ตอนที่ 538 ฟู่เยว่อี้ช่วยเหลือ / ตอนที่ 539 เงื่อนไขของเฟิงชิงสุ่ย

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 538 ฟู่เยว่อี้ช่วยเหลือ

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มเจื่อนๆ “ข้ามีเรื่องขอร้องจริงๆ คุณหนูเฟิงเป็นคนเข้าใจเหตุผล และไม่อาจทนดูข้าคุกเข่า เมื่อกี้ข้ากำลังจะลุกขึ้น นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงจะมาเห็นเข้า”

 

 

“เรื่องอะไรรุนแรงปานนี้ ถึงกับทำให้คุณหนูมู่คุกเข่าขอร้อง ชิงสุ่ย เจ้าเองก็ทำให้คุณหนูมู่ลำบากใจเกินไป เราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วย เจ้ากับคุณหนูมู่เป็นคนรุ่นเดียวกัน ให้คุณหนูมู่คุกเข่าระวังอายุจะสั้น”

 

 

ฟู่เยว่อี้ยิ้ม พูดเข้าข้างซูจิ่วซือ เวลานี้นางรังเกียจตระกูลเฟิงมาก ถึงไม่ได้ตกลงร่วมมือกับซูจิ่วซือ นางก็ยังจะช่วยซูจิ่วซือ

 

 

“พี่สะใภ้พูดอย่างนี้ไม่ถูก คุณหนูมู่จะคุกเข่าให้ได้ ข้าเองก็ห้ามไม่อยู่”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยน้ำเสียงราบเรียบ เดิมทีนางเกลียดฟู่เยว่อี้อยู่แล้ว หลังจากฟู่เยว่อี้ฆ่าเฟิงซุน ความรู้สึกเกลียดยิ่งถึงขีดสุด แต่ด้วยฐานะของฟู่เยว่อี้ทำให้นางเกรงใจ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ปล่อยฟู่เยว่อี้แน่

 

 

ซูจิ่วซือมองดูฟู่เยว่อี้กับเฟิงชิงสุ่ยปะทะกัน รู้ว่าทั้งสองแสดงมารยาทต่อกันเพียงเปลือกนอก

 

 

ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสามน่าประหลาดจริงๆ เหมือนกระดานหมากล้อม ทั้งสามเป็นหมากบนกระดานเดียวกัน แต่ละคนมีจุดยืนต่างกัน เหมือนที่นั่งร่วมโต๊ะกันในเวลานี้ก็เป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นโอกาสที่หายาก

 

 

“องค์หญิงอย่าโทษคุณหนูเฟิงเลย นางไม่ใช่คนที่จะจงใจกลั่นแกล้งใคร เป็นเพราะข้ามีเรื่องขอร้อง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณหนูเฟิง”

 

 

ฟู่เยว่อี้ถอนหายใจ “มีเรื่องอะไรใหญ่โตที่คุณหนูมู่ต้องทำอย่างนี้ ข้ารับปากแทนชิงสุ่ยก็แล้วกัน ชิงสุ่ย เจ้าคงไม่โทษพี่สะใภ้ที่มาก้าวก่าย! เจ้าเองก็คงอยากรับปาก ข้ารับปากแทนเจ้าก็แล้วกัน”

 

 

“ขอบใจพี่สะใภ้จริงๆ พี่สะใภ้ ข้ายังมีเรื่องจะปรึกษากับคุณหนูมู่ พี่สะใภ้กลับไปก่อนเถอะ!”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยสายตาเย็นชาทันที นางไม่รู้ว่าฟู่เยว่อี้จะทำอะไร คิดหรือว่าที่นี่เป็นจวนซิ่นอ๋อง?

 

 

“งั้นข้าไปก่อนละ เจ้าสองคนคุยกันตามสบาย “ฟู่เยว่อี้ไม่พูดต่อ ลุกขึ้นยืน “คนเรา มักจะล้มในยามที่ย่ามใจ และต้องพบกับความขมขื่น ชิงสุ่ย อย่าย่ามใจเกินไป จะได้ไม่เจ็บตัว เป็นที่เย้ยหยัน”

 

 

พูดจบ ฟู่เยว่อี้ก็พยักหน้าให้ซูจิ่วซือแล้วหันหลังเดินจากไป

 

 

พอฟู่เยว่อี้เดินไป แววตาของเฟิงชิงสุ่ยก็เย็นชาทันที คำของฟู่เยว่อี้ควรจะพูดให้ตนเองมากกว่า ที่ผ่านมานางถือตัวว่าสูงส่ง เป็นองค์หญิงที่เป็นศูนย์รวมความรักความเอาใจใส่จากทุกคน

 

 

หลังจากแต่งเข้าตระกูลเฟิงแล้ว ก็ตกจากที่สูงลงมาทันที

 

 

เสียดายที่ฟู่เยว่อี้ยังไม่รู้ตัว ยังเพ้อฝันว่าตนควบคุมตระกูลเฟิงไว้ในมือ เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด ถึงฟู่เยว่อี้จะฉลาดแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ นางไม่มีวันได้เป็นนายหญิงของตระกูลเฟิงแน่

 

 

เรื่องของฟู่เยว่อี้ปล่อยไว้ก่อน เวลานี้นางอยู่ในตระกูลเฟิงก็ไม่มีบทบาทอะไร ถือว่าเลี้ยงไว้เปล่าๆ ถึงอย่างไรตระกูลเฟิงก็เลี้ยงได้

 

 

ปัญหาเฉพาะหน้าเวลานี้ก็คือซูจิ่วซือ ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวขัดขวางเส้นทางการเป็นพระชายารัชทายาท ถ้าซูจิ่วซือยังอยู่ หัวใจของฟู่เฉินหรงย่อมอยู่ที่ซูจิ่วซือ

 

 

นางไม่อาจเรียกร้องให้ฟู่เฉินหรงรักนางได้ทันที แต่อย่างน้อยถ้าซูจิ่วซือไม่อยู่ ไม่มีภัยคุกคาม ฟู่เฉินหรงก็ต้องพึ่งนาง และดีกับนาง

 

 

พอนางมีพระโอรส ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับฟู่เฉินหรงก็จะแนบแน่นขึ้น พอถึงตอนนั้นถึงฟู่เฉินหรงไม่ชอบนางแต่ก็ไม่อาจมองข้ามนางนได้ ถึงอย่างไร นางก็มีความสามารถที่คนอื่นไม่อาจมองข้าม

 

 

นางพยักหน้าให้ชิวซู ชิวซูเข้าใจความหมายของเฟิงชิงสุ่ย รีบออกไป

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 539 เงื่อนไขของเฟิงชิงสุ่ย

 

 

พอชิวซูออกไปแล้ว เฟิงชิงสุ่ยก็พูดต่อ “ซูจิ่วซือ ในเมื่อพูดกันมาถึงขั้นนี้ เราควรจะตกลงกันให้ชัดเจน ข้าจะเขียนจดหมาย แต่เจ้าต้องกินยาที่ข้าให้ รอเจ้ากินยาแล้ว ข้าจะเขียนจดหมาย”

 

 

“ตกลงตามนี้”

 

 

ซูจิ่วซือรับปากโดยไม่คิด นางไม่มีเวลาลังเล

 

 

สภาพของฟู่เฉินหรงเวลานี้ ถ้าช้าแม้แต่วันเดียวก็จะส่งผลที่ไม่อาจกลับคืนได้ สมองของนางมีแต่ความคิดเช่นนี้ ขอให้เร็วที่สุด แม้เฟิงชิงสุ่ยให้นางตายต่อหน้า นางก็จะทำ

 

 

นางคิดแต่จะช่วยฟู่เฉินหรง ไม่มีเหตุผลอื่น และไม่มีความลังเล ขอแต่ให้เขาปลอดภัย

 

 

โดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกของนางต่อเขาก็ล้ำลึกสุดหัวใจ เรื่องนี้ไม่ต้องคิดมาก กลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว

 

 

เฟิงชิงสุ่ยนึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะรับปากอย่างรวดเร็ว ดูแล้วนางเป็นห่วงฟู่เฉินหรงมาก และเป็นความห่วงใยอย่างแท้จริง ความรู้สึกของนางไม่ใช่เสแสร้ง แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน เฟิงชิงสุ่ยรู้ว่าตำแหน่งพระชายารัชทายาทเป็นของตน ฟู่เฉินหรงเป็นคนที่ตนชอบ ใครหน้าไหนจะมาแย่งไม่ได้เด็ดขาด

 

 

ครู่หนึ่ง ชิวซูก็ถือถาดใส่ขวดแก้วเข้ามา นางยกขวดวางบนโต๊ะหินในศาลา ในขวดมีหนอนสีดำตัวหนึ่งดิ้นอยู่ ขนาดเท่านิ้วก้อย

 

 

พอเห็นหนอนสีดำ อาหลานซึ่งยืนอยู่หลังซูจิ่วซือก็หน้าซีด รีบเข้าไปเตือน “คุณหนู ของนี้กินไม่ได้ เป็นหนอนไหมพิษ กินไม่ได้เด็ดขาด หากกินเข้าไป จะเอาออกไม่ได้”

 

 

พิษของหนอนไหมพิษร้ายกว่ายาพิษใดๆ หนอนไหมพิษเป็นหนอนที่มีชีวิต หากกินเข้าไปมันจะอาศัยเกาะกินอยู่ในร่าง ขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ร่างกายคนจะเปลี่ยนไปอย่างไรไม่มีใครรู้

 

 

พิษของหนอนไหมพิษ ไม่มีทางรักษา ถ้าเป็นชนิดที่มีพิษร้ายแรง จะตายอย่างน่าอนาถ ได้รับความทรมานแสนสาหัส

 

 

“จะกินหรือไม่ เจ้าตัดสินใจเอง ซูจิ่วซือ คิดให้ดีก็แล้วกัน”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยพูดช้าๆ ลิ้มรสความรู้สึกเหนือกว่า ก่อนหน้านี้นางถูกซูจิ่วซือกดตลอดเวลา พอถึงตอนนี้นับว่ามีโอกาสตอบโต้แล้ว ไม่เพียงแต่ได้เห็นซูจิ่วซือคุกเข่าขอร้อง ยังได้บีบซูจิ่วซือให้กินหนอนไหมพิษด้วยตัวเอง ความรู้สึกนี้ดีจริงๆ

 

 

ทันทีที่ซูจิ่วซือมาหานาง จุดจบก็ถูกกำหนดไว้แล้ว ซูจิ่วซือต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

 

 

นางรู้ว่าตำแหน่งพระชายารัชทายาทต้องเป็นของนาง ซูจิ่วซือไม่มีคุณสมบัติที่จะมาแย่งชิงกับนาง ในมือนางมีเบี้ยมากกว่าซูจิ่วซือมาก ซูจิ่วซือจะเอาอะไรมาเทียบได้

 

 

ซูจิ่วซือยื่นมือไปจับขวดแก้วไว้แน่น นางไม่รู้ว่าหนอนไหมพิษตัวนี้มีพิษอะไร เฟิงชิงสุ่ยเองก็ไม่คิดจะบอกนาง แต่ไม่ใช่ของดีแน่ เฟิงชิงสุ่ยต้องการตำแหน่งพระชายารัชทายาท จึงอยากให้นางจากไปตลอดกาล

 

 

ชาติก่อนซูหลิ่วตายเพราะถูกวางยา ชาตินี้ก็จะตายเพราะถูกวางยากระนั้นหรือ?

 

 

ชะตากรรมนี้นางไม่อาจยอมได้ ต้องหาหนทาง

 

 

“ถ้าเจ้าไม่อยากกิน ข้าก็ไม่บังคับเจ้า กลับไปจวนตระกูลมู่เสีย วันนี้ถือว่าเจ้าไม่ได้มาที่นี่ ถ้าอย่างนั้นข้าไม่มีวันเขียนจดหมายแน่

 

 

ฝ่าบาทให้เจ้ามาหาข้า ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว พระองค์ไม่มีวันทำอะไรตระกูลเฟิง จวนแม่ทัพสยบปฐพีไม่ใช่ใครจะสั่งก็สั่งได้ ถ้าไม่มีทหารตระกูลเฟิง ซิ่นอ๋องก็จะก่อกบฏ พระองค์ต้องการใช้เจ้าแลกกับองค์รัชทายาท เจ้าจะแลกหรือไม่ เจ้าตัดสินใจเอง”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยไม่ลงมือเองแน่ นางตัดสินใจแล้วว่าจะบีบซูจิ่วซือให้กินหนอนไหมพิษเอง อย่างนี้จึงจะมีความหมาย คิดดูแล้วซูจิ่วซือคงเคียดแค้นแน่

 

 

นางเป็นคนเย่อหยิ่ง นางรู้ว่าซูจิ่วซือก็เช่นกัน