ตอนที่ 1575 ข้าเข้าใจฟ้าดินมากกว่าเจ้า!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1575 ข้าเข้าใจฟ้าดินมากกว่าเจ้า! Ink Stone_Fantasy

เทพนอกรีตยังคงสำแดงฤทธิ์เดชต่อหน้าลี่เอ๋อต่อเนื่อง ถึงขั้นที่ว่าท้องนภาพลันเปลี่ยนสีแสนฉงนใจ

ฟางเทียนยังคงลอยเคว้งอยู่กลางเวหา ยามนี้รู้สึกราวกับผืนพิภพแห่งนี้ถึงกาลอวสาน

นี่คือพลังที่แท้จริงของศาสตร์แห่งสวรรค์!

ไม่ว่าจะเป็นทัณฑ์สวรรค์หรือทัณฑ์สวรรค์วิญญาณ สรรพสิ่งที่คิดว่ารุนแรงหากเปรียบกับสิ่งตรงหน้ากลับดูอ่อนด้อยไปโดยปริยาย

“นี่…นี่มันพลังอะไรกัน?!”

“น่ากลัวเกินไปแล้ว! แม้แต่ศึกสัประยุทธ์ระหว่างเย่หยวนกับข่านนั่วในปีนนั้นยังมิอาจเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในวันนี้ได้!”

“มันจบลงแล้ว! คราวนี้ทุกอย่างจบสิ้นลงแล้วจริงๆ! ดินแดนพฤกษานิรันดร์มีแต่โชคร้ายหรืออย่างไร? เพิ่งผ่านพ้นไปได้ร้อยปีกลับต้องมาเผชิญพบกับหายนะอีกครั้ง!”

สีหน้าของเหล่าฝูงชนเปี่ยมล้นไปด้วยความสิ้นหวัง

ในตอนนั้นยังคงเย่หยวนคอยพิทักษ์ปกป้องพลิกผันกระแสน้ำแห่งหายนะได้

แต่ตอนนี้ใครจะมาช่วยเหลือพวกเขากัน?

ฟางเทียนนับเป็นปราการแรกสุด หากใครต้องการทำลายดินแดนพฤกษานิรันดร์ต้องข้ามศพเขาให้ได้เสียก่อน

ส่วนเรื่องรอดชีวิตกลับมา มันไม่เคยมีอยู่ในหัวเขาตั้งแต่แรกแล้ว!

ในตอนนี้เขาพยายามทำจิตใจให้สงบ

เขารู้ดีว่าวันนี้ไม่มีใครสามารถรอดพ้นหายนะไปได้ กระทั่งเยวี่ยเมิ่งลี่เองก็เช่นกัน

ดังนั้นแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ขอเฝ้าดูนางตายไปต่อหน้าต่อตา

“เย่หยวน ข้าขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องลี่เอ๋อได้”

จากนั้นฟางเทียนก็ค่อยๆหลับตาลง เฝ้ารรอความตายที่อยู่เบื้องหน้า

ทันใดนั้นเองดัชนีอันทรงพลังถูกปลดปล่อย พุ่งเสียดอากาศหัวงทะลวงชีพของฟางเทียนโดยตรง

ทุกคนต่างปิดตาแน่น พวกเขามิอาจทนมองผู้นำดินแดนพฤกษานิรันดร์ตายลงทั้งแบบนี้ได้เลย

“หื้ม? เกิดอะไรขึ้น?”

แต่ในเวลานั้นเองกลับมีเสียงร้องอุทานดังขึ้นแทน

ดัชนีของเทพนอกรีตถือเป็นพลังปราณที่หลอมรวมเข้ากับศาสตร์แห่งสวรรค์ ทว่าเมื่อมันปราดพุ่งถึงตรงหน้าฟางเทียน กระแสพลังเหล่านั้นกลับอันตรธานหายไป

ท้องนภายามนี้คล้ายถูกแบ่งออกไปราวกับสองโลกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

โลกใบหน้ามีลมพายุโหมกระหน่ำ ฟ้าดินวิปลาสเปลี่ยนสี ในขณะที่โลกอีกใบกลับสงบเปี่ยมล้นความสันติ

ทันทีทันใด ฟางเทียนก็สัมผัสได้ว่าแรงกดดันทั้งหมดทั่วร่างของตนหายไปแล้ว ทำให้เขาเริ่มขยับเคลื่อนร่างกายได้อีกครั้ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมอง

เขาถึงกับตื่นตะลึงยิ่งกับภาพฉากนี้!

นี่…นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?

สายตาคู่นั้นของเทพนอกรีตพลันหรี่แคบในทันใด เอ่ยลั่นประกาศน้ำเสียงเย็นชายิ่งว่า

“นั้นใคร!? แสดงตัวออกมาให้ข้าผู้นี้!”

ขณะเดียวกันทุกคนต่างปั้นสีหน้าสุดงงงวยยิ่ง

หรือเป็นไปได้ไหมว่า ในดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ยังมีใครสามารถต่อกรได้กับเทพนอกรีตบาปสวรรค์ได้อีก?

“เกิดอะไรขึ้นกัน? หรือท่านอาวุโสคุนหวูจะลงมือเอง?”

อิ้งหมัวหู่เหลือบมองเยวี่ยเมิ่งลี่คล้ายว่าต้องการความคิดเห็น แต่เมื่อหันไปมองปรากฏว่าทั่วร่างของนางกลับสั่นสะท้านไม่หยุด สีหน้าการแสดงออกเผยถึงความตื่นเต้นสุดหัวใจ

ระหว่างที่อิ้งหมัวหู่ยังดูมึนนงง เยวี่ยเมิ่งลี่พลันกล่าวเสียงสั่นขึ้นว่า

“เขา…เขากลับมาแล้ว!”

อิ้งหมัวหู่เนื้อตัวแข็งค้างไปชั่วขณะ

“ใครกัน? ใครกันที่กลับมา?”

เยวี่ยเมิ่งลี่ตะโกนลั่นอย่างร้อนใจ

“นั้นเป็นพี่ใหญ่หยวน! พี่ใหญ่หยวนกลับมาแล้ว!!”

เนื้อตัวอึ้งหมัวหู่สั่นสะท้านหนัก ทันทีทันใดกลางห้วงแห่งความว่างเปล่าพลันสั่นสะเทือนเล็กน้อย ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนเผชิญหน้ากับเทพนอกรีตอยู่จากระยะไกล

หนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น ปรากฏร่างหนึ่งแสนคุ้นเคยยิ่งนัก ซึ่งยังเป็นใครอื่นไปได้นอกจากเย่หยวน?

หากกล่าวถึงเรื่องนี้นี่ถือเป็นเรื่องบังเอิญมากเช่นกัน ในตอนที่เย่หยวนกำลังสนทนากับคนอื่นๆ ทันทีทันใดเขาพลันสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังของศาสตร์แห่งสวรรค์ขุมใหญ่ปรากฏขึ้นที่ทิศตะวันออก

ซึ่งคนที่สามารถสร้างคลื่นพลังศาสตร์แห่งสวรรค์ได้ควรมีแค่เขาคนเดียว

โดยไม่ลังเลอันใด เย่หยวนจึงใช้วิชาข้ามมิติพุ่งเข้ามาสกัดกั้นพลังดัชนีของเทพนอกรีต และช่วยชีวิตฟางเทียนได้อย่างทันท่วงที

ร่างของฟางเทียนสั่นเทาไม่หยุดหย่อน เขากล่าวขึ้นอย่างเหลือเชื่อว่า

“ย-ย-เย่หยวน! นี่เป็นไปได้อย่างไร?!”

เย่หยวนหันหลังกลับมองฟางเทียนและยิ้มกล่าวว่า

“ท่านอาวุโสฟางเทียน หลายปีมานี้คงลำบากท่านมิใช่น้อย”

คล้อยหลังความประหลาดใจ ฟางเทียนระเบิดหัวเราะดังลั่นกล่าวว่า

“ดี! ดี! ดีจริงๆที่เจ้ากลับมา! ฮ่าๆๆ!”

จากนั้นทุกคนต่างเงยมองชายหนุ่มในชุดอาภรณ์สีขาวบนท้องนภาด้วยความตื่นตะลึง

เย่หยวนกลับมาแล้ว!

“ฮ่าๆๆๆ! เย่หยวนกลับมาแล้ว! พวกเรารอดตายแล้ว!”

“เย่หยวนคือวีรบุรุษแห่งดินแดนพฤกษานิรันดร์! เมื่อใดที่เขาอยู่ตรงนี้ พวกเราปลอดภัยแล้ว!”

“เย่หยวนมักปรากฏตัวในช่วงเวลาวิกฤตอยู่เสมอ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน!”

“เขา…เขาทะลวงขึ้นเป็นยอดเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางแล้วจริงๆ! สวรรค์! เขาเพิ่งจากออกไปแค่ร้อยปี แต่กลับเลื่อนระดับชั้นไปถึงสองอาณาจักรพลังหลักแล้ว! ชายผู้นี้ประหลาดคนเสียจริง!”

การปรากฏตัวของเย่หยวนต่างทำให้ทุกคนตื่นอกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

ในสายตาของพวกเขา เย่หยวนคือวีรบุรุษ!

อย่างไรก็ตามก็หาใช่ว่าทุกคนจะมองโลกในแง่ดีนัก

“อย่าเพิ่งดีใจ! ทั้งเย่หยวนและเทพนอกรีตต่างเป็นผู้ควบคุมศาสตร์แห่งสวรรค์ได้ทั้งคู่ แถมเทพนอกรีตยังมีระดับพลังสูงกว่าเย่หยวนมาก นี่หาใช่เรื่องดี!”

บางคนเอ่ยกล่าวขึ้นมาพร้อมสีหน้าสุดเคร่งขรึม

เมื่อได้ฟังแบบนั้น สีหน้าการแสดงออกของทุกคนพลันแปรเปลี่ยนไปในทันที

พวกเขาตระหนักทราบดีถึงความแข็งแกร่งของเทพนอกรีต แล้วเย่หยวนจะเป็นคู่มือได้จริงๆงั้นรึ?

“เจ้าคือผู้ควบคุมศาสตร์แห่งสวรรค์อีกคน? ดู…อ่อนแอเสียเหลือเกิน!”

เทพนอกรีตกล่าวเย้ยเยาะพร้อมรอยยิ้มแสนชั่วร้าย

แม้การมาของเย่หยวนจะมิได้อยู่ในแผน แต่เขาก็หาได้เป็นกังวลไม่

ความแตกต่างระหว่างอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางและขั้นสุดมันมีมากเกินไป!

เย่หยวนกวาดสายตาจับจ้องอย่างเย็นชา กล่าวว่า

“เจ้าสวะ เจ้าโผล่หัวออกมาจากไหน? กล้าลงมือกับท่านอาวุโสฟางเทียนขนาดนั้นเชียว?”

