บทที่ 531 กระแสความร้อนแรง

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

บทที่ 531 กระแสความร้อนแรง
หลังจากเห็นร็อคออกไป ลูเซียนก็ส่ายศีรษะและยิ้มออกมา เขาไม่ได้ตั้งความหวังในตัวร็อคสูงนัก แล้วเขาก็หันมาใส่ใจกับวารสารอาร์คานาและอ่านจนจบ เขาเห็นบทความที่แอนนิคและสปรินต์เสนอสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างผลที่เกิดขึ้นจริงกับผลที่ต้องการของเครื่องไซโคลตรอน ทั้งสองคนระบุอย่างคลุมเครือว่าพลังงานถูกเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า แต่ยังไม่อาจเสนอสูตรที่สามารถสรุปข้อมูลเฉพาะเพื่อปรับรูปแบบได้

“ข้าหวังว่าหลายๆ คนจะเริ่มคิดถึงคำถามนี้มากขึ้น” ลูเซียนปิดวารสารและตั้งใจวิเคราะห์เวทมนตร์ระดับแปด

ณ เช้าวันที่ 3 กรกฎาคม กระแสคลื่นความร้อนกำลังยกระดับขึ้น

โลวี่ไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาหอคอยเวทมนตร์อัลลินกี่ครั้งแล้ว เขารู้เพียงว่าเขายังไม่อาจหาภารกิจที่เขาสามารถหารางวัลตอบแทนได้มากพอสำหรับค่าเช่า แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะอยู่รอดในนครอัลลินที่ข้าวของทุกอย่างแพงหูฉี่ เขาคงต้องออกจากศูนย์กลางของอาร์คานาศาสตร์และหอคอยเวทมนตร์ และมองหาโอกาสเอาที่อื่น

“ข้าผิดเอง ข้าสะเพร่าเกินไปตอนอยู่ในสำนักและไม่ขยันมากพอ ข้าไม่อาจกลายเป็นนักเวทฝึกหัดชั้นสูง ข้าเลยไม่ได้รับข้อเสนอตำแหน่งดีๆ” โลวี่ไม่ได้บ่น แต่โทษตัวเองที่ไร้ความพยายาม หากเขาขึ้นเป็นนักเวทฝึกหัดชั้นสูงในสำนัก เขาคงได้รับคำแนะนำไปยังฝ่ายบริหารจัดการนักเวท ฝ่ายประเมินนักเวทฝึกหัด เขตภารกิจ หรือฝ่ายอื่นๆ ของสภาเวทมนตร์ หรือน่าจะได้รับโอกาสทำงานในองค์กรสำคัญๆ และสำนักงานวารสารในนครอัลลิน หากเป็นเช่นนั้น เขาก็จะได้ติดต่อกับนักเวทมากหน้าหลายตา และมีค่าตอบแทนดีๆ พอที่จะให้มีชีวิตอยู่ในอัลลิน

โลวี่จับกระเป๋าของเขา ในกระเป๋ามีจดหมายแนะนำอยู่ฉบับหนึ่งสำหรับกลุ่มเวทมนตร์ท้องถิ่นในเขตแพฟอส

แม้ว่าในสายตาของนักเวทฝึกหัดที่เดินทางมายังเขตห่างไกลหรือแม้กระทั่งหมู่เกาะสุริยคติ การได้รับการแนะนำให้กับเขตแพฟอส ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเขตที่เจริญรุ่งเรืองสูงสุดในราชอาณาจักรโฮล์ม เป็นเรื่องที่น่าอิจฉา แต่กลับไม่มีความหมายอะไรเลยกับโลวี่ซึ่งตระหนักถึงความผิดพลาดของตน หลังจากสำเร็จการศึกษา เพราะจะไม่ได้อยู่ในนครอัลลินอีกต่อไป หากเขาต้องออกจากศูนย์กลางของอาร์คานาและเวทมนตร์ เขาก็จะถูกสหายร่วมชั้นเรียนทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งต่างกำลังจะได้งานประจำกันในไม่ช้า

ตามผลการสำรวจของ ‘ทรรศนะอัลลิน’ ชุดข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา นักเวทฝึกหัดทุกๆ หนึ่งในสิบคนที่พำนักอยู่ในอัลลินเกินสามปี หลังจากออกสำนักเวทมนตร์จะกลายเป็นนักเวทอย่างเป็นทางการ นักเวทฝึกหัดชั้นสูงที่ได้รับการแนะนำให้ได้รับตำแหน่งดีๆ ก็ยิ่งมีอัตราเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น ซึ่งสูงกว่าสาขาอื่นๆ มาก ซึ่งมีอัตราเพียงหนึ่งในยี่สิบ

ในหมู่เกาะสุริยคติและเขตอันห่างไกล ก็ยิ่งมีสถิติที่น่าใจหายอยู่ที่หนึ่งต่อสามสิบคน หากไม่มีทางเลือกจริงๆ ก็ไม่มีใครอยากไปอยู่ที่นั่น แต่สถานการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้น หลังจากมีรายการวิทยุ ‘ข่าวรอบโลก’

หลังจากคิดได้ดังนั้น โลวี่ก็เคลื่อนนิ้วมือออกจากระเป๋า ไม่ยอมถูกคนอื่นๆ ทิ้งไว้ข้างหลังตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม ความอิจฉาตาร้อนทำให้เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น เพื่อประหยัดเงินทอง ตั้งแต่มื้อเช้าที่ผ่านมามานานแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง

ครอบครัวของเขาไม่ได้มีเงินทองมาตั้งแต่แรก หากเขาไม่สามารถหางานที่เหมาะสมและได้เงินตอบแทนดีๆ ได้ ความฝันของเขาก็สลายไปจากความจริง หากเขาไม่ยอมรับภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายที่รออยู่

“ชีวิต หรือความฝัน? เลือกยากชะมัด” โลวี่ขบขันตัวเองและกล้ำกลืนฝืนความรู้สึกท้องหิวของตน เขาทำความสะอาดเสื้อคลุมนักเวทฝึกหัดของเขาที่เก่าซอมซ่อ แล้วเดินตรงไปยังเขตภารกิจ

เมื่อไปถึงโต๊ะสีเงินที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาประจำการ โลวี่ก็เงยหน้าขึ้นอ่านภารกิจที่แสดงอยู่บนหน้าจอสีเขียว

“ภารกิจเหมืองลับในทะเลทรายตอนใต้ของจักรวรรดิกัสตา: ค่าตอบแทนมีค่าหนึ่งคะแนนอาร์คานาหรือหนึ่งธาเลต่อวัน และค่าตอบแทนเพิ่มเติมจะคำนวณตามคุณภาพและปริมาณของแร่ กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากรายละเอียด ความสามารถที่ต้องการ: ไม่จำกัด จำนวนคน: ไม่จำกัด ระดับเสี่ยงภัย: สูงมาก ท่านต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดในทะเลทรายและพวกผู้พิทักษ์ราตรีและคณะนักบวช ขณะเดียวกัน แร่ก็มีคำสาปแฝงอยู่”

ค่าตอบแทนเป็นกอบเป็นกำทำให้ตาของโลวี่พร่ามัว แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักจากคำอธิบายช่วงสุดท้าย ไม่มีทางที่จะทำภารกิจสำเร็จ หากไม่มีความสามารถระดับนักเวทตัวจริง นักเวทฝึกหัดแปดจากสิบคนล้วนเอาชีวิตไปทิ้ง

“…ร้านโฮล์มนิ่งต้องการผู้ช่วยนักเล่นแร่แปรธาตุสัญญาสามปี จ่ายค่าตอบแทนเป็นอาหารและที่พัก”

