ตอนที่ 438 ทำให้เป็นห่วงตลอด / ตอนที่ 439 เสียใจและโกรธแค้น

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 438 ทำให้เป็นห่วงตลอด

 

 

           ถึงจะโกรธกันอยู่ แต่เขากับเธอก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ผ่านไปนานขนาดนี้ เหตุใดเขาจึงไม่ยอมติดต่อเธออีก?

 

 

           ตอนแรกเธอรู้สึกโมโหมาก แต่ตอนหลังชักเริ่มกระวนกระวายใจ อย่าบอกนะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา?

 

 

           เธอคิดๆ แล้วโทรศัพท์หาจิ้นหยวนทันที เสียงรอสายดังอยู่ชั่วครู่จึงได้ยินเสียงเขาดังลอดมาตามสาย “ฮัลโหล?”

 

 

           “ฉันเอง…” เธอพูดเสียงเบา “ตอนนี้… ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ?”

 

 

           จิ้นหยวนตอบราวถูกตั้งโปรแกรมไว้ “ผมกำลังดูงานอยู่ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”

 

 

           อะไรนะ? ไม่มีธุระแล้วโทรหาไม่ได้หรือ?

 

 

           เธอชะงักเล็กน้อย เข้าใจทันทีว่าเขายังโกรธเธออยู่ จู่ๆ เธอก็คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ควรพูดอะไรดี จังหวะนั้น จิ้นหยวนเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน “ผมกำลังยุ่งอยู่ มีอะไรเอาไว้กลับไปค่อยคุยกันทีหลัง”

 

 

           พูดจบแล้วกดวางสายอย่างเย็นชา

 

 

           เสียงดังตู๊ดๆ ทำให้เธอตะลึงนิ่งอึ้ง

 

 

           เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจิ้นหยวนจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้

 

 

           เธอสูดหายใจลึก พยายามสะกดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

 

 

           ไม่อยากพูดกับฉันอย่างนั้นหรือ คิดว่าฉันอยากจะพูดกับคุณนักหรือไง?

 

 

           จิ้นหยวน แน่จริงชาตินี้ก็ไม่ต้องมาพูดกับฉันอีก!

 

 

           เธอโยนโทรศัพท์มือถือไปอีกทางด้วยความโมโห ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ

 

 

           ขณะนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแรง ลังเลเล็กน้อยก่อนจะหยิบมันขึ้นมา แต่ชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอกลับเป็นคุณแม่เสียอย่างนั้น

 

 

           เสี้ยววินาทีนั้น เธอไม่รู้ว่าในใจตนรู้สึกผิดหวังหรือดีใจกันแน่

 

 

           เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อยแล้วกดรับสาย “คุณแม่…”

 

 

           “เฮ้อ ลูกคนนี้นี่ ต้องให้แม่คอยเป็นห่วงตลอดเลยนะ ตอนนี้ลูกเป็นไงบ้าง ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม? ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็มาเที่ยวหาแม่สิ”

 

 

           เธอกดรับสายพลันได้ยินเสียงเวินเยวี่ยฉิงพูดน้ำไหลไฟดับ

 

 

           เธองุนงงเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ “หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ทำไมคุณแม่ถึงถามแบบนั้นล่ะคะ?”

 

 

           เวินเยวี่ยฉิงเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นรีบปรับน้ำเสียงให้ฟังดูผ่อนคลายขึ้น “อา… แม่พูดเล่นน่ะ แม่แค่อยากให้ลูกมาอยู่เป็นเพื่อนก็เท่านั้น”

 

 

           “เหรอคะ? หนูคิดว่าคุณแม่มีเพื่อนข