1706-1 vs 1706-2 vs 1706-3 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1706-1 เทพฉินดูแลน้องจิ่ว หวานจัง
ฉินมั่วแนบรอยจูบบนต้นคอของเธอในทันทีที่พูดจบ แต่ละครั้งจูบที่ว่าก็ให้ความรู้เย็นนิดๆ กระทั่งหลังจากที่อุณหภูมิของเขากลับมาเป็นปกติ ผิวก็ขาวเนียนเหมือนเนื้อหยก ทั้งยังแนบชิดเธอชนิดไม่เหลือช่องว่าง แต่ไม่ได้ลุกหน้าไปมากกว่านี้
ความมืดจากก้นบึ้งนัยน์ตาทำให้เขาดูร้ายกาจมาก “พวกเรามาเปลี่ยนวิธีทำให้เหงื่อออกกันไหม”
ป๋อจิ่วมองเขาด้วยสติที่หลุดลอย ขนตาสั่นเล็กน้อย ลมหายใจร้อนลุ่มขึ้นเรื่อยๆ
ฉินมั่วอุ้มอีกฝ่ายขึ้นด้วยแววตาหนักอึ้ง ทุกจุดที่นิ้วของเขาพาดผ่าน ล้วนแต่ทำให้ป๋อจิ่วต้องแอ่นตัวชนิดที่ข่มไม่อยู่
เพียงเพื่อให้เหงื่อออกดั่งที่ชายหนุ่มพูดไว้นั่นแหละ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รุกคืบ เมื่อทำจนเจ้าหล่อนแดงเถือกไปทั้งใบหน้าและใบหู เขาก็หัวเราะเบาๆ ข้างหูเธอ ก่อนจะละเลียดกลีบปากของเธออย่างแผ่วเบา จนกระทั่งความง่วงเริ่มมาเยือน ป๋อจิ่วเบือนหน้าไปก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ส่วนฉินมั่วมองดูคนที่หลับในอ้อมกอดตัวเอง นัยน์ตาคู่ดำที่เคร่งเครียดขึ้น
ช่างเถอะ! ใช่ว่าจะรีบหนีไป เพราะจะไปที่ไหนก็เหมือนกันอยู่ดี รอจนเบื่อแล้วค่อยไปก็ได้
“ป๋าของฉัน เธอจะทำให้ฉันสนุกได้นานสักเท่าไรกันนะ?” ฉินมั่วหัวเราะ จับเส้นนผมของเธอ มุมปากแยกยิ้มเป็นวงกว้าง
ใช่ว่าจะไม่มีอะไรน่าสน อย่างน้อยยัยเด็กนี่ก็หอมดี แถมเวลาอุ้มก็ให้ความสัมผัสที่นุ่มละมุน ทำให้คนอุ่นไปทั้งตัว ต่างไปจากกลิ่นไอเย็นยะเยือกบนตัวเขา
ฉินมั่วเลิกคิ้ว ก่อนจะกดคางลงบนศีรษะอีกฝ่าย แล้วกอดเธอด้วยมือข้างเดียว พลางสำรวจคนในอ้อมกอด
ป่วยขนาดนี้ น่าจะสู้ไม่ไหว
แต่ฉินมั่วรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สภาพที่แท้จริงของเธอ เพราะไม่มีใครหรอกที่กล้าสู้กับสปีดโบ้ทกว่าสิบลำ ทั้งยังกดไฟแช็กระเบิดตามคำพูดที่ลั่นไว้ ด้วยท่าทีที่เท่อีกต่างหาก
คนแบบนี้จะว่าง่ายแบบนี้ น่าจะหาได้น้อยมาก
ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง เวลานี้ป๋อจิ่วเป็นเด็กดีจะตาย เวลาสงบเสงี่ยมก็ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าชายน้อย กระทั่งเส้นผมสีดำยังปรกลงมาปิดหูและตา เหลือเพียงคางได้รูปที่ขาวเนียน
ฉินมั่วจ้องอยู่นาน ก่อนจะหันไปจูบศีรษะเธอ จากนั้นพลันชะงักขึ้น คิ้วของชายหนุ่มขมวดมุ่น ความเย็นชาค่อยๆ กระจายออกมา
ไม่มีใครรู้ว่าฉินมั่วคิดอะไรอยู่
ความมืดนอกหน้าต่างค่อยๆ คืบคลาน ด้วยเหตุที่ยังไม่มาเยือนเต็มที่ ทำให้ดวงดาวสวยเหลือเกิน ส่งผลให้คนง่วงนอนได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อได้กอดใครบางคน ยิ่งทำให้ไม่รู้สึกหนาว
ทว่าอุณหภูมิของคนในอ้อมกอดกลับทวีขึ้นเมื่อมาถึงตอนเที่ยงคืน ตัวเธอร้อนจัดจนทำให้ฉินมั่วที่หลับไปแล้วถึงกับสะดุ้งตื่น
ฉินมั่วทาบมือบนหน้าผากป๋อจิ่วทันที หลังจากที่สัมผัสได้ถึงความร้อนสูงที่เกิดขึ้นนัยน์ตาเขาก็เคร่งเครียด จึงลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินออกไปทั้งๆ ที่เปลือยท่อนบน และไม่ได้สวมเสื้อคลุม
เวลานั้นท้องฟ้ามืดมิด เจ้าของโรงแรมเป็นคนท้องถิ่น กำลังดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ อยู่ข้างล่าง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แยกย้ายไปไหน
ฉินมั่วไม่หยุดพัก เดินไปหา “คุณมีแอลกอฮอล์ไหม?”
เจ้าของโรงแรมมองหน้าฉินมั่ว ดื่มเหล้าโดยไม่ยอมตอบ พูดเล่นกับเพื่อนต่อไป และในขณะที่กำลังเอื้อมมือไปหยิบถั่วลิสงเข้าปาก ก็ได้ยินเสียง ‘ปั๊ก!’
…………………………………………….
ตอนที่ 1706-2 เทพฉินดูแลน้องจิ่ว หวานจัง
ไพ่ใบหนึ่งปักเข้าที่หลังมือเฮียอย่างจัง เลือดไหลออกมา แม้จะไม่มาก แต่เจ็บพอจะทำให้เฮียหน้าถอดสี ซึ่งคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามลุกพรวดขึ้น กะจะทุบหัวฉินมั่วให้หมอบ แต่แค่เงื้อง่าขวดเหล้าขึ้น ก็ถูกชายหนุ่มคว้าข้อมือไว้ เพียงออกแรงบิดนิดเดียว “เพล้ง!” ขวดเหล้าร่วงลงพื้น เล่นเอาคนทั้งสามถึงกับหน้าถอดสี โดยเฉพาะเฮียเจ้าของโรงแรมที่มองดูมือตัวเองด้วยแววตาหวั่นไหว
ฉินมั่วค้ำมือที่พนักเก้าอี้ ยิ้มเล็กน้อย เสียงดังขึ้นข้างหูอีกฝ่ายราวกับเป็นจอมมารแสนสง่า “มีแอลกอฮอล์ไหม?”
“มี มีจ้า” เฮียกุมมือตัวเอง “เดี๋ยวไปเอามาให้นะจ๊ะ”
ฉินมั่วยิ้มอย่างยินดี “ขอบคุณ” ทำให้เฮียได้ยินแล้วถึงกับสั่นเทาไปทั้งตัว ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ ตอนแรกเห็นว่าไม่ใช่ชายหนุ่มคนพื้นที่ เฮียจึงไม่ใส่ใจ ตอนนี้เฮียไม่กล้าละเลยอีกต่อไป
ผู้ชายที่เหมือนจอมมารคนนี้ ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อตอนที่เด็กคนนั้นพยุงขึ้นห้องเลยนี่นา ทั้งๆ ที่ยิ้มอยู่แท้ๆ แต่กลับทำให้คนหนาวจับสั่น ยอมฟังคำสั่งแต่โดยดี
ทั้งนี้นอกจากแอลกอฮอล์แล้ว ฉินมั่วยังยกน้ำร้อนขึ้นชั้นบนอีกด้วย ก่อนจะจากไป เขาทิ้งคำพูดเพียง “ข้างบนมีคนป่วย ต้องการพักผ่อนเงียบๆ ฉะนั้นอะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าทำเลย”
เฮียตกตะลึง รับคำลนลาน “ครับ” ความเจ็บบนหลังมือไม่ทำให้เขาโกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด ส่วนคนเดียวที่เหลือซึ่งไม่บาดเจ็บรีบเข้ามาหา “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ท่าทางก็สุภาพดีหรอก แต่ทำไมใช้ไพ่ทำร้ายคนเป็น?”
“จะไปรู้ได้ไงวะ” ถ้ารู้จะหาเรื่องเสี่ยงตายเรอะ?
ทางด้านฉินมั่วยกน้ำร้อนเข้าไปในห้อง ใช้ขายาวเกี่ยวประตูให้เปิดออก อันที่จริงต่อให้เปลือยท่อนบน ชายหนุ่มก็ยังดูไม่เหมือนคนอื่น เพราะบารมีประจำตัวไม่เคยจางหาย แต่เพราะแววตาที่ไม่เหมือนใคร อันกลมกลืนไปกับบรรยากาศอันมืดมิด
ชายหนุ่มมองดูป๋อจิ่วที่นอนบนเตียงแวบหนึ่ง แล้วหยิบผ้าขนหนูมาชุบน้ำร้อน วางบนหน้าผากขาวสะอาดของเธอ
ปรอทวัดไข้ที่นี่ไม่สะอาด แม้ว่าเฮียเจ้าของโรงแรมจะมี แต่ฉินมั่วก็ไม่เอา ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ซื้ออมยิ้มที่ชั้นวางขนมขบเคี้ยวตรงเคาเตอร์มาด้วย อาจเป็นเพราะตอนนั้นเขารอน้ำร้อน รู้สึกเบื่อเลยซื้อมาถือเล่นๆ ตอนนี้เขาแกะถุงห่อของมันออก แล้วแตะอมยิ้มลงบนเรียวปากเธอ
ฉินมั่วเห็นป๋อจิ่วไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ก็ก้มลงไปแยกเรียวปากเธอด้วยปากตัวเอง ก่อนจะถอนตัวออกมา ให้เธองับอมยิ้มในมือเขาแทน
คงเพราะเธอได้รับรสหวานในปาก จึงเห็นริมฝีปากบางๆ ของเธอขยับ ไม่ขมวดคิ้วด้วยความทรมานเหมือนเมื่อครู่อีก
ฉินมั่วรู้สึกว่าตนเองไม่ชอบเห็นเวลาที่เจ้าเด็กคนนี้ไม่มีความสุข ในเมื่อได้ของเล่นมาแล้ว ก็ต้องทำให้มันดูสวย
ฉินมั่วดึงมือป๋อจิ่วออกมา แล้วใช้คอตตอนบัดแตะแอลกอฮอล์มาถูตามข้อต่อให้เธอ ไม่เพียงแค่ที่มือ ยังรวมถึง เข่า แอ่งชีพจร ท้องน้อย…
ป๋อจิ่วนอนไม่สงบนักด้วยภาวะทรมานจากอาการไข้ขึ้น เมื่อได้รับสัมผัสที่เย็นสบาย ก็อดลืมตาขึ้นมาไม่ได้
…………………………………………….
ตอนที่ 1706-3 เทพฉินดูแลน้องจิ่ว หวานจัง
เสี้ยวหน้าขาวหล่อภายใต้แสงไฟปรากฏอยู่ในดวงตาเป็นสิ่งแรก ชายหนุ่มกำลังก้มศีรษะ แววตาเขาเหมือนจะมีเพียงแค่เธอ
ในขณะที่กำลังเช็ดไปถึงเรียวขา ซึ่งหากเธอไม่ตื่นยังพอว่า แต่เมื่อตื่น ประสาทสัมผัสก็กลับมา ความวาบหวามเข้ามาเยือนเป็นระลอกๆ รวมถึงนัยน์ตาลุ่มลึกคู่นั้น ร่างของเธออ่อนปวกเปียกเหมือนน้ำในสระ ความอ่อนนุ่มกระจายไปทั่ว ลามไปถึงดวงตาอีกต่างหาก
ฉินมั่วมองดูหน้าแดงเรื่อและแววตาหยาดเยิ้มของป๋อจิ่ว ถึงกับชะงักมือ ก่อนจะบุกจู่โจมด้วยการจูบลงบนแอ่งชีพจรของเธอ อันต่างไปจากเมื่อก่อน นิ้วของเขายังคงเกาะอยู่ที่เดิม แล้วเลื่อนลงไป ความนุ่มหยุ่นที่สัมผัสได้ รวมถึงความอวบที่แนบเนื้อ ทำให้ลมหายใจของเขาเริ่มไม่ปกติ ทว่าเขาเก็บกลั้นไว้ได้ แม้ว่าการอดทนเช่นนี้จะทำให้เขาดูแปลกไป แต่ในฐานะที่เป็นนักจิตวิทยาด้านอาชญากรรม เขาจะลงมือกับของเล่นตัวเองได้ไง
ในเมื่อเป็นของเล่นที่ใช้เล่นสนุกได้ ทิ้งได้ ดังนั้นจะเดินหน้าให้ถึงที่สุดไม่ได้หรอก
ฉินมั่วหยุดทันทีที่มาถึงจุดสำคัญ มองดูใฝเสน่ห์ใต้ตาเธอที่เปล่งประกาย จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ “ป๋าเนี่ย ชอบทำให้คนหลงเสน่ห์แบบไม่ตั้งตัวอยู่เรื่อยเลย”
ป๋อจิ่วรู้ตัวเช่นกันว่าชายหนุ่มไม่อยากแตะต้องเธอ แต่ร่างกายหนาวเย็นมาก สติก็เช่นกัน เธอหลับลงท่ามกลางความหนักอึ้ง
ไม่รู้ว่านานเท่าไร ดูเหมือนเธอจะถูกกอดอีกแล้ว ทั้งยังได้ยินเสียงลอยมาในบางครั้ง เสียงที่ดูเหมือนจะแฝงความยโส “เป็นถึงขั้นนี้แล้ว อุณหภูมิยังไม่ลดลงเลย ป๋าเอ๊ย เธอดีขึ้นสักทีเถอะ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันต้องปรนนิบัติคนอื่นแบบนี้”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วแอบขำ มีใครบ้างที่บีบบังคับให้คนป่วยหายไข้ อีกอย่าง ท่านเทพ อันที่จริงพี่ต้องพูดว่า คุณชายอย่างฉัน ไม่ใช่เหรอ?
ไม่รู้ว่าทำไม ป๋อจิ่วถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขาเหมือนเมื่อตอนเป็นเด็กเลยทีเดียว คงเพราะอ้อมกอดของชายหนุ่มให้ความสบายเหลือเกิน
เมื่อมาถึงตีสาม ด้านหลังของเธอจึงชุ่มไปด้วยเหงื่อ เรียวขาเริ่มกระดิก ไม่ขยับเขยื้อนมากไปกว่านี้ ชายหนุ่มจึงจับร่างเธอไว้ “เป็นอะไรไป?”
“ร้อน” ป๋อจิ่วเอ่ย พลางจะเลิกผ้าห่มออก แต่ฉินมั่วกลับเอามาพันร่างเธอไว้ไม่ให้ขยับ เอ่ยเพียงว่า “นอนซะ” ทว่ายังคงร้อนอยู่ดี มีเพียงวิธีเดียวที่เธอคิดออก นั่นคือดึงความเย็นจากร่างเขา
ฉินมั่วมองดูใบหน้าที่แนบแผ่นอกตัวเองด้วยแววตาหนักอึ้ง กำมือแน่นอีกครั้ง
คืนนั้นผ่านไปด้วยประการฉะนี้ รอจนยัยเด็กนี่นิ่ง เส้นผมบนหน้าผากก็เปียกชื้นจนแนบหน้า ฝ่ายฉินมั่วเลิกคิ้ว เช็คอุณหภูมิบนหน้าผากเธอก็พบว่า ไม่ถึงขั้นร้อนฉ่าแล้ว เยี่ยมมาก! เพราะเขาไม่อยากให้ของเล่นของเขาอยู่ในสภาพป่วยอ่อนแอ
จนเกือบตีสี่ครึ่งเห็นจะได้ ป๋อจิ่วถึงได้หลับสนิท
เมื่อตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าด้านนอกก็สว่างโล่ แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างมาโดนหน้าเธอ พอหันศีรษะไปก็ได้เห็นใบหน้าหลับที่ทำให้คนหลงใหล
ทุกครั้งที่ท่านเทพนอนหลับสนิท ล้วนแต่ทำให้คนนึกถึงคำว่าสะอาดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนโต ป๋อจิ่วมองเรื่อยลงไปจนเห็นมือของเขาที่พาดเอวตน
เตียงตัวนี้แคบจริงๆ ทั้งสองจำเป็นต้องตะแคงตัวนอน และด้วยเหตุนี้เธอและเขาจึงอยู่ใกล้ชิดกันมาก ลมหายใจของเขาจึงตกกระทบใบหูเธอ จากนั้นบางสิ่งก็ดึงความสนใจจากเธอไป สิ่งที่แขวนบนคอเขา เหมือนของที่ตอนนั้น…
ป๋อจิ่วกำลังจะยื่นมือไปจับ แต่ถูกเขารั้งไว้เสียก่อน แล้วพลิกตัว ปล่อยลมหายใจออกมาด้วยแววตาถมึงทึง เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าที่ตรึงใจคน “ท่าทางป๋าจะไม่รู้ล่ะสิว่า ห้ามล้อเล่นกับผู้ชายในช่วงเช้า”
…………………………………………….