ตอนที่ 756 เกินกว่าจะรับได้

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ตอนที่ 756 เกินกว่าจะรับได้

 

ทันทีที่ชูฮันจากไปทั้งเสี่ยติงและกวงโถวยังคงตกอยู่ในสภาพงุนงงค้างอยู่ไม่หาย ส่วนเหอซางก็รีบสวมถุงมือและจัดการดึงสายไฟต่างๆออกมาจากด้านหลังหน้าจอและง่วนอยู่กับการจัดการสายไฟทั้งหลายที่น่ามึนงง เสี่ยติงและกวงโถวยังคงไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ขณะในห้องมีเพียงแค่เสียงรัวแป้นพิมพ์ที่ดังส่งเสียงอยู่ภายในห้องควบคุม

 

กระบวนการทั้งหมดทำให้หัวล้านทั้งสองคนมีสายตาไม่เข้าใจมันราวกับพวกเขากำลังดูแฮกเกอร์ทำการโจมตีอยู่ ความไม่เข้าใจและอาการตกใจทำให้พวกเขามองเห็นภาพหลอนของเหอซางอยู่ชั่วครู่หนึ่ง

 

”หัวหน้า?”เสียงเบาๆหากได้ยินชัด ไม่รู้ว่ามาจากไหน มันดังชัดไปหลายห้องที่สามารถสังเกตผ่านหน้าจอได้

 

ชูฮันที่กำลังเดินผ่านประตูโบ้ยปากไปที่ประตูที่ซ่อนอยู่”ความเร็วใช้ได้”

 

”แน่นอนครับในฐานะประธานสมาพันธ์ Red star ซะอย่าง!” เหอซางยิ้มกว้าง

 

ด้วยมืออันทรงพลังของเหอซางเขาสามารถเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดทุกห้องในแสดงผลผ่านหน้าจอได้ รวมถึงลำโพงและไมค์ในแต่ละห้องเช่นกัน ทำให้ไม่ว่าชูฮันจะอยู่ในห้องไหนก็สามารถสื่อสารกับเหอซางได้

 

ชูฮันยังคงเดินผ่านแต่ละห้องไปเรื่อยพร้อมกับเอ่ยถามด้วยเสียงนิ่งๆ “เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่านายเองก็เป็นประธานของสมาพันธ์ Red Star?”

 

”แน่นอนครับไม่อย่างนั้นมันจะสมกับ IQ ถึง 205 ของผมเหรอครับ?” เหอซางพูด ขณะรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ไม่หยุด

 

ตรงหน้าของเหอซางคือหน้าจอที่แสดงผลวงจรปิดกว่าร้อยห้องส่วนอีกจอยังคงดำสนิทพร้อมกับเสียงรัวแป้นพิมพ์ของเหอซางที่กำลังเจาะโปรแกรมเพื่อให้แสดงผลกล้องวงจรปิดอีกกว่าน้อยตัว เสี่ยติงและกวงโถวได้แต่ยืนมองอย่างตะลึงพร้อมกับความตื่นเต้นในใจ

 

สุดยอดอะไรขนาดนี้?นี้มันสุดๆไปเลย!

 

”อะไรคือสมาพันธ์Red Star? กลุ่มแฮกเกอร์เหรอครับ?” กวงโถวเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น ร่างกำยำสั่นเบาๆเนื่องจากสิ่งที่เขาได้รับรู้วันนี้มันมากเกินกว่าจะรับได้ทัน เพียงแค่ชั่วโมงเดียวแต่ความตื่นเต้นมันท่วมท้นเกินขีดจำกัด

 

”นายไม่รู้จักRed Star งั้นเหรอ?!” เป็นครั้งแรกที่เสี่ยติงรู้เรื่อง เขาดีดตัวขึ้นตะโกนลั่น รีบอธิบายทันที “มันคือเครือข่ายของเหล่าแฮกเกอร์ที่ใช้ป้องกันประเทศ! สมาพันธ์เป็นองค์กรประชาสังคมในจีนที่มีในยุคศิวิไลซ์ ฉันรู้เพราะเมื่อปีที่แล้วฉันเคยตรวจสอบข้อมูลนี้ตอนเล่นเกมออนไลน์ Red Star ช่วยประเทศจีนเอาไงตอนที่มีแฮกเกอร์จากประเทศอื่นที่โจมตีจีน”

 

”สุดยอดไปเลย!”กวงโถวยิ่งตื่นเต้นเพิ่มขึ้นไปอีก

 

”แน่นอนสุดยอด!สุดยอดมาก! สุดยอด!” เสี่ยติงร้องอย่างตื่นเต้นติดกันถึงสามครั้ง ตามมาด้วยแววตาชื่นชมและเทิดทูนให้แก่เหอซางที่กำลังรัวแป้นพิมพ์ไม่หยุดด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ “กลายเป็นว่าหัวหน้าคือประธานสมาพันธ์ Red Star นี่มันสุดยอด พี่เหอซางที่แท้คือพี่นี่เอง!”

 

”แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในยุคศิวิไลซ์อีกแล้วนอกเหนือจากค่ายหลักๆ คนอื่นๆไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เทคโนโลยีเลย” ทันใดนั้นกวงโถวก็นึกถึงความเป็นจริงขึ้นมา

 

เสี่ยติงเองก็ชะงัก

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังหดหู่จู่ๆเหอซางที่กำลังยุ่งอยู่ก็หันกลับมา แววตาเต็มไปด้วยความยโส “พูดอะไร? การโจมตีของแฮกเกอร์จากประเทศอื่น? ต่อต้าน Red Star อะไร?”

 

”อะไรน่ะครับ?”เสี่ยติงอ้าปากค้าง จ้องเหอซางตาแทบถลน

 

”RedStar โจมตีทำเนียบประธานาธิปดีได้สำเร็จ” เหอซางเอ่ยออกมานิ่งๆ จากนั้นก็เพิ่มอีกประโยคต่อ “มันเป็นการประลองระหว่างฉันกับฝั่งอเมริกาเพื่อเอาชนะเครือข่ายของทั้งประเทศ!”

 

”ห้ะ!”เสียงตะโกนของเสี่ยติงและกวงโถวดังลั่นทั่วห้อง ทั้งคู่รู้สึกราวกับเจอพายุถล่มทับ มันสับสน หากทั้งตื่นเต้น พวกเขารู้แค่ว่ามันสุดยอด…

 

ในตอนนี้ทั้งคู่มองเพียงแค่แผ่นหลังของเหอซาง หัวล้านเป็นเงาสะท้อนนั้นดูน่าตลกอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าเหอซางตรงหน้าพวกเขาจะเป็นคนที่สุดยอดได้ขนาดนี้

 

อันดับที่1 ของ Mensaจีน ประธานสมาพันธ์ Red Star ตัวตนลึกลับทั้งสองข้อนี้ช่างแตกต่างจากเหอซางที่พวกเขารู้จัก คนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ถ้าไม่ได้ยินพวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลย มันเกินจะเชื่อได้ลง

 

คนยิ่งใหญ่ขนาดนี้อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้วเสี่ยติงกับกวงโถวจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?

 

มันน่าตื่นเต้นสุดๆที่ได้เจอกับคนที่ไม่ต่างจากเทพพระเจ้า!

 

ในเวลาเดียวกันชูฮันก็ยังคงวิ่งไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเขาก็มาถึงห้องที่น่าสนใจห้องหนึ่ง แป้นล็อครหัสลายนิ้วมือข้างประตูดูน่าสงสัยอย่างมาก ชูฮันหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องนี้ ห่างออกไปภายในห้องควบคุมเหอซางก็กำลังเจาะผ่านโปรแกรมเพื่อปลดล็อคประตูห้องที่ชูฮันยืนอยู่ เสียงจังหวะรัวนิ้นของแป้นพิมพ์ที่ดังต่อเนื่องจู่ๆก็หายไป นิ้วของเหอซางเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ปุ่มสุดท้าย หน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเล็กน้อย แววตาเป็นประกายจ้า

 

”หัวหน้าผมขอเวลา 5 นาทีในการอธิบายขั้นตอนต่อไปและหลักการทำงานครับ” เสียงของเหอซางดังขึ้นจากลำโพงข้างหลังชูฮัน

 

ชูฮันยิ้มมุมปากก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้หน้าประตูอีก น้ำเสียงอึมครึม “ฉันจะให้โอกาสนายก่อน”

 

ที่จริงมันไม่ค่อยมีการพูดคุยอะไรมากมายระหว่างชูฮันและเหอซางบทสนทนาส่วนใหญ่ของทั้งคู่ต่างเป็นความเข้าใจกันเอง ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายหรือปรึกษาให้มากความ

 

ดังนั้นเสี่ยติงและกวงโถวที่ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าชูฮันและเหอซางทำอะไรตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้จึงยังไม่ฟื้นจากความมึนงง!

 

ตอนนี้ประตูตรงหน้าชูฮันนี่คือประตูบานที่ชูฮันเจอหลังจากสังเกตผ่านหน้าจอในห้องควบคุมมาก่อนหน้านี้ และหลังจากได้รับคำยืนยันจากเหอซาง ชูฮันก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคือบานที่จะนำไปสู่ชั้นในของสถาบันวิจัย แป้นล็อคลายนิ้วมือคือสัญญาณที่บ่งบอกถึงความสำคัญและมีเพียงแค่สมาชิกระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถผ่านเข้าไปได้

 

ทั้งสี่ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชูฮัน เหอซาง เสี่ยติง หรือกวงโถวต่างมาไกลเกินกว่าจะถอยกลับได้แล้ว

 

แต่การที่เหอซางบอกว่าจะแนะนำการใช้งานของแป้นล็อคลายนิ้วมือกับชูฮันมันทำให้มีรอยยิ้มแปลกๆปรากฏขึ้นที่มุมปากชูฮันเพราะมันหมายความว่า…หมอนี่สามารถเปิดประตูได้!

 

เหอซางคือมันสมองอันดับหนึ่งของชูฮัน!