ตอนที่ 762 วินาทีสุดท้าย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ตอนที่ 762 วินาทีสุดท้าย

 

”อะไรนะเดี๋ยว ฉัน…” แม้แต่ฟานฮงเหวียนที่เป็นสมาชิกของ Mensa ก็ไม่สามารถตามจังหวะของชูฮันได้ทัน

 

และในเวลาเดียวกันชูฮันก็บังคับให้หวังไคปรากฏตัวขึ้นเป็นกระต่ายร่างยักษ์ท่ามกลางความมืด จากนั้นก็หยิบเชือกอีกมวนออกมา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับไต่ลงไปที่ความลึกกว่าเดิม

 

”ชู…อ๊าก!อะไรเนี่ย…” ฟานฮงเหวียนร้องออกมาอย่างตกใจ ขณะที่กำลังจะพูดจู่ๆมันก็มีกระต่ายร่างใหญ่ปรากฏตัวขึ้น

 

”ฉันจะแนะนำให้นี่คือหวังไค มันไม่กินคน ไม่ต้องห่วง นายไปกับมันได้เลย ไปรอฉันที่พื้นที่ผู้ลี้ภัย” หลังจากชูฮันพูดจบ เขาก็เหวี่ยงเชือกและไหลลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว ไม่มีคำอธิบายใดๆทั้งนั้นเนื่องจากเวลาที่จำกัด

 

ทันทีที่ชูฮันหายไปจากสายตาฟานฮงเหวียนที่ยังปรับอารมณ์ไม่ได้ก็นิ่งค้างไม่ขยับ ไม่ใช่แค่เพราะสถานการณ์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนประมวลไม่ทัน แต่ยังรวมถึงกระต่ายยักษ์แปลกประหลาดที่อยู่ถัดจากเขาอีก มันกำลังผูกเชือก มันดูมีความเป็นมนุษย์สุดๆ นี้มันเรื่องเหลือเชื่ออะไรกัน!

 

และฟานฮงเหวียนก็จับใจความสิ่งที่ชูฮันพูดได้แค่อย่างเดียวว่าเจ้ากระต่ายยักษ์นี้ไม่กินคน?

 

หวังไคที่เป็นคนมัดเชือกเองก็กำลังเคียดแค้นชูฮันอยู่ในใจหากมันก็รู้ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันจำเป็นและเร่งด่วนมากขนาดไหน เวลาหนึ่งชั่วโมงมันน้อยไปมากจริงๆ!

 

และเมื่อคิดได้เช่นนั้นหวังไคเองก็มีความกังวลในใจ มันกลัวว่าชูฮันจะติดอยู่ที่นี่ แต่อีกใจมันก็รู้ดีว่าชูฮันจะหาทางออกได้ในที่สุด ชูฮันจะหาหนทางได้เสมอ

 

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือมันจะต้องพาฟานฮงเหวียนออกไป!

 

เมื่อคิดได้หวังไคก็รีบพุ่งเข้าไปหาฟานฮงเหวียนมันอ้าปากกว้างส่งเสียงเห่าพร้อมใช้อุ้งมือชี้ไปที่หลังตัวเอง สื่อให้ฟานฉงเหวียนขึ้นหลังมัน

 

ฟานฮงเหวียนที่สติกระเจิงไปเรียบร้อยกลายเป็นว่าความบ้าคลั่งของโลกาวินาศทำให้กระต่ายสามารถเห่าได้แล้วเหรอ?

 

ชูฮันลงไปตามความลึกขณะที่หวังไคและฟานฮงเหวียนขึ้นไปด้านบน ส่วนทั้งสามคนที่คอยดูสถานการณ์จากห้องควบคุมกำลังวิตกกังวลนั่งไม่ติด

 

”มันนานเท่าไหร่แล้ว?ผมกังวลจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว!” กวงโถวที่ทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ออกมาก่อนเป็นคนแรก เขาเอาแต่เดินหมุนกลับไปมาตลอดเวลา..

 

”เลิกเดินกลับไปกลับมาสักทีมันเปล่าประโยชน์!” เสี่ยติงที่รำคาญตะคอกใส่กวงโถว

 

”มันเหลืออีกแค่5 นาที…” เหอซางเริ่มหน้าซีด เขาไม่รู้ว่าชูฮันเผชิญกับอะไรบ้างข้างล่างนั่น ไม่รู้ว่าไปเจอกับดักอะไรบ้างรึเปล่า เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี?

 

”ตอนนี้เหลือ4 นาทีแล้ว” กวงโถวเหงื่อแตกเอ่ยเสริมขึ้นมา เขาแต่จ้องเขม็งไปที่นาฬิกาในห้องไม่วางตา

 

เสี่ยติงในตอนนี้เองก็มีสีหน้าเป็นกังวล”เราต้องทำอะไรสักอย่าง!”

 

เหอซางสูดลมหายใจลึก”ฉันต้องอยู่ควบคุมระบบที่นี้ ไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้น พวกเราสามารถช่วยหัวหน้าชูฮันได้ ต้องขอบคุณที่พวกเราทุกคนมีความสามารถกันทั้งนั้น”

 

กวงโถวไม่เข้าใจ”เหอซาง พี่อยากจะให้ผมทำอะไร?”

 

”นายไปที่ประตูเดี๋ยวนี้ฉันจะเปิดระบบควบคุมลำโพงภายใน ทันทีที่หัวหน้าชูฮันปรากฏตัวขึ้น นายรีบบอกฉันทันที มันใช้เวลาแค่สามวินาทีเท่านั้นในการเปิดประตู” เหอซางอธิบายขั้นตอน น้ำเสียงล้ำลึกและจริงจังอย่างมาก “ถ้าหัวหน้าชูฮันไม่ออกมาภายในเวลาที่กำหนด…”

 

อึก!อึก!

 

ทั้งเสี่ยติงและกวงโถวกลืนน้ำลึกเสียงอึกด้วยความประหม่าสายตาทั้งสองคู่จ้องเหอซางไม่วางตา หัวใจเต้นรัว เลือดสูบฉีด

 

”แล้วถ้าหัวหน้าชูฮันไม่ออกมา?”เสี่ยติงถามตะกุกตะกัก

 

”ฉันจะยังเปิดประตูค้างไว้จนวินาทีสุดท้าย!”เหอซางพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด “ส่วนนายก็เข้าไปตามหาชูฮัน!”

 

”อึก~”

 

เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามกรอบหน้าของกวงโถวเขากลืนน้ำลายอึก เสื้อที่หลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากแห้งผาก จากนั้นก็หมุนตัวมุ่งหน้าไปที่ประตูทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

ส่วนเหอซางเองก็มองตามหลังกวงโถวไปด้วยสีหน้าสับสนความรู้สึกของการไร้พลังอำนาจโจมตีเข้าอกของเหอซาง

 

”ถ้าหัวหน้าชูฮันไม่ออกมาฉันจะเข้าไปตามหาเขา!” เสียงของกวงโถวดังผ่านลำโพงเข้ามาในห้องควบคุมพร้อมกับเสียงหอบดัง แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ขณะพูด

 

ลำคอของเหอซางตีบตันหลังจากสงบอารมณ์ได้แล้วเขาก็ตอบกลับกวงโถว “ขอบคุณ”

 

เหอซางรู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิที่จะบอกให้กวงโถวเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยชูฮันแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชูฮันและตัวเขาเองก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้มาก โชคยังดีที่กวงโถวยินยอมช่วยทันที

 

”ผมมาถึงแล้วมันไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรที่หลังประตูเลย” กวงโถวที่วิ่งมาถึงประตูอย่างรวดเร็วก็รีบรายงานสถานการณ์แก่เหอซางทันที

 

เหอซางชะงักไปชั่วครู่หลังจากหาเสียงตัวเองเจอ เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “สามสิบวินาทีสุดท้าย คอยจับจ้องการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด”

 

เสี่ยติงที่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ทำอะไรก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเหงื่อไหลย้อยเต็มหน้า ตาจ้องเขม็งอยู่ที่นาฬิกาไม่ขยับไปไหน หัวใจสูบฉีดอย่างทำงานหนัก

 

”อีกยี่สิบวินาทีเป็นไงบ้าง?” เหอซางโพล่งขึ้นมา มือของเขาจ่อที่แป้นพิมพ์รอจังหวะอย่างใจจดใจจ่อ

 

”ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย!”คำตอบของกวงโถวยิ่งทำให้เสี่ยติงและเหอซางที่คาดหวัง หัวใจห่อเหี่ยวลง

 

”อีกสิบวินาที!”เหอซางกัดฟัน ตาแดงก่ำ มือจ่อค้างนิ่งไว้ที่แป้นพิมพ์รอที่จะกดเปิดประตู

 

”ไม่ไม่นะ ไม่” กวงโถวสะบัดหน้าไปมาอย่างวิตกกังวล มันเหลืออีกแค่ 7 วินาทีเท่านั้น

 

เหอซางสูดลมหายใจลึกกัดฟันกรอด “ฉันพร้อมจะเข้าไปแล้ว เปิดประตูเลย——”

 

”เดี๋ยว!อ๊ากกก มันต้องไม่เป็นแบบนนี้ เปิดประตูเร็วเข้า!” ทันใดนั้นเสียงของกวงโถวที่กระตือรือล้นสุดๆก็ดังลอดลำโพงออกมา เขาตื่นเต้นอย่างมาก “เห็นแล้ว เขาออกมาแล้ว มีการเคลื่อนไหวเร็วมาก มีคนกำลังวิ่งมา!”

 

คำบอกของกวงโถวทำให้บรรยากาศในห้องควบคุมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

 

เหอซางดีใจสุดๆจนแทบจะคุมอารมณ์ไม่อยู่เขารีบกดแป้นพิมพ์เพื่อเปิดประตูทันที

 

กวงโถวที่รอคอยอยู่หน้าประตูทั้งคาดหวังและตื่นเต้นขยับตัวเงอะๆงะๆอย่างทำอะไรไม่ถูก

 

ทันใดนั้นเองกวงโถวก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ มองไปที่ร่างที่กำลังมุ่งหน้ามาหาอย่างรวดเร็ว

 

ไม่ใช่ชูฮันแต่เป็นกระต่ายร่างยักษ์มีชายแปลกหน้าที่เนื้อตัวโชกเลือดอยู่บนหลัง!

 

”เหอซาง!อย่าเปิดประตู!” เสียงหวาดกลัวตะโกนบอกเหอซางทันทีที่ได้สติ

 

เสียดายที่มันสายไปเสียแล้ว เสียงตะโกนของกวงโถวยังไม่ทันหายไป ประตูที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงก็สั่งการเปิดประตูทันที ในเวลาเดียวกันหวังไคที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับฟานฮงเหวียนที่อยู่บนหลังก็พุ่งออกไปที่ทางออกทันที!