ตอนที่ 782 ความจริงที่เปิดเผย

Godly Model Creator

GMC ตอนที่ 782 ความจริงที่เปิดเผย

 

 

 

 

 

 

 

ขอบเขตโดเมน!

 

 

 

ซูฉางหงเป็นเอสเปอร์โดเมน!

 

 

 

การที่ซูฮ่าวต้องเผชิญกับบุคคลระดับนี้ไม่มีใครสามารถคิดในแง่ดีได้ ทว่าซูฮ่าวกลับไม่ลังเลและพุ่งไปข้างหน้า

 

 

 

บูม!

 

 

 

ที่ใจกลางของลานส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

 

 

 

ทะลายภูเขา!

 

 

 

ซูฮ่าวเปลี่ยนพลังต้นกำเนิดเป็นพลังภายในควบคู่ไปกับสมรรถภาพทางกายของเขา พลังอันน่าเหลือเชื่อได้ปะทุขึ้นและไม่มีอะไรที่มันทะลวงผ่านไม่ได้

 

 

 

แม้แต่ซูฉางหงก็ต้องหลีกเลี่ยง!

 

 

 

“หลบเร็ว!” ซูฉางหงหลบออกไปด้านข้าง

 

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาหยุดและกำลังจะตอบโต้ เขาก็รู้สึกถึงเงาที่น่ากลัวอีกครั้ง ใบหน้าของซูฉางหงเปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดทันที

 

 

 

ทะลวงภูเขา!

 

 

 

ซูฮ่าวโจมตีเข้ามาอีกครั้ง!

 

 

 

บูม!

 

 

 

ภาพติดตาถูกปล่อยทิ้งเบื้องหลังเสียงฟ้าร้อง

 

 

 

ทุกคนตะลึงพวกเขาเพิ่งได้เห็นอะไร ตอนแรกพวกเขาคิดว่าซูฉางหงจะบุกอย่างบ้าคลั่งจนทำให้ซูฮ่าวไม่สามารถทำอะไรได้ แต่มันกลับเป็ยซูฮ่าวที่แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นของเขา! เมื่อเขาพุ่งเข้าหาซูฉางหงเขาก็ส่งหมัดออกไปอีกครั้ง

 

 

 

มันกลับกลายเป็น….?

 

 

 

เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน!

 

 

 

มันเป็นเทคนิคการต่อสู้ที่ทุกคนคุ้นเคย! แน่นอนว่าทุกคนคงต้องคุ้นเคยกับทักษะระดับพื้นฐาน อย่างไรก็ตามเมื่อซูฮ่าวใช้มัน มันดูราวกับเป็นทักษะที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

 

 

เหลือเชือ!

 

 

 

มันเป็นความเร็วที่บ้าบออะไรกัน?

 

 

 

อีกทั้งพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น?

 

 

 

เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเมื่อถูกใช้โดยซูฮ่าวกลายเป็นทักษะที่น่ากลัว นอกจากนี้ยังไม่พบความผันผวนพลังงานใดๆ แม้ว่าซูฉางหงอยากจะตรวจสอบร่องรอย เขาก็ไม่สามารถทำได้ สถานการณ์นี้ราวกับว่าเขาได้พบกับสัตว์ร้ายอย่างไม่คาดคิด!

 

 

 

บูม!

 

 

 

บูม!

 

 

 

ซูฮ่าวนั้นเป็นราวกับสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์!

 

 

 

การที่คนที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตมืออาชีพเผชิญหน้ากับขอบเขตโดเมนอีกทั้งกดดันขอบเขตโดเมน ซูฮ่าวได้ก้าวข้ามไปถึง 1 ขอบเขต ด้วยสุดยอดเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานควบคู่ไปกับทะลวงภูเขา เขาเข้าปะทะอย่างรุนแรงกับซูฉางหง

 

 

 

แล้วไงถ้าคุณเป็นเอสเปอร์โดเมน

 

 

 

ฉันจะต่อยคุณจนกว่าจะกระเด็น!

 

 

 

อย่างไรก็ตามซูฉางหงก็สมกับที่เป็นเอสเปอร์โดเมน แม้ว่าเขาจะด้อยกว่าทั้งด้านของความเร็วและพลังที่ท้าทายสวรรค์ของซูฮ่าวแต่ทว่าการป้องกันของเขาก็ไม่มีการรั่วไหลใดๆ ไม่ว่าซูฮ่าวจะโจมตีรุนแรงเพียงใด หมัดของเขาก็ถูกบล็อกไว้ได้เสมอ ในเวลาเดียวกันเขาไม่สามารถทำอะไรซูฮ่าวได้

 

 

 

การต่อสู้ดูเหมือนจะอยู่ในจุดสมดุล

 

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้อยู่ได้นานนัก ไม่กี่นาทีต่อมา ซูฉางหงรู้สึกว่าหากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป…

 

 

 

พลังของเขาจะหมดลงก่อนซูฮ่าว!

 

 

 

“ฉันต้องใช้ท่านั้นจริงๆ งั้นเหรอ…” ซูฉางหงถอนหายใจ

 

 

 

ผู้นำตระกูลคนนี้เหลือเชื่อไม่ต่างจากชื่อเสียงของเขา แม้หลังจากผ่านการต่อสู้กับตระกูลเทียนมา เขาก็ยังคงมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัว น่าเสียดายที่ตระกูลซูอ่อนแอเกินไป

 

 

 

ขนาดที่การต่อสู้กำลังดำเนินไปนั้น ซูฉางหงดูเหมือนจะนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เขาจะขึ้นไปมาบนเวที

 

 

 

คำแนะนำของซูออโถ

 

 

 

“ความแข็งแกร่งของซูฮ่าวนั้นไม่อาจคาดเดาได้ นอกจากนี้ด้วยไพ่ในมือจำนวนมากจึงเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเหตุไม่คาดคิด ดังนั้นฉันจะสอนทักษะต้นกำเนิดบางอย่าง หากเจ้าพบกับอันตรายใดๆ ให้ใช้ทักษะนี้โดยทันที จากนั้นซูฮ่าวจะบาดเจ็บหนัก!” ซูออโถพูดอย่างชั่วร้าย

 

 

 

ทักษะต้นกำเนิด?

 

 

 

ได้รับบาดเจ็บสาหัส?

 

 

 

มันมีทักษะแบบนั้นอยู่จริงงั้นเหรอ?

 

 

 

ซูฉางหงเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน เมื่อเขาได้เรียนรู้ทักษะต้นกำเนิดนั้นเขาก็ตระหนักว่ามันเป็นทักษะกระตุ้นที่ธรรมดามากๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งทักษะต้นกำเนิดนี้ใช้เพื่อชักนำบางสิ่งภายในร่างกายของซูฮ่าวออกมาเพื่อก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส

 

 

 

สำหรับการใช้งาน?

 

 

 

ซูฉางหงไม่รู้และเขาก็ไม่สนใจ

 

 

 

สิ่งที่เขารู้ก็คือเขาจะต้องชนะ!

 

 

 

ทั้งตกโลกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย และหากตระกูลซูยังคงอ่อนแอเช่นนี้ เขาก็ต้องหาตระกูลที่แข็งแกร่งซึ่งเขาสามารถพึ่งพาได้ และตระกูลเทียนก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!

 

 

 

 

“ฉันขอโทษ” ซูฉางหงกัดฟันและเรียกใช้ทักษะต้นกำเนิดนั้นทันที

 

 

 

 

วูป!

 

 

 

 

ในอากาศอนุภาคพลังงานก้อนหนึ่งจะส่องแสงประกายสดใส

 

 

 

 

ซูฮ่าวผู้กำลังจะโจมตีจู่ๆ ก็แข็งทื่อแล้วล้มลงกับพื้น ศิษย์ทุกคนตกใจ เกิดอะไรขึ้น?

 

 

 

 

“เจ้า…” ซูฮ่าวมองดูซูฉางหงด้วยความตกใจ

 

 

 

 

“นี่คือ!” ซูฉางหงก็ตกใจเช่นกัน

 

 

 

 

ในขณะที่เขาเปิดใช้งานทักษะต้นกำเนิดนั้นเขาก็ตระหนักว่าทักษะต้นกำเนิดนี้คือพิษ! ซูฮ่าวโดนพิษและทักษะต้นกำเนิดนี้เป็นเพียงวิธีที่จะกระตุ้น…  พิษ ผู้นำตระกูลได้รับพิษอย่างไร ซูฉางหงเหมือนจะนึกถึงบางอย่าง พ่อครัวของตระกูลวซูที่มาถึงเมื่อสองวันก่อน

 

 

 

 

พ่อครัว อาหาร ยาพิษ!

 

 

 

 

ในใจซูฉางหงตกตะลึง แม้แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าซูออโถจะใช้วิธีสกปรกดังกล่าวเพื่อจัดการกับตระกูลซู ซึ่งเป็นครอบครัวของเขาเอง!

 

 

 

“นี่คือเหตุผลที่ฉันบอกว่าตระกูลซูอ่อนแอเกินไป…” ซูฉางหงถอนหายใจในใจ โชคดีที่เมื่อเขายอมรับภารกิจนี้เขาก็จะไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลซูอีกต่อไป!

 

 

 

เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา

 

 

 

“ตาย!” ซูฉางหงจ้องไปที่ซูฮ่าวอย่างแน่วแน่

 

 

 

หากอยากจะเข้าตระกูลเทียนเขาจะต้องพิสูจน์ถึงความจงรักภักดีและสามารถทำได้โดยการสังหารซูฮ่าว!

 

 

 

แสงส่องประกายขณะที่ซูฉางหงชกไปที่ซูฮ่าว ซูฮ่าวกระอักเลือดออกมาหนึ่งคำและกระเด็นออกไป ก่อนตกลงบนพื้นและไม่มีเสียงใดๆ ดังมาจากเขาทำให้ฝูงชนต่างตกใจ

 

 

 

“ผู้นำตระกูล”

 

 

 

“ซูฮ่าว!”

 

 

 

ทุกคนตกตะลึง ผู้อาวุโสใหญ่โกรธเกรี้ยว “ซูฉางหง เจ้ากล้าดียังไง!”

 

 

 

บูม!

 

 

 

ทันทีที่ผู้อาวุโสใหญ่กำลังจะพุ่งไปหาซูฉางหง มีร่างหนึ่งมาขัดขวางเขาโดยยืนอยู่ด้านหน้าซูฉางหง

 

 

 

ซูออโถยิ้ม “ผู้อาวุโสใหญ่นี่คือการต่อสู้เพื่อกลับเข้าสู่ตระกูลของซูฮ่าว รอดชีวิตหรือพบกับความตาย แต่ละคนต่างก็มีชะตากรรมของตนเอง สำหรับคนนอกอย่างท่าน ใยจึงกล้าที่จะลงมือทำกับคนในตระกูลของตนเอง ท่านพยายามสื่ออะไรที่นี่?”

 

 

 

“เจ้า!” ผู้อาวุโสใหญ่เต็มไปด้วยความโกรธ

 

 

 

ผู้อาวุโสคนหนึ่งก้าวออกไปตรวจสอบซูฮ่าว เขาก็ส่ายหัวและถอนหายใจ “เนื้อเยื่อทั่วทั้งร่างของเขาถูกทำลาย ซูฮ่าวไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน”

 

 

 

“พวกเจ้า.…”

 

 

 

ทุกคนมองพวกเขาด้วยความโกรธ พวกเขาฆ่าผู้นำตระกูลจริงๆ งั้นเหรอ?

 

 

 

เป็นการกระทำที่ไม่น่าให้อภัย!

 

 

 

ความโกรธดูเหมือนกำลังจะปะทุขึ้น ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าซูหมิงฮุ่ยผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซูฮ่าวมากที่สุดไม่ได้ก้าวออกไปใดๆ เขาแค่มองไปที่ความวุ่นวายและเผยรอยยิ้มที่น่ากลัวที่มุมปากของเขา

 

 

 

“เงียบ” ซูออโถตะโกนก่อนปล่อยออร่าขอบเขตโดเมนของเขาเพื่อให้ทุกคนปิดปาก จากนั้นเขาก็พูดต่อ “การที่ซูฮ่าวตายในการประลองนั่นไม่ถือว่าผิดปกติ ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของการประลองมีอัตราการตายมากกว่า 50%  การที่เขาถูกฆ่าโดยซูฉางหงที่ลานแห่งนี้ มันมีอะไรผิดปกติกัน”

 

 

 

“การที่เขาตายไป นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำตระกูล อย่างไรก็ตามตระกูลซู**ของฉัน*(เน้นเสียง)**ไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีผู้นำ ดังนั้นหากพวกท่านไม่รังเกียจฉันสามารถแก้ปัญหานี้ของตระกูลซูได้”

 

 

 

ในที่สุดซูออโถก็เผยเจตนาของเขา

 

 

 

เขาวางแผนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูล!

 

 

 

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” นัยน์ตาของผู้อาวุโสใหญ่ประกายเย็นชา “ฉันน่าจะฆ่าเจ้าไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เจ้าเป็นคนที่มักจะมีเจตนาชั่วร้ายอยู่เสมอ! แม้ว่าซูฮ่าวจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เจ้าก็ไม่มีหวังที่จะเป็นผู้นำตระกูล!”

 

 

 

“หึหึหึ” ซูออโถนิ่งเฉย “ใจเย็นๆ ผู้อาวุโสใหญ่ ท่ายชราภาพมากแล้ว ถ้าท่านตายด้วยความโกรธนั่นจะไม่เป็นเรื่องดี ฉันคิดว่าเป็นการดีกว่าหากเราจะลงคะแนนเสียงกันอย่างเป็นธรรม”

 

 

 

“หืม?” ผู้อาวุโสใหญ่แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน เขาต้องการจะดูว่าซูออโถกำลังวางกลอุบายอะไร ผู้อาวุโสกว่า 80% เป็นคนของเขา 10% เป็นกลาง เขาอยากจะเห็นว่าซูออโถจะอ้างสิทธิ์ครอบครองตำแหน่งผู้นำตระกูลอย่างไร?

 

 

 

“ทุกสิ่งสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วยการลงคะแนน” ซูออโถมองไปที่ผู้อาวุโสทั้งหมดในลาน “ผู้อาวุโสที่สนับสนุนให้ฉันเป็นผู้นำตระกูลยกมือขึ้น”

 

 

 

วูป!

 

 

 

มี 6 คนยกมือ!

 

 

 

นอกเหนือจากซูออโถและผู้อาวุโสสองคนข้างเขาแล้ว ด้านหลังผู้อาวุโสใหญ่ยังมีผู้อาวุโสอีกสามคนที่ยกมือขึ้นโดยไม่ลังเล

 

 

 

“พวกเจ้า…” ผู้อาวุโสใหญ่แทบไม่เชื่อ เขาไปข้างหลังและมองผู้อาวุโสทั้งสองคนที่เขาคอยดูแลอยู่เสมอ “พวกเจ้ากล้าทรยศพวกเรา?”

 

 

 

พวกเขาเงียบ

 

 

 

“ผู้อาวุโสใหญ่นี่ไม่ใช่การทรยศ” ซูออโถยิ้มบาง “ทั้งท่านและข้าต่างก็เป็นสมาชิกของตระกูลซู เห็นได้ชัดว่าฉันฉลาดกว่าท่านและพวกเขาตัดสินใจที่จะสนับสนุนฉัน”

 

 

 

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” ผู้อาวุโสใหญ่แทบจะไม่สามารถระงับโกรธไว้ได้ “แต่… มีเพียงหกคนเท่านั้นที่สนับสนุนเจ้า คุณทำอะไรได้?!”

 

 

 

“ท่านมั่นใจถึงเพียงนั้น?” ซูออโถเปิดเผยรอยยิ้มที่น่ากลัวและมองไปที่ทุกคนอย่างเย็นชา “ผู้อาวุโสที่ไม่สนับสนุนฉันยกมือขึ้น”

 

 

 

วูป!

 

 

 

ผู้อาวุโสใหญ่และฝ่ายของเขายกมือขึ้น

 

 

 

หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า มีเพียงห้าคนเท่านั้น!

 

 

 

“นี่…” ผู้อาวุโสใหญ่ตกตะลึง

 

 

 

มีผู้อาวุโสทั้งหมด 20 คนในตระกูลซู หกสนับสนุน ห้าไม่สนับสนุน และเก้ายังคงเป็นกลาง! ซูออโถชนะเขาไปหนึ่งเสียง!

 

 

 

ฝูงชนเต็มไปด้วยความโกลาหล!

 

 

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

 

 

“สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร”

 

 

 

ทุกคนตกตะลึง ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ซูออโถว่าสามารถโน้มน้าวผู้อาวุโสได้กว่าสิบห้าคน นี่เป็นไปได้อย่างไร?

 

 

 

“ไอ้พวกโง่” ซูออโถแอบเยาะเย้ย

 

 

 

เมื่อพูดถึงด้านการใช้สมองพวกเขากลับด้อยมาก!

 

 

 

สิบห้า?

 

 

 

แน่นอนว่ามันไม่ได้มากถึงเพียงนั้น!

 

 

 

เขามีอยู่แล้วสามคน ตราบใดที่เขาหาเพิ่มอีกสามคนนั่นก็เพียงพอแล้ว ในส่วนของเก้าคนที่เหลือซูออโถเพียงช่วยให้พวกเขามีกำไรและยัดทรัพยากรจำนวนมากมายเพื่อให้พวกเขาวางตัวเป็นกลาง พวกเขาไม่จำเป็นต้องกระทำการใดๆ ตราบใดที่พวกเขายังคงเป็นกลางพวกเขาก็สามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายอีกทั้งยังได้รับทรัพยากรฟรีๆ ทำไมพวกเขาถึงต้องปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว?

 

 

 

ด้วยการหาเสียงของเขา ซูออโถก็สามารก้าวเหยียบผู้อาวุโสใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

ในเวลานี้ทุกคนต่างก็เข้าใจในที่สุด การแข่งขันก่อนหน้าทั้งหมดเป็นเพียงบทนำ การต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา!

 

 

 

“เล่นสกปรก”

 

 

 

ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆ ในฝ่ายของเขาไม่พอใจ

 

 

 

เขาจะไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลซูที่ดูเหมือนจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะสลายไปเช่นนี้!

 

 

 

“หึ” ซูออโถรู้สึกสดชื่นเมื่อสังเกตสถานการณ์โดยรวม เขาดึงความสนใจและไปที่มองทุกคนอย่างเย็นชา “ต่อจากนี้ไปฉันเป็นผู้นำของตระกูลซ-…”

 

 

 

ก่อนที่เขาจะเอ่ยจบ ซูออโถก็ต้องหยุดลงอย่างกะทันหันเพราะเห็นซูฮ่าวลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ เรื่องนี้ทำให้เขาตกตะลึง สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นคือซูฮ่าวมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

 

 

 

“แน่นอนความพยายามของฉันในการแสดงละครไม่ได้สูญเปล่า”

 

 

 

“เจ้าทำได้อย่างไร…” ซูออโถมองดูซูฮ่าวอย่างไม่เชื่อ เขารู้ดีว่าพิษที่เขาใช้คืออะไร! ซูฮ่าวยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!

 

 

 

ซูฮ่าวเพียงยิ้มอย่างสบายๆ โดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขามองไปด้านหลัง

 

 

 

“อาวุโส ท่านคิดว่าอย่างไร”

 

 

 

“อะไรกัน?” ซูออโถหันกลับไปและสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง ใบหน้าของเขาซีดเผือก