ในขณะที่เอ่ยกล่าวขึ้นมา สายตาของเย่หยวนก็เหลือบไปมองที่รถม้าคันนั้นรวมไปถึงมังกรร่างมหึมาทั้งแปดที่ถูกใช้ให้ลากจูง ความโกรธเกรี้ยวพลันปะทุเดือดขึ้นทันทีภายในใจ

“เจ้าสวะ? มดปลวกอย่างเจ้ายังกล้าเรียกคนอื่นว่าสวะอีกงั้นรึ? สามหาว! เหอะ เจ้ามาได้จังหวะพอดี ตอนนี้ข้ากำลังมารับตัวเจ้าสาวของข้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลี่เอ๋อคือภรรยาของข้า! เจ้ามาเป็นสักขีพยานในความรักของพวกเรา! เป็นอย่างไรบ้าง? ได้เห็นคนที่เป็นที่รักของตัวเองถูกคนอื่นช่วงชิงไปต่อหน้า แค้นใจหรือไม่? อย่างไรก็ตาม เจ้ามันอ่อนแอ อ่อนแอเกินว่าจะปกป้องคนที่รักได้! ฮ่าๆๆๆ…เจ้ามั่นใจได้เลย ข้าผู้นี้ยังไม่ฆ่าเจ้าแน่นอน เจ้าต้องเฝ้าดูความรักของข้ากับลี่เอ๋อไปอีกนานแสนนาน!”

เมื่อกล่าวจบเทพนอกรีตก็รื้สึกตื่นเต้นอย่างอดมิได้ ถึงขั้นระเบิดหัวเราะเปี่ยมล้นความสุขไม่หยุดหย่อน

แต่ทุกคนโดยรอบในปัจจุบันต่างรู้จักเย่หยวนดีเกินไป และพวกเขาทราบดีว่ายามนี้เย่หยวนกำลังโกรธจริงๆแล้ว

เทพนอกรีตกล้ายั่วยุบุคคลที่น่ากลัวที่สุดแห่งดินแดนพฤกษานิรันดร์จริงๆ!

เว้นเสียว่า เย่หยวนจะต่อกรกับเทพนอกรีตได้จริงๆใช่หรือไม่?

ระดับพลังต่างกันถึงสองอาณาจักรย่อย เมื่อทะลวงขึ้นถึงอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า กล่าวได้ว่าแต่ละระดับชั้นย่อมกลับกว้างใหญ่เสียยิ่งกว่าฟ้าดิน!

ที่เย่หยวนเคลื่อนไหวช่วยเหลือฟางเทียนเป็นเพราะจังหวะทีเผลอจนอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเท่านั้น หากประจันหน้ากันกับเทพนอกรีตแบบหนึ่งต่อหนึ่งกลับยากที่จะต่อกร

แต่เมื่อเทพนอกรีตกล่าวอธิบายเช่นนั้นออกมา เย่หยวนก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทันที

ส่งผลให้เย่หยวนไม่คิดรั้งรอนพลังใดๆอีกต่อไป

เขากำลังโกรธมาก!

เย่หยวนจ้องเทพนอกรีตเขม็ง คล้อยกล่าววาจาแสนเรียบนิ่งดังว่า

“แม้ข้าจะไม่ทราบว่าสวะอย่างเจ้าโผล่หัวมาจากไหน แต่ขอชื่นชมว่าเจ้าเก่งมาก! เก่งมากที่ทำให้ข้าโมโหจริงๆได้!”

ปฏิกิริยาของเย่หยวนทำให้เทพนอกรีตไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

มันชอบเห็นคนอื่นถูกกระตุ้นอารมณ์โกรธจนเป็นบ้า ยิ่งคลั่งเท่าไหร่มันยิ่งชอบ

แต่ไม่นึกเลยว่าเย่หยวนจะสงบได้ปานนี้

แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ทำให้เย่หยวนโกรธจริงๆแล้ว

เทพนอกรีตแสยะยิ้มชั่วกล่าวว่า

“ไอ้เด็กเหลือขอ จงจำไว้ให้ดี ข้าเองก็เป็นผู้ควบคุมศาสตร์แห่งสวรรค์เช่นกัน แต่ความแข็งแกร่งระหว่างเรากลับมีช่องว่างยิ่งใหญ่เกินทดแทน! จงจำไว้ให้ดี ข้าเข้าใจฟ้าดินมากกว่าเจ้า!”

……………………………………………………………….