ตอนที่ 774 สร้าง!

Godly Model Creator

GMC ตอนที่ 774 สร้าง!

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนดึก ในพักของตระกูลซู

 

 

 

ด้วยแสงจันทร์ที่ตกแต่งท้องฟ้า ภายในป่าไผ่อันกว้างใหญ่แสงของจันทราสาดส่องลงมา ซูฮ่าวนั่งขัดสมาธิ เขากำลังบ่มเพาะแต่น่าประหลาดใจที่ไม่มีร่องรอยความผันผวนพลังงานรอบตัวเขา

 

 

 

ปรากฏเพียงร่องรอยพื้นที่สั่นสะเทือน

 

 

 

ซูฮ่าวเรียกกฎแห่งพลังออกมาอย่างเงียบๆ และร่องรอยของพลังโมเดลปรากฏขึ้น มันอ่อนแอและแทบไม่สามารถระบุรูปร่างที่แท้จริงได้

 

 

 

“นี่คือพลังโมเดลงั้นเหรอ?”

 

 

 

เป็นครั้งแรกที่ซูฮ่าวเรียกมันออกมา ขณะที่เขาตรวจสอบภายใต้แสงจันทร์ พลังโมเดลโปร่งแสงเปล่งประกายสีน้ำเงินภายใต้แสงจันทร์

 

 

 

“สวยมาก” ซูฮ่าวอุทานด้วยความชื่นชมจากส่วนลึกของหัวใจแต่สายตาของเขาดูจริงจัง อะไรคือสิ่งที่กฎแห่งพลังเขงเขาสามารถทำได้ เขาต้องศึกษาอย่างละเอียด

 

 

 

หากไม่มีคู่มือ เขาทำได้เพียงศึกษาด้วยตนเองเท่านั้น

 

 

 

ในระหว่างวันเขาได้สนทนากับซูเจิ้นเหวินซึ่งทำให้เขาเข้าใจเรื่องกฎแห่งพลังนี้ได้มากขึ้น แน่นอนว่ามันฟังดูไม่ธรรมดาแต่การควบคุมมันยากมาก การควบคุมพลังของซูฮ่าวนั้นถูกจำกัดไว้เฉพาะภายในทะเลจิตวิญญาณของเขาเท่านั้นในตอนนี้

 

 

 

มันไม่ใช่ความคิดที่ดีในการต่อสู้กับศัตรูด้วยการพุ่งชน แต่ปัจจุบันเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

 

 

 

เหตุผลนั้นค่อนข้างง่าย: มันช้าเกินไป!

 

 

 

นี่ไม่ใช่เรื่องล้มเล่น ในการต่อสู้ที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใครจะมีเวลารอให้คุณเรียกกฎแห่งพลังของคุณออกมาอย่างช้าๆ? แม้ว่าคุณจะเค้นมันออกมาได้คุณก็ยังต้องเลือกเป้าของคุณ

 

 

 

ในที่สุดมันก็เป็นเรื่องของการควบคุม!

 

 

 

ไม่ว่าจะใช้พลังใดก็ตาม เราจำเป็นต้องควบคุมความแข็งแกร่งของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อที่จะใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพลังนั้นๆ  แม้แต่กฎแห่งพลังก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

 

 

“ควบคุม…” ซูฮ่าวครุ่นคิด

 

 

 

เพื่อที่จะจัดการกับพลังโมเดลและทำให้มันหมุนไปรอบๆ เขาไม่ต่างไปกับเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนรู้วิธีขับรถ  ค่อยๆ เลื่อนซ้าย เลื่อนขวาอย่างช้าๆ และบางครั้งมันก็ขึ้นหรือไม่ก็ลง อย่างน้อยความช้านั้นก็มีความได้เปรียบเช่นกัน มันจะไม่โดนป่าไผ่โดยรอบหรืออย่างอื่น…

 

 

 

ผลที่ตามมาคือความหายนะชัดๆ

 

 

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

 

 

 

ตอนนี้สวนของตระกูลซูกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับทุกคน เพราะจะมีออร่าที่น่ากลัวปรากฏออกมาเป็นครั้งคราว ลืมเกี่ยวกับการเข้าใกล้แม้จากที่ไกลๆ เหล่าศิษย์ยังหวาดกลัวจนพวกเขาไม่มีสมาธิในการฝึก! ภายใต้สภาวะเช่นนี้ ซูเจิ้งเหวินจึงปิดกั้นพื้นที่สวนทั้งหมด

 

 

 

โชคดีที่ซูฮ่าวใช้เวลาไม่นาน

 

 

 

ในสวนมีแสงไฟกระพริบ

 

 

 

เมื่อใดก็ตามที่พลังโมเดลพุ่งผ่านอากาศเส้นทางของมันจะเกิดการบิดเบี้ยวไปในระดับที่แตกต่างกัน  ความเร็วของมันไม่ธรรมดามันเดินทางไปมาในป่าไผ่ได้โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางใดๆ

 

 

 

“ไม่เลว” ซูเจิ้นเหวินยิ้มเมื่อเขาเห็นความก้าวหน้าของซูฮ่าว

 

 

 

“ในที่สุดก็สำเร็จ!” ซูฮ่าวยินดี “ในที่สุดฉันก็สามารถสังหารผู้คนได้ด้วยมัน!”

 

 

 

 

 

 

ข้างๆ เขาเมื่อได้ยินคำสรรเสริญมุมปากของซูเจิ้งเหวินนั้นกระตุก ไอ้เด็กเวรตะไลนี้พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะสังหารผู้คน?

 

 

 

“ตอนนี้คุณควบคุมขั้นพื้นฐานได้แล้ว คุณสามารถลองศึกษาวิธีการใช้งานต่อได้” ซูเจิ้งเหวินให้คำแนะนำ “ความหัศจรรย์ของกฎแห่งพลังจะมีผลเมื่อคุณสามารถใช้งานได้จริงเท่านั้น เช่นเดียวกันเมื่อคุณมีเงินก่อนคุณซื้อของบางอย่างคุณต้องพิสูจน์ความคุ้มค่า การใช้เงินของคุณหรือการสังหารผู้คนทุกวันนั้นไม่ถูกต้อง”

 

 

 

ในตอนท้ายซูเจิ้งเหวินกล่าวเพิ่มเติมอีกประโยค “แม้ว่าการทำเช่นนั้นจะเจ๋ง”

 

 

 

ซูฮ่าว “ …”

 

 

 

“อืม นี่คือวิธีการใช้กฎแห่งพลัง” ซูเจิ้งเหวินส่งข้อมูลบางอย่างไปยังซูฮ่าว “เนื่องจากแต่ละกฎมีความแตกต่างกัน คุณสามารถลองทีละอันได้ บางทีคุณพบที่เหมาะสมกับกฎของคุณ”

 

 

 

“อืม” ซูฮ่าวพยักหน้า

 

 

 

“เพียงแค่ให้ความสนใจกับการบ่มเพาะอย่าสนใจสิ่งรบกวน แม้ว่าคุณจะล้มเหลวในการฝึกฝน แต่ก็ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามคุณยังมีความสามารถพิเศษของคุณ เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ขอบเขตโลกอย่างแท้จริง คุณจะสามารถทำลายพวกเขาได้โดยไม่ต้องเสียเหงื่อ!”

 

 

 

ดวงตาทั้งคู่ของซูเจิ้งเหวินส่องประกาย “บางทีคุณอาจมีกฎแห่งพลัง 2 กฎ  ฮ่าๆ …ฉันต้องการเห็นคุณทำลายคนนั้นจากตระกูลเทียน”

 

 

 

ซู่ห่าวเช็ดเหงื่อของเขา

 

 

 

“อะไร” ซูเจิ้งเหวินสังเกตเห็นสีหน้าแปลกๆ ของซูฮ่าว

 

 

 

“เอ่อ..” หลังจากคิดสักพักซูฮ่าวก็หัวเราะออกมา “พี่ใหญ่ซูแตกต่างจากเอสเปอร์โลกที่ฉันเคยพบ อืม…คุณใจดีและตลกมาก”

 

 

 

ซูฮ่าวหยุดก่อนพูดอีกคำ

 

 

 

ซูเจิ้งเหวินมองเขาด้วยท่าทียิ่งยะโส “คุณไม่ได้กำลังจะพูดว่าฉันน่าขำใช่ไหม?”

 

 

 

“อะแฮ่ม” ซูฮ่าวไอ “ไม่อย่างแน่นอน!”

 

 

 

ซูเจิ้งเหวินซบตาเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ตำหนิซูฮ่าว เขามองเขาด้วยท่าทางตลกๆ แทน “คุณคิดว่าเอสเปอร์โลกทุกคนควรเป็นตาเฒ่าแก่ๆ ที่ครึ่งก้าวอยู่ในหลุมศพงั้นหรอ หรือไม่ก็ดูสง่างามมีคำพูดที่เต็มไปด้วยปรัชญาใช่มั้ย”

 

 

 

“ห๊ะ?” ซูฮ่าวตกตะลึง

 

 

 

ซูเจิ้งเหวินได้อธิบายถึงบรรพบุรุษเก่าแก่อย่างแม่นยำ เอสเปอร์ที่แข็งแกร่งมักจะมีความภาคภูมิใจของเป็นตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลซูหรือเทียนกัง พวกเขามักจะทำตัวลึกลับและอยู่ให้ห่างจากคนธรรมดา แน่นอนซูเจิ้งเหวินเป็นข้อยกเว้น

 

 

 

“พวกเขาล้วนแต่ขี้เก๊ก…” ซูเจิ้งเหวินถอนหายใจและวิพากษ์วิจารณ์สองเอสเปอร์โลกที่ทรงพลังในทันที

 

 

 

“ขี้เก๊ก?” ซูฮ่าวเช็ดเหงื่อ

 

 

 

เขาไม่กล้าเชื่อมโยงคำๆ นี้กับเอสเปอร์โลกได้

 

 

 

ในขณะเดียวกัน เทียนกัง ผู้ซึ่งอยู่ในสมพันธ์และบรรพบุรุษเก่าของตระกูลซูจู่ๆ ก็จามขึ้น “แปลกฉันเป็นเอสเปอร์โลกแล้ว ฉันจะเป็นหวัดได้อย่างไร เป็นไปได้ไหมที่มีบางคนกำลังนินทาฉัน? อืม…นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรง”

 

 

 

“คุณคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรอีก?” ซูเจิ้นเหวินแลดูดูถูกเหยียดหยามมาก “ลองคิดดูสิ เมื่อคุณเริ่มบ่มเพาะครั้งแรก คุณไม่คิดว่าเอสเปอร์มืออาชีพเต็มไปด้วยความสง่างามงั้นหรอ? แล้วตอนนี้ล่ะ?”

 

 

 

“มันดูงั้นๆ ” ซูฮาวเกาหัวของเขา

 

 

 

“ใช่แล้ว” ซูเจิ้นเหวินยิ้มอย่างชั่วร้าย “นอกจากนี้มันยากแค่ไหนที่จะฝึกฝนและกลายเป็นเอสเปอร์โลก? เหตุผลที่พวกเขาทำแบบนั้นเป็นเพราะพวกเขามีความต้องการอยากทำเช่นนั้น ในบางครั้งแบบ มองฉันสิ ฉันได้บ่มเพาะมานานหลายปีก่อนที่จะทะลวงเข้าไปในขอบเขตโลก ฉันต้องสนใจคนอื่นๆ งั้นหรอ? โดยธรรมชาติรัศมีที่ทึ่งเกิดปรากฏขึ้นกับเรา”

 

 

 

“จริง” ซูฮ่าวก็คิดเช่นกัน

 

 

 

“ยิ่งกว่านั้น…” ซูเจิ้งเหวินชี้ไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ในฝูงชน “ฉันมีตาแก่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าฉันจะแสร้งทำมากแค่ไหนมันก็ไม่มีผล”

 

 

 

ซูฮ่าวพูดไม่ออก

 

 

 

อย่างไรก็ตามเขาเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง

 

 

 

บุคลิกของซูเจิ้งเหวินนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างแท้จริง อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้แก่หรืออาจเป็นเหมือนที่เขาพูด เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะกลายเป็นเอสเปอร์โลก เขาจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความเห็นของคนอื่นงั้นหรอ?

 

 

 

“ขอบเขตโลก!” ซูฮ่าวกำกำปั้น

 

 

 

สักวันหนึ่งเขาจะได้มีโอกาสที่จะไม่สนใจความเห็นของคนอื่นหรือไม่? เมื่อมองดูที่พลังโมเดลที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ ซูฮ่าวกฌปลอบใจตัวเองอย่างเงียบๆ นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี

 

 

 

ฝึกฝน!

 

 

 

ซูฮ่าวเปิดข้อมูลที่เขาได้รับ มีทั้งหมด 130 วิธีในการใช้ กฎแห่งพลังโดยทั่วไป รายการจะครอบคลุมวิธีที่ใช้ของแต่ละกฎแห่งพลัง

 

 

 

ซูฮ่าวพยายามใช้วิธีการสำหรับพลังเปลวไฟ

 

 

 

ไม่มีการตอบสนอง

 

 

 

พลังคำสาป ไม่มีการตอบสนอง

 

 

 

พลังสายฟ้า ไม่มีการตอบสนอง

 

 

 

 

 

 

หลังจากพยายามใช้วิควบกฎแห่งพลังหนึ่งร้อยกฎ ซูฮ่าวก็เริ่มรู้สึกผิดหวัง แน่นอนกฎแห่งพลังชนิดใหม่นี้ย่อมจะมีวิธีการที่แตกต่างจากวิธีเดิมที่มีอยู่

 

 

 

สามสิบวิธีสุดท้าย?

 

 

 

ด้วยความหวังอันริบหรี่ ซูฮ่าวทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น

 

 

 

แมร่*เอ้ย!

 

 

 

ไม่แม้แต่วิธีเดียว

 

 

 

“เป็นไปไม่ได้งั้นหรอ?” ซูเจิ้งเหวินถาม

 

 

 

“อืม” ซูฮ่าวยิ้มอย่างขมขื่นและส่งข้อมูลคืนให้ซูเจิ้งเหวิน อย่างไรก็ตามก่อนที่จะปิดเขาสังเกตเห็นว่าในตอนท้ายของข้อมูลนี้มีกฎแปลกๆ ที่มีสองคำใหญ่ๆ เขตแดนวิญญาณ

 

 

 

“เขตแดนวิญญาณ?” ซูฮ่าวอยากรู้อยากเห็น “นั่นคืออะไร”

 

 

 

“ นั่นเป็นขั้นที่สองของขอบเขตโลก” ซูเจิ้งเหวินอธิบาย “คุณยังเร็วเกินไปสำหรับเรื่องนั้น ขั้นแรกของขอบเขตโลกคือความเชี่ยวชาญการควบคุมพื้นฐานของกฎแห่งพลัง ทั้งการโจมตีและการป้องกัน หลังจากคุณรวมเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง มันจะกลายเป็นความแข็งแกร่งของคุณและคุณจะสามารถเริ่มขั้นที่สองได้”

 

 

 

“การใช้กฎแห่งพลังเพื่อรวมเขตแดนวิญญาณ”

 

 

 

แสงสีฟ้ากระพริบ

 

 

 

ชั้นของความผันผวนปรากฏขึ้น

 

 

 

วัตถุสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเล็กๆ ปรากฏอยู่ในมือของซูเจิ้งเหวิน เมื่อกกฎแห่งพลังกระพริบมันก่อตัวเป็นวัตถุแข็งของจริง

 

 

 

“ลองสัมผัสมัน” ซูเจิ้งเหวินพูดอย่างเฉยเมย

 

 

 

ซูฮ่าวยื่นมือออกไปแตะมัน ดวงตาของเขาจ้องมองอย่างไม่รู้ตัว ของจริง มันเป็นวัตถุจริงๆ! ตอนนี้ในใจของซูฮ่าวเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน นี่คือขั้นตอนการทำให้เป็นจริง! ซูเจิ้งเหวินรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เป็นไปได้ไหมว่าความสามารถของเขานั้นสัมพันธ์กับโมเดล?

 

 

 

“นี่เป็นขั้นตอนที่สองของขอบเขตโลก การสร้าง”

 

 

 

“เอสเปอร์โลก เอสเปอร์โลกคืออะไรกันแน่? เฉพาะการควบคุมกฎแห่งพลังเพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์เท่านั้นจึงถือว่าเป็นเอสเปอร์โลกที่แท้จริง!”

 

 

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ซูฮ่าวก็ประหลาดใจ!

 

 

 

สร้าง?

 

 

 

เอสเปอร์โลกทุกคนสามารถทำสิ่งนี้ได้หรอ?

 

 

 

ไม่นานมานี้ความฝันในใจของเขาคือการสร้างแบบจำลองของโลกทั้งใบและควบคุมมัน! และตอนนี้? หากทุกคนสามารถทำได้จุดวิเคราะห์ของโมเดลคืออะไร

 

 

 

“เอสเปอร์โลกทั้งหมดสามารถบรรลุขั้นการสร้างได้” ซูฮ่าวถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

 

 

 

“แน่นอน มิฉะนั้นแล้วผู้คนทำไมถึงเรียกเราว่าเอสเปอร์โลกกันละ?” ซูเจิ้งเหวินภาคภูมิใจเล็กน้อย “ขึ้นอยู่กับกฎแห่งพลังที่แตกต่างกัน การสร้างก็จะแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นพลังลมของฉัน! ฉันใช้เวลากว่าครึ่งปีในการควบแน่นและทำให้มันอยู่ในระดับนี้!”

 

 

 

“ครึ่งปีเหรอ” ซูฮ่าวกลัวจริงๆ เมื่อฟังคำอธิบายของเขา

 

 

 

“แน่นอน” ซูเจิ้นเหวินกล่าวเยาะเย้ย “เหตุผลที่การสร้างนั้นมหัศจรรย์มากเพราะมันสามารถปรากฏได้ในความจริง ไม่ว่าคุณจะใช้เวลานานแค่ไหนมันก็จะไม่เพียงพอ! สิ่งที่ซับซ้อนมากยิ่งกว่าคือสิ่งที่ยาวและต้องผสานมัน! ดังนั้นในช่วงเริ่มต้น เราจึงเริ่มด้วยรูปแบบที่ง่ายที่สุด”

 

 

 

“แล้วนี่คืออะไร…” ซูฮ่าวชี้ไปที่วัตถุรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าในมือของซูเจิ้งเหวิน เขามีความคิดรางๆ ว่ามันดูเหมือนอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ยังตัดสินใจที่จะขอคำอธิบายให้แน่ใจ

 

 

 

“นี่?” ซูเจิ้นเหวินโยนมันขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะรีบมัน “อิฐ!”

 

 

 

“…”

 

 

 

เส้นสีดำเกิดขึ้นบนหน้าผากของซูฮ่าว เขาเดาถูก เชี่* เขาไม่อยากจะถามซูเจิ้งเหวินเพราะกังวลว่ามันอาจเป็นการดูถูก ท้ายที่สุดเขาเป็นถึงเอสเปอร์โลก เขาจะหันไปใช้ของที่มีคุณภาพต่ำเช่นนี้ได้อย่างไร!

 

 

 

ซูฮ่าวรู้สึกว่าออร่าอันสง่างามที่ล้อมรอบเอสเปอร์โลกคนนี้เริ่มสลายลง

 

 

 

“พี่ใหญ่ซูทำไมคุณต้องสร้างอิฐ” ซูฮ่าวยังคงมีร่องรอยของความเคารพต่อเอสเปอร์โลกและถามซูเจิ้งเหวินด้วยความระมัดระวัง ซูเจิ้งเหวินให้คำตอบที่มีคสามคำแก่เขาอย่างมีความสุข

 

 

 

“เพื่อทุบคน!”