ตอนที่ 3 พวกเราอยู่ที่ไหน ?

ราชาบลัดเอลฟ์

“ สิ่งที่ไม่รู้จัก และมองไม่เห็นย่อมเป็นเครื่องสยบความกลัวอย่างที่สุด “

 

มีเพียงความมืดมนล้อมรอบตัวเขา เครื่องบินตกหรือเปล่า? นั่นคือสิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดของทริสตัน เสียงกรีดร้องของผู้คนหลากหลายภาษารอบตัวเขา ทริสตันฟังไม่ออกว่าพวกเขากำลังพูดอะไร ในตอนนี้หัวของทริสตันยังคงหมุนอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่เขานอนอยู่อย่างสลึมสะลือ ทริสตันบังคับให้ดวงตาของเขาค่อยๆเปิดขึ้น เพื่อพยายามสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา ทริสตันกำลังจ้องมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยความมืดวงกลมสีขาวขนาดใหญ่สองวงส่องแสงเจิดจ้าในท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

“ พระจันทร์สองดวง? “

 

ทริสตันได้ยินเสียงร้องไห้ และกรีดร้องอยู่ไกลๆ ในตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเขากำลังนอนอยู่บนวัตถุแปลกประหลาดที่มีลักษณะนุ่ม และเปียกชุ่ม ทริสตันพยายามพยุงตัวเองให้ยืนขึ้น พร้อมเหลือบมองไปยังพื้นที่เขายืนอยู่

 

‘ ภาพเบื้องหน้าของเขาคือซากมนุษย์และกองเลือด! ‘

 

ในขณะนี้ตัวเขาถูกล้อมรอบด้วยศพนับพันๆศพ สภาพศพส่วนใหญ่เป็นศพเน่า เหมือนถูกทิ้งมาหลายวัน นี่นับเป็นภาพที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตเจา ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาหายใจไม่ออกและ อยากจะอ้วกออกมา

 

“ เครื่องบินตกหรอ? ” บรรยากาศรอบๆตัวเขา ทำให้เขามีความคิดที่น่าสะพรึงกลัวอีกอย่างหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

‘ เลห์ล่า!!เลห์ล่า!! ‘

ทริสตันตะโกน ขณะกำลังมองดูศพนับร้อยเบื้องหน้าเขา โดยหวังว่าจะไม่พบน้องสาวของเขาท่ามกลางศพพวกนี้ ในระหว่างที่เขากำลังตะโกน ทริสตันสังเกตเห็นร่างบางๆ เดินเข้ามาหาเขา เสื้อผ้าของคนที่เดินเข้ามาหาทริสตันเปื้อนเลือดทั่วร่างกาย

 

ทริสตันไม่รู้ว่าพวกเขาคือใคร และพยายามรักษาระยะห่างไว้

 

พวกเขาเดินเข้ามาใกล้ทริสตันเรื่อยๆ พลางตะโกนว่า

“ทรูอาร์ท สกูน่า เทซูโอะ!”

 

ทริสตันไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด

แต่สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนชาติเดียวกับเขา

แม้พวกเขาจะอยู่ในสภาพเดียวกัน แต่เขาต้องการรักษาระยะห่างกับคนพวกนี้เอาไว้

 

แม้จะอยู่ในสภาพที่เลวร้ายที่สุด ทริสตันก็พยายามควบคุมสติของเขาให้สงบลง

ทริสตันเริ่มเดินไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีอะไรที่เขาจำได้หรือไม่ เขาเดินอย่างระวังเพื่อไม่ให้ไปสะดุดกับศพที่อยู่รอบๆตัว

 

ทริสตันเริ่มตะโกนอีกครั้ง “ ที่นี่มีใครเข้าใจฉันบ้างไหม? ”

 

พื้นที่แห่งนี้ใหญ่กว่าที่เขาคิด อย่างน้อยก็ขนาดครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล

มันมีหินสีดำขนาดใหญ่สูงประมาณสิบเมตรมีร่องรอยการแกะสลักที่อ่านไม่ออก และสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนนกล้อมรอบอยู่ หลังจากที่เขาเดินผ่านเรื่องสยองขวัญนี่ไปได้ครู่หนึ่ง ในที่สุดทริสตัน ก็ได้ยินเสียงที่เขาคุ้นเคย

 

“ นี่! ฉันอยู่ที่นี่! “

 

ทริสตันรีบวิ่งไปที่เสียง ผ่านผู้คนที่ไม่รู้จักไปทั้งหมด จนกระทั่งเขาเห็นกลุ่มคนประมาณสิบคนอยู่ในท่าทีกำลังหวาดกลัว ทริสตันจำเสื้อผ้าของพวกเขาได้ หนึ่งในนั้นสวมชุดนักบิน ในตอนนั้นเขาสังเกตเห็นร่างอีกคนหนึ่งจากด้านหลัง เขารีบโผเข้าหาร่างนั้นอย่างรวดเร็ว

 

“ เลห์ลา! ”

 

“ พี่.. ”

 

ทริสตันกอดร่างกายที่สั่นเทาของเลห์ล่าอย่างรวดเร็ว

 

“ เกิดอะไรขึ้น?… เราอยู่ที่ไหนทริส…? ”

 

“ ฉันไม่รู้เลห์ลา… แต่ไม่ต้องกังวลนะ .. ”

 

กองศพบนพื้น และทะเลเลือด อาจทำให้ใครหลายๆคนสามารถเป็นบ้าได้เลย

ทริสตันเคยเจอเหตุการณ์แห่งความตายมาบ้างแล้ว แต่มันเทียบไม่ได้กับตอนนี้

 

ในตอนนี้เขาทำได้แค่จินตนาการว่าน้องสาวของเขารู้สึกอย่างไร

 

เพียงครู่หนึ่งทริสตัน และทุกคน ได้ยินเสียงดังมาจากเบื้องบน มีแสงออกมาจากด้านหนึ่งของโดม ซึ่งอยู่ห่างจากเขาเพียง 50 เมตร ทันใดนั้นระเบียงแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้น ร่างที่ลอดผ่านแสงนั้นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

 

มันมีผิวสีเขียวเข้ม และขนาดใหญ่กว่าผู้ชายถึงสามเท่า มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีกล้ามเนื้อ และงาออกมาจากปากของมัน มันออกมาพร้อมด้วยสิ่งมีชีวิตสีเขียวขนาดเล็กกว่าหลายสิบตัว ซึ่งมีขนาดเพียงครึ่งเดียวของตัวมัน

 

ในความเป็นจริงแล้ว ภาพที่น่าสยดสยอง และบรรยากาศที่น่ากลัวเช่นนี้มีให้เห็นในเรื่องราวแฟนตาซีเท่านั้น ความน่ากลัวทำให้ร่างกายของทริสตันสั่นคลอ แต่เมื่อแขนของน้องสาวกระชับรอบตัวเขามากขึ้น เขาจึงต้องรวบรวมความกล้ากลับคืนมา

 

สิ่งมีชีวิตขนาดครึ่งมนุษย์อีกตัวออกมาจากแสงที่พวกเขาเห็น ทริสตันสังเกตเห็นว่ามันแตกต่างออกไปจากตัวก่อนหน้านี้ มันมีขนสีขาวอยู่ด้านข้าง และมีอุปกรณ์แปลก ๆ บนร่างกายของมัน

 

เพียงครู่หนึ่งสิ่งมีชีวิตนั้นตะโกนออกมา

ทริสตันรับรู้ได้ว่านั่นไม่ใช่ภาษามนุษย์ แต่สัญชาตญาณทำให้เขาเข้าใจได้

 

“ ยินดีต้อนรับทุกท่าน “

มันกล่าวด้วยท่าทีสนุกสนาน จริงๆแล้วมันควรเป็นคำพูดที่น่ายินดีสิ

ทริสตันสัมผัสได้ว่าในตอนนี้หัวใจของเขาเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก

 

‘ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าสงสัยแล้วสิ .. คราวนี้พวกเจ้าเป็นมนุษย์ที่มีศักยภาพกี่คน? ‘

 

สิ่งมีชีวิตที่มีผมสีขาวหยิบไม้เท้าที่มีอัญมณีสีแดงขนาดใหญ่อยู่ด้านบนขึ้นมา

ทันใดนั้นลูกแก้วกระพริบหลายสิบดวงพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พวกมันลอยไปในอากาศและเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ฝูงชนเบื้องล่าง

 

“ เริ่มการค้นหาได้! “ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของสิ่งมีชีวิตรอบๆ โดม

จากนั้นมันก็บินไปรอบ ๆ มนุษย์หลายร้อยคน ทำให้ผู้คนที่หวาดกลัวอยู่แล้วตกอยู่ในสภาพผวากันอย่างสิ้นเชิง บ้างวิ่งบ้างล้มลงบ้าง และบ้างก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ พร้อมเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่เกิดขึ้น

 

ทริสตันเห็นสัญญาณไฟกะพริบหยุดอยู่เหนือคนสองสามคน จู่ๆ ประตูก็เปิดออกมาจากโดม สัตว์ประหลาดผิวสีเทาดำสองสามตนเดินเข้าหาคนเหล่านั้น พวกมันรีบพาพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครสามารถขัดขืนพวกมันได้เลย

 

ผู้คนเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้น พวกเขาเริ่มกรีดร้อง และตะโกนด้วยภาษาที่เข้าใจยาก

แม้ว่าทริสตันจะยังไม่เข้าใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เสียงกรีดร้องก็สามารถรับรู้ได้ถึงความน่าสยดสยอง

 

ครู่ต่อมา ก้อนประหลาดบินมาทางทริสตัน และกลุ่มของเขา ตามด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาสองสามตัวที่เดินมาทางพวกเขา มันบินไปรอบ ๆ และค่อยๆเข้ามาใกล้ ก้อนประหลาดหยุดที่บริเวณบนหัวของเลห์ลา ทริสตันรีบเคลื่อนตัวไปข้างหน้า และพยายามปกป้องเลห์ลาในทันที

 

“พี่..” เลห์ล่าร้องอย่างหวาดกลัว

 

ตามที่คาดไว้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นค่อยเคลื่อนที่เข้าหาพวกเขา ทริสตันพยายามจะหยุดสัตว์ประหลาดไม่ให้จับน้องสาวของเขา แต่มือของสัตว์ประหลาดจับไหล่ และแขนของเขาอย่างรวดเร็ว ทริสตันสัมผัสได้ถึงการคว้าง่ายๆ ที่อาจทำให้กระดูกไหล่ของเขาแตกได้

 

“ ทริสตัน! ” เลห์ลากรีดร้องขณะที่สัตว์ประหลาดตัวใหญ่นำร่างของเธอไป

 

ทริสตันทำได้เพียงเฝ้าดูสัตว์ประหลาดดึงน้องสาวของเขาไปจากเขา เขารวบรวมกำลังเพื่อลุกขึ้น และไล่ตามสิ่งมีชีวิตนั้น ก่อนที่จะตระหนักได้ว่ามีก้อนประหลาดอีกก้อนหนึ่งหยุดอยู่เหนือศีรษะเขา ทริสตันถูกสิ่งมีชีวิตสีเทาจับ และลากไปที่ประตูในทันที สิ่งต่อไปที่เขาเห็นทำให้เขาหยุดต่อต้านอย่างสิ้นเชิง

 

ทริสตันได้ยินสิ่งมีชีวิตที่มีผมสีขาวออกคำสั่ง และในวินาทีต่อมา สิ่งมีชีวิตสีเทาดึงอาวุธของพวกมันออกมา และเริ่มสังหารผู้คนที่อยู่ข้างหลังอย่างสนุกสนาน มันเป็นการนองเลือดที่น่าสยองที่สุดที่เขาเคยเจอ

 

‘ นักบินของพวกเขาถูกผ่าครึ่ง ‘ นั่นคือภาพสุดท้ายที่ทริสตันเห็นก่อนที่ประตูจะปิดลง