ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 452 คุณหันหน้ามา……
พอถึงห้องพี่ชายแล้วพูดให้ฟัง ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เด็กชายสองคนนั้นก็ดีใจสุดๆ แต่ละคนต่างเก็บกระเป๋าอยู่ในห้อง เอาของทุกอย่างไปด้วยอย่างรอไม่ไหว
แสงดาวอยู่ในห้องหลานชายสองคนเห็นเข้า ก็พูดไม่ออกพักหนึ่ง
“เกรงว่านี่จะไม่ใช่เด็กโง่สองคนแล้ว นี่สมควรดีใจด้วยหรือ?ไม่รู้ว่านี่แม่พวกแกไปช่วยพ่อพวกแกหรือไง?”
“……”
ผู้หญิงแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่อายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่แต่งงาน ที่แท้ก็มีเหตุผลจริงๆ
เส้นหมี่ที่ถือกระเป๋าเดินทางของลูกสาวเดินมาจากตรงทางเดิน พอได้ยิน ก็ไม่พูดอะไร แต่โยนกระเป๋าให้เธอ
“ไปส่งพวกเราหน่อย”
“เกี่ยวอะไรกัน?เส้นหมี่ ฉันว่าตอนนี้เธอชักจะทำอะไรตามอำเภอใจแล้วนะ จิกหัวใช้ฉัน ฉันเป็นคนใช้เธอหรือไง?”
ผู้หญิงคนนี้บ่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจทันที
เส้นหมี่ชำเลืองมองขาตัวเองเบาๆ:“ฉันไม่สะดวกนี่ อีกอย่าง ฉันจะกล้ามองเธอเป็นคนใช้ได้ไงกัน เธอเป็นป้าของเด็กๆ เป็นที่พึ่งเพียงคนเดียวของพวกเราในตอนนี้ ฉันไม่เรียกเธอแล้วจะเรียกใคร?”
แสงดาว:“……”
ประโยคนี้ ทำให้เธอไม่อาจคัดค้านได้เลย
ที่พึ่ง?
โอเค งั้นก็ตกลงอย่างไม่เต็มใจละกัน
เธอถือกระเป๋าแล้วลงไป
ไม่กี่นาทีต่อมา เส้นหมี่พาเด็กทั้งสามคนออกไป พี่ภาก็กำชับเธอหลายครั้งว่า:“คุณนาย คุณจะต้องพาคุณชายกลับมาอย่างปลอดภัยนะคะ ได้แต่หวังพึ่งคุณแล้ว”
“เข้าใจแล้วค่ะ พี่วางใจเถอะ ฉันทำได้แน่”
เส้นหมี่ตอบเธออย่างแน่ใจ และก็เหมือนรับประกันให้ตัวเองด้วย
ใช่ เธอจะต้องพาเขากลับมาอย่างแข็งแรง
เขาหลอกเธอมานาน เธอยังไม่คิดบัญชีกับเขาเลย
แล้วรถยนต์ก็ออกไปจากเรืองรองในคืนนั้น
ณ ชานเมือง หมู่บ้านดอกหอม
หมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาที่ดึกมากแล้ว รอบๆ มีแต่ความมืด ไม่มีไฟ และก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ราวกับว่าหลับสนิท ทั้งหมู่บ้านเงียบมากจนได้ยินแค่เสียงร้องของกบตัวสองตัวออกมาจากทุ่งนาเป็นครั้งคราว
ท้ายหมู่บ้านคือบ้านของลุงหมีชาวบ้านคนหนึ่ง
ครอบครัวนั้นที่เส้นหมี่เคยพาเด็กๆ มาอยู่ ในครั้งที่แล้วที่โรงเรียนอนุบาลมาร่วมกิจกรรม
และตอนนี้เอง ชั้นสองของบ้านอิฐนี้ มีคนหนึ่งนอนอยู่
แต่ว่า ตอนนี้เขากำลังเอาแต่พลิกตัวไปมาบนเตียง และยังได้ยินเสียงครางของเขาอย่างไม่ชัดเท่าไหร่ด้วย
“คุณ ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ว่าปวดหัวอีกหรอกนะ?พวกเราจะไปดูไหม?”
ป้าแจ่มภรรยาของลุงหมีเป็นคนที่หูดีมาก เธอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเล็กน้อย ก็ปลุกสามีที่นอนอยู่ด้านข้างทันที อยากจะขึ้นไปดู
ลุงหมีลืมตาขึ้นมา
จริงด้วย ดูเหมือนว่าจะกำลังส่งเสียงฮึดฮัด
ทั้งสองคนลุกขึ้นมา จากนั้น ป้าแจ่มก็หาน้ำมันยาขวดหนึ่งแล้วขึ้นไป
“ก๊อกก๊อกก๊อก——”
“คุณแสนรัก คุณปวดหัวอีกแล้วใช่ไหม?ฉันเอาน้ำมันยามาให้คุณ คุณทาหน่อยสิ”
ป้าแจ่มเคาะประตู เรียกคนด้านใน อยากเอาน้ำมันยาเหล่านี้ไปให้
ในหมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาแบบนี้ ไม่มีของดีๆ อะไรหรอก แต่หลังจากผู้ชายคนนี้มาบ้านของพวกเขา พวกเขาก็มีเงินเข้ามาไม่น้อย พวกเขาจึงยอมเอาส่วนที่ดีที่สุดในบ้านให้เขา
เคาะอยู่หลายที ถึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินโซเซเข้ามาจากด้านใน
“แอ๊ด——”
วินาทีที่ประตูเปิดออก ที่ออกมาจากด้านใน เป็นกลิ่นบุหรี่แรงๆ จนป้าแจ่มจามออกมาตรงนั้นหลายครั้ง
“โอ๊ย ตาคนนี้ ทำไมสูบบุหรี่อีก?ดูสิถึงได้ปวดหัวอีก คุณต้องระวังร่างกายตัวเองให้ดีสิ”
“ใช่ ยังหนุ่มยังแน่น คุณทรมานร่างกายตัวเองแบบนี้ได้ไงล่ะ?”
ลุงหมีก็ได้กลิ่น ทันใดนั้น เขาก็มองชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยสภาพจิตใจที่ดูแย่สุดๆ แล้วเตือนเขาอย่างหวังดี
เขาดูแย่จริงๆ
ใบหน้าที่เคยหล่อเหลา แต่ไม่กี่วันนี้ หนวดเครายาวขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำ แล้วก็สภาพของเขาที่ขาวซีด
ดูแล้วน่าตกใจมาก
ลุงหมีกังวลเล็กน้อย เขาถามว่า:“พ่อหนุ่ม คุณจะไปดูอาการที่ศูนย์สุขภาพของพวกเราไหม?ผมจะไปเรียกเขา เขาจะได้ตื่นมาดู”
“ไม่ต้อง……”
ในที่สุดแสนรักก็พูด ทนต่อความเจ็บปวดของหัว อยากจะไล่สองคนนี้ออกไปโดยเร็ว
แต่ว่า สามีภรรยาคู่นี้เห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว กลับยิ่งเป็นห่วง
“นี่คุณ คุณไปต้มไข่เหล้าหวานเสร็จแล้วเอามาให้เขา”
“เฮ้อ โอเค”
“เดี๋ยวผมไปหาพินัย ให้เขามาดูหน่อย”
จากนั้นสองคนนี้ก็ออกไป
คนหนึ่งไปต้มให้แสนรักกิน ส่วนอีกคนไปหาหมอเท้าเปล่าคนนั้นของพวกเขาที่นี่ให้เขา
แสนรัก:“……”
ศีรษะปวดขึ้นมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขาไม่มีแรงที่จะสนใจพวกเขาเลย เตาะแตะกลับไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
ตั้งแต่วันนั้น ในหัวของเขา ก็ดูเหมือนจะกลับไปก่อนหน้านี้อีกครั้ง
แสนรักนอนอยู่อย่างสะลึมสะลือ ไม่รู้ว่าเจ็บจนเลอะเลือนหรือเปล่า?หรือว่าสุดท้ายแล้วอ่อนเพลียจริงๆ เขาดูเหมือนมองเห็นร่างคนสามสี่คนเข้ามา ท่ามกลางความเลอะเลือน
“สาวน้อย เขาเนี่ยแหละ เขาเป็นสามีคุณหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
เสียงที่เร่งรีบ พร้อมกับความอ่อนโยนที่เขาคุ้นเคย คล้ายกับลมเบาๆ ที่จู่ๆ ก็พัดผ่านสายน้ำ เป่าเข้าไปในแก้วหูของเขาแล้ว เขาก็เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตทันที