ภาค 5 ผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า บทที่ 418 ยอดเยี่ยม แข็งแกร่ง และบ้า!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

มิติบริเวณจุดตัดของสายรุ้งกางเขนสองสายแนวนอนและแนวตั้งกลางท้องฟ้าถูกบิดอย่างรุนแรง

ณ ที่แห่งนั้น แสงของรุ้งเจ็ดสีได้หายไป ที่เหลืออยู่มีเพียงความมืดมิด

จุดตัดสีดำขยายใหญ่อย่างต่อเนื่อง กลืนกินแสงสายรุ้งบริเวณรอบๆ รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่าง

หลังจากจุดดำขยายได้ถึงระดับหนึ่ง มันก็คล้ายกับหยุดลง

หากมองอยู่ไกลๆ นอกจากการบิดเบี้ยวบริเวณจุดตัดจะรุนแรงขึ้น และแสงสีดำที่คล้ายกันไม่ขยายตัวขึ้นอีก สายรุ้งกางเขนก็ดูไม่แตกต่างกับปกติ

มีเพียงแต่เงาร่างของกระเรียนหิมะตัวหนึ่งเท่านั้นที่พุ่งขึ้นฟ้า กระพือปีกบินไปยังใจกลางสายรุ้งกางเขน

ภายในเงาแสงของกระเรียนหิมะ พวกเยี่ยนจ้าวเกอถูกพลังอันแปลกประหลาดม้วนขึ้น แล้วพุ่งไปที่หลุมดำใจกลางสายรุ้งกางเขน

‘นี่เหนือความคาดหมายไปหน่อย…’ เยี่ยนจ้าวเกอเคร่งขรึมขึ้น เขาแบมือขวาของตนเอง ปิ่นทำจากหยกที่กลางฝ่ามือมีลวดลายเป็นกระเรียนหิมะอยู่ตรงปลาย

นี่คือสิ่งที่มารดาของตน เสวี่ยชูฉิงทิ้งไว้ในมหาอำนาจแปดพิภพ ก่อนหน้านี้บิดาของเขา เยี่ยนตี๋เป็นผู้ดูแลมาโดยตลอด

มันดูปกติ ไม่มีอะไรแปลกเป็นพิเศษ เหมือนเครื่องประดับทั่วไป

แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อครู่นี้เอง พริบตาที่หลุมดำกลางสายรุ้งกางเขนปรากฏขึ้น ปิ่นหยกชิ้นนี้พลันเคลื่อนไหว ลำแสงหลายสายเกิดขึ้นจากภายใน ก่อนจะกลายเป็นกระเรียนหิมะ พุ่งออกมาจากถุงย่อส่วนของเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอเอื้อมมือคว้าปิ่นหยกที่ลอยออกมาได้ทัน ทว่ากระเรียนหิมะยังคงกระพือปีกม้วนทุกคนที่อยู่ในอาณาเขตซึ่งสายรุ้งกางเขนครอบคลุม แล้วบินไปยังข้างบน

‘เป็นพิธีกรรมส่งต่อความสามารถ’ เยี่ยนจ้าวเกอวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว ‘ต้องมีตัวโน้มนำ จึงจะถูกปลุกจากสภาวะหลับลึก’

ชายหนุ่มเงยหน้ามองไป เห็นหลุมดำตรงใจกลางสายรุ้งกางเขนค่อยๆ เสถียรขึ้น คล้ายกับประตูทางเชื่อม

ใจกลางหลุมดำมิได้ปรากฏสีดำขลับอีกต่อไป กลับเต็มไปด้วยสีสันมากมาย

ด้านในคล้ายกับเกิดปรากฎการณ์หลากหลาย บิดเบี้ยวแหลกสลาย และหลังจากถูกรบกวน ก็ผสมผสานกันอีกครั้ง

‘มิติปั่นป่วน…’ เยี่ยนจ้าวเกอมองออกแล้ว ‘เป็นทางเชื่อมไปยังโลกอื่นจริงๆ ด้วย แต่ว่ายังไม่เสถียรนัก’

‘อีกด้านเป็นโลกอีกใบจริงๆ รากฐานของพิธีกรรมสมควรอยู่ที่นั่น ปิ่นหยกคล้ายเป็นของยืนยัน ตอนที่โลกทั้งสองใบเชื่อมโยงกัน คนที่ถือของยืนยันนี้อยู่ในมือจึงถูกพิธีกรรมรับไปโดยอัตโนมัติ’

เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ใจเย็นเป็นอย่างยิ่ง

ทว่าเมื่อมองเฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ สวีเฟย อิงหลงถู ไปจนถึงพ่านพ่านที่เฟิงอวิ๋นเซิงกอดไว้ในอ้อมอกแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอพลันยิ้มเฝื่่อน

‘พาทุกคนที่อยู่ในอาณาเขตที่รุ้งกางเขนครอบคลุมส่งไป พิธีกรรมนี้ยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งยิ่ง แต่ก็บ้ามากเช่นกัน!’

ครั้งนี้จะต้องหายสาปสูญไปอย่างไร้ข่าวคราว

ถึงแม้เยี่ยนจ้าวเกอจะสนใจไปดูโลกอีกใบยิ่ง แต่บิดาที่น่าสงสารของตนยังรอข่าวอยู่ ตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่คนรายงานข่าว

หากเป็นแบบนี้ รอจนเยี่ยนตี๋ได้ข่าว ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อใด

กำลังหลักรุ่นเยาว์ของสำนักเขากว่างเฉิงหายไปจากมหาอำนาจแปดพิภพทั้งหมดภายในคืนเดียว

หากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีคงจะยิ้มแม้กระทั่งยามหลับแน่

เมื่อพวกเยี่ยนตี๋มาถึง หากทางเชื่อพิภพยังอยู่ก็ดีไป แต่ถ้าหายไปแล้ว ก็ยากจะแก้ไขสถานการณ์

เยี่ยนจ้าวเกอถูกเงากระเรียนหิมะม้วนไว้ เขาสั่นศีรษะพลางตะโกนเรียก “ศิษย์พี่สวี!”

ขณะที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอก็โบกมือครั้งนี้ ในถุงย่อส่วนมีเงาดำลอยออกมา เป็นสิ่งของที่คล้ายกับกระบองสั้นทำจากหิน

หลังจากสิ่งนี้ลอยออกมา มันก็ขยายใหญ่ขึ้นเป็นเสาหินขนาดยักษ์ เสาระเบียงวังเทพนั่นเอง

เขาฟาดสองมือบนเสาระเบียงวังเทพ ทำให้มันเปล่งแสงคล้ายยามอาทิตย์อัสดงออกไปด้านนอก ก่อนจะมุดเข้าไปในตัวกระเรียนหิมะราวกับเส้นด้าย

เมื่อแรงกกดดันของเสาระเบียงวังเทพสำแดงฤทธิ์ กระเรียนหิมะที่กำลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก็ลดความเร็วลง และหยุดนิ่งกลางอากาศ

สวีเฟยเป็นคนมีประสบการณ์ ไม่จำเป็นต้องให้เยี่ยนจ้าวเกอพูด เขาก็เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร

เขาฉวยโอกาสเอื้อมมือไปด้านหลังในทันทีที่กระเรียนหิมะบินช้าลง ดึงกระบี่สีดำเล่มหนึ่งออกจากฝัก ครั้นมันอยู่ในมือของเขาแล้ว ประกายกระบี่ก็ส่องสว่างจางๆ

หลังจากนั้นสวีเฟยเหวี่ยงดาบอย่างรวดเร็ว ประกายกระบี่สีดำจับตัวกัน ทิ้งร่องรอยไว้กลางอากาศ กลายเป็นสัญลักษณ์มากมาย

จากนั้นสัญลักษณ์เหล่านี้ก็พุ่งลงสู่ด้านล่าง หลุดออกนอกอาณาเขตของกระเรียนหิมะ หล่นลงสู่บนบึงทะเลมายาเบื้องล่าง

ประกายแสงของสัญลักษณ์สีดำหายไป หลอมรวมกับบึงใหญ่ จากนั้นก็ขยายใหญ่อย่างฉับพลัน หลังจากความตกใจในครั้งแรก เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ก็เยือกเย็นลงอย่างรวดเร็ว

ครั้นเห็นการเคลื่อนไหวของสวีเฟย เฟิงอวิ๋นเซิงก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “ศิษย์พี่สวี นี่น่าจะเป็นกระบวนท่าพิเศษของหอคลื่นโหม บึงทิ้งอักษรกระมัง”

บึงพิภพมีสายน้ำตัดสลับกันซับซ้อน เต็มไปด้วยหนองน้ำ มีพื้นดินหรือโขดหินที่แข็งแรงน้อยมาก คิดจะทำเครื่องหมาย หรือว่าทิ้งข้อความไว้ในสถานที่แบบนี้ นับว่าเป็นเรื่องลำบากเรื่องหนึ่ง

ทว่ายอดฝีมือด้านวรยุทธ์เปลี่ยนปลอมให้เป็นจริง สามารถทิ้งข้อความไว้ในน้ำหรือในอากาศได้

แต่ถึงอย่างไรข้อความที่ทิ้งไว้เช่นนี้มีระยะเวลาคงอยู่จำกัดสำหรับผู้ฝึกฝนวรยุทธ์แล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ทุกคนอยู่ในบึงทะเลมายา มาตรว่าแม้จะมีสายรุ้งกางเขนครอบคลุมอยู่ แต่พลังของภาพมายาก็ยังคงแข็งแกร่ง มีผลลดปราณจิตราในเจตจำนงกระบี่ของจอมยุทธ์อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายร่องรอยที่เหลือไว้ย่อมหายไป

สำนักหอคลื่นโหมตั้งใจสร้างวิชาพิเศษนามว่าบึงทิ้งอักษรนี้ขึ้น เพื่อให้ลูกศิษย์ในสำนักเก็บข่าวคราวของตนเองไว้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของหนองบึงอันอ้าวว้างได้เป็นเวลานาน ศิษย์ร่วมสำนักที่มาถึงในภายหลังจะได้ทราบข่าว

สวีเฟยอธิบายสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ทิ้งข้อความไว้ด้วยวิธีการนี้ ประการแรกสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ประการที่สองก็เพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามมาเห็น

หอคลื่นโหมกับเขากว่างเฉิงมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดี ลูกศิษย์สำนักหอคลื่นโหมพอจะเชื่อถือได้ ให้พวกเขาส่งข่าวให้กับเขากว่างเฉิงหลังจากพบร่องรอยได้

“ท่านอาจารย์ลุงเจ้าสำนัก อาจารย์ลุงฟาง และอาจารย์ปู่ล้วนรู้ว่าข้าใช้วิชาบึงทิ้งอักษรได้” สวีเฟยเก็บดาบ พลางกล่าว “ถ้าหากผู้อาวุโสของเรามาถึงนี้ก่อน แล้วหาร่องรอยไม่เจอ ก็น่าจะไหว้วานให้จอมยุทธ์หอคลื่นโหมมาหาข้อความที่ข้าทิ้งไว้เอง”

อาหู่ถามอย่างมีเลศนัย “พี่เฟย ท่านเรียนวิชาบึงทิ้งอักษรกับใครหรือขอรับ”

สวีเฟยตอบตรงไปตรงมา “ย่อมเป็นศิษย์น้องเซี่ยแห่งหอคลื่นโหม แต่ข้าสอนให้พวกเจ้าไม่ได้”

อาหู่ยิ้มซื่อ “พี่เฟย ไม่เป็นไรกระมัง นี่มิใช่วรยุทธ์ของศิษย์สายตรงแห่งหอคลื่นโหมเสียหน่อย ไม่เช่นนั้นแม่นางเซี่ยคงไม่สอนท่าน”

ครั้นได้ยินดังนั้น สวีเฟยก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หยุดมาไม้นี้ได้แล้ว หากตอนนั้นไม่เจออันตรายด้วยกันในบึงทะเลมายา และเพื่อไม่ให้พลัดหลงกัน ศิษย์น้องเซี่ยคงไม่แหกกฎสอนให้ข้า ในเมื่อนางเชื่อใจข้า ข้าย่อมไม่สอนให้คนอื่น”

กระเรียนหิมะบินขึ้นท้องฟ้าโดยไม่มีอะไรหยุดได้ แรงเหนี่ยวนำที่มาจากอีกฝั่งหนึ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในระดับสูงสุด

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บเสาระเบียงวังเทพ ทำให้ทุกคนพุ่งเข้าไปในทางเชื่อมเขตแดนด้านในรุ้งกางเขนพร้อมกับกระเรียนหิมะ

เงาแสงนับไม่ถ้วนเบื้องหน้ากะพริบระยิบระยับ ปรากฎการณ์มากมายตัดสลับกัน แสงสีพิลึกกึกกือ ทำให้ผู้ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกถึงกับจุ๊ปากชมเชย

ไม่ทันไร ภาพเบื้องหน้าก็เสถียรขึ้น สิ่งที่ปรากฏเป็นอย่างแรกต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอคือป่าดึกดำบรรพ์หนาแน่น

เมื่อหันหลังกลับไปมอง ทางเชื่อมเขตแดนกลางอากาศด้านหลังค่อยๆ ปิดลงแล้ว!

อาหู่เห็นดังนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ “คุณชาย เช่นนี้กลายเป็นว่าต้องรอรุ้งกางเขนปรากฏขึ้นในอีกสิบปีข้างหน้า พวกเราถึงจะกลับมิใช่หรือขอรับ”

“ไม่ ทางเชื่อมเขตแดนจะยังคงอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอหลับตาสัมผัสถึงทางเชื่อมอย่างละเอียด เขาส่ายหน้าเล็กน้อย แค่นหัวเราะเบาๆ “เหอะ ที่นี่น่าสนใจยิ่งนัก”