โลวี่สนใจ แม้ว่าจะไม่มีเงินค่าตอบแทน ซึ่งหมายความว่าเขาไม่สามารถซื้อวัสดุและยืมตำราได้ การจ่ายค่าตอบแทนด้วยอาหารและที่พักก็ช่วยให้เขาหนีรอดจากค่าครองชีพแพงๆ ในนครอัลลิน นอกจากนี้ เขายังสามารถเรียนรู้จากการทำงานเป็นผู้ช่วยนักเล่นแร่แปรธาตุได้มากมาย

“แต่ข้าเป็นนักเวทที่ถนัดการร่ายเวทมากกว่างานฝีมือ ยิ่งล่าช้าไปอีกสามปีจะยิ่งถูกคนอื่นทิ้งไปไกล หรือจะไปเขตแพฟอสแล้วค่อยศึกษาวิจัยล่าสุดจากวิทยุเวทมนตร์ดีนะ”

โลวี่ส่ายศีรษะและเริ่มอ่านต่อ แต่ภารกิจนั้นก็อันตรายหรือไม่ก็มีรางวัลตอบแทนไม่พอที่เขาจะแก้วิกฤตที่จวนตัวเขาในตอนนี้

โลวี่หงุดหงิด หลังจากอ่านภารกิจใหม่ในครึ่งชั่วโมง เขาต้องเดินทางออกจากอัลลินจริงๆ หรือนี่?

นักเวทคนอื่นๆ ที่แต่งตัวต่างจากเขาที่อยู่ข้างๆ รับภารกิจและเดินออกไป พูดคุยและหัวร่อต่อกระซิก แต่สายตาของโลวี่ พวกเขาดูเหมือนจะอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไปที่เต็มไปด้วยสีสันและความสว่างไสว ขณะที่เขายืนอยู่ท่ามกลางหมอกสีหม่นหมอง

โลวี่ไม่เต็มใจจะรับงาน เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและวางแผนจะหาภารกิจระยะสั้นที่จ่ายค่าตอบแทนต่ำอื่นๆ เพื่อหากินให้ผ่านไปแต่ละวัน พรุ่งนี้เขาจะได้กลับมาดูว่ามีงานอื่นๆ ที่เหมาะสมกับเขาหรือไม่ ทันใดนั้น หน้าจอสีเขียวก็เด้งออกมา และมีข้อความใหม่ปรากฏขึ้น

“การสรรหานักเวทฝึกหัด: สถาบันอะตอม ตั้งอยู่ที่ชั้นสิบแปดของหอคอยเวทมนตร์อัลลิน ต้องการผู้ช่วยระดับนักเวทฝึกหัดจำนวนสิบคน ระยะการทำงาน: สามปี ความสามารถที่ต้องการ: ไม่ต่ำกว่านักเวทฝึกหัดชั้นสูง ค่าตอบแทน: อาร์คานาสิบคะแนนต่อเดือน สิทธิพิเศษในการเข้าถึงตำราอาร์คานาศาสตร์และเวทมนตร์พื้นฐาน สามารถใช้อุปกรณ์ทดลองตามอัธยาศัย กำหนด: 10 กรกฎาคม”

“ผู้ช่วยระดับนักเวทฝึกหัด?” โลวี่พูดทวนด้วยความสับสน ไม่อยากเชื่อว่าจะได้รับค่าตอบแทนดีขนาดนี้

ทันใดนั้น เขาก็ต้องมองตาค้าง เมื่อเห็นตัวหนังสือสีแดงเข้มด้านล่างของข้อมูล “สถาบันอะตอม?”

“สถาบันอะตอม!”

โลวี่รู้สึกว่าไฟกำลังแผดเผาตั้งแต่หัวใจของเขาลามมาถึงศีรษะ จนไม่อาจคิดอะไรออก สถาบันอะตอมของท่านลูเซียน อีวานส์ ผู้นำเสนอทฤษฎีการเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักเวททุกคนที่ปรารถนาจะเดินบนเส้นทางสายธาตุและวัสดุ และเป็นสถานที่น่าอัศจรรย์ที่มีความสำเร็จทางการวิจัยเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละเดือน นับเป็นสถาบันระดับสูงสุดในการศึกษาเรื่องอะตอม

สถาบันระดับนั้นต้องการผู้ช่วยระดับนักเวทฝึกหัดไปทำงานอย่างนั้นหรือ?

แล้วข้ากำลังรออะไรล่ะ?

โลวี่รู้สึกว่าความฝันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดวงตาเขาเป็นประกาย เขากระหืดกระหอบรีบรับภารกิจ และรับเอกสารแบบฟอร์มที่เจ้าหน้าที่ส่งให้กับเขา

“เรซูเม?” โลวี่ไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน และค่อนข้างตกตะลึง แต่โชคดีที่ข้อมูลของงานมีรายละเอียดค่อนข้างชัดเจน เขากรอกข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ

“หากเรซูเมของท่านผ่าน ท่านจะผ่านเข้าสอบข้อเขียนรอบแรกในอีกสองวัน วิชาความรู้พื้นฐานของอาร์คานาศาสตร์และเวทมนตร์เกี่ยวกับธาตุ” เจ้าหน้าที่ทวนรายละเอียดภารกิจซ้ำด้วยน้ำเสียงแปลกๆ สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินคำว่าเรซูเมหรือการสอบข้อเขียนมาก่อน

สองวัน? ข้าจะอยู่รอดในอัลลินถึงสองวันไหม? ข้าคงต้องทำภารกิจอื่นหาเงินให้อยู่รอดไปก่อนหรือนี่?

โลวี่สับสัน แต่ไม่นานเขาก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เมื่อมองที่เสื้อคลุมนักเวทฝึกหัดของเขา เขาก็คิดในใจ “ข้าจะไม่ยอมเสียสมาธิจากภารกิจอื่น แต่ต้องตั้งใจทบทวนความรู้พื้นฐานเรื่องอาร์คานาและเวทมนตร์… ถ้าขายเสื้อคลุมตัวนี้ให้กับร้านรับจำนำ น่าจะพอให้อยู่รอดสักเจ็ดวัน!”

หลังจากเขาตัดสินใจ ดวงตาของโลวี่ก็เป็นประกาย แล้วเขาก็เดินจากไปด้วยความมุ่งมั่น

หลังจากเจ้าหน้าที่เห็นเขาออกไป นางก็ส่ายศีรษะ ด้วยแรงปรารถนาที่แสดงออกมาทางสายตา นางก็หยิบเรซูเมออกมาและเริ่มกรอกแบบฟอร์มเช่นกัน

โลวี่แทบจะยังไม่ได้ออกก้าวเดิน ตอนที่เขาได้ยินเสียงอุทานดังขึ้น “สถาบันอะตอมจะว่าจ้างผู้ช่วยระดับนักเวทฝึกหัดหรือนี่?”

“สถาบันอะตอมหาคนทำงาน?”

“จริงหรือนี่? จริงหรือ? ขอข้าดูหน่อย!”

ด้วยเสียงร้องโวยวาย เขตภารกิจดูวุ่นวายไปหมด นักเวทฝึกหัดหลายคนตื่นเต้นจนหน้าแดงปลั่ง ราวกับว่าพวกเขากำลังเห็นอนาคตอันสดใส

โลวี่ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย ความแข่งขันต้องดุเดือดแน่นอน แล้วเขาก็หัวเราะกึ่งสมเพชตัวเอง หากไม่มีการแข่งขันดุเดือดสำหรับตำแหน่ง ก็หมายความว่าที่ผ่านมาเขากำลังฝัน

ขณะเขาเดินอย่างมุ่งมั่น โลวี่ก็พบเข้ากับอาจารย์เวทมนตร์ของเขา ขณะเขาเดินผ่านแท่นภารกิจตรงหัวมุม ชายวัยกลางคนมารยาทดีคนหนึ่งกำลังโบกมือไปมาด้วยความตื่นเต้นเหมือนกับนักเวทฝึกหัด

“ท่านบัลเตอร์ลีย์ สวัสดีขอรับ” โลวี่กล่าวทักทายด้วยความสุภาพ

บัลเตอร์ลีย์จำได้ว่าเขาเป็นลูกศิษย์ที่เขาชื่นชมอยู่เสมอ เขายิ้มให้กับโลวี่ “เจ้ามารับภารกิจหรือ? ไปรับตำแหน่งผู้ช่วยนักเวทฝึกหัดจากสถาบันอะตอมสิ! ข้าก็เพิ่งรับมา!”

“อาจารย์ขอรับ แต่ แต่ท่านเป็นนักเวทระดับสองและจอมเวทระดับสองแล้วไม่ใช่หรือ? นี่มันตำแหน่งผู้ช่วยนักเวทฝึกหัดนะขอรับ!” โลวี่ถามด้วยความตกตะลึง

บัลเตอร์ลีย์กำหมัดและตอบอย่างแข็งขัน “จำเป็นด้วยหรือ? ตราบใดที่ข้าสามารถเข้าสถาบันอะตอมได้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าข้าต้องเป็นนักเวทฝึกหัดหรือนักเวท? ที่นี่เป็นวิวัฒนาการล้ำหน้าที่สุดของสายธาตุ แล้วข้ายังจะมีสิทธิ์ได้ฟังคำสั่งสอนของท่านลูเซียน อีวานส์ และเข้าถึงปริศนาลึกลับที่สุดของธาตุและวัสดุ”

โลวี่รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ความแข่งขันดูเหมือนจะเข้มข้นเกินเหตุ

อย่างไรก็ตาม ไฟแห่งความฝันและความทะเยอทะยานของเขายังคงพลุ่งพล่านร้อนแรงเกินกว่าจะมอดลง ซึ่งทำให้เข้าเกิดความคาดหวังและพลังในตัว

หลังจากการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์รอบแรก ลูเซียนก็เจอกับร็อคที่กำลังหัวเสียในสถาบันอะตอม

เมื่อเห็นดังนั้น ลูเซียนจึงถามอย่างสงสัยและชัดเจน “ร็อค เกิดอะไรขึ้น? ไม่มีใครที่น่าสนใจ? ไม่มีใครเข้าตาเจ้าหรือเลย? ข้าว่าสถาบันเราก็มีคนสมัครเขามามากมายเลยนะ”

ร็อคตอบด้วยความผิดหวัง “นักเวทฝึกหัดสาวๆ บางคนเข้าหาข้า แต่ก็มีนักเวทฝึกหัดผู้ชายมาเหมือนกัน… แต่ข้าปฏิเสธไปหมด ข้ามองหาคนที่จะแต่งงานด้วย ข้าไม่กล้าพอที่จะรับคนพวกนั้นล่ะมั้ง? แต่ว่าคนที่ข้าสนใจจริงๆ จะเป็นพวกเคารพตัวเอง สุภาพ และไม่เหมือนใคร กลุ่มนี้ไม่เปิดโอกาสให้ข้าเลย โลกนี่เป็นอะไรเนี่ย?”

ลูเซียนหัวเราะออกมาและตบไหล่ร็อค “เข้าสังคมบ้างก็ดีจะได้หาคนคบด้วยได้ แต่วิธีของเจ้าคงไม่ได้ผล การหาภรรยาลับๆ สักคนคงไม่ยาก แต่การจะหาหญิงสาวที่เป็นอิสระที่คุ้มค่ากับความเคารพและความรักอาจใช้เวลาช่วงนิรันดร์ ข้าอยากให้เจ้าล้มเลิกตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงได้บทเรียนที่ดี เอาล่ะ เลิกคิดแล้วไปคุมสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์รอบสองให้เป็นธรรม ข้าจะดูแลการสอบสัมภาษณ์รอบสุดท้ายด้วยตัวเอง”

ร็อคถอนหายใจและบ่นติดตลก “เจ้าพูดเหมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญ”

“แน่นอน ข้าถนัดเลย ข้ามีแฟนแล้วนะ” ลูเซียนตอบติดตลกเหมือนกัน