ตอนที่ 444 เมิ่งชิงซีเข้าโรงพัก / ตอนที่ 445 ฉินอวิ๋นมาเยี่ยมคนเดียว

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 444 เมิ่งชิงซีเข้าโรงพัก 

 

 

“ไหวเซิน ชิงซีเป็นอะไรไป ทำไมคุณถึงได้โกรธขนาดนี้” ฉินอวิ๋นแค่ได้ยินว่าเมิ่งไหวเซินเข้าประตูมาก็ตะโกนเสียงดัง เธอยังไม่ได้ฟังให้แน่ใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพราะช่วงนี้เมิ่งไหวเซินอารมณ์ร้ายกว่าเดิมมาก 

 

 

“คุณยังจะมาถามอีกเหรอ ไหนคุณลองบอกมาสิว่าคุณสอนลูกสาวยังไง เธอถึงได้ขับรถชนถังโจวโจว ตอนนี้คนอื่นส่งหลักฐานมาให้ผมและเธอก็อยู่ที่โรงพักโน่น” 

 

 

ฉินอวิ๋นฟังว่าเมิ่งชิงซีอยู่ที่สถานีตำรวจก็กรีดร้องออกมา “ไหวเซิน คุณต้องช่วยชิงซีนะ เธอจะทำเรื่องอย่างนั้นได้ยังไง ต้องมีคนอื่นจัดฉากแน่” 

 

 

ฉินอวิ๋นได้ยินว่าเป็นเรื่องของถังโจวโจวถูกเปิดเผย แม้ว่าในใจจะนึกกลัว แต่เวลานี้ยอมรับไม่ได้แน่ ถ้าถูกเมิ่งไหวเซินรู้ว่าเธอก็มีส่วนด้วย เขาจะต้องไม่เมตตาตนแน่ 

 

 

ฉินอวิ๋นอยู่กับเมิ่งไหวเซินมาตั้งหลายปี สำหรับนิสัยของเขาก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรมากมาย เมิ่งไหวเซินสามารถอดทนกับคุณทุกอย่างได้ แต่ถ้าคุณทำให้เขาไม่สบายใจ เขาก็สามารถทำให้คุณตายได้ 

 

 

แต่ยังมีสิ่งที่เขาไม่สามารถอดทนได้ก็คือเอาชื่อเสียงของเขาไปทำลายข้างนอกหรือทำให้ตระกูลเมิ่งของเขาต้องขายหน้า ฉินอวิ๋นเองก็ไม่รู้ว่า ความสัมพันธ์เขากับคุณพ่อเป็นยังไง ทำไมถึงยังยึดติดกับหน้าตาของตระกูลเมิ่งไม่ยอมปล่อยวางแบบนี้ 

 

 

“คุณยังกล้าถามอีกเหรอ นี่มันเป็นปัญหาของคุณทั้งนั้น บอกแล้วว่าไม่ต้องให้เธอไปหาเซ่าเซินอีก คุณก็ไม่ฟัง” เมิ่งไหวเซินผลักฉินอวิ๋นที่จับแขนเสื้อของเขาอยู่ออก ตอนนี้พูดอะไรก็ทำให้ผิดหวังเสียใจ แต่โลกนี้ไม่มียารักษาอาการเสียใจขาย 

 

 

“ไหวเซิน ทำไมคุณถึงโทษฉันล่ะ” ถ้าเธออยากไปหาเขาก็ไม่สามารถล่ามขาชิงซีไว้ได้ เมื่อก่อนตอนลูกสาวไม่เกิดเรื่องท่าทางของเมิ่งไหวเซินก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ลูกสาวเกิดเรื่อง ความรับผิดชอบทั้งหมดก็เอามาลงที่เธอ  

 

 

“ทำไมจะไม่ได้ เอาล่ะ ผมก็ไม่อยากทะเลาะกับคุณเรื่องนี้หรอกนะ คุณรีบไปดูเธอเถอะ บอกเธอว่า สิ่งที่ตัวเองทำก็รับผลกรรมของตัวเอง ผมช่วยเธอออกมาไม่ได้” เมิ่งไหวเซินตัดสินใจแล้ว ต้องให้เมิ่งชิงซีจดจำไปอีกนาน 

 

 

ตอนนี้เขารู้สึกว่า ดูเหมือนว่าในสายตาของเมิ่งชิงซีตอนนี้มีแค่ลั่วเซ่าเชินอยู่ ถ้าลั่วเซ่าเชินมีความหมายต่อเธอ เมิ่งไหวเซินก็ยินดีที่จะเห็นความสำเร็จแน่นอน แต่ตอนนี้เพียงแค่เมิ่งชิงซีคิดไปเองคนเดียว และยังพาตัวเองไปอยู่ในวังวนนั้น นี่ทำให้เมิ่งไหวเซินค่อนข้างขุ่นเคือง  

 

 

ทำไมลูกสาวของเขา ในสายตาถึงมีแต่ความรัก ถูกครอบงำด้วยความรู้สึกส่วนตัว ไม่คิดถึงภาพรวมสักหน่อย ถึงแม้ว่าเมิ่งชิงซีจะคิดแต่ก็ไม่ใช่เพื่อบริษัท พ่อคนนี้อย่างเขาก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเธอ และบางทีก็ควรจะให้เธออยู่ในนั้นเพื่อเปลี่ยนความคิดให้ดีสักหน่อย 

 

 

“ไหวเซิน เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง ชิงซีอยู่ข้างในนั้นคงจะลำบากไม่น้อยเลย คุณอย่าไม่สนใจเธอได้ไหม” ได้ยินคำพุดที่ใจร้ายของเมิ่งไหวเซินแล้ว ฉินอวิ๋นก็เอ่ย 

 

 

ชิงซีไม่ใช่ลูกของเขาเหรอไง มีแค่แม่อย่างเธอที่เดือนร้อนใจเหรอ เรื่องเล็กแค่นิดเดียว ทำไมเขาถึงไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วย ชีวิตของพวกเธอสองคนแม่ลูกทำไมถึงได้ขมขื่นอย่างนี้ 

 

 

 “เธอลำบากขนาดไหนก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอหาเรื่องเอง ถ้าเธอไม่ทำเรื่องพวกนี้ เธอก็ยังอยู่ที่บ้านเป็นลูกสาวคนโตของผมต่อไปอย่างสงบ ไม่มีทางที่จะเป็นแบบนี้” 

 

 

เมิ่งไหวเซินไม่ใช่ว่าจะไม่คิดถึงความเป็นพ่อลูก ถ้าเขามีเพียงชิงซีเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว คงจะยังช่วยเธอ แต่ตอนนี้ยังมีถังโจวโจว ก่อนหน้านี้เขาก็ตามใจเธอมากเกินไป ดังนั้นเรื่องราวถึงใหญ่โตขนาดนี้ 

 

 

เมิ่งไหวเซินก็ไม่อยากจะโต้เถียงกับฉินอวิ๋นต่ออีก เธอเข้าใจก็พอแล้ว ตอนนี้คงต้องให้เธอคิดด้วยตัวเอง เขาไม่สามารถยื่นมือไปช่วยเธอในเรื่องนี้ได้ และยังต้องรอให้ผลตรวจดีเอ็นเอออกมา และคงจะได้ไปบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อได้ 

 

 

ท่านคาดหวังเป็นที่สุดว่าจะตามหาลูกของเสิ่นหลานอีกลับมาได้ ถ้าตอนนี้เขาสามารถช่วยท่านเติมเต็มความปรารถนานี้ คุณพ่อก็คงจะไม่โกรธเขาอีก 

 

 

ถึงเวลานั้นก็ให้ถังโจวโจวพูดกับคุณพ่อสักหน่อย ถ้าสามารถขอความช่วยเหลือจากเซ่าเซินได้ก็จะยิ่งดีมาก เชื่อว่าเซ่าเซินก็คงจะไม่ปฏิเสธคำขอร้องของภรรยาตัวเองแน่ 

 

 

ในใจเมิ่งไหวเซินนั้นจินตนาการไปอย่างสวยงาม เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเขาคิด ต้องรู้ว่า ถังโจวโจวไม่ใช่คนที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 445 ฉินอวิ๋นมาเยี่ยมคนเดียว 

 

 

ฉินอวิ๋นเห็นเมิ่งไหวเซินหันหลังแล้วเดินจากไป ในใจก็มีความเย็นแผ่ซ่าน นี่ยังเป็นเมิ่งไหวเซินที่เธอรู้จักอีกไหม แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็ไม่สนใจแล้วหรือ 

 

 

ฉินอวิ๋นเช็ดน้ำตา ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียใจ ชิงซียังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงไปอยู่ที่สถานีตำรวจ 

 

 

ฉินอวิ๋นให้ป้าหวังบอกให้คนขับรถเตรียมพร้อม เธอกำลังจะออกไป เธอเดินขึ้นชั้นบนเพื่อหยิบกระเป๋า เมื่อถึงข้างนอก คนขับรถก็มารออยู่หน้าประตูแล้ว พอเห็นฉินอวิ๋นขึ้นรถแล้ว คนขับรถจึงรีบขับรถตรงไปที่สถานีตำรวจทันที 

 

 

 “ถึงแล้วครับ คุณผู้หญิง” คนขับรถจอดรถที่หน้าประตูสถานีตำรวจ ฉินอวิ๋นให้เขารออยู่ข้างนอก ส่วนตัวเองเดินเข้าไปในสถานีตำรวจคนเดียว 

 

 

“ขอถามหน่อยนะคะ เมิ่งชิงซีอยู่ที่ไหนเหรอคะ” ฉินอวิ๋นพบเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ด้านหน้า 

 

 

ตำรวจชั้นผู้น้อยมองไปที่ฉินอวิ๋น การแต่งตัวของคุณผู้หญิงดูเป็นผู้ดี  คิดว่าคงจะมาประกันตัวลูกสาวหรือลูกชายเป็นแน่ 

 

 

“คุณรอสักครู่นะครับ ผมจะช่วยถามให้” 

 

 

เจ้าพนักงานเดินเข้าไปในห้อง ครู่หนึ่งก็เดินออกมา แต่สีหน้าไม่ได้ดีเหมือนก่อนหน้านี้ “คุณเป็นอะไรกับคุณเมิ่งชิงซีครับ” 

 

 

 “อ้อ ฉันเป็นแม่ของเธอค่ะ ฉันอยากประกันตัวเธอออกไป” พูดไปพูดมา ยังไม่ใช่เรื่องของเงิน แต่ฉินอวิ๋นก็เตรียมใจไว้แล้ว 

 

 

“เธอคงประกันตัวไม่ได้นะครับ ถ้าคุณอยากจะเยี่ยม ผมสามารถให้พวกคุณทั้งสองเจอหน้ากันได้” 

 

 

ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่ได้พูดจาดีเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อครู่ผู้บังคับบัญชาบอกไว้แล้ว เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เมิ่งชิงซีจะสามารถออกไปได้ง่ายดายขนาดนั้น คนที่ส่งเธอมาบอกไว้แล้ว จะต้องให้เธอได้รับบทลงโทษที่สมควร ให้เธอจดจำไปอีกเนิ่นนาน นอกจากนี้หลักฐานก็ส่งมาพร้อมกันแล้ว ยังจะโกหกได้อีกเหรอ 

 

 

“อะไร ทำไมประกันตัวออกมาไม่ได้ คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” ฉินอวิ๋นไม่คิดว่าถ้าเธอพูดชื่อตระกูลเมิ่งออกมาแล้วจะไม่สำเร็จ แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่ทำกับลูกสาวเธอแบบนี้  

 

 

“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แม้แต่กษัตริย์เสด็จมาเองก็ช่วยเมิ่งชิงซีออกไปไม่ได้ คุณอยากเยี่ยมก็เยี่ยม ถ้าไม่อยากเยี่ยมก็เชิญกลับครับ” เพราะฉินอวิ๋นขอความช่วยเหลือด้วยท่าทางที่หยิ่งผยอง ทำให้เธอไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคนอื่น 

 

 

“ฉันคือสะใภ้ของตระกูลเมิ่ง คนด้านในคือหลานสาวของตระกูลเมิ่ง คนอย่างคุณทำไมถึงไม่รู้จัก” ฉินอวิ๋นทนไม่ไหวเลยต่อว่าไป เธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ตอนนี้ชิงซีไปล่วงเกินใครเข้ากันแน่ 

 

 

“ตระกูลเมิ่งก็ไม่ได้ คุณจะเยี่ยมหรือไม่เยี่ยม” ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่รู้เบื้องหลังของตระกูลเมิ่ง แต่ถึงแม้เขาจะรู้ เขาก็ไม่กลัว หน้าตาตระกูลเมิ่งดีขนาดนี้ ไม่เคยทะเลาะกับพนักงานชั้นผู้น้อยอย่างเขา นอกจากนี้เขาก็ทำตามคำสั่งเท่านั้น 

 

 

 “เยี่ยมสิ เยี่ยม” ฉินอวิ๋นทำได้แค่เก็บความโกรธเอาไว้ ต้องพบหน้าลูกสาวก่อนดูว่ายังปลอดภัยดีไหม สำหรับตำรวจคนนี้ รอให้ชิงซีออกมาก่อนเถอะ เธอจะต้องสั่งสอนพวกเขาแน่นอน 

 

 

ฉินอวิ๋นถูกคนนำทางไป ในที่สุดก็ได้เจอเมิ่งชิงซี เมิ่งชิงซีผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนบ้า 

 

 

เธอถูกคนพาตัวมาและเมื่อเห็นฉินอวิ๋น แววตาก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา “แม่คะ รีบช่วยหนูออกไปเร็ว ทำไมแม่มาคนเดียว พ่อล่ะคะ” 

 

 

เมิ่งชิงซีมองไปข้างๆ ก็เห็นแค่ฉินอวิ๋นแค่คนเดียว ทำไมพ่อไม่มา ครั้งนี้ที่แม่มาเพื่อมาพาเธอออกไปใช่ไหม 

 

 

“ชิงซี ลูกอย่าตกใจ ที่บริษัทงานยุ่งมากพ่อเค้าเลยมาไม่ได้ แม่เลยมาเยี่ยมลูกคนเดียวก่อน ลูกเข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง” 

 

 

ฉินอวิ๋นคิดไม่ออก ไม่ใช่ว่าบอกเธอไปแล้วเหรอว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งเรื่องนั้นน่ะ ทำไมเมิ่งชิงซีถึงถูกจับเข้าคุกแบบนี้ ยังมีหลักฐานที่เธอยอมรับว่าเธอทำร้ายถังโจวโจวอีก มันคือหลักฐานอะไรกันแน่ 

 

 

“แม่คะ ตอนนี้ยังไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ รีบบอกให้พ่อมาช่วยหนูออกไปเร็วๆ หนูอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก หนูจะบ้าตายอยู่แล้ว” เมิ่งชิงซีคิดถึงสายตาของผู้หญิงในคุกก็กลัวจนตัวสั่นไปหมด 

 

 

เธอไม่สามารถปรับตัวในคุกได้ เธอคิดถึงเตียงใหญ่ๆ ของตัวเอง ผ้าห่มนุ่มๆ ของเธอ และไม่ใช่เตียงแข็งๆ ในคุกนี่ 

 

 

“ชิงซี ตอนนี้แม่ยังพาลูกออกมาไม่ได้ ลูกอดทนหน่อยนะ” 

 

 

ฉินอวิ๋นรู้สึกว่าเมิ่งชิงซีไม่ได้คิดถึงความผิดของตัวเองเลย นอกจากนั้นมาอยู่ในนี้ได้แค่ครึ่งวันก็ทนไม่ได้แล้ว แต่ตอนนี้เธอก็ไม่มีวิธีอื่น เมื่อเมิ่งไหวเซินไม่ยอมช่วยจะให้เธอเอาเงินออกมาก็คงเป็นไปไม่ได้