้งหมดต่างก็ช็อกไปเหมือนกันกับเหตุการณ์จนจำไม่ได้ว่าพวกเธอกำลังต่อสู้กันอยู่

แม้แต่มีล่าก็แทบจะไม่เชื่อกับสิ่งที่เธอกำลังเห็น

เธอรู้ว่าเจอรัลด์ร่ำรวยมากแค่ไหน แต่เมื่อคิดว่ายังคงมีคนที่ร่ำรวยกว่าเขามาก ท้ายที่สุดแล้ว แขกวีไอพีหลักก็คือ บุคคลที่เป็นเจ้าของขบวนรถถึงสองร้อยล้านดอลลาร์!

เธออาศัยอยู่ในบ้านแบบไหนกันนะ? พระเจ้า ทุกอย่างช่างฟุ่มเฟือยมากจนถึงจุดที่ว่า ฉากทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะน่าเหลือเชื่อ!

เมื่อประตูรถเปิดออก ผู้จัดการเวทีและแขกวีไอพีคนอื่นหลายคนก็ตั้งแถวสองแถว แบบเดียวกันอยู่ข้างนอกแล้ว ยืนพร้อมและตื่นตัวในการทักทายแขกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขากัน