บทที่ 1446 กำจัดกับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ในไม่ช้าดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิงก็ถูกดึงเข้าสู่แสงสีขาว

 

ดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิงนิ่งเงียบและหยุดเคลื่อนไหวราวกับมันสูญเสียความสามารถในการคิดไปอย่างกะทันหัน

 

จากนั้นจุดแสงสีขาวก็เริ่มปะทุออกมาจากดวงวิญญาณของเขา

 

จุดแสงเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆและพุ่งเข้าหาร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวน

 

แสงส่องประกายขึ้นบนร่างของผีดิบอมตะและเริ่มทำลายร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

 

เมื่อเวลาผ่านไป ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็เริ่มลดลงทีละเล็กทีละน้อยขณะที่ดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิงอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง

 

จิตใจของฟางหยวนสงบนิ่งราวกับทะเลสาบที่เงียบสงบ เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะด้วยความมั่นใจและมั่นคง

 

เขาต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้เป็นเวลาสามวันสามคืนก่อนที่กับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในร่างผีดิบอมตะจะถูกกำจัดออกไปอย่างสมบูรณ์

 

จากการคาดการณ์กระบวนการทั้งหมดต้องใช้ลูกพลัมแดงอมตะมากกว่าหนึ่งพันสองร้อยผล

 

นี่เป็นวิธีการใช้วิญญาณอมตะล้างใจและวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณที่ถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากฟางหยวนต้องคิดค้นท่าไม้ตายนี้ด้วยตนเอง เขาต้องใช้เวลา ความพยายาม และทรัพยากรมากมายเพื่อลองผิดลองถูก

 

ฟางหยวนไม่ขาดแคลนพลังงานอมตะ เขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอแล้ว

 

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

 

หลังจากสามวันสามคืน ฟางหยวนก็หยุดเคลื่อนไหว

 

เขาคำนวณและพบว่าเขาสูญเสียลูกพลัมแดงอมตะไปถึงหนึ่งพันสามร้อยผล

 

ค่าใช้จ่ายนี้ทำให้คลังเก็บพลังงานอมตะของเขากลายเป็นว่างเปล่าในครั้งเดียว

 

แต่ฟางหยวนกลับเต็มไปด้วยความสุข

 

วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า!

 

เขาตรวจสอบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อยู่บนร่างผีดิบอมตะก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจ

 

“ในที่สุดกับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็ถูกลบออกไปอย่างสมบูรณ์!”

 

มันไม่ง่ายเลย

 

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

 

กับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่สร้างปัญหาให้กับฟางหยวนมาอย่างยาวนานถูกแก้ไขในที่สุด

 

ความสุขโอบกอดหัวใจของฟางหยวนเอาไว้

 

แต่…

 

หลังจากที่เขาสงบจิตใจลง เขายังไม่ทดสอบมันด้วยตนเองแต่เลือกใช้ดวงวิญญาณของผู้อมตะคนอื่นเพื่อตรวจสอบร่างผีดิบอมตะ

 

หลังจากทดสอบหลายครั้ง เขาสามารถยืนยันความปลอดภัย

 

จากนั้นฟางหยวนก็ย้ายดวงวิญญาณของเขาเข้าไปในร่างผีดิบอมตะ

 

ในเวลาต่อมาร่างผีดิบอมตะก็เปิดเปลือกตาขึ้น

 

ฟางหยวนค่อยๆลุกขึ้นยืนและเริ่มขยับร่างกาย

 

“ในที่สุดข้าก็สามารถใช้ร่างกายของข้าได้อีกครั้ง!” นี่เป็นความรู้สึกที่ชวนคิดถึง เขารู้สึกราวกับได้กลับบ้านหลังจากการเดินทางอันยาวนาน

 

ฟางหยวนลูบหน้าท้องของเขาเบาๆ

 

มีเพียงทะเลวิญญาณระดับห้าเท่านั้นที่ยังอยู่ มิติช่องว่างระดับหกบนเส้นทางความแข็งแกร่งพังทลายไปแล้วขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายของเขาเรียบร้อยแล้ว

 

จากมุมมองนี้ ร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนถือเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

มิติช่องว่างระดับหกบนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวนได้มาจากการใช้วิญญาณทะเลวิญญาณที่สอง

 

ทะเลวิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอดคือทะเลวิญญาณดั่งเดิมของเขา

 

วิญญาณกาลเวลาถูกปิดผนึกอยู่ในทะเลวิญญาณนี้

 

กำแพงคริสตัลของทะเลวิญญาณเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวเนื่องจากแรงกดดันของวิญญาณกาลวิญญาณระดับหก

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่กังวล ก่อนหน้านี้เขาสามารถจัดการมัน ตอนนี้เขาได้รับมรดกของนิกายเงา มันยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับเขา

 

ฟางหยวนจะไม่ละทิ้งวิญญาณกาลเวลาอย่างแน่นอน

 

แต่วิญญาณกาลเวลาเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ ฟางหยวนต้องกำจัดเจตจำนงสวรรค์ทิ้งไปหากเขาต้องการใช้งานมันอีกครั้ง

 

นั่นเป็นแผนการระยะยาว

 

แน่นอนว่าในอนาคตเขาจะใช้รากฐานนี้เพื่อหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาระดับเจ็ด

 

“แต่ก่อนหน้านั้นข้าควรยกระดับร่างกายนี้เป็นอันดับแรก”

 

ผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นแผนการเดิมของฟางหยวน

 

เขาจะไม่ทิ้งความตั้งใจนี้

 

เมื่อการทดลองประสบความสำเร็จ ฟางหยวนก็ย้ายดวงวิญญาณของตนเองกลับสู่ร่างทารกอมตะ สำหรับร่างผีดิบอมตะ มันยังถูกผนึกอยู่ในค่ายกลวิญญญาณ

 

“ต่อไปทดสอบวิญญาณสติปัญญา” ฟางหยวนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

 

เขาออกจากห้องลับและบินไปหาวิญญาณสติปัญญา

 

เมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูถูกโจมตี วิญญาณสติปัญญาถูกย้ายมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับผิดชอบในการเลี้ยงดูและให้อาหารมัน

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็มายืนอยู่ต่อหน้าวิญญาณสติปัญญา การเคลื่อนไหวนี้ดึงดูดความสนใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

อย่างไรก็ตามการแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินค่อนข้างประหลาด “ฟางหยวน มีคนใส่ร้ายเจ้า”

 

“ท่านหมายถึงสิ่งใด?”

 

“ฮ่าฮ่า หยุนเหลียงตายแล้ว มีเบาะแสสำคัญทิ้งไว้ในสนามรบและบ่งชี้ว่าเจ้าเป็นฆาตกร นอกจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของหลิวกวนซื่อของเจ้าก็ถูกเปิดเผย ตอนนี้โลกผู้อมตะของภาคเหนือ ไม่ โลกผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคกำลังสั่นสะเทือนเพราะข่าวนี้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะ

 

แม้ฟางหยวนจะต้องใช้ดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับเจ็ดเพื่อกำจัดกับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แต่เขาก็มีดวงวิญญาณดังกล่าวอยู่แล้ว ไม่เพียงเย่หลิวชุนซิง เขายังมีดวงวิญญาณของเทพธิดาซุ้ยป๋อ หลิวหยง และหม่าหงหยุน ตลอดไปถึงร่างกายทั้งหมดของไห่เจิ้ง

 

ก่อนหน้านี้ผมที่หกกังวลว่าฟางหยวนจะออกไปสังหารผู้อมตะของภาคเหนือ

 

แต่ฟางหยวนตอบว่าเขาสามารถควบคุมสถานการณ์

 

เขามีดวงวิญญาณของผู้อมตะอยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เสี่ยง

 

สิ่งที่ฟางหยวนต้องการคือการพักผ่อนและบ่มเพาะ เขาไม่ต้องการออกไปต่อสู้ข้างนอก

 

หลังจากสอบถามรายละเอียด ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่า “นี่อาจเป็นฝีมือของวังสวรรค์ หยุนเหลียงเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ถ้ำสวรรค์นิรันดรอนุญาตให้เขาแต่งงานกับมู่หลานชิงซื่อ พวกเขากระทั่งมีความสุขกับงานแต่งงานครั้งนี้ นี่คือการเตรียมความพร้อมของถ้ำสวรรค์นิรันดรสำหรับการเผชิญหน้ากับยุคที่ยิ่งใหญ่ แต่วังสวรรค์จะอนุญาตให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? พวกเขาต้องทำลายแผนการนี้อย่างแน่นอน”

 

“ฟางหยวน การวิเคราะห์ของเจ้าสมเหตุสมผล” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้าและเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด “ตอนนี้ถ้ำสวรรค์นิรันดรกำลังโกรธมาก เหยากวงที่ได้รับตำแหน่งใหม่ประกาศว่าเขาจะจับเจ้าและนำเจ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันเจ้าไม่เพียงเป็นศัตรูตัวฉกาจของฝ่ายธรรมะ แต่ยังรวมถึงปีศาจอมตะ และผู้บ่มเพาะสันโดษทั้งหมดของภาคเหนือ”

 

ฟางหยวนก่นเสียงเย็นรับทราย นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้

 

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน ฟางหยวนต่อต้านผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคเหนือรวมถึงปีศาจอมตะเซี่ยหูซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายปีศาจ

 

หยุนเหลียงเป็นสัญลักษณ์ของผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ฟางหยวนที่ถูกประกาศว่าเป็นฆาตกรก็ต้องแบกรับความเกลียดชังจากฝ่ายนี้ไปโดยธรรมชาติ

 

“เอาล่ะ ลืมมันไปซะ เร็วเข้า ให้ข้าดูว่าเจ้าจะเรียกแสงแห่งปัญญาออกมาได้หรือไม่?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเร่งเร้า

 

“ตกลง ข้าก็กำลังตั้งตารอเรื่องนี้เช่นกัน” ฟางหยวนสูดหายใจลึก

 

โอกาสประสบความสำเร็จมีค่อนข้างสูง หากมันสำเร็จ เขาจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว