ตอนที่ 374

The Novel’s Extra

บทที่ 374 ระยะเวลาการเตรียมการ (4)

 

…หลังจากความพ่ายแพ้ของวันนั้น ฉันก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดและความเงียบงัน ความเชื่อมั่นของฉันก็พังทลายลงและความอัปยศอดสูฝังอยู่ในร่างกายทุกนิ้ว

 

ความเจ็บปวดในวันนั้นยังคงตามหลอกหลอนฉันทุกคืน ฉันขอร้องเขาให้ไว้ชีวิตของฉัน มันไม่สามารถลบออกไปได้

 

ทุกวันเขาปรากฏตัวในฝันร้ายของฉัน ต่อหน้าดวงตาที่เยือกเย็นของเขาสิ่งที่ฉันทำได้คือสั่นด้วยความกลัวเหมือนกระต่าย

 

ฉันรู้สึกว่าพื้นฐานของตัวเองพังทลายลงจากการบาดเจ็บครั้งนี้ ความรู้สึกที่ไร้พลัง ไร้อำนาจปกคลุมทั่วร่างกายของฉัน ตอนนี้ชีวิตของฉันถูกความว่างเปล่าเข้ามาแทนที่ 2-3 วันหลังจากเหตุการณ์นั้นฉันใช้เวลาส่วนใหญ่นอนอยู่บนเตียง

 

มันสายเกินไปกว่าที่จะรู้ความจริงเรื่องนี้ ฉันไม่เคยพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศขนาดนี้ ปกติฉันมีข้อแก้ตัวสำหรับความพ่ายแพ้และพยายามหาเหตุผลที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ายังมีความหวัง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ฉันจึงกลายเป็นผู้แพ้ที่ทนไม่ใช่

 

ฉันเริ่มทำสิ่งที่ตัวฉันต้องทำทีละน้อย  ฉันเริ่มใช้ความพยายาม

ฉันใช้ความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเรียนรู้ความหมายของ ‘ความพยายาม’ เป็นครั้งแรก มันอาจเป็นเพราะความพยายามที่ฉันใส่ลงไปนับตั้งแต่วันที่พ่ายแพ้

วันที่ฉันรู้สึกว่าประสบความสำเร็จมากขึ้น แม้ว่าร่างกายของฉันจะ

สั่นเทาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงวันที่แสนเจ็บปวด …ในที่สุดฉันก็ได้รับโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่หลังจากล้มลงไปที่ขอบหน้าผา

 

[2 สัปดาห์ต่อมา ชั้น 15 – เรือของ Genkelope]

 

บนดาดฟ้าของยานอวกาศที่เต็มไปด้วยผู้เล่นหลายคน เบลล์

จินซาฮยอค และรุมิกำลังรอที่จะได้รับการอนุมัติให้เข้าไป

 

“ตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยัง” เบลล์ถาม

 

จินซาฮยอค ได้แต่พยัคหน้าเบลล์ชอบการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางนี้ จินซาฮยอค เป็นคนประเภทที่มักจะพูดคุยด้วยการกระทำมากกว่า

คำพูด แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นคนเงียบๆและรอบคอบมากขึ้น เท่าที่เขาคิดมาตลอดเรื่องนี้เหมาะกับอนาคตที่เธอจะ ‘แข็งแกร่งที่สุดในโลก’

 

– แขกใหม่

 

สุดท้าย…ใครจะคิดว่า จินซายอคจะมีความอดทนรอเข้าแถว นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เรียบง่าย แต่สำคัญมาก

 

“ถึงตาพวกเราแล้ว ไปกันเถอะ.”

 

“ฉันจะไปก่อน”

 

‘รูมิ’ เป็นคนแรกที่เข้าไป ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาทีเธอก็ลงเรือ

ถัดไปคือ จินซาฮยอค เธอเดินไปที่การรักษาความปลอดภัยอย่าง

ไร้อารมณ์ แต่มีบางอย่างผิดปกติ พนักงานที่เห็นใบหน้าของ

จินซาฮยอค สั่นไหวจากนั้นรีบเอามือไปวางไว้ใต้โต๊ะ

 

“มีอะไรผิดปกติ”

 

– โปรดรอสักครู่.

 

“เพื่ออะไร?”

 

– โปรดรอสักครู่…

 

“อะไรกัน?”

 

จินซาฮยอค ขมวดคิ้วเพราะการเลือกปฏิบัติที่แตกต่างขนาดนี้และแล้ว

วิ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!

 

ทันใดนั้นก็มีทหารติดอาวุธ 8 นายปรากฏตัวและล้อมเธอเอาไว้

 

“นี่มันอะไรน่ะ?”

 

ระบบแจ้งเตือนก็โผล่ขึ้นมา

 

[คุณถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นอาชญากรชั้นของ 15 ค่าสถานะทั้งหมดลดลง 70%]

 

“…อะไรนะ? อาชญากร? ฉัน….ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่! ฉันไม่…”

 

– จับเธอเอาไว้!

 

ก่อนที่เธอจะส่งเสียงร้องเรียนทหารก็พุ่งเข้าหาเธอ เมื่อค่าสถานะของเธอลดลงจินซาฮยอค ก็ต่อต้านพวกเขาไม่ได้ เธอทำได้เพียงแค่จ้องมองอย่างไม่เต็มใจในขณะที่ร่างของเธอถูกจับเอาไว้

 

“ทำไมต้องเป็นฉัน!? ทำไมต้องเป็นฉัน!? ทำไมต้องเป็นฉัน!?”

 

– คุณถูกจับกุม

 

“อะไร? ทำไมฉันถึงถูกจับ? เฮ้! ปล่อยฉันไป!”

 

– คุณถูกจับกุม

 

“แล้วมันเพราะอะไรละ! ฉันไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย! ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกนายจับผิดคน!”

 

– คุณถูกจับกุม

 

“แก-แกก ไอ้พวกบ้า…! เฮ้ เบลล์! ทำอะไรกับพวกเขาบ้างสิ…?”

 

อย่างไรก็ตาม จินซาฮยอค เห็นเบลล์พูดกับคนที่อยู่ข้างหลังเขาเหมือนว่าพยายามที่จะไม่เกี่ยวข้องด้วยมันเป็นภาพที่คุ้นเคยของจินซาฮยอคและแล้วเธอก็เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร

 

“เบลล์อย่าบอกนะ… นี่นายจะทำอะไรน่ะ!?”

 

– พวกเราจะให้คุณหมดสติลงถ้าคุณไม่เงียบ

 

“พวกแก ควรจะปล่อยฉัน!”

 

จินซาฮยอค พยายามที่จะได้รับฟรี แต่ไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้กับค่าสถานะของเธอที่ถูกจำกัดเธอ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใส่กุญแจมือเธอด้วยไอเท็มจำกัดเวทย์มนตร์ด้วยซ้ำ

 

“เบลล์ แกไอ้ลูกหมา!”

 

เมื่อได้เห็นการกรี้ดร้องของจินซาฮยอค เบลล์ก็คิดว่า

 

‘เธอเหมือนสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ’

 

“เบลล์! เบลล์-! เบลล์l-!”

 

จินซาฮยอค ถูกลากออกไปขณะที่เธอยังคงตะโกนอยู่ เบลล์มองหน้าเธอและพูดออกมา

 

[ไม่ใช่ฉัน.]

 

“แกหมายความว่ายังไงถ้าไม่ใช่แก! ถ้านั่นเป็นเรื่องจริงก็มาช่วยฉันเร็ว!”

 

เบลล์ไม่สนใจ จินซาฮยอค และกลับไปคุยกับคนที่อยู่ข้างหลังเขา

มันจะเป็นอันตรายหากเกิดสิ่งเดียวกันขึ้นกับเขา

 

“กรี้ดดดดดดดดดดดด-! ทำไมแกถึงทำกับฉันแบบนี้!?”

 

จินซาฮยอค ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ความโกรธและความรู้สึกของการถูกทอดทิ้งเพิ่มขึ้นภายในจิตใจของเธอจนถึงจุดน้ำตาแตก

 

“ทำไม!? ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไม….”

 

– คุณถูกจับกุม

 

“จับแม่มึงสิ! ปล่อยฉันไปนะ! ปล่อยฉันไป! ปล่อยยยยยยยยย—!”

 

ไม่นานกำลังก็มาถึงและจินซาฮยอคที่เหนื่อยล้าก็จะถูกลากตัวออกไป

 

“ทำไมอย่างน้อยก็บอกฉันว่าทำไม ได้โปรดอย่างน้อยก็แจ้งให้ฉันทราบเหตุผล….”

 

ขณะที่เธอหายตัวไปอย่างช้าๆเบลล์ก็หันกลับมาและกระซิบว่า

 

‘…ฉันจะไปช่วยเธอรอก่อนนะ’

 

– แขกใหม่

 

“อ๊ะ ฉันเอง”

 

– ผู้เล่นยืนยันแล้ว

 

เบลล์เป็นห่วงไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสบายดี

 

“เอาละ ช่างเป็นอะไรที่น่าเศร้าจริงๆ”

 

หลังจากเข้าไปในยานอวกาศเบลล์มองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ สถานที่นั้นเกือบจะเหมือนย่านที่อยู่อาศัย เขาเห็นร้านเบอร์เกอร์ ร้านซูชิและแผงขายอาหารเกาหลี พวกเขายังมีไฟนีออนอยู่เหนือพวกเขาเป็นโฆษณา

 

“โอ้…นี่คือหนังสือกลยุทธ์เล่มนั้นเหรอ?”

 

ขณะที่เขามองไปรอบๆเรือ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น เบลล์มองไปที่ทิศทางนั้น ที่นั่นเขาเห็น ผู้เล่นท็อปแรงค์ แชนายอน และ คิมยองจิน

 

“อืม ลองดูและส่งต่อให้สมาชิกกิลด์คนอื่นๆ”

 

“ว้าว~ ขอบคุณมาก! ฉันได้ยินมาว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับสิ่งนี้

เธอทำได้ยังไง?!”

 

“ฉันล้างบางมอนสเตอร์ในห้องใต้ดินของเขต 5 มันยากมากจริงๆ”

 

“อืม พวกเราจะขึ้นไปชั้น 16 ทันทีเลยไหม?”

 

“ไปเลย”

 

แชนายอน น้องสาวของ แชจินยูน นี่น่า เมื่อมองเห็นเธอ เบลล์ก็เลียริมฝีปากของเขา

 

‘เธอเองก็เป็นผู้เสียสละเช่นกัน…ฉันควรไปกับเธอแทนดีไหมนะ?’

 

ขณะนั้นเอง แชนายอน ก็รู้สึกถึงสายตาของเขาและหันมองไปทางเขา เบลพบดวงตาของเธอและยิ้มให้เธออย่างแผ่วเบา แต่บางทีเธออาจไม่พอใจกับรอยยิ้มของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง แชนายอนขมวดคิ้วและ

หันหลังให้เขาทันที

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…น่ารักจัง”

 

เบลล์ ยิ้มแล้วหันไปดูรอบๆเรือ แต่ตอนนี้เขาคิดแล้วเขาก็คิดถึงคนที่เข้ามาก่อนจินซาฮยอค

 

“อ่า รุมิอยู่ไหน? ชิ ผู้หญิงพวกนี้ ชอบออกไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง”

 

แต่เบลล์ก็แค่ยักไหล่ เขาไม่สนใจว่า รูมิ จะกำลังทำอะไรอยู่ เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของคนอื่นและอีกอย่างยังไง

ผู้เล่นก็สามารถชุบชีวิตได้ 2-3 ครั้งอยู่แล้ว

 

“อืม…ฉันเดาว่าฉันจะต้องไปที่คุกก่อน”

 

เบลล์ถอนหายใจและเริ่มมุ่งหน้าไปยังบ้านใหม่ของจินซาฮยอค

 

*************************************************************************

 

ในขณะที่เบลล์และจินซาฮยอค มีเวลาค่อนข้างๆสงบ (?) รูมิ ก็ถูกลากไปยังตรอกมืด ในขณะที่ จินซาฮยอค ถูกจับโดยกองกำลังตำรวจของเรือ รูมิ ถูกจับโดยบุคคลที่อันตรายมากกว่า

 

…ไม่ได้เจอกันนานนี้ รุมิ

 

เสียงเย็นชา ดังก้องออกมาจากเงามืดที่ดึงเธอเข้ามา เพียงแค่การมีอยู่ของเธอก็สามารถทำให้รูมิหายใจไม่ออกได้แล้ว

 

…ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม ฉันจะฆ่าเธอถ้าฉันเห็นเธออีกครั้ง

 

“ทำไมฉันถึงต้องตาย?”

 

…เธอทรยศบอสไปอยู่กับเบลล์

 

“…ถูกต้อง แต่บอสไม่เก่งเรื่องคนอย่างที่เธอคิดว่าเขาเป็น”

 

ในทันทีนั้นเองพลังเวทมนต์ที่กดดัน รูมิ ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“รอ-รอเดี๋ยวก่อน! เธอก็รู้ใช่ไหม! เหตุการณ์กวางโอ้!”

 

รุมิ ตะโกนอย่างรีบเร่ง

 

แม้แต่การเสียชีวิตเพียงครั้งเดียวก็ทำให้สูญเสียทักษะไปได้ รุมิ ตระหนักดีถึงความสำคัญของทักษะ

 

“เธอรู้ไหมว่าบอสเป็นคนจัดการภารกิจนั้น”

 

เพื่อความอยู่รอด รูมิ ได้สัมผัสกับจุดที่บอบบาง แต่พลังเวทมนต์ในเงานั้นกลับยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ รุมิ รู้ว่าเธอไม่สามารถคาดหวังความตายอย่างสงบสุขจากหญิงสาวตรงหน้าเธอได้ ตัวเธอสั่นเทาอย่างเจ็บปวดและหวาดกลัวขณะที่เธอตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

 

“เขาพาเธอออกไปทดสอบความสามารถของเธอและที่นั่นทำให้เธอได้พบกับ เจ้าของบังลังค์สีดำ คนปัจจุบันเป็นครั้งแรก! ในฐานะนักฆ่าและเหยื่อที่น่าสงสาร!”

 

 

พลังเวทย์หยุดลงชั่วคราว รูมิ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโดยคิดในใจว่าเธอเจอทางรอดแล้ว

 

“ถูกต้อง ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนั้น หากเธอไม่อยากให้ฉันบอกเขา

ปล่อยฉันไป ฉันตายเกิดได้อีกแม้ว่าเธอจะฆ่าฉันคิดให้ดี” รูมิ พูด

 

เงากะพริบในอากาศแล้วปล่อยเสียงแผ่วเบาออกมา

 

…รุมิ

 

“อะ-อะไร?”

 

หลังจากนั้นไม่นานความเจ็บปวดก็กลืนกินรูมิไปทั้งตัว

 

…เธอคิดว่าฉันเป็นใคร

 

“อ้า อาก อ่ะ…รอเดี๋ยวก่อน…”

 

…ไม่มี โอกาศสำหรับการเจรจาอีกแล้ว

 

เงากลืนกินหญิงสาวคนหนึ่งไปอย่างง่ายดาย…

 

ฉวับ ฉวับ ฉวับ ฉวับ ฉวับ ฉวับ ฉวับ

 

เสียงตัดขาดดังขึ้นเรื่อยๆ

 

ในช่วงเวลานั้นความเจ็บปวดรอบๆร่างกายของเธอก็หายไปและรุมิก็หันกลับมามองอย่างสงสัย