ตอนที่ 754 นายเป็นสมาชิกของ Mensa ใช่มั้ย?
”สรุปว่าหลังจากนายออกจากเหย่โม่มานายก็มุ่งหน้ามาที่หนานตู้ทันที แล้วก็อยู่ที่นี้มากว่าครึ่งปี?” ชูฮันนั่งบนเก้าอี้ มองเหอซางด้วยสายตาไม่เข้าใจ
”ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียวครับหัวหน้า”เหอซางเบะปาก “ผมโชคร้ายเพราะติดอยู่ที่นี้ ไปไหนไม่ได้ มันทรมานเหมือนผ่านไปแล้วปีนึง!”
ชูฮันบิดปากปลายนิ้วแตะคางอย่างใช้ความคิด แสดงท่าทางราวกับเห็นอกเห็นใจเรื่องที่เหอซางเผชิญมา ลูกศิษย์ทั้งสามคนของเหย่โม่ไม่มีใครมาตามหาค่ายเขี้ยวหมาป่าด้วยตัวเองเลยแต่ทุกคนกลับติดกับหรือบังเอิญทั้งนั้น แต่ยังถือว่าโชคดีที่เขาได้เจอกับเหอซางที่นี้ซะก่อน ถ้าไปเจอกันแบบนี้ในสถานการณ์อื่น ชูฮันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำตัวอย่างไรกับปฏิกิริยาการแสดงออกของอีกฝ่าย
เมื่อคิดได้แล้วชูฮันก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตัวตนของนายที่นี้เป็นอย่างไร?”
”ผม…”เหอซางขยี้ตา เกาหัวล้านของตัวเองก่อนจะตอบ “ผมเกือบจะถูกจับไปให้ศึกษาพวกอาวุธเทคโนโลยีชั้นสูง แต่โชคดีที่ผมทิ้งจิตวิญญาณแรงกล้าลงไปได้ ดังนั้นตอนนี้ผมก็เลยเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัย ถ้าผมรู้ว่าหัวหน้าจะมาหา ผมคงแฝงตัวไปกับพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงแล้ว มันคงดีถ้าผมช่วยหัวหน้าได้”
”อืม…ก็ขอบคุณที่ไม่ช่วยอะไร” ทันทีที่เหอซางพูดจบ ชูฮันก็ตอบกลับมาทันทีพร้อมแววตาเหยียดเบาๆ
”การรักษาความปลอดภัยที่นี่เข้มงวดมากและเต็มไปด้วยอุปกรณ์ครบครันมากมายนายคิดว่านายเป็นใครที่จะแฝงตัวเข้าไปได้?” กวงโถวพูดขึ้น
เสี่ยติงหัวเราะเยาะกับตัวเอง”ไอ้หัวล้านหน้าโง่ พี่เหอซางมี IQ สูงกว่าแกเป็นร้อยเท่า!”
”หัวล้านหน้าโง่งั้นเหรอแกว่าไงนะ!?” ทันใดนั้นกวงโถวก็อารมณ์พุ่งขึ้นมาทันที เหวี่ยงแขนเต็มที่อย่างโมโห
”เงียบ!”เหอซางคำรามอย่างอึดอัด เขารู้สึกอายต่อชูฮัน “ผมจะแนะนำให้หัวหน้านะครับ คนเตี้ยหัวล้านคนนี้คือเสี่ยติง คนตัวใหญ่หัวล้านนั้นชื่อกวงโถว พวกเขาเป็นพี่น้องที่ผมพบเจอระหว่างเดินทางครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ชูฮันบิดปากสายตากวาดสำรวจทั่งทั้งสองคน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองจ้องเสี่ยติงอยู่พักใหญ่
”เอ่อหัวหน้าครับ?” เหอซางส่งเสียงเรียกอย่างไม่แน่ใจ ปาดเหงื่อบนหน้าผากออกสองสามที หากสายตาของชูฮันก็ยังคงจ้องไปที่เสี่ยติงเขม็งไม่ขยับไปไหน
เสี่ยติงรู้สึกขัดเขินขึ้นมาอดไม่ได้ที่จะนั่งลงและมองชูฮันตอบอย่างอึดอัด “หัวหน้าชูฮัน? เอ่อ มีอะไรรึเปล่าครับ?”
”นายชื่อเสี่ยติง?”แววตาของชูฮันเต็มไปด้วยความสงสัยและข้องใจ และประโยคต่อมาของชูฮันก็ทำให้ทั้งสามคนที่เหลือในห้องประหลาดใจอย่างมาก “ถนัดด้านสาขาการยศาสตร์ใช่รึเปล่า?”
(*การยศาสตร์= ศาสตร์ด้านการจัดวางรูปแบบสิ่งต่างๆให้เหมาะสม สะดวก ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด)
อาการตะลึงปรากฏขึ้นบนสีหน้าของทั้งสามคนทันทีโดยเฉพาะเสี่ยติงที่อึ้งค้างไปเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าชูฮันจะถามคำถามนี้ออกมา
”หัวหน้าหัวหน้ารู้ได้ไงครับ?” เหอซางแทบจะดีดตัว เขาตื่นเต้นอย่างมาก “หัวหน้าเป็นเทพชัดๆ! เสี่ยติงเป็นนักการยศาสตร์ที่เก่งมากครับ ที่นั่งหรือเตียงนอนในห้องของพวกเราเป็นฝีมือการจัดวางของเสี่ยติงทั้งหมด แม้เราจะมีพื้นที่เพียงแค่น้อยนิด แต่มันกลับเหมือนเวทมนต์ เขาทำให้ทุกอย่างลงตัวและใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม!”
สีหน้าของชูฮันมีความข่มขืนแฝงอยู่จากนั้นก็ปรายตามองเหอซาง…ไอ้หมอนี่โชคดีแล้วเพราะเสี่ยติงจะกลับมาในอนาคตและกลายเป็นคนที่เก่งกาจ
การยศาสตร์เป็นสาขาที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและแทบไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือมีความสามารถทางด้านนี้แต่คนที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้จะสามารถควบคุมสนามรบได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่อาวุธชิ้นเล็กๆไปจนถึงอาวุธใหญ่ยักษ์ อย่างเช่นอาวุธใหญ่โตของเหอซางในชาติที่แล้ว การใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านนี้เข้ามาเกี่ยวข้องผสมกับสิ่งที่เหอซางได้เรียนรู้จากเหย่โม่มา เมื่อรวมเข้ากับความงามของการยศาสตร์มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากเสือที่พร้อมคุมป่านั่นเอง
แม้ชื่อเสียงของเสี่ยติงในชาติที่แล้วจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าเหอซางแต่ก็บอกได้ว่าเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในบางพื้นที่และมักจะถูกคนอื่นๆกลบทับชื่อเสียงด้วยเรื่องใหม่ๆก่อนทันที แต่ที่ชูฮันสามารถจำเสี่ยติงนั้นมันเป็นเพราะเรื่องบังเอิญล้วนๆ
เพราะอาวุธสุดท้ายของชูฮันในชาติที่แล้วชูฮันได้เสี่ยติงและอีกคนช่วยกันปรับแต่งให้อาวุธของเขา!
ถ้าเสี่ยติงกลับไปค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่ว่าจะร่วมมือกับเหอซางหรือหลูฮงเชิง เขาจะพัฒนาความสามารถในสนามรบของค่ายเขี้ยวมาหมาป่าได้ขึ้นไปอีกระดับ
ขณะที่ชูฮันกำลังนึกภาพอยู่ในหัวผสมกับอารมณ์ตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงอนาคตก้าวต่อไปของค่ายเขี้ยวหมาป่า กวงโถวที่แทบไร้ตัวตนในที่นี้ก็เดินเข้ามาหาชูฮัน เบ่งกล้ามเนื้อแข็งปังของเขาด้วยท่าทางกระตือรือร้น “หัวหน้าชูฮัน ผมชื่นชมหัวหน้ามานาน หัวหน้าจะช่วยกรุณาดูผมหน่อย ว่าผมมีความสามารถด้านอะไรครับ?”
”เลอะเทอะ!หลบไปๆ” เหอซางดึงตัวกวงโถวกลับไปและดันตัวเองเข้ามาแทนที่ “หัวหน้าอย่าไปเสียเวลากับสองคนนี้เลยครับ หัวหน้ามาเข้ากะแทนเฉินเจิ้น? แสดงว่าหัวหน้าต้องการจะทำอะไรบางอย่าง?”
ชูฮันพยักหน้าสีหน้ากลับเข้าสู่ความจริงจัง น้ำเสียงนิ่งลึกอย่างไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ “เหอซาง ฉันขอถามอย่างหนึ่ง…นายเป็นสมาชิกของ Mensa รึเปล่า?”
เหอซางชะงักไม่เคยคาดคิดว่าชูฮันจะถามคำถามนี้ออกมา หากมันแค่วินาทีเดียวเหอซางก็พยักหน้ารับ “ครับ…หัวหน้ารู้จัก Mensa?”
เสี่ยติงและกวงโถวที่ยืนอยู่ข้างหลังได้แต่มองหน้ากันและกันอย่างไม่เข้าใจว่าชูฮันและเหอซางกำลังคุยอะไรกันอยู่
มีความดีใจฉายวาบผ่านนัยน์ตาของชูฮันไปครู่หนึ่งเขายื่นมือที่สั่นเทาออกมาอย่างโล่งอก ค่อยๆสัมผัสที่ไหล่ของเหอซางและบีบเบาๆ “เหอซาง ครั้งนี้ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนายแล้วล่ะ”
”หัวหน้า!”เหอซางร้องอย่างตื่นเต้น “การได้รับใช้หัวหน้าเป็นเกียรติอันสูงสุดครับ ไม่ว่าหัวหน้าต้องการอะไร ผมจะสู้จนตัวตายเพื่อทำให้สำเร็จครับ!”
”ฉันไม่ได้อยากจะมาเร่งนายในเวลาฉุกเฉินแบบนี้หลักๆคือฉันต้องการตรวจสอบคนสองคน ทั้งคู่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ Mensa” แววตาของชูฮันมีแต่ความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “แต่เหอซาง นายจะต้องพูดความจริงกับฉัน นายเป็นสมาชิกหลักขององค์กรหรือไม่?”
”ครับ!”เหอซางค่อยๆรายงานสถานการณ์ของ Mensa ออกมา “Mensaจีน มีสมาชิกหลักทั้งหมดสิบคน ไล่เรียงลำดับตามความฉลาด สมาชิกคนอื่นๆอาจจะไม่รู้จักสมาชิกทั้งหมด แต่ผมรู้จักสมาชิกหลักทุกคน!”
”เดี๋ยวเดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสียติงก็อดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้นมา เขาทั้งตกใจและงุนงง “คืออะไร? อะไรคือเรียงตามลำดับความฉลาด? พี่เหอซางผมรู้ว่าระดับ IQ ของพี่มันสูงมาก แต่พี่ไม่ได้บอกฉันเลยว่าพี่อยู่ในองค์กรที่เรียงลำดับตามความฉลาดขนาดนี้?”
”อย่าพูดอะไรไร้สาระ!อย่าพูดแทรก!” กวงโถวพูดขัดประโยคของเสี่ยติงอย่างจัง ทำให้คำถามของเสี่ยติงไม่มีความหมายทันที ที่จริงกวงโถวเองก็ไม่เข้าใจสถานการณ์เลยสักนิด เขาเขาพอจะเข้าใจความตึงเครียดได้จากท่าทางและสีหน้าของชูฮันและเหอซาง
ชูฮันไม่ได้ให้เวลาหัวล้านทั้งสองคนได้ทำความเข้าใจหลังจากได้ยินคำตอบของเหอซาง เขาก็สูดลมหายใจเข้าสั้นๆ หัวใจเต้นรัวแรงจนแทบจะระเบิด
พ่อของเขาเป็นสมาชิกหลักของMensa!
”นายรู้จักชูหยุนเทียนมั้ย?”หลังจาากรวบรวมความกล้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ ชูฮันก็เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆที่เหอซางไม่เคยได้ยินมาก่อน
นัยน์ตาดำของเหอซางหดตัวสมองที่มี IQ เท่ากับ 205 ประมวลผลร่วมกับความเป็นไปได้ที่แน่นอน จากนั้นก็รายงานข้อมูลที่เขารู้ออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย “ชูหยุนเทียน สมาชิกหลักของ Mensa แห่งจีน ระดับทางปัญญาอันดับที่ 10 ของจีน เป็นสมาชิกที่มีคุณค่าอย่างมากต่อองค์กรเช่นเดียวกับ… ”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้น่ำเสียงของเหอซางก็เปลี่ยนไป สบตากับชูฮันอย่างค้นหา “ภรรยาของชูหยุนเทียน ซึ่งก็คือ หยวนซีเย เองก็เป็นสมาชิกของ Mensa เช่นกันหากไม่ใช่สมาชิกหลักขององค์กร การจัดอันดับทางปัญญาเป็นรองแค่ชูหยุนเทียนแห่ง Mensa จีนเท่านั้น เธออยู่ในอันดับที่ 11 ชูหยุนเทียนและหยวนซีเยเป็นคู่รักที่มีชื่อเสียงมากทางด้านสติปัญญาระดับสูง”