เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 660
เสียงของมันเหมือนพลานุภาพสวรรค์พลุ่งพล่าน ทำให้คนอดคุกเข่าบูชาไม่ได้

แววตาของอู่คงหลิงเลือนราง ค่อยๆ ย่อตัวลง

ลู่ฝานดึงอู่คงหลิงเอาไว้ พูดเสียงดังว่า “อย่าเชื่อมัน ถ้าเราสังเวยตัวเอง มันจะได้พลังจากตัวเราหมด ถ้าฆ่าพวกเรา มันได้สามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็นับว่าไม่เลวแล้ว ถึงตาย ฉันก็ไม่ให้สัตว์อสูรแบบนายได้ประโยชน์จากฉันหรอก!”

อู่คงหลิงได้ยินเสียงลู่ฝาน เธอตื่นขึ้นมาทันที

อู่คงหลิงขยับปากพูดว่า “ดูเหมือนเราต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ”

ลู่ฝานจับกระบี่หนักไร้คมเอาไว้แน่น แล้วฉีกยิ้มออกมา

มังกรโลหิตสามหัวพูดอย่างดุดันว่า “งั้นพวกนายตายซะเถอะ!”

น้ำแข็งถาโถมเข้ามาเหมือนสายลม

จู่ๆ เหมือนลู่ฝานกับอู่คงหลิงอยู่ในแดนชำระน้ำแข็ง เหมือนใบมีดน้ำแข็งจะแยกพวกเขาออก

ลู่ฝานเอากระบี่หนักไร้คมกันไว้ด้านหน้า

แต่ขณะนั้น เสียงราบเรียบดังขึ้นว่า

“นายยังดื้อรั้นขนาดนี้อีกเหรอ!”

แสงสว่างเหมือนพระอาทิตย์บนฟ้า ละลายน้ำแข็งไปจนหมด

ลู่ฝานกับอู่คงหลิงรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว

ความหนาวทั้งหมดหายไป อู่คงหลิงรู้สึกว่าพลังของตัวเองฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว

มังกรโลหิตสามหัวตะโกนว่า “นายอีกแล้วตาเฒ่า ทำไมตายแล้วยังมาเซ้าซี้ฉันอีก ทำไมตายแล้วยังไม่ปล่อยฉัน ตาเฒ่าสวรรค์บันดาล นายจะตามฉันไปนานแค่ไหน”

เมื่อได้ยินคำว่าสวรรค์บันดาล ลู่ฝานกับอู่คงหลิงอ้าปากค้าง

สวรรค์บันดาล! อริยปราชญ์สวรรค์บันดาล!

เสียงราบเรียบดังขึ้นอีกครั้ง “มังกรโลหิต แค่นายยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็จะถูกควบคุมอยู่ในนั้น จนกว่าจะมีคนทำลายร่างนิรันดร์ของนายได้”

มังกรโลหิตสามหัวเคลื่อนไหวร่างกาย “นายไร้เดียงสาเกินไป ไม่มีใครทำลายร่างนิรันดร์ของฉันได้หรอก ต้องมีสักวันที่ฉันจะฟื้นฟูพลังกลับมา และทำลายทุกอย่างของนาย ตาเฒ่าสวรรค์บันดาล คนในครอบครัวนาย เพื่อนนาย มนุษย์ที่นายใส่ใจ จะต้องตายคามือฉัน ฉันจะให้นายเห็นว่าฉันจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่นายปกป้องเอาไว้ยังไง”

“นายพูดมากเหลือเกิน!”

แสงขาวดำปรากฏขึ้นมา ตัวของมังกรโลหิตสามหัวหายไป

บริเวณรอบๆ กลับสู่สภาพเดิม มีเพียงแค่น้ำเย็นที่ไหลอยู่แต่เดิม หายไปไหนก็ไม่รู้

บนกำแพง ตัวของมังกรโลหิตสามหัวเคลื่อนไหวไปมา สุดท้ายก็สงบลง

กระบี่และดาบเก้าเล่ม มีแสงสว่างกะพริบ จากนั้นก็กลับสู่ปกติ

สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือโครงกระดูกที่นั่งอยู่บนพื้น ตอนนี้ยืนขึ้นมาแล้ว

เงาหนึ่งปรากฏขึ้นหลังโครงกระดูก เป็นผู้อาวุโสใบหน้าห้าวหาญ เหมือนอริยปราชญ์สวรรค์บันดาล ที่ลู่ฝานเห็นที่สุสานกระบี่และดาบ

สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือในแววตาของผู้อาวุโสคนนี้เป็นประกาย มีชีวิตชีวา

ลู่ฝานนึกถึงท่านผอ.ของสถาบัน ทั้งสองคนน่าจะใช้วิธีที่คล้ายกัน

“นักบู๊อายุน้อย จิตใจไม่เลว ฉันได้ยินคำพูดของทั้งสองคนกับมังกรโลหิตแล้ว แม้ฟังดูกวนบาทาจริงๆ แต่ไม่พูดก็ไม่ได้ว่าได้ผลมาก เจ้าหนุ่ม ปากนายแรงมาก แต่จิตใจดีมาก”

อริยปราชญ์สวรรค์บันดาลมองลู่ฝานแล้วยิ้ม

แต่ลู่ฝานกลับมีสีหน้าประหลาด ไม่รู้ว่าอริยปราชญ์สวรรค์บันดาลกำลังชมเขา หรือใช้วิธีอื่นด่าเขา

“นี่คือสิ่งที่เราสมควรทำ”

อู่คงหลิงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

อริยปราชญ์สวรรค์บันดาลมองอู่คงหลิงแวบหนึ่ง

“ผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายกล้าเดินไปทั่วตั้งแต่เมื่อไร”