บทที่1699 – เสน่ห์ที่หน้าหลงใหลของชิงห่านอี่
เพียงแค่สามวันเจี้ยนเก้อก็กลับมาหายดีดังเก่าสำหรับผู้ฝึกตนแล้วอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก
ในตอนที่เจี้ยนเก้อฟื้นขึ้นมาในเวลานี้ชิงห่านอี่ก็ได้กลับไปยังพระราชวังหมาป่ามังกรเรียบร้อยแล้วเพราะเธอยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการในตอนนี้
ในเวลานี้ชิงสุ่ยก็ได้ตามเธอไปด้วยเพื่อไปส่งเธอ การเดินเดินทางในครั้งนี้สร้างความอึดอัดใจให้ทั้งสองอย่างมาก ด้วยเรื่องราวในอดีตที่ยังคงตราตรึงในใจของพวกเขามันทำให้ทั้งสองนั้นไม่กล้าที่จะสบตากันโดยตรง อย่างไรก็ตามในเวลานี้เธอก็ได้แต่แอบมองเขาเป็นครั้งคราว
ในงานเลี้ยงครั้งล่าสุดทั้งคู่ได้มีโอกาสที่จะพูดคุยกันเป็นเวลานานแต่ชิงห่านอี่กลับรู้สึกว่า ในสายตาของชิงสุ่ยนั้นไม่ได้มีเธออยู่อีกแล้วมันจึงทำให้เธอรู้สึกเศร้าอยู่ไม่น้อย
”อะไร?เจ้ามีอะไรจะถามข้าอย่างนั้นรึ? “ชิงสุ่ยหันไปหาเธอและถามออกมาในเวลานี้
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าแค่รู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ข้าอยากจะถามเจ้ามาตั้งนานแล้ว” เธอตอบออกมา ชิงสุ่ยเองก็ไม่ชอบท่าทีเช่นนี้ของเธอมากนักเขาจึงได้ถามออกมา เพราะเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจจากการจ้องมองของเธอ
“ข้าขอถามอะไรหน่อยสิ เจ้ายังจำเรื่องของเราได้อีกหรือไม่?” เธอถามออกมาด้วยรอยยิ้มที่ดูแปลกตาในเวลานี้
“เรื่องไหนรึ นานแล้วรึยัง?” ชิงสุ่ยถามกลับไป
“หยุดแกล้งแสดงว่าเจ้าจำไม่ได้ได้แล้ว เอาเถอะ ข้าจะไม่บังคับเจ้าและไม่ต้องการเรียกร้องอะไรจากเจ้า ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าจำมันได้หรือไม่ อย่าบอกนะว่าเจ้ารู้สึกผิดกับข้าจนไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกมา” เธอหันไปมองชิงสุ่ยและหยุดเคลื่อนไหวในตอนนี้
ด้วยการหยุดเคลื่อนไหวแบบกระทันหันมันทำให้เธออยู่ห่างกับเขาเพียงครึ่งก้าวเท่านั้นกลิ่นของน้ำหอมอันวิจิตรของเธอทำให้เขาตื่นตัวอย่างมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือหน้าอกที่แสนยั่วยวนของเธอมันอยู่ห่างหน้าอกของเขาเพียงนิดหน่อยเท่านั้น เพียงแค่ขยาบเพียงเล็กน้อยมันก็จะสามารถสัมผัสโดนเข้ากับหน้าออกของเขาในทันที
ด้วยส่วนสูงที่ต่ำกว่ามันทำให้เธอต้องหน้าขึ้นเพื่อพูดกับเขา ดวงตาที่สวยงามราวด้วงตาของกวาง มันให้เธอดูบริสุทธิ์อย่างบอกไม่ถูก ในตอนนี้เธอดูเหมือนเด็กสาวตัวน้อยๆเท่านั้น
ในเวลานี้หัวใจของชิงสุ่ยได้สั่นสะท้านขึ้นอีกครั้งด้วยความงุ่นงงเขาไม่รู้ว่าทำเขาถึงรู้สึกอ่อนไหวในเวลาเช่นนี้ เมื่อรู้อีกครั้งหนึ่งเขาได้กอดเธอเอาไว้และจูบลงที่ริมฝีปากของเธอไปเรียบร้อยแล้ว หัวใจของเขากำลังสั่นไหวอย่างบ้างคลั่งในขณะที่เขากำลังจะถอยออกมา เธอได้กอดเขากลับและจูบเขากลับในเวลานี้ ก่อนที่จะสอใส่ลิ้นที่หอมหวานของเธอเข้าไปในปากของเขาอย่างเชื่องช้า
