ตอนที่ 392 ภารกิจทหาร

Legend of the mythological genes

หลังจากออกมาจากห้องเสมือน เฟิงหลินก็ลุกขึ้นและยิ้ม

รางวัลที่เขาได้รับจากการเดินทางไปยังจักรวาลเสมือนจริงนั้นมากมาย

รูปแบบพื้นฐานของชมรมสะสมตำนานได้ถูกจัดตั้งขึ้น

ด้วยพื้นฐานและความแข็งแกร่งที่จู้เทียนกัง ยานาและคนอื่น ๆ มี เขาคิดว่าเขาจะสามารถเก็บเกี่ยวรางวัลได้อย่างรวดเร็ว เขาเองก็จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเช่นกัน

เขาป้อนรายละเอียดมากมายที่ได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้ลงในข้อมูลของชมรม เพื่อทำให้มันสมบูรณ์แบบ เขาจะรอจนกว่าโอกาสจะมาถึง เขาจึงจะเริ่มรับสมัครสมาชิกและค่อยๆเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ชมรมสะสมตำนานกำหนดเป้าหมายเป็นชนชั้นสูง และการคัดเลือกสมาชิกแต่ละคนจะต้องได้รับการประเมินจากเขา  ผู้ที่ไม่มีศักยภาพจะไม่ได้รับการยอมรับ

เงื่อนไขแรกสำหรับชนชั้นสูงที่ต้องการเข้าชมรมคือพวกเขาต้องนำของที่ระลึกในตำนานออกมาอย่างน้อยหนึ่งชิ้น มิฉะนั้นจะไม่มีประโยชน์ที่จะพูดกันต่อ

นี่เป็นเกณฑ์ขั้นพื้นฐานที่สุดสำหรับการเข้าร่วม ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดกันต่อ

เมื่อมีการพูดคุยรายละเอียดเหล่านี้ สิ่งต่อไปคือการค่อยๆรับสมัครสมาชิกเพื่อขยายชมรม

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรีบเร่ง เฟิงหลินเห็นว่าข้อความจำนวนมากกระพริบไม่หยุดบนไมโครชิปประจำตัวของเขา ดูเหมือนว่ามีหลายคนฝากข้อความมาถึงเขา

เขาเปิดดูและเห็นภาพโฮโลแกรมของชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ร้อยตรีเฟิงหลินไปรายงานตัวที่หน่วยโลจิสติกส์ของหน่วยสงครามระหว่างดวงดาวเดี๋ยวนี้!”

 

วันรายงานตัวต่อกองทัพสุดยอดกำแพงมาถึงแล้ว

เฟิงหลินมองเวลาที่ข้อความส่งมา เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วพอดี เขารีบสวมเครื่อง สวมตราทหารแล้วเดินออกไป

ภายในสถานีดวงดาวทุกแห่งเป็นป้อมปราการต่อสู้ขนาดใหญ่

เขาขึ้นลิฟต์และลงไปด้านล่างของป้อมปราการอย่างรวดเร็ว

เปลวไฟกำลังเผาไหม้นอกโลหะผสมโปร่งแสง และเขาก็เข้าใกล้ดวงดาวที่พยายามจะเผาเขาจนตาย

พลังงานของดวงดาว เทคโนโลยีที่ป้อมปราการนี้มีอยู่นั้นเหนือจินตนาการ

หากเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาจนถึงขั้นสุดขั้ว พวกมันอาจไม่ได้อ่อนแอไปกว่ายีนในตำนาน

ด้วยยีนและเทคโนโลยีในตำนานร่วมกัน เราจะพัฒนาชีวิตมนุษย์ได้รวมถึงการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของจักรวาล

ขั้นแรกดำเนินการจากภายในและค่อยๆไปยังภายนอก นี่เป็นวิธีที่มนุษย์ระหว่างดวงดาวงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยมา

เฟิงหลินมีความเข้าใจเล็กน้อย

เขาขึ้นลิฟต์และมุ่งลงมาถึงชั้นใต้ดิน11,723 อย่างรวดเร็ว

เขาเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของดวงดาว สภาพแวดล้อมของลิฟต์จมอยู่ในลาวาที่หลอมละลายของดวงดาว อย่างไรก็ตามอุณหภูมิภายในกลับปกติอย่างสมบูรณ์

 

 

ตูม!

ลิฟต์มาถึงและประตูก็เปิดออก

“ คุณคือเฟิงหลินสินะ?” เจ้าหน้าที่วัยกลางคนรูปร่างสูงเดินตรงมาหาเขา ตราทหารที่เขาสวมอยู่คือพันโท

“สวัสดีครับท่าน!” ในฐานะทหารที่เพิ่งเกณฑ์ทหาร เขาทักทายอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่า

 

“สวัสดี ผมคือหัวหน้าแผนกปรุงแต่งยาในหน่วยโลจิสติกส์ของสงครามระหว่างดวงดาว หงเทียนโช้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณได้รับมอบหมายให้ทำงานภายใต้คำสั่งของผม จากคำสั่งของนายพล ผมได้เตรียมห้องปฏิบัติการปรุงแต่งยาระดับสูงอย่างอิสระไว้ให้คุณแล้ว ตามผมมา! ” ผู้พันประเมินเฟิงหลินแล้วพยักหน้า

“ครับท่าน!” เฟิงหลินตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของป้อมปราการ โดยมีคนอยู่ข้างหลังอีกหนึ่งคน

“ยินดีต้อนรับสู่ห้องปรุงแต่งระดับดวงดาว!” ปัญญาประดิศฐ์รับรู้การมาถึงของทั้งคู่โดยอัตโนมัติ และทันใดนั้นประตูโลหะผสมขนาดใหญ่ก็เปิดออก เผยให้เห็นห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่และเทคโนโลยีขั้นสูง ห้องนี้มีแสงสว่างเพียงพอและมีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ทุกประเภท ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์การปรุงยาชั้นยอดที่ทำมาจากวัสดุที่ดีที่สุด ซึ่งให้ความแม่นยำในระดับที่สูงมาก

การปรุงแต่งยาเป็นวิชาที่ต้องใช้ความแม่นยำในระดับสูง และความแตกต่างเพียงเล็กน้อยจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย

ในฐานะหนึ่งในมหาวิทยาลัยสิบอันดับแรกของจักรวาล สิ่งที่มหาวิทยาลัยสุดยอดกำพแพงใช้นั้นดีที่สุดในอวกาศระหว่างดวงดาว

อุปกรณ์เหล่านี้บางชิ้นเป็นสิ่งที่เฟิงหลินเคยได้ยินมาก่อน แต่เคยเห็นเป็นครั้งแรก ตอนนี้ทั้งหมดวางอยู่ตรงหน้าเขาและเขาสามารถใช้มันได้อย่างอิสระ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงแต่งยาและนักเล่นแร่แปรธาตุ เขามีความสุขอย่างช่วยไม่ได้

เฟิงหลินเหลือบมองไปรอบ ๆ เขายิ้มและพูดว่า “แค่นี้ก็เพียงพอ!”

ทักษะการปรุงแต่งยาของเขาอาศัยการใช้พลังวิญญาณเพื่อควบคุมคุณสมบัติทางการแพทย์อย่างรัดกุมที่สุด ดังนั้นความต้องการของเขาสำหรับอุปกรณ์จึงไม่สูงนัก สิ่งเหล่านี้จึงเพียงพอแล้ว

หากไม่มีความสามารถนี้ที่ทำให้เขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดของอุปกรณ์ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลั่นยาทุกประเภท

 

“เอาล่ะ! ร้อยตรีเฟิงหลิน ฟังดีๆ ผมเป็นตัวแทนหน่วยสงครามระหว่างดวงดาวมาเพื่อมอบหมายภารกิจพิเศษทางทหารให้คุณ!” นายพันประกาศด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เฟิงหลินฟังด้วยความเคารพ

“ทุกสิ่งในกองทัพสุดยอดกำแพงของเรามีคำสั่งทางทหาร เราจะไม่บีบบังคับนักเรียนหรือทหาร และหากมีภารกิจก็จะมีรางวัลให้หลังจากทำภารกิจสำเร็จ เราจะมอบคะแนนสะสมให้กับคุณเป็นรางวัล ตอนนี้คุณน่าจะเดาได้แล้ว ทีมปรุงแต่งยาที่คุณเป็นผู้นำมีภารกิจเดียวคือการปรุงแต่งตะกั่วแดงกลั่นเข้ม นั่นคืออาวุธสังหารชั้นยอดที่ใช้ต่อสู้กับวิญญาณ! ” ผู้พันพูดเสียงเข้ม

เฟิงหลินพยักหน้า เขาเข้าใจเรื่องนี้โดยธรรมชาติ

“นี่คือรางวัลที่เราจะมอบให้สำหรับภารกิจนี้ หากทีมที่คุณเป็นคนนำสามารถผลิตตะกั่วแดงกลั่นเข้มได้ 100 กิโลกรัมขึ้นไปภายในหนึ่งเดือน เราจะให้รางวัลคุณเป็นจำนวนหนึ่งล้านคะแนนสะสม หากคุณสามารถผลิตได้ 500 กิโลกรัมขึ้นไปเราจะให้คะแนนสะสมสิบล้านคะแนน หาก86Iสามารถผลิตได้มากกว่า 1,000 กิโลกรัมก็ขอแสดงความยินดีด้วย86Iจะได้รับ 30 ล้านคะแนนสะสม และยังจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้หมวดอีกด้วย! ” ผู้พันอธิบายรายละเอียดของรางวัล

 

เพื่อให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้น ยิ่งผลิตตะกั่วแดงกลั่นเข้มมากเท่าไหร่รางวัลก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

(การกลั่นตะกั่วแดงกลั่นเข้ม 1,000 กิโลกรัมภายในหนึ่งเดือน?)

(คุณคิดว่ายาทางพันธุกรรมเป็นกะหล่ำปลีราคาถูกหรืไง?)

เฟิงหลินอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญในใจ

แม้ว่ารางวัลจะยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับมา

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปรุงแต่งตะกั่วแดงกลั่นเข้มมากขนาดนั้น และแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพลังวิญญาณ เฟิงหลินก็ไม่สามารถทำได้

รางวัลที่ยิ่งใหญ่นั่นจะต้องมีคนที่กล้าหาญที่จะต่อสู้เพื่อมัน!

เขาสามารถบอกเป้าหมายเบื้องหลังภารกิจนี้ได้ พวกเขาต้องการให้เขาสอนผู้ใต้บังคับบัญชาและให้พวกเขาเชี่ยวชาญเทคนิคในการปรุงแต่งตะกั่วแดงกลั่นเข้มเช่นกัน ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งทีม พวกเขาจะสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้

การเลื่อนขั้นเป็นสิ่งล่อใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

มันเป็นแผนการที่โจ่งแจ้งและเปิดเผยซึ่งเฟิงหลินไม่สามารถปฏิเสธได้

อันที่จริงเขาก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน!

ตะกั่วแดงกลั่นเข้มเป็นสิ่งที่อ่อนแอหากไม่ได้ใช้เพื่อต่อสู้กับเผ่าพันธุ์วิญญาณ ทักษะที่ต้องการนั้นไม่ซับซ้อนและไม่เกี่ยวข้องกับทักษะหลักของเทคนิคการตกผลึกยา ถ้าเขาสามารถใช้มันเพื่อแลกกับยศทหารและคะแนนสะสมได้ ทำไมเขาถึงจะไม่ทำล่ะ?

ตามที่คาดไว้ผู้พันจึงเริ่มพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วง! คุณต้องรู้ว่าตะกั่วแดงกลั่นเข้มมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำสงครามกับเผ่าพันธุ์วิญญาณที่กำลังจะเกิดขึ้น หากมีจำนวนเพียงพอ มันสามารถเป็นอาวุธสังหารของเราได้ แม้ว่าภารกิจจะยากเล็กน้อยและเราอาจบังคับให้คุณทำสิ่งต่างๆมากเกินไป หากคุณมีคำขอพิเศษในเรื่องของผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณ คุณสามารถระบุรายชื่อพวกเขาได้ เราจะจัดลำดับความสำคัญของการจัดเตรียมผู้ช่วยของคุณ ตราบใดที่คุณระบุเงื่อนไขเราจะหามาให้! “

เสียงเขาฟังดูมั่นใจมาก

“เอาล่ะ ผมตกลง!” เฟิงหลินไม่ลังเลและตอบตกลงทันที “ท่านครับ โปรดส่งบันทึกของผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงแต่งยาในมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงและทางทหารให้ผมด้วย ผมอยากจะดูเพื่อทำการคัดเลือก!”

“ผมมีเตรียมไว้พร้อมแล้ว!” เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินเห็นด้วย ผู้พันก็ยิ้มและพยักหน้าส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลให้กับเขา

เฟิงหลินเปิดไมโครชิพประจำตัวของเขา มันแสดงรูปลักษณ์ ข้อมูลตัวตนและที่สำคัญที่สุดคือความสามารถของพวกเขาในการปรุงแต่งยา …

พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงแต่งยาที่หาตัวได้ยากในอวกาศระหว่างดวงดาวและระดับต่ำสุดในหมู่พวกเขาก็คือนักปรุงแต่งยาขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีปรมาจารย์ด้านการปรุงแต่งยาอีกมากมาย