ตอนที่ 632 จะชดเชยผมยังไง / ตอนที่ 633 มีคุณก็พอแล้ว

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 632 จะชดเชยผมยังไง 

 

 

“ฉันเป็นห่วงสุขภาพของคุณย่า” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก ตอนนี้คุณย่ากงยังไม่รู้ว่าเธอกับกงจวิ้นฉือเลิกกันแล้ว เธอต้องไม่เข้าใกล้กับเผยหนานเจวี๋ยมากจนเกินไป

 

 

เธอก็ไม่อยากให้กงจวิ้นฉือลำบากใจ นี่คือสิ่งเดียวที่เธอทำให้เขาได้ในตอนนี้

 

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่บอกเธอให้เร็วกว่านี้” เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกเจ็บปวดเกี่ยวกับเรื่องระหว่างกงจวิ้นฉือกับฉู่เจียเสวียนอยู่เสมอ

 

 

เขาหวังเหลือเกินที่จะได้อยู่ด้วยกันกับฉู่เจียเสวียน เขาหวังเหลือเกินว่านับจากนี้ต่อไปโลกของเขาจะมีเพียงเธอเท่านั้น

 

 

“ครั้งหน้าเมื่อจวิ้นฉือกลับมาแล้ว เขาบอกว่าจะพูดกับคุณย่าให้ชัดเจน” ฉู่เจียเสวียนต้องการจะผละออกจากอ้อมอกของเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าร่างกายของเธอกลับโหยหาความอบอุ่นในอ้อมแขนของเขา

 

 

หลายวันนี้เธอก็คิดถึงเขาเหมือนกัน เพียงแต่เธอไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ เธอรู้สึกว่าเธอแย่มากในตอนนี้ และเธอก็ยิ่งตระหนักว่าเธอนั้นไม่ดีพอสำหรับความดีที่เผยหนานเจวี๋ยมีต่อเธอ

 

 

“ถ้าอย่างนั้นคุณคิดจะชดใช้ผมยังไง” เผยหนานเจวี๋ยตัดสินใจที่จะไม่รีรออีกต่อไป เขาคิดถึงเธอ และตอนนี้เขาก็อดทนมานานแล้ว เขาปรารถนาฉู่เจียเสวียน ปรารถนาทุกส่วนในร่างกายของเธอ

 

 

ทำไมฉู่เจียเสวียนจะไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้ หูของเธอพลันกลายเป็นสีแดง

 

 

เมื่อถูกเผยหนานเจวี๋ยปฏิบัติแบบนี้ ที่จริงเธอก็รู้สึกชอบมาก เธอกลายเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน

 

 

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา” ฉู่เจียเสวียนกล่าว

 

 

เผยหนานเจวี๋ยไม่ฟังคำพูดของฉู่เจียเสวียนอีก เขาก้มหน้าลงมาจูบคอของฉู่เจียเสวียน การกระทำของเขาทำให้ร่างกายของฉู่เจียเสวียนสั่นสะท้าน และเธอก็เกลียดความเจ้าเล่ห์ของเผยหนานเจวี๋ยที่ทำให้เธอไม่ทันตั้งตัวแบบนี้

 

 

“เผยหนานเจวี๋ย อย่าทำแบบนี้ แม่ฉันยังอยู่ในบ้านนะ!” ฉู่เจียเสวียนยื่นมือออกไปผลักเขาน้อยๆ สีหน้าละอายอยู่บ้าง แม้ว่าจะมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่ในห้องโถง

 

 

“เจียเสวียน คุณทรมานผมจนจะตายอยู่แล้ว” เผยหนานเจวี๋ยกระซิบที่ข้างหูของฉู่เจียเสวียน ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนทำให้เขาเจ็บปวดอย่างสมบูรณ์แล้ว

 

 

“ทั้งๆ ที่ระหว่างพวกเรามีเรื่องน่าเจ็บปวดขนาดนั้น ทำไมคุณถึงยังชอบฉันอยู่อีก” จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็เอ่ยปากขึ้น สายตามองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมถามด้วยความจริงจังอย่างมาก

 

 

พวกเขาเคยผ่านความเจ็บปวดมามากเกินไปแล้ว แม้ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเป็นคนมอบความเจ็บปวดนั้นให้กับเธอ แต่ว่าหลังจากกลับมาจากต่างประเทศแล้วก็รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยมีใจให้เธอ เธอก็ทำร้ายเขาเหมือนกัน

 

 

อย่างไรก็ตามเขากลับไม่สนใจสิ่งที่เธอทำกับเขา และยังคงไปช่วยชีวิตเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

“เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะไปคิดถึงมันอีก และไม่อยากพูดถึงมันด้วย ผมสนใจปัจจุบันของพวกเรามากกว่า” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยขึ้นเสียงเบา เขาทิ้งกำแพงป้องกันทั้งหมดเพื่อเธอไปตั้งนานแล้ว

 

 

“อดีตมันก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ผมแค่อยากมีคุณตลอดไป” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวออกมาด้วยความเอาแต่ใจ ดวงตาเปล่งประกายแพรวพราว

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกคับยุบยิบในหัวใจ ตอนนี้เธอมีความสุขมากที่เธอเป็นของเขา

 

 

ทั้งๆ ที่เคยพูดว่าจะไมให้ตัวเองตกหลุมของเขาอีก แต่ว่าเธอก็ยังเสียทีให้เขาจนได้

 

 

จริงๆ แล้วมันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ทั้งๆ ที่ตอนที่เพิ่งจะกลับมา พวกเขาก็ไม่ได้ใกล้กันแบบนี้

 

 

แล้วตั้งแต่เมื่อไรกันที่เธอสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเผยหนานเจวี๋ย และพบความดีของเขา? มันเป็นตั้งแต่ตอนที่เขายอมเปลี่ยนแปลงเพื่อเธออย่างนั้นหรือ

 

 

“ฉันเอาใจไม่เก่งแบบนี้ อีกทั้งยังทำไม่ดีกับคุณ แล้วคุณชอบฉันเพราะอะไร?” เมื่อเธอตกหลุมกับคำรักของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนก็เริ่มพูดอย่างอ่อนไหว

 

 

“ผมชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ” เผยหนานเจวี๋ยก้มหน้าลง จ้องมองดวงตาของเธอโดยตรง แล้วพูดด้วยความจริงจังเป็นอย่างมาก

 

 

“คุณสง่างามแบบนี้ มีตั้งหลายคนที่มอบหัวใจให้คุณ แล้วทำไมถึงเป็นฉัน” ทำไมผ่านไปตั้งหลายปีคุณเพิ่งมานึกถึงฉัน

 

 

“สิ่งที่คุณถามวันนี้มันก็ไม่มีระดับเอาซะเลย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเสียงเบา ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น

 

 

เผยหนานเจวี๋ยคงหมดความอดทนที่จะตอบคำถามเหล่านี้แล้ว

 

 

 

 

 

 ตอนที่ 633 มีคุณก็พอแล้ว

 

 

แต่คนที่ถามคำถามนี้ก็คือฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยจึงยินดีที่จะตอบ

 

 

“คุณไม่รู้หรือว่าตัวเองงดงามขนาดไหน ผมชอบคุณ นี่มันก็เป็นเรื่องที่แน่นอนที่สุดแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยชอบทความฉลาดและเด็ดเดี่ยวของฉู่เจียเสวียน

 

 

ชอบดวงตาของเธอที่ดูดีและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ชอบท่าทางของเธอเวลาที่ทำงานอย่างจริงจังและท่าทีที่ภาคภูมิใจในตนเอง

 

 

“ถ้าต่อไปคุณเจอคนที่ดีกว่า คุณจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า” ในเวลานี้ฉู่เจียเสวียนติดกับกับคำพูดนั้นแล้ว ผู้หญิงที่กำลังมีความรักจะมีระดับสติปัญญาเท่ากับศูนย์

 

 

คำถามที่ถามก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าไม่มีความคิดเลย

 

 

“แค่มีคุณก็พอแล้ว ตอนนี้ผมเจอคนที่ดีที่สุดแล้ว ยังจะมีคนอื่นที่ทำให้ผมเปลี่ยนใจได้ยังไง” ราวกับเผยหนานเจวี๋ยเพิ่งจะได้กินน้ำหวานมา เขาเอ่ยคำหวานออกมาได้อย่างราบรื่นมาก

 

 

“ฉันไม่เชื่อหรอก” ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม ดอกไม้แห่งความสุขผลิบานในใจ ตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วที่จะอยู่กับเขา เธอก็หวังที่จะแก่เฒ่าไปด้วยกันกับเผยหนานเจวี๋ย

 

 

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควักหัวใจของผมออกมาดูสิ?” เผยหนานเจวี๋ยพูดแซวต่อ

 

 

“ฉันไม่เอาด้วยหรอก” คำหวานแบบนี้เขาก็ยังพูดออกมาได้ เธอล่ะนับถือเขาจริงๆ

 

 

“คุณยิ่งพูดจาไหลลื่นขึ้นทุกวัน” จู่ๆ ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนก็บึ้งตึง มองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมพูดด้วยความจริงจัง ถ้าหากคำพูดของหวานๆ ของเขามีไว้ให้เธอเพียงคนเดียว แบบนั้นก็จะเป็นเรื่องที่มีความสุขมาก

 

 

“ผมไม่ได้เปลี่ยน ผมแค่อยากบอกความในใจให้คุณฟัง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากออกมา ตั้งแต่ไหนแต่ไร ภาพลักษณ์ของเขาต่อหน้าทุกคนนั้นก็เย็นชาและดื้อรั้น เป็นภาพลักษณ์ของท่านประธานผู้เผด็จการมากเสียจนเขาต้องแสดงออกมาเช่นนั้น พอนานๆ เข้าเขาก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองก็ยังมีด้านที่อ่อนโยนแบบนี้อยู่ด้วย

 

 

จำได้ว่าเมื่อเขายังเด็ก เขาก็เป็นวัยรุ่นที่สดใสร่าเริง มันเป็นเพียงหลังจากที่เขาได้รับการเลี้ยงดูจากทายาท เขาจึงค่อยๆ กลายเป็นคนที่เขาเป็นในปัจจุบัน

 

 

อาศัยช่วงที่เผยหนานเจวี๋ยกำลังเหม่อลอย ฉู่เจียเสวียนก็ดิ้นหลุดออกมาจากอ้อมอกของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

“พูดมาเถอะ คุณมาหาฉันมีเรื่องอะไร” ฉู่เจียเสวียนไม่เชื่อว่าเขามาหาเธอเพื่อเอ่ยคำรักเท่านั้น

 

 

“ที่ผมมาวันนี้เพราะอยากให้คุณไปเข้าร่วมงานประมูลการกุศลกับผมพรุ่งนี้” เผยหนานเจวี๋ยพูดถึงจุดประสงค์ของตัวเอง

 

 

“กี่โมง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก เธอต้องตอบรับคำเชิญของเขาอยู่แล้ว ในเมื่อเธอติดค้างเขาขนาดนั้น เพราะอย่างนั้นจึงคิดที่จะชดเชยเขาสักหน่อย

 

 

“บ่ายสองครึ่ง”

 

 

“ฉันจะไปตามนัด” ฉู่เจียเสวียนพยักหน้ารับปาก

 

 

“คุณก็ไม่กลัวว่าคุณย่ากงจะเห็นเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยแซว

 

 

“ไม่กลัว เชื่อเถอะว่าไม่มีใครกล้าเขียนอะไรมั่วๆ หรอก” ฉู่เจียเสวียนตอบเสียงเบา เธอมักจะกังวลมากจนเกินไป ครั้งนี้ก็ผ่อนคลายลงสักหน่อย ถึงอย่างไรก็มีเขาอยู่ไม่ใช่หรือ

 

 

“ฮะๆ…” เผยหนานเจวี๋ยหัวเราะออกมาเสียงเบา แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเขียนอะไรส่งเดช เขาจะต้องเตือนพวกสื่อก่อนอย่างแน่นอน เรื่องส่วนตัวของเผยหนานเจวี๋ยใช่ว่าพวกเขาจะเขียนได้ตามใจชอบ

 

 

“แน่นอนว่าผมไม่ปล่อยให้ผู้หญิงของผมถูกคนหมิ่นประมาทแน่ เรื่องส่วนตัวของผมใช่ว่าพวกเขาจะเขียนได้ตามใจชอบนะ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวด้วยท่าทีสบายๆ ถ้าหากมีคนกล้าเขียน เขาก็จะปิดตัวสำนักพิมพ์พวกนั้นเสียเลย

 

 

“อ้อ? ถ้าอย่างนั้นตอนนั้นเรื่องของคุณกับหลี่เซียนเซียนถูกใครเปิดโปงซะล่ะ” เธอมักจะจู้จี้เกี่ยวกับเรื่องนี้และเขาก็ไม่เคยให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับเธอเลย

 

 

“ผมถูกคนเล่นงานน่ะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดออกมาตรงๆ แม้ว่าการยอมรับว่าถูกคนเล่นงานจะทำให้เขาต้องเสียหน้า แต่เขาไม่ต้องการให้ฉู่เจียเสวียนเข้าใจผิด

 

 

คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยทำให้แววตาของฉู่เจียเสวียนฉายความตกใจ เผยหนานเจวี๋ยที่คิดเล่นงานคนอื่นตลอดเวลากลับถูกคนอื่นเล่นงานอย่างนั้นเหรอ เป็นใครกันนะ