กลิ่นหอมที่ละทวยทำให้ใจของเขาสั่นไหวเขาไม่เคยมาก่อนเลยว่าเธอจะตอบสนองเช่นนี้กลับมาแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอนั้นเคยชอบเขามาก่อนแต่ก็ไม่คิดว่าในเวลานี้เธอจะยังชอบเขาอยู่
แน่นอนว่าชิงสุ่ยเองก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเธอจะผู้ชายคนไหนบ้างที่ไม่ชอบสาวงาม ด้วยเฉพาะผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างเธอ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองก็เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมา
ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ดูดลิ้นของเธออย่างตะกละตะกลามการกระทำนี้ของเขามันเขารู้สึกสดชื่นอย่างมากเขาโอบกอด เธอไว้จนแน่นในขณะที่หน้าอกของเธอได้กดทับลงบนอกของเขา สัมผัสที่อ่อนโยนของเธอทำให้หัวใจของเขาละลายอย่างช้าๆ ในเวลานี้ชิงสุ่ยรู้สึกว่าตอนนี้เขาได้อยู่บนสวรรค์อีกครั้ง
สิ่งที่ชิงสุ่ยประทับใจที่สุดในตอนนี้คือการจูบของเธอมันนั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรงและอ่อนหวานแม้ว่าเขาจะเคยจูบกับผู้หญิงมากมายมาย แต่ต้องยอมรับว่านี้เป็นสัมผัสที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้สึกมา แม้แต่ตัวของเขาก็ยังแอบแปลกใจว่าทำเธอถงเชียวชาญมันได้ถึงขนาดนี้
หลังจากที่เวลาผ่านไปพักใหญ่เธอก็ได้อ้าปากเล็กน้อย ก่อนที่จะผลักชิงสุ่ยออกมา ออกไป ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มอย่างมากในเวลานี้ ดวงตาของเธอนั้นเปล่งประกายที่ยั่วยวนออกมา แต่ก็แอบแฝงไปด้วยความเขินอายเช่นเดียวกัน ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขานั้นไม่อาจจะต้านทานแรงดึงดูดของเธอได้อีกต่อไป สิ่งนี่เป็นเสน่ห์ที่ธรรมชาติประทานลงมาให้กับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ในช่วงเวลาต่อมาเขาไม่สามารถหักห้ามใจได้อีกต่อไป ก่อนที่จะขย้ำลงไปที่หน้าอกของเธออย่างรุนแรง
ในเวลานี้เธอคร่ำครวญออกมาจากการสัมผัสของเขามันทำให้ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาและหยุดมือของเขาไว้“เจ้ามันเจ้าเล่ห์จริงๆ เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่สามารถต้านทานต่อเสน่ห์ของเจ้าได้ ยังกล้ามันกลั่นแกล้งข้าอีก เป็นยังไงบ้างเจ้าเจ็บหรอป่าว? เจ้าต้องการให้ข้าช่วยดูและมันให้สักหน่อยหรือไม่… .. ” novel-lucky
เธอมองไปที่ชิงสุ่ยก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า“เจ้าคนหน้าไม่อาย!!”
ชิงสุ่ยจับลงไปที่มือของเธอย่างช้าๆเขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยกับการกระทำนี้ของเขา อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาสามารถมองได้ว่าเธอเองไม่ได้โกรธเขาแต่อย่างใด น้องจากกนี้กลับมีร้อยยิ้มแห่งความพอใจเล็กๆบนใบหน้าของเธอ
ก่อนที่เธอจะกอดลงไปที่คอของเขาและกระซิบที่หูของชิงสุ่ยว่า “ ข้ารอวันนี้มานาน แต่มีคนโง่อย่างที่เจ้าเท่านั้น ที่ไม่เคยเข้าใจมัน ข้าก็แอบสงสัยว่าข้าจะมีเสน่ห์ไม่มากพอจนเจ้าไม่สนใจข้าเสียอีก”
“ข้าก็เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้นมีหรือที่ข้าจะไม่ต้องการสาวงามเช่นเจ้าไว้ข้างกายแต่ข้านั้นมีผู้หญิงมากมายอยู่รายล้อมแล้ว มันจึงทำให้ข้าไม่กล้าฝันไปไกลกว่านั้น ”เนื่องจากในเวลานี้เขาไม่อะไรต้องปิดบังอีกต่อไปมันทำให้ชิงสุ่ยกล่าวความจริงออกมา
“เจ้าคิดรึว่าข้าจะไม่รู้เรื่องนี้เพียงแต่ข้านั้นชอบเจ้ามากจนสามารถมองข้าเรื่องนี้ไป เจ้าอย่าได้รู้สึกผิดอีกเลย ผู้ชายดีๆเช่นเจ้าย่อมมีคนมากมายที่อยากอยู่กับเจ้า ข้ารู้เรื่องนี้ดี และข้าก็เป็นหนึ่งในนั้น ขอเพียงเจ้ารักข้าจริงๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นก็ปล่อยมันไปเสียเถอะ”เธอกล่าวออกมาอย่างใจกว้าง
“เจ้าแน่ใจจริงๆรึ”ชิงสุ่ยกล่าวถามเพื่อยืนยันคำตอบอีกครั้งหลังจากได้ยินสิ่งที่เอกล่าวออกมาเขารู้สึกสบายใจอย่างมาก คำพูดของเธอนั้นมีน้ำหนักอย่างมากกับใจของเขาในเวลานี้
“แน่ใจสิถึงแม้เจ้าจะไม่ต้องการข้าข้าก็จะไม่มองหาผู้ชายคนอื่นๆ เจ้าว่าดีหรือไม่?”เธอยิ้มและกล่าวออกมา
ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ตีลงไปที่ก้นของเธออย่างแรงจนทำให้เธอร้องเสียงหลงออกมา ก่อนที่เขาจะถามว่า “ดีมาก นอกจากนี้อย่าไปทำเช่นนี้กับใครอีกนะ!”
“ท่านพี่ข้าผิดไปแล้วข้าจะไม่ทำมันอีก”เธอกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียบที่น่าสงสารในเวลานี้
เมื่อเห็นท่าทางของเธอมันทำให้เขาหัวเราะออกมา
“ไปต่อกันเถอะหากเจ้ายังทำเช่นต่อไป ข้าคงจะไม่สามารถห้ามใจไว้ได้อีกต่อไป และคงจะกลืนกินเจ้าให้หมดทั้งตัวและหัวใจในตอนนี้”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างผ่อนคลาย ราวกับเขาพูดคุยกับสหายที่ที่เชื่อใจได้
“ก็ได้เราไปต่อกันเถอะข้าจะพาเจ้าไปเจอกับอาจารย์ของข้า นางเป็นคนที่ใจดีอย่างมาก” เธอกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ดี!”ชิงสุ่ยนั้นต้องการพบกับเธอมานานแล้วแต่ติดที่ว่าไม่โอกาส เนื่องจากเธอคืออาจารย์ของห่านอี่ มันจึงทำให้เขาอยากพบกับเธออย่างมาก
ในเวลานี้พวกเขาได้เข้าไปสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของพระราชวังหมาป่ามังกรที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของรูปปั่นขนาดยักษ์เอาไว้มันนั้นมีความสูงกว่าพันเมตร เดินทีมันเป็นรูปปั่นไว้แสดงความเคารพเทพหมาป่ามังกร
“รูปปั้นนี้นั้นมีขนาดเท่ากับเทพหมาป่ามังกรขนาดจริงๆมันเป็นสัญลักษณ์ของนิกายของเรา และยิ่งมีตำนานกล่าวไว้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่คอยปกป้องพวกเราในยามคับขัน เจ้าคิดว่าไงบ้าง?”เธอหันไปมองเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นของจริงหรือไม่ แต่ถ้ามันสามารถปกป้องที่นี่ได้จริงๆ มันก็ยอดเยี่ยมอย่างมากแล้ว” ชิงสุ่ยมองไปที่รูปปั้นที่สูงใหญ่
”นั้นไงท่านอาจารย์เราไปที่นั้นกันเถอะ!” ในเวลานี้ทั้งคู่ได้ตรงไปที่ลานที่ไกลออกไปโดยปราศจากผู้คน
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าที่แห่งนี้กว้างใหญ่อย่างมากยิ่งไปกว่านั้นมันนั้นอุดมสมบูรณ์กว่าพระราชวังสุริยาหลายเท่า ชิงสุ่ยไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่มีคนกล่าวว่าที่แห่งนี้เป็นทำเลที่ดีที่สุดในบริเวณคายสมุทรแห่งนี้
ในเวลานี้หญิงชราที่มีผมสีขาวได้นั่งอยู่ไม่ไกลมากนักในตอนนี้ได้ได้นั่งอยู่และตัดแต่งกิ่งดอกไม้รอบๆด้วยความสงบ
ในเวลานี้ชิงห่านอี่มองไปที่เธอด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นสำหรับเธอแล้วผู้หญิงคนนี้ นั้นไม่ใช่เพียงอาจารย์ของเธอ แต่ยังเป็นครอบครัวของเธออีกด้วย เมื่อได้ข่าวว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ห่านอี่มีความสุขอย่างมากๆกว่าใครๆทั้งหมดในพระราชวังแห่งนี้เสียอีก
ในเวลานี้ชิงสุ่ยเดินตามเธอเข้าไปหาหญิงชราแม้ว่าหญิงชราจะรู้ว่าห่านอี่มาหาเธอในตอนนี้ เธอก็ยังหันมามองเพื่อยืนยันว่านั้นคือลูกศิษย์ของเธอจริงๆ
ในเวลานี้เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็บในหน้าของเธอแม้ว่าเธอจะชราภาพขนาดไหนแต่ก็ยังแฝงเอาไว้ถึงความงดงามอยู่ นอกจากนี้ริ้วรอยบนใบหน้าของเธอก็ยังทำให้เธอดูใจดียิ่งขึ้น
“ท่านอาจารย์!” ห่านอี่วิ่งออกไปและกอดหญิงชราเอาไว้ในอ้อมแขน ราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง
ทุกๆคนย่อมมีจุดที่ตัวเองรู้สึกปลอดภัยเสมอสำหรับชิงห่านอี่แล้ว หญิงชราคนนี้คือบ้านของเธอ และเป็นทุกๆอย่างที่เธอรัก
ในเวลานี้ทั้งสองได้เดินออกมาขณะที่เธอยิ้มให้ชิงุส่ย “ ข้าน้อยชิงสุ่ย ของแสดงความเคารพ ท่านผู้อาวุโส”
ในเวลานี้เธอจ้องมองที่ชิงสุ่ยอย่างรอบคอบด้วยสายตาที่ชาญฉลาดของเธอและพูดว่า“ เจ้าและชิงเอ๋อเกิดมาเป็นคู่ กัน มีเพียงแต่เจ้าเท่านั้นที่สามารถรับนางไปเป็นภรรยาได้”
“ท่านอาจารย์ท่านพูดอะไร!” ในเวลานี้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มด้วยความเขินอาย
ชิงสุ่ยเองก็แอบตกตะลึงเช่นเดียวกันถึงแม้เขาจะรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าหญิงชราคนนี้จะมองออกได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ นั้นหมายความว่าเธอต้องมองออกว่าเขามีกายายเก้าหยางทองคำ สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจอย่างมาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหญิงชราคนนี้มีความสามารถระดับไหนกัน แต่อย่างน้อยเธอต้องแข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่าแน่นอน
“ข้ามาที่นี่ก็เพื่อขออนุญาตท่านแต่งงานกับนางขอให้ท่านอาวุโสอนุญาตให้เราได้แต่งงานกันเถอะ ” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“ฮ่าฮ่า เจ้าชั่งเป็นคนที่ฉลาดจริงๆ เสียดายที่เจ้าเกิดมาช้าเกินไป ไม่เช่นนั้นคงเป็นข้าเองที่จะแต่งงานกับเจ้า ฮ่าๆ เอาเถอะ โดยรวมแล้วด้วยร่างายที่เจ้ามีมันก็ปัญหาใดๆที่ข้าจะต้องขัดขว้างพวกเข้าเอาไว้ เพียงแค่ข้าหวังว่าเจ้าจะสัญญากับข้าอะไรสักอย่างได้รึไม่?” หญิงชราพูดอย่างพอใจ