RC:บทที่ 655 การไล่ล่า

เมื่อเห็นว่าลมหายใจของหลินเฟิงนั้นมีพลังที่ต่างจากเดิม ราชาแห่งหมาป่าโลหิตก็พูดด้วยเสียงที่นิ่งเรียบเฉย “เจ้ามีวิธีเฉพาะในการฝึกฝนสินะ?”

“ข้าไม่รู้หรอกว่าวิธีนั้นมันคือออะไร แต่เจ้าก็คนไขว้ขว้ามันด้วยตนเอง”

ราชาหมาป่าโลหิตกล่าวไปพรางระหว่างที่ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีเลือด พร้อมกับผมสีแดง

ใบหน้าของชายชรานั้นเคร่งขรึมมาก คิ้วของเขาแสดงความโกรธอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ถ้าเจ้าไม่ขัดขืน เจ้าอาจจะได้หลับสบาย”

นอกเหนือจากความสูงส่งของราชามังกรแล้ว สัตว์วิญญาณเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ก็สามารถจุติเป็นร่างสมบรูณ์ได้หลังจากก้าวผ่านดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ไปแล้ว

หลินเฟิงทำให้จิตใจของเขาให้มั่นคงและพยายามมองไปที่ราชาหมาป่าโลหิต ก่อนที่จะเริ่มพูดว่า “ท่านจะไม่ปล่อยข้าไปจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ?”

ราชาหมาป่าโลหิตไม่ตอบ ด้วยคลื่นพลังที่ยิ่งใหญ่ กลิ่นของไอเลือดบินโชยไปหาหลินเฟิง หัวใจของหลินเฟิงถูกเติมเต็มไปด้วยความกลัว เขายกมือขึ้นมาปัดป้องสายลมนั้น แต่ร่างของเขาก็กระเด็นไปโดนลำต้นของต้นไม้ ซึ่งทำให้ใบไม้ร่วงหล่นลงมามากมาย

พลังวิญญาณซึ่งใกล้จะถึงจุดล่มสลายนั้นก็กระจายออก หลินเฟิงรู้สึกเพียงว่าพลังวิญญาณนั้นวิ่งเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากและหางตาของเขา

ราชาหมาป่าโลหิตตอบคำถามของหลินเฟิง: “เจ้าไม่ต้องถามมาก เจ้ากลายเป็นคนบาปในสายตาของข้าแล้ว ข้าเกลียดมนุษย์ ้เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าหลบหนีไปได้ยังงั้นหรอ?”

“ตอนที่ข้าถูกบีบบังคับและถูกรุกรานโดยพวกมนุษย์ พวกมันก็ไม่ได้มีความสงสารในเผาพันธุ์ของข้าเลยแม้แต่น้อย ใยข้าถึงต้องอดกลั้นกับกับสิ่งที่เจ้าทำไปด้วย?”

หลินเฟิงเอามือปิดหน้าอกของเขาก่อนที่จะยืนขึ้น เขาใช้ลูกแก้วมังกรในการควบคุมลมหายใจอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากความซีด กลายเป็นเป็นสีแดงก่ำ

ดูเหมือนว่าอคติของราชาหมาป่าโลหิตที่มีต่อมนุษย์นั้นลึกซึ้งเกินไปมาก และการกระทำของเขาทำให้ความเกลียดชังของราชาหมาป่าโลหิตกลับคืนมาอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาเองก็กลัวว่านี้จะเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น ที่การพูดแก้ปัญหาผ่านการปรึกษาหารือจะได้ผล ดังนั้นเขาจึงหาวิธีอื่นต่อไปแทนที่จะใช้คำพูดที่สิ้นเปลือง และถูกบีบให้จนมุมอย่างซ้ำ ๆ

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เขาก็ได้แต่ร้องไห้ในใจ “ มังกรคุนหลากสีออกมา!”

เมื่อสิ้นเสียงเรียกขาน ปีกหลากสีก็แผ่ออกไปด้านหลังของเขาแสงและฝุ่นประกายก็ตกลงมาทีรอบตัวจนกลายเป็นหมอกหลากสี

ดวงตาของราชาหมาป่าโลหิตฉายแววประหลาดใจ: “มังกรหลากสี เจ้าครอบครองมันอยู่ด้วย?”

“สัตว์วิญญาณที่เพิ่งรวมตัวกับเจ้าควรจะเป็นมังกรดำดวงตาสีทอง แต่ตอนนี้มีกลับกลายเป็นมังกรหลากสี เจ้ากำลังจะทำอะไรกันแน่?”

และเมื่อเห็นหลินเฟิงไม่ตอบ ราชาหมาป่าโลหิตก็พูดว่า: “เจ้าไม่จำเป็นต้องตอบ ข้าไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”

“ แต่สิ่งที่ทำให้ข้างงงวยก็คือ ถ้าเจ้ายังต้องการต่อต้านพลังของข้า ต่อให้เป็นมังกรร่างสมบรูณเจ้าก็เทียบข้าไม่ได้อยู่ดี เจ้าจะใช้พลังของสัตว์วิญญาณทั้งสองตัวพร้อมกันสินะ?”

หลินเฟิงกล่าวว่า: “ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถเอาชนะท่านได้ ไม่ว่าข้าจะใช้สัตว์วิญญาณแบบไหนผลสุดท้ายก็เหมือนกัน”

“แต่ … ” ดวงตาของเขามองเข้าไปลึกซึ้งกว่านั้น และทันใดนั้นปีกของเขาก็บินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเสียงโครมคราม “แต่ข้ายังวิ่งหนีได้อยู่!”

นี่เป็นวิธีเดียวที่หลินเฟิงคิดออก แม้ว่าความเร็วของมังกรหลากสี จะไม่ได้อยู่ในอันดับแรก ๆ ในเหล่าสัตว์วิญญาณ แต่ก็สูงเข้าขั้นอยู่พอสมควร ดังนั้นเขาจะเปลี่ยนไปใช้มังกรหลากสีเพื่อที่จะเร่งความเร็วให้ได้มากที่สุด

หลินเฟิงกลายเป็นลำแสงยาวออกไป ฝุ่นหลากสีจากปีกของเขาก่อให้เกิดถนนสีรุ้งหลากสีด้านหลัง มันดูสวยงามมากราวกับสายรุ้งในยามหลังฝน

เขาพุ่งตัวออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเปลี่ยนตัวเองกลับไปสู่โหมดต่อสู้ เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยใช้ความเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่เขากลายได้พลังมา

มันยากสำหรับเขาที่จะเปิดมองไปด้านหน้า

เขาคิดว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ขีดจำกัดแล้ว แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังสนั่นก็ไล่หลังเขามา เสียงนั้นใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อมองย้อนกลับไปเขาแทบจะหายใจไม่ออก

ราชาหมาป่าโลหิต! เขาตามทันความเร็วของหลินเฟิง!

ความเร็วของราชาหมาป่าโลหิตเร็วกว่าเขามาก ร่างของเขาเป็นเหมือนดาวตกสีแดงฉาน แรงกระแทกของลมแรงมากจนหลินเฟิงรู้สึกได้ ความกดอากาศที่เกิดจากเขาทำให้น้ำทะเลไหลออกจากกันจนกลายเป็นร่องน้ำ น้ำที่กระเซ็นทั้งสองด้านนั้นสูงประมานสามหรือสี่เมตร!

“พระเจ้า!” หลินเฟิงร้องในใจ“มังกรหลากสีเจ้ายังเร็วกว่านี้ได้หรือไม่?”

มังกรคุนหลากสีพูดด้วยความลำบากใจ: “นี่คือความเร็วที่เร็วที่สุดของข้าแล้ว!”

หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะดุกลับไปว่า: “เจ้าต้องพยายามให้มากกว้านี้ เขาเป็นหมาป่านะ ตามปกติแล้วมังกรต้องเร็วกว่าสิ!”

มังกรคุนหลากสีกล่าวว่า“ข้าบรรลุสู่งดินแดนแห่งสวรรค์แล้วก็จริง แต่ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายก็สำคัญเช่นกัน! ไม่ใช่แปลกความแข็งแกร่งของราชาหมาป่าโลหิตจะมีมากกว่าพวกเรา”

แน่นอนว่าหลินเฟิงเข้าใจความจริงข้อนี้ แต่ตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วนมากเขาก็สูญเสียความตั้งใจไปด้วย

เขายังคงพุ่งตัวออกไปอย่างหนักหน่วงเท่าที่จะทำได้ และแม้จะได้รับการเสริมพลังจิตไปแล้ว แม้แต่ร่างกายของเขาก็ยังรู้สึกชาจากแรงปะทะกับอากาศ

“ระวัง!”

ในเวลานี้มังกรหลากสีก็นึกขึ้นได้

หลินเฟิงรู้สึกได้ถึงกระแสลมที่น่ากลัวกำลังเขามาหาเขา เขาจึงรีบรีบหลบ กระสุนแห่งแสงพุ่งผ่านเขาไปและกระทบกับทะเล

ในพริบตาเดียวก็มีมีแสงพลุมากมายพุ่งมาจากด้านหลัง

“บ้าเอ้ย!” หลินเฟิงตะโกนและรีบหลบไป

ในพื้นทะเลไม่ใกล้ไม่ไกลจากเขานัก แรงระเบิดของลำแสงสีแดงนั้นได้ทำให้น้ำที่กระจายออกกลายเเป็นพายุฝน หลินเฟิงจึงต้องหนีต่อไปด้วยความตื่นตระหนก แต่เขาก็โดนแรงพลักของลำแสงโดยไม่ได้ตั้งใจ

“บ้าเอ้ย!”

หลินเฟิงกระอักเลือดออกมาและพลังของสัตว์วิญญาณก็ถูกบังคับยกเลิกทันที

เขาหันหลังกลับอย่างกะทันหัน จากนั้นตัวเขาก็แข็งจนแทบหายใจไม่ออก

มือของราชาหมาป่าโลหิตเป็นเหมือนคีมที่คีบรอบคอของเขา ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยแสงสีเลือดที่ดุร้าย

“วิ่งต่อไปสิ ทำไมไม่วิ่งต่อ”

ความรู้สึกถึงความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ส่งผลกระทบต่อหัวใจของหลินเฟิง ถูกกระตุ้นด้วยความปรารถนาที่จะอยู่รอด หลินเฟิงยกมือขึ้นและพ่นคลื่นแสงออกมาหลายครั้งใส่ใบหน้าของราชาหมาป่าโลหิต

แต่ราชาหมาป่าโลหิตไม่แม้แต่จะหลบ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

คิ้วของราชาหมาป่าโลหิตนั้นขมวดกันเป็นรอยย่น เขาบีบคอของหลินเฟิงอแรงขึ้นทันที หลินเฟิงไม่สามารถหลุดออกมาจากมือของราชาหมาป่าโลหิตได้ เขาเริ่มหมดหนทางแล้ว

หลินเฟิงค่อย ๆ สูญเสียความแข็งแกร่งลง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวและสติของเขาก็ค่อย ๆ หมดสติลง

ฉันกำลังจะตายแล้วเหรอ?

ฉันไม่ไม่ดีแล้วแน่ ๆ !

“หลินเฟิง!”

หลินเฟิงที่ค่อย ๆ จมดิ่งอยู่ภายใต้ความมืด แต่เขาก็ได้ตื่นขึ้นด้วยเสียงเรียกอย่างกะทันหัน

ภายใต้ร่างของราชาหมาป่าโลหิต น้ำทะเลพุ่งออกมาเหมือนปืนยักษ์และพุ่งตรงไปที่ราชาหมาป่าโลหิตทันที

ราชาหมาป่าโลหิตที่จ้องมองไปที่ใบหน้าของหลินเฟิงที่กำลังจะขาดใจ ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังเข้ามา เขาโยนหลินเฟิงออกไปโดยไม่รู้ตัว ฝ่ามือของเขาปิดกั้นสายน้ำที่กระทบเข้ามา

หลินเฟิงลอยขึ้นไปในอากาศ ร่างที่อ่อนแอของเขาถูกจับเอาไว้ได้

จากนั้นเสียงที่เร่งรีบและคุ้นเคยก็ดังเข้าไปหูของเข า: “เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม”