บทที่ 238 คิดไม่ซื่อ(2)

พอคิดถึงจุดนี้ เธอก็รีบแนะนำเซียวฉางเฉียน ว่า “นี่คือลูกชายคนโตของฉัน ชื่อว่า เซียวฉางเฉียน”

เซียวอี้เชียนก็พยักหน้าให้กับเซียวฉางเฉียน แต่ว่าท่าทางเหมือนไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไร

นายหญิงใหญ่ก็นะนำเซียวไห่หลงอีก “ประธานเซียว นี่คือหลายชายฉัน เซียวไห่หลง”

เซียวไห่หลงก็ก้มหน้านอบน้อม แล้วพูดว่า “สวัสดีครับประธานเซียว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”

เซียวอี้เชียนก็ตอบรับไปอย่างนั้น โดยไม่รอให้นายหญิงใหญ่แนะนำต่อ สายตาของเขาก็หันไปจับจ้องบนตัวของเซียวเวยเวยแล้ว

ในตอนนี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็ยิ้มร้ายๆ แล้วก็แนะนำเซียวเวยเวย “ประธานเซียว คนนี้ ก็คือหลายสาวของฉัน เซียวเวยเวย”

เซียวอี้เชียนก็โล่งอก

เขามาตระกูลเซียวครั้งแรก ก็ยังกังวลอยู่ว่าเซียวเวยเวยจะเป็นภรรยาของเซียวไห่หลงหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ตนเองก็คงจะไม่มี

โอกาสลงมือแล้ว

แต่พอได้ยินว่าเธอก็เป็นคนตระกูลเซียว เซียวอี้เชียนก็ใจชื้นขึ้นมา

ถึงแม่เซียวเวยเวย จะไม่นับว่าสวยมาก แต่ก็นับว่าสวยในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้น เหวินเฟยแห่งตระกูลหวัง ก็คงไม่เล็งเธอ

ไว้หรอก

แต่น่าเสียดาย เซียวเวยเวยความสวยของเซียวชูหรันมากดทับเอาไว้ ดังนั้น ไม่ว่าจะในตระกูลเซียว หรือในเมืองจินหลิง ก็ไม่ค่อยมีหน้ามีตาเท่าไรนัก

แต่ว่าตอนนี้ เซียวชูหรันไม่อยู่ เซียวเวยเวยก็เพิ่งร้องไห้ไป ขอบตาและจมูกก็แดงๆ อยู่ ช่างทำให้ในใจของผู้เป็นชาย อยากจะเข้าไป

ดูแล เข้าไปปกป้องเสียจริงๆ ไปดูแลความรู้สึกของเธอ

นายหญิงใหญ่เซียวมองออกว่าเซียวอี้เชียนคิดไม่ซื่อกับเซียวเวยเวย ก็เลยรีบพูดว่า “ประธานเซียว เวยเวยอายุ24แล้ว ยังไม่มีแฟน ถ้าข้างกายของประธานเซียว มีหนุ่มๆ ที่เหมาะสมละก็ ก็สามารถแนะนำให้เวยเวยรู้จักได้นะคะ”

เธอไม่ได้อยากให้เซียวอี้เชียนแนะนำคู่ให้กับเซียวเวยเวยหรอก เธอเพียงอยากจะบอกว่ากับเซียวอี้เชียนว่า หลานสาวของตนยังโสด

ถ้าคุณอยากได้ ก็มีโอกาส

เซียวอี้เชียนก็ใจเต้นขึ้นมาจริงๆ

เขาอายุมากแล้ว ภรรยาก็แก่แล้ว ไม่ได้สนใจในตัวเธอหรอก

อีกอย่าง ที่ตนเองมาเมืองจินหลิงครั้งนี้ พอดีว่าภรรยาตนเองไม่ได้อยู่ด้วย ก็เที่ยวเล่นได้สบาย ถ้าใช้โอกาสนี้ ได้สนุกกับเซียวเวยเวยละก็ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลย

พอคิดถึงจุดนี้ เขาก็ยื่นมือไปหาเซียวเวยเวย แล้วยิ้มพูดว่า “คุณเวยเวยสวยเช่นนี้ ทำไมถึงยังไม่มีแฟนละครับ?”

ไม่พูดคำนี้ยังดี แต่พอพูดออกมา เซียวเวยเวยก็ตาแดง แล้วน้ำตาไหลออกมาอีก

ในใจเธอเสียใจจนจะตายแล้ว

ตอนนี้ตระกูลเซียวไม่ไหวแล้ว ความหวังดีๆ ของตนเองก็กลายเป็นผุยผง ตอนนี้เหวินเฟยก็มองตนเองเป็นเหมือนโรคระบาด หลบหน้าหนีหาย ไม่ต้องพูดถึงว่าได้แต่งกับตระกูลหวังเลย ต่อให้จะบอกเลิกไป เกรงว่าเขาก็คงไม่สนใจด้วยซ้ำ

ตนเองอนาถเช่นนี้ แต่พี่สาวตนเอง เซียวชูหรันกลับตรงข้าม ราวกับกระดี่ได้น้ำ คนใหญ่คนโตมากมายล้วนไปอวยพรที่เธอเปิด

กิจการใหม่ ได้ทั้งหน้าตา ได้ทั้งความเอิกเกริก ถ้าเทียบกันแล้ว จะให้ในใจเธอนั้นไม่โกรธ ไม่หัวเสีย ไม่สิ้นหวังได้อย่างไร?

พอเซียวอี้เชียนเห็นเซียวเวยเวยร้องไห้ ก็เริ่มเจ็บปวดใจในความสงคราม แล้วรีบพูดว่า “ไอหย๋า คุณเวยเวยเป็นอะไรไปครับนี่? ร้องไห้ทำไม?”

นายหญิงใหญ่เซียวก็รีบพูดว่า “ก็บริษัทของตระกูลเราเกิดขึ้นหาขึ้นนะสิคะ เวยเวยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทางบริษัท ในใจก็เลยไม่สบายใจ 2วันนี้ก็เอาแต่มาขอให้ฉันหาทางช่วยเหลือบริษัท แต่ว่าคนแก่อย่างฉันนั้น ขาหนึ่งก้าวลงหลุมไปแล้ว จะเอาอะไรไปช่วยบริษัทได้? ดังนั้นก็เลยไม่มีวิธี ได้แต่ทนดูหลานสาวสุดที่รักร้องไห้ระงมเช่นนี้……….”

เซียวอี้เชียนก็พูดกับเซียวเวยเวยโดยไม่คิดเลยว่า “คุณเวยเวยครับ ถ้าต้องการอะไรให้ช่วย ก็บอกผมได้เลยนะครับ! บางพอมีปัญหาอยู่บ้าง ไม่แน่ว่าอาจจะช่วยเหลือได้นะ?”

……