ตอนที่ 1 สงคราม

ราชาบลัดเอลฟ์

‘ ในจักรวาลอันมืดมิดที่มีแต่สงคราม ‘

 

ณ ห้วงอวกาศลึกลับดินแดนที่ไม่เคยมีใครได้สำรวจ ยานอวกาศลาดตระเวนโพรมีธีอุส กำลังลอยตัวอยู่เหนือดาวเคราะห์สีเหลือง ภายในยานลาดตระเวนลำนี้ มีกลุ่มพลทหารสวมชุดเกราะขนาดใหญ่ยืนอยู่บริเวณสะพานเรือส่วนแผงควบคุมหลักของยาน

 

  • ระบบแสดงผลปรากฎข้อมูล

 

[ดาว 8753 ดาวเคราะห์ชั้นแอล]

 

[อาณาจักรเอลฟ์เบื้องล่าง]

 

[วัตถุประสงค์ภารกิจ]

 

[ลำดับความสำคัญที่หนึ่ง : จับกุมเคอร์แซค, นักวิทยาศาสตร์ก็อบลิน, ตายหรือมีชีวิตอยู่]

 

พลทหารผู้ปฎิบัติภารกิจจำนวน 8 คน พวกเขาทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังชั้นสูงที่รู้จักกันในนาม “ อัศวินอวกาศ “ กองกำลังที่ได้รับการคัดเลือกจากโลกมนุษย์ พวกเขาได้รับการฝึกผ่านระบอบที่โหดเหนือมนุษย์ พร้อมกับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ทั้งหมดนี้เพื่อทำหน้าที่อัศวินอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์

 

“ นักวิทยาศาสตร์ก็อบลิน! กัปตัน นั่นเป็นการค้นพบที่ยากมาก ” ชายคนหนึ่งกล่าว ขณะหันหน้ามองกัปตันอวกาศ

 

กัปตันอวกาศเป็นชายร่างกำยำ สวมชุดเกราะขนาดใหญ่แบบเดียวกับคนอื่นๆ แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย บนใบหน้าของเขามีรอยแผลเป็นที่ค่อนข้างใหญ่ แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้คือ ‘ คนที่ไม่ควรยุ่งด้วย ‘

 

” นักวิทยาศาสตร์ก็อบลิน… สิ่งมีชีวิตที่มีโอกาสปรากฏตัวหนึ่งในล้านครั้ง และเก่งกาจกว่าศาสตราจารย์แคระ ช่างเป็นเป้าหมายที่หายากจริงๆ ” ชายร่างกำยำพึมพำด้วยโทนเสียงต่ำ

 

“ ผมไม่รู้ว่ามีภารกิจหายากเช่นนี้ในมุมรกร้างของดาวเคราะห์นี้ ” ชายอีกคนหนึ่งกล่าวด้วยความประหลาดใจกับการค้นพบ

 

“ เราจะไปหาอะไรที่นั่น ผู้กอง ” กัปตันเอ่ยถาม เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ใต้บังคับบัญชา

“ จากการตรวจสอบครั้งก่อนของเรา พบเผ่าพันธุ์เอลฟ์ ออร์ค และอาณาจักรมนุษย์ หลายสิบกลุ่ม แต่ส่วนใหญ่เป็นอารยธรรมระดับโบราณครับกัปตัน ” ผู้กองกล่าวอย่างใจเย็น

 

“ ผมเข้าใจแล้ว.. พวกก๊อบลินใช้ดาวเคราะห์นี้ เพื่อทำการทดลองที่ซ่อนอยู่ “

หลังพูดจบกัปตันรีบมุ่งตรงไปยังสะพานเรือ และหันไปทางทีมของเขา

 

“ ฟังทางนี้ด้วย! “

พลทหารยืดร่างกายของพวกเขา เพื่อรอคำสั่งของกัปตัน

 

“ ปฎิบัติการเหมือนเช่นเคย พรรคพวก เราจะกระโดดลงไป และนำความเลวร้ายมาสู่สัตว์เหล่านี้ทั้งหมด ” กัปตันพูดอย่างเคร่งขรึมขณะจ้องมองไปที่ทีมของเขา “ เพื่ออาณาจักร! ”

 

“ เพื่ออาณาจักร! ”

 

ยานอวกาศลาดตระเวนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์สีเหลือง

และมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

 

กัปตัน และอัศวินอวกาศ อยู่ในระหว่างการเตรียมตัวสำหรับภารกิจในครั้งนี้

และในตอนนี้เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นอย่างดังลั่น

หลังจากที่สัญญาณเตือนภัยดับลง ยานอวกาศเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

“ เกิดอะไรขึ้นผู้กอง !? ”

หลังจบคำถามของกัปตัน ผู้กองเร่งตรวจสอบสถานการณ์ในทันที

สีหน้าของเขาซีดลงทันที เมื่ออ่านข้อมูลที่ปรากฎบนจอแสดงผล

 

“ ผม- ผมขอโทษครับกัปตัน พบวัตถุพร้อมอาวุธ กำลังมุ่งเป้ามาที่ยานของเราครับกัปตัน ”

 

“ อาวุธ? อาวุธชนิดใด? “ กัปตันเอ่ยถามอย่างใจเย็น ในขณะที่สถานการณ์ตอนนี้กำลังดิ่งลงเหว

 

“ มันคือปืนใหญ่ลำแสง ที่มีพลังสูง ” ผู้กองรีบตอบอย่างรวดเร็ว

“ เกราะป้องกันไม่สามารถรับมือได้แล้วครับกัปตัน เราจะทำยังไงดีครับ? ”

“ อยู่ในเส้นทางของเราไว้ผู้กอง เราจะปะทะเป้าหมายหากจำเป็น ” กัปตันกล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

 

ทันทีที่เขาพูดจบ กระสุนจากวัตถุต้องสงสัยเข้าปะทะกับยานของเขาอย่างรุนแรง

 

บูม!

 

“ ยานไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้แล้วครับกัปตัน! ” ผู้กองตะโกนอย่างดังลั่น เมื่อเห็นกระสุนปะทะเข้ากับตัวขับดันหลักของยานอวกาศ

 

ทันใดนั้นกัปตันรีบหันกลับมาทางลูกเรือของเขาอย่างรวดเร็ว

“ ทุกคน! ผมเดาว่าเรากำลังมุ่งทะยานลงสู่ห้วงมืด “ เขาพูดพร้อมเผยรอยยิ้มที่กล้าหาญ

 

กัปตันเดินไปที่ห้องโดยสาร เขาตรวจสอบอุปกรณ์ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย และมองกลับไปที่ลูกเรือของเขา

 

“ ไปกันเถอะพวก! “ กัปตันพูดกับอัศวินอวกาศอย่างหึกเหิม

 

เขากระแทกกำปั้นที่ปุ่มประตูห้องโดยสาร ประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว

เขาล็อคพิกัด และทะยานลงสู่พื้นล่างในทันที

 

อัศวินอวกาศทั้งแปด กำลังกระโดดออกจากยานอวกาศที่กำลังลุกไหม้ และดิ่งสู่พื้นผิวดาวเคราะห์เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

 

เมื่ออัศวินอวกาศกำลังจะพุ่งตรงสู่พื้นล่าง กระเป๋าที่อยู่หลังชุดเกราะของพวกเขาระเบิดขึ้น เครื่องขับกระสวยเริ่มทำงานในทันที ทำให้พวกเขาสามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นอย่างดี

 

หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าพลทหารทั้งหมดของเขาอยู่ที่นี่พร้อมกันแล้ว

กัปตันรีบพุ่งทะยานตรงไปยังอาคารลักษณะคล้ายโดม ซึ่งมองเห็นได้จากระยะไกล

เขาใช้เครื่องแสกนบนหมวกของเขา เพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าพวกเขาควรลงจอดบริเวณใด

 

ในที่สุดเขาตัดสินใจนำอัศวินอวกาศทั้งหมด ปักหลักลงบนพื้นบริเวณใกล้โรงงาน

ซากเน่าสลายของมนุษย์ที่ถูกทำลายท่ามกลางพื้นสีเลือด คือสิ่งแรกที่พวกเขาเจอเมื่อลงจอด ซึ่งมันสร้างความตกใจให้กัปตัน และอัศวินอวกาศเป็นอย่างมาก

 

“ มันเกิดอะไรขึ้น นี่? ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยองจริงๆ! ”

 

“ พวกมันกำลังทดลองอะไรที่นี่! ”

 

“ ทุกคน ระวังตัวด้วย! มีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่! “ กัปตันตะโกน

 

ประตูขนาดใหญ่หลายบานบนกำแพงโดมเปิดออก สิ่งมีชีวิตผิวสีเขียวเข้มหลายร้อยตัวค่อยๆออกมา และล้อมพวกเขาไว้อย่างรวดเร็ว

 

“ พวกมันไม่ใช่ออร์กธรรมดา ทุกคน ระวังตัวด้วย! ” กัปตันส่งสัญญาณเตือนพลทหารของเขา

 

[ระบุเป้าหมาย]

 

[อุรุก]

 

[พลังการต่อสู้ 80]

 

“ บ้าเอ้ย! … พวกมันมีความแข็งแกร่งมาก ” ผู้กองสบถออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาเห็นว่าสิ่งมีชีวิตรงหน้าเขามีความแข็งแกร่งมากเพียงใด

 

  • เสียงคำรามดังก้อง –

 

“ หวังว่ามันจะไม่ฉลาดกว่าคุณนะผู้กอง ” กัปตันกล่าวด้วยท่าทีที่เย้ยหยัน

 

“ กัปตัน! “

“ พวกมันมาแล้ว! จัดการพวกมัน! ” กัปตันรีบออกคำสั่งในทันที

 

พลทหารแต่ละคนมีอาวุธเฉพาะตัวติดตั้งอยู่บนเกราะพลังของพวกเขา

พลทหารบางคนมีปืนกลคู่ใจอยู่ในอ้อมแขน อีกคนมีเครื่องพ่นไฟ และอีกคนมีปืนแกตลิงที่สามารถยิงกระสุนพลังงานหลายร้อยนัดได้ ในขณะที่พลทหารอีกคนมีปืนไรเฟิลขนาดยาวที่สามารถยิงเจาะออร์กหลายตัวในคราวเดียวได้อย่างง่ายดาย

 

พลังของฝนกระสุนปรากฏขึ้นทันทีที่อัศวินอวกาศ เริ่มปล่อยอาวุธใส่พวกอุรุก

แต่เมื่อเทียบกับออร์กทั่วไปแล้ว พวกอุรุกจะมีผิวหนังที่แข็งแรงกว่า อัศวินอวกาศปล่อยกระสุนออกมาอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ในแต่ละวินาทีมีกระสุนตกมาอย่างถาโถม

 

พวกอุรุกยังคงเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่พวกอุรุกจำนวนหนึ่งเริ่มเข้าใกล้พวกเขามากขึ้น อัศวินอวกาศครึ่งหนึ่งรีบหยิบปืนอีกกระบอกออกมาในทันที และอีกครึ่งหนึ่งรีบหยิบ ดาบ หอก ขวาน และค้อน ออกมา ซึ่งมันเป็นอาวุธต่อสู้ระยะประชิดของอีก 4 อัศวินอวกาศ

 

พลทหารฆ่าอุรุกที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

อาวุธแต่ละชนิดมีพลังพอที่จะสามารถฟัน เจาะ และทำลายเกราะของคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่นานนักเมื่อสถานการณ์ไม่สู้ดี กัปตันจึงรีบออกคำสั่งกับหนึ่งในพลทหารของเขาอย่างรวดเร็ว

 

‘ สาวกอวกาศหญิง ‘ เพียงครู่หนึ่งดวงตาของทหารอวกาศหญิงได้เปลี่ยนเป็นสีขาวสงัด ในขณะที่สองมือของเธอปรากฏประกายไฟแห่งสายฟ้าขึ้นในทันที

 

[มหาสายฟ้า – พลังสายฟ้าระดับ 5]

 

ประกายไฟของสายฟ้าพุ่งเข้าหาฝูงอุรุกอย่างรวดเร็ว พวกมันหลายสิบตนในรัศมี 20 เมตรต่างลุกเป็นไฟในทันที

 

แม้ว่าในภารกิจครั้งนี้จะมีพลทหารแค่ 8 คนนั่นไม่ทำให้พวกเขาเกรงกลัวแต่อย่างใด พวกเขายืนคุมหลังของกันและกัน เพื่อรอสังหารพวกอุรุกที่เคลื่อนที่เข้ามาหาพวกเขา

 

“ เราทำได้พวก! ฆ่าพวกมันซะ “ ผู้กองตะโกนลั่นพร้อมเสียงหัวเราะ

ในทางกลับกัน กัปตันของพวกเขากำลังมองไปรอบๆ เพื่อคอยดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่นานนักจู่ ๆ ก็เกิดเสียงดังสะท้อนผ่านอากาศออกมาจากที่ไหนสักแห่ง เสียงนั่นทำให้พวกอุรุกหยุดชะงัก และถอยหลังในทันที สร้างความประหลาดใจกับอัศวินอวกาศเป็นอย่างมาก

 

ประตูบานใหญ่ตรงหน้าพวกเขาเปิดออกปรากฎให้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก สวมแว่น ผิวสีเขียว มันคือเป้าหมายของอัศวินอวกาศ ‘ นักวิทยาศาตร์ก็อบลิน ‘

“ เหล่าอัศวินอวกาศผู้มีเกียรติ ยินดีต้อนรับพวกท่านสู่ที่พักอันต่ำต้อยของข้า ข้าขออภัยสำหรับการต้อนรับที่ไม่สมเกียรติพวกท่านก่อนหน้านี้! “ ก็อบลินกล่าวขึ้นพร้อมอ้ามือกว้าง

 

“ ข้ารู้ว่าออร์คสกปรกพวกนั้น ไม่คู่ควรแก่พวกท่าน! ดังนั้น ได้โปรด… ได้โปรด…! สนับสนุนความยิ่งใหญ่ของข้าในครั้งนี้! ”

 

พลทหารสังเกตเห็นพวกก็อบลินจำนวนหนึ่ง กำลังผลักหลอดแคปซูลขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือดเข้าไปในบริเวณโดม เหล่าอัศวินอวกาศมองเห็นร่างชายหนุ่มอยู่ภายในนั้น ครู่ต่อมาเลือดในแคปซูลถูกระบายออก และเปิดออกมาเหมือนประตู

 

ทันใดนั้น ร่างนั้นค่อยๆลืมตาขึ้น ..

 

[ระบบ – ใช้งานได้]

 

[ทริสตัน – อายุ 21 ปี]

 

[พลังการต่อสู้ – 100]

 

[ค่าความสามารถทางวิญญาณ – S]

 

[พบความชำนาญด้านธาตุไฟ]

 

[ค่าพลังจิต – ไม่มีตัวตน]

 

[ทักษะโดยกำเนิด – ราชาบลัดเอลฟ์]

 

ในขณะที่เหล่าอัศวินอวกาศกำลังเฝ้าดู และประหลาดใจกับตัวแปรที่พวกเขาไม่รู้จัก

ทรินตันกำลังตื่นจากห้วงของความมืดมิดที่กลืนกินเขา

 

‘ มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร ? ‘