ตอนที่ 32 ศาสตร์โบราณ โดย Ink Stone_Fantasy
ทันใดนั้นสีหน้าของมารเฒ่าเข็มทองก็พลันเปลี่ยนแปรไปเล็กน้อย “เอ๊ะ ไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้หรือนี่ ไม่มีอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อยเลยหรือ”
เขายังไม่ทันได้สำแดงกระบวนท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้ออกมา การโจมตีของตงป๋อเสวี่ยอิงก็มาถึงแล้ว รอบกายมารเฒ่าเข็มทองพลันมีตงป๋อเสวี่ยอิงสามร่างปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า แต่ละร่างล้วนกุมหอกยาวเอาไว้ในมือแล้วสำแดงท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา หอกยาวแต่ละเล่มล้วนก่อให้เกิดระลอกคลื่นน้ำวน ทำให้มีน้ำวนบริเวณการเข่นฆ่าขนาดใหญ่เกิดขึ้นถึงสามแห่ง
หอกยาวสามเล่มโจมตีเข้ามาพร้อมกัน
สีหน้าของมารเฒ่าเข็มทองเปลี่ยนแปรไป ใบหน้าเหี้ยมเกรียมพลันแค่นเสียงพูดว่า “ไสหัวไป!”
เขาเดี่ยวสีดำซึ่งเดิมอยู่กลางหน้าผากเขาพลันลอยออกมา แล้วกวาดไปรอบด้านด้วยอานุภาพอันน่าหวาดหวั่น ก่อให้เกิดเป็นน้ำวนวงแล้ววงเล่า ก่อนจะกวาดผ่านหอกยาวของร่างแปรสามร่างไปพร้อมกันในทันใด! เนื่องจากการโจมตีของร่างแปรของตงป๋อเสวี่ยอิงรวดเร็วยิ่งนัก มารเฒ่าเข็มทองจึงปะทุพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา เขาเดี่ยวซึ่งเป็นแก่นชีวิตของเขาสำแดงศาสตร์ลับขั้นจักรวาลม้วนกระบี่จันทร์แรมออกมา ได้ยินเพียงเสียงระเบิดดังตู้มๆๆๆ ต่อเนื่องกันเป็นชุด ร่างแปรทั้งสามก็ถูกกระแทกจนกระเด็นโซซัดโซเซถอยหลังไป
แม้ร่างแปรจะเปราะบาง แต่วิถีหอกอันยอดเยี่ยมซึ่งเป็นท่าไม้ตายที่เกิดจากการแก้ไขกระบี่ที่หนึ่งผลาญโลกาและหลอมรวมเข้ากับวิถีระลอกคลื่น ก็มีแต่ ‘อวี่เจี้ยนเค่อ’ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้เท่านั้นที่สามารถเทียบเทียมได้ ต่อให้ร่างแปรเปราะบาง พลังรบของแต่ละร่างก็เพียงพอจะจัดอยู่ในอันดับที่สิบกว่าได้แล้ว การล้อมโจมตีของร่างแปรสามร่างนำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลต่อมารเฒ่าเข็มทองโดยแท้
“ตู้มมม…” ร่างจริงของตงป๋อเสวี่ยอิงที่อยู่ไกลออกไปก็ปะทุออกมาโดยไม่สนใจลำแสงสีดำที่โจมตีลงมายังร่างเอาเสียเลย เพราะถึงอย่างไรการโจมตีเหล่านี้ก็ทำร้ายเขาไม่ได้อยู่แล้ว เขาบุกสังหารไปทางมารเฒ่าเข็มทอง
“ร่างกายของเจ้าหนุ่มนี่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งนัก วิถีหอกก็ร้ายกาจมากทีเดียว” ม่านตาของมารเฒ่าเข็มทองหดตัวลง เขาคิดไม่ถึงว่าร่างแปรก็จะสามารถคุกคามเขาได้
“ตายเสียเถอะ!!!” มารเฒ่าเข็มทองบ้าคลั่งไปแล้ว
ลำแสงสีดำนับร้อยตั้งแต่เดิมนั้นถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว ลำแสงแต่ละสายล้วนมีอสนีบาตไหลเวียนอยู่ อานุภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนเห็นได้ชัด มันโจมตีตรงไปทางร่างแปรสามร่างของตงป๋อเสวี่ยอิง ก่อนหน้านี้ ลำพังแค่อานุภาพของลำแสงสีดำเหล่านี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถโจมตีมาถึงร่างของตงป๋อเสวี่ยอิงได้แล้ว บัดนี้ยังสำแดงศาสตร์ลับขั้นอลวนออกมาอีกวิชาหนึ่ง แม้จะมิอาจคุกคามร่างจริงของตงป๋อเสวี่ยอิงได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับร่างแปรก็เหลือล้นนัก
มารเฒ่าเข็มทองทำอย่างเต็มที่แล้ว เขามิอาจทำให้ลำแสงสีดำสำแดงศาสตร์ลับขั้นจักรวาลออกมาได้เช่นเดียวกัน
ลำแสงกว่าร้อยสายต่างก็สำแดงศาสตร์ลับขั้นจักรวาลออกมาอย่างนั้นหรือ
นี่เป็นภาระต่อวิญญาณมากเกินไปแล้ว!
เหตุใดตงป๋อเสวี่ยอิงจึงสำแดงร่างแปรออกมาเพียงสามร่างน่ะหรือ ก็เพราะตอนนี้ความแข็งแกร่งของวิญญาณเขาทำได้เพียงทำให้ร่างแปรสามร่างสำแดงพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้เท่านั้น
“ไม่ดีแล้ว เร็วขึ้นแล้ว” ร่างแปรสามร่างต่างก็ตกใจใหญ่ แม้วิถีหอกจะยอดเยี่ยม แต่ลำแสงสีดำซึ่งทวีความเร็วขึ้นกลับทะลุผ่านร่างของเขาไปในพริบตา แล้วทำลายร่างแปรสามร่างลงในทันใด
“เฮอะ ร่างแปรหรือ ทิ้งเข็มทองเอาไว้สักห้าสิบเล่มก็เพียงพอจะคุ้มกายได้แล้ว” มารเฒ่าเข็มทองกำหนดจิตคราหนึ่ง
ลำแสงสีดำห้าสิบสายรายล้อมอยู่รอบร่างเขา
แต่ลำแสงสีดำอีกห้าสิบสายก็ล้อมโจมตีไปทางร่างจริงของตงป๋อเสวี่ยอิงพร้อมกับ ‘เขาเดี่ยวสีดำ’ ด้วยความบ้าคลั่ง ร่างจริงของตงป๋อเสวี่ยอิงที่บุกเข้ามานั้นกล้าแกร่งหาใดเปรียบ พละกำลังภายในกายปะทุออกมาจนหมด หอกยาวในมือก็สำแดงปรัชญาคลื่นลมบทที่เก้าออกมา ทันใดนั้นรอบด้านก็มีระลอกคลื่นน้ำวนขนาดมหึมาก่อตัวขึ้นอีกครั้ง แล้วปะทะเข้ากับลำแสงเหล่านั้นอีกครา
“ตู้มๆๆๆ…”
ตงป๋อเสวี่ยอิงสัมผัสถึงอานุภาพของเขาเดี่ยวสีดำได้ด้วยตนเองแล้ว เขาเดี่ยวสีดำสำแดงม้วนกระบี่จันทร์แรมที่จอมกระบี่คิดค้นขึ้นออกมา ทั้งแปลกประหลาดและรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เคราะห์ดีที่มีเพียงแค่เขาเดียวเท่านั้น ตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงวิถีหอกยังพอจะต้านทานได้อย่างพอถูไถ แต่พละกำลังอันเหี้ยมโหดทำให้เขาโซซัดโซเซถอยหลังไป ลำแสงสีดำสายอื่นๆ ยังคงโจมตีลงบนร่างเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ตาย ตายให้ข้าเสียเถอะ” มารเฒ่าเข็มทองคลุ้มคลั่งไปแล้ว
……
การโจมตีของมารเฒ่าเข็มทองบ้าคลั่งเป็นอันมาก การโจมตีอันมืดฟ้ามัวดินนั้นทำเอาร่างจริงของตงป๋อเสวี่ยอิงมิอาจรุกขึ้นหน้าได้อีกต่อไปและถูกล้อมโจมตีอย่างสิ้นเชิง! แม้เขาจะสำแดงร่างแปรออกมาเช่นเดียวกัน ด้วยหมายจะรับมือมารเฒ่าเข็มทอง แต่ลำแสงสีดำห้าสิบสายนั้นรวดเร็วเกินไป พวกมันไม่สนใจการสำแดงวิถีหอกของร่างแปรเลย สนใจแต่เพียงการร่วมกันล้อมโจมตีเท่านั้น ก็สามารถทำลายร่างแปรสามร่างของตงป๋อเสวี่ยอิงลงไปได้อย่างง่ายดาย
“พลังของมารเฒ่าเข็มทองแข็งแกร่งกว่าศิษย์อาภรณ์ทองคนอื่นค่อนข้างมาก ข้อได้เปรียบชัดเจนเป็นอย่างมาก” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เข้าใจดีว่าเขาเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้มิได้ “เดิมทีข้าก็ฝ่าวงล้อมของเขาออกไปมิได้อยู่แล้ว อานุภาพของเขาเดี่ยวซึ่งเป็นแก่นชีวิตของเขานั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่งโดยแท้ เมื่อสำแดงม้วนกระบี่จันทร์แรมออกมาก็สามารถกดดันข้าได้อย่างสิ้นเชิง”
หากพูดถึงวิถีหอกแล้ว วิถีหอกของตนยังสูงส่งกว่าม้วนกระบี่จันทร์แรมที่เพิ่งจะเข้าที่ของอีกฝ่ายเสียอีก
ตนก็เป็นระดับขั้นชั้นที่ยี่สิบของผู้ท่องอากาศ แต่ก็ยังคงถูกกดดันอยู่นั่นเอง!
เพราะเหตุใดน่ะหรือ
ก็เพราะ ‘เขาเดี่ยว’ ซึ่งเป็นใจกลางที่สำคัญที่สุดของศาสตร์โบราณของมารเฒ่าเข็มทองมีอานุภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และนี่ก็คือจุดที่น่าหวาดหวั่นของศาสตร์โบราณ! แม้ศาสตร์โบราณส่วนใหญ่จะมีความสามารถอันแปลกประหลาดต่างๆ กันไป โดยทั่วไปพลังก็จะค่อนข้างปานกลาง แต่ในบรรดาศาสตร์โบราณจำนวนนับไม่ถ้วน…กลับมีสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่งบางชนิดปรากฏขึ้น พวกเขาสามารถเก่งกาจกว่าระบบการบำเพ็ญทั้งปวงได้!
ดังนั้น ‘จอมเทพศักดิ์สิทธิ์’ แห่งโลกทิพย์โบราณจึงแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตขั้นสุดทั้งหมด! เป็นผู้ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าแข็งแกร่งที่สุด! หากกล่าวว่า ‘จอมมารดา’ มีศัตรูคู่แค้นอยู่มากมาย ในหมู่สิ่งมีชีวิตขั้นสุด แทบจะส่วนมากล้วนมีความแค้นกับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น แต่จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงครอบครองโลกทิพย์โบราณด้วยความเหิมเกริมอยู่นั่นเอง
“ม้วนกระบี่จันทร์แรม ศาสตร์ลับขั้นจักรวาลที่จอมกระบี่คิดค้นขึ้นมานี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก” ตงป๋อเสวี่ยอิงกำลังดื่มด่ำกับซึมซับประสบการณ์ในการต่อสู้
เวลากำลังล่วงเลยไป
มารเฒ่าเข็มทองกดดันตงป๋อเสวี่ยอิงอย่างสิ้นเชิงด้วยการโจมตีอันบ้าคลั่ง ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงกลับซึมซับประสบการณ์จากการต่อสู้
“ตู้มมม…”
พละกำลังอันไร้รูปร่างระลอกหนึ่งแผ่คลุมลงมา เขาเดี่ยวซึ่งกำลังลอยไปด้วยความเร็วสูงและลำแสงสีดำกลุ่มหนึ่งก็ถูกบีบบังคับให้หยุดลง ที่แท้แล้วลำแสงสีดำเหล่านั้นก็คือเข็มทองขนาดมหึมาเล่มแล้วเล่มเล่านั่นเอง! เหนือผิวของเข็มทองมีลวดลายสีดำแปลกประหลาดอยู่ เข็มทองนี้มิใช่อาวุธที่หลอมขึ้นมา หากแต่เป็นอาวุธที่ใช้ในการส่งเสริมแก่นชีวิตของศาสตร์โบราณของมารเฒ่าเข็มทอง
เพราะถึงอย่างไรในฐานะศาสตร์โบราณ แก่นชีวิตก็สำคัญเป็นอันมาก น้อยนักที่จะใช้ในการต่อสู้
การต่อสู้ถูกหยุดลง
นัยน์ตาทั้งคู่ของมารเฒ่าเข็มทองที่มองมายังตงป๋อเสวี่ยอิงแฝงไว้ด้วยประกายสีเขียว และยังคงแฝงแววบ้าคลั่งเอาไว้ ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงในอาภรณ์สีทองทั้งร่างกลับเก็บหอกยาวลงไป
“มารเฒ่าเข็มทอง ชนะ” เสียงของค่ายกลวิญญาณแห่งลานโลกสันติสะท้อนก้องขึ้น
“นับถือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ
“เจ้าหนุ่ม ฝึกให้มากอีกหน่อยเถอะ! พลังน้อยนิดเท่านี้อย่าได้โอหังเกินไปนักเลย” มารเฒ่าเข็มทองเอ่ย
ตงป๋อเสวี่ยอิงตกตะลึงไปบ้าง จากนั้นก็พูดอะไรไม่ออก
ก็แค่การประลองหนึ่งเท่านั้น!
จำเป็นด้วยหรือ
ในโลกทิพย์ทั้งห้าอันกว้างใหญ่ไพศาลและในบรรดาผู้แกร่งกล้าจำนวนนับไม่ถ้วนท่ามกลางอากาศอันสับสนอลหม่าน ผู้ปกครองก็ยังคงอ่อนเยาว์นัก ศิษย์พี่ร่วมสำนักคนหนึ่งมาประลองด้วย จะมาโอหังและล่วงเกินผู้อื่นทำไมกัน อีกทั้งหากพูดถึงระดับขั้นจริงๆ แล้ว เกรงว่าระดับขั้นของมารเฒ่าเข็มทองคงจะต้องจัดอยู่ที่อันดับสิบกว่าเสียด้วยซ้ำ เขาอาศัยศาสตร์โบราณที่เย้ยฟ้าจึงสามารถเป็นอันดับสองได้อย่างพอถูไถ
……
บรรดาผู้อาวุโสตำหนักในไปจนถึงเหล่าประมุขวังซึ่งอยู่ด้านบน ล้วนมองออกว่าในด้านระดับขั้นนั้น ตงป๋อเสวี่ยอิงสูงส่งกว่ามารเฒ่าเข็มทองมากทีเดียว เกรงว่าคงจะมีเพียงอันดับหนึ่งอย่างอวี่เจี้ยนเค่อเท่านั้นที่จะสามารถเทียบได้! เพียงแต่ศาสตร์โบราณนั้นร้ายกาจเกินไป ทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงมิอาจเอาชนะได้ก็เท่านั้นเอง
“เป็นแค่ตัวโง่งมคนหนึ่งจริงๆ” จอมมารเหลือบมองลงไปเบื้องล่างพลางยิ้มเยาะ “ศาสตร์โบราณก็ทำได้แค่กลั่นแกล้งคนระดับเดียวกันเท่านั้น ความสามารถที่ซ่อนอยู่ของตงป๋อเสวี่ยอิงสูงส่งกว่าเขามากมายนัก อีกไม่นานพลังก็จะถูกดึงระยะห่างออกไอย่างรวดเร็ว อีกทั้งทางสายความเร้นลับของกฎเกณฑ์ยิ่งนานวันก็ยิ่งร้ายกาจ พรสวรรค์ทางด้านศาสตร์โบราณทางน้อยนิดเช่นเขาก็แค่โอหังในหมู่เด็กๆ เท่านั้น”
จอมมารเข้าใจดีว่าใน ‘โลกทิพย์โบราณ’ อันไกลโพ้น ที่นั่นจึงจะเป็นสถานที่รวมศาสตร์โบราณ ใต้บังคับบัญชาของ ‘จอมเทพศักดิ์สิทธิ์’ นั้น มีผู้มีพรสวรรค์ด้านศาสตร์โบราณแข็งแกร่งกว่ามารเฒ่าเข็มทองมากมายถมเถไป ทว่าผู้แกร่งกล้าทางด้านศาสตร์โบราณจำนวนมากไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ เพราะหากสวามิภักดิ์ต่อจอมเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว จะต้องแลกมาด้วยมูลค่าสูงลิบลิ่วยิ่งนัก ศาสตร์โบราณจำนวนมากถึงตายก็ไม่ยอมถ่ายทอดให้
……
หลังจากตงป๋อเสวี่ยอิงที่อยู่ด้านล่างพ่ายแพ้แล้ว ก็ยังคงยิ้มมองไปทางบุรุษอาภรณ์ทองร่างอ้วนซึ่งจัดเป็นอันดับสามด้านข้างพลางเอ่ยว่า “ศิษย์พี่ขุนนางโลหิต เชิญขอรับ”
“ฮ่าฮ่า เมื่อครู่ข้าก็เดาได้แล้วว่าศิษย์น้องตงป๋อเสวี่ยอิงจะเชิญข้ามาต่อสู้ด้วย แต่ถูกเจ้าเข็มทองหน้าโง่นั่นชิงไปเสียก่อน” บุรุษอาภรณ์ทองร่างอ้วนทะยานมา
“ขุนนางโลหิต” มารเฒ่าเข็มทองซึ่งอยู่บนเสาศิลาของตนเดือดดาลขึ้นมาทันที
“อย่าไปสนใจเขาเลย และก็อย่าไปเกรงใจเขาด้วย”
บุรุษอาภรณ์ทองร่างอ้วนมองตงป๋อเสวี่ยอิงพลางยิ้มพูดว่า “เขาก็แค่คนบ้าคนหนึ่ง หากเจ้าเกรงใจเขาหน่อย เขาก็จะยิ่งโอหัง”
ตงป๋อเสวี่ยอิงหัวเราะ “มีเหตุผล!”
มารเฒ่าเข็มทองยิ่งเดือดแค้นจนแทบคลั่ง แต่ช่วยไม่ได้ การประลองภายในลานโลกสันติก็ต้องเชิญให้ต่อสู้ด้วยทั้งนั้น ต่อให้ในภายหน้าเขาออกปากเชิญเอง ‘ขุนนางโลหิต’ ก็จะโพล่งออกมาทันทีว่า ‘ยอมแพ้’ ส่วนในยามปกติ บรรดาศิษย์ภายในวังทวีสูญนั้นห้ามเข่นฆ่ากันเองโดยเด็ดขาด
ดังนั้นแม้จะถูกตำหนิ แต่มารเฒ่าเข็มทองก็ทำอะไรไม่ได้เลย!
“เฮอะๆ…”
“ฮ่าฮ่า”
ศิษย์บางคนที่ชมดูอยู่ด้านข้างก็หลุดหัวเราะเสียงดังออกมา
มารเฒ่าเข็มทองกวาดตามองไปทันที ผู้ที่กล้าหัวเราะออกมาในเวลานี้ ก็คือพวกที่ไม่กลัวเกรงมารเฒ่าเข็มทอง! ศิษย์ส่วนใหญ่ยังค่อนข้างเก็บงำท่าที เพราะเส้นทางการบำเพ็ญภายหน้ายังยาวไกลนัก ความสามารถที่ซ่อนอยู่ของมารเฒ่าเข็มทองก็สูงส่งมาก ในภายหน้าหากได้อยู่ในสถานะสูงส่ง ไม่ล่วงเกินเอาไว้เป็นดี! แน่นอนว่าอย่าง ‘ขุนนางโลหิต’ และ ‘ตงป๋อเสวี่ยอิง’ นั้น ล้วนมิได้เห็นมารเฒ่าเข็มทองอยู่ในสายตา
…………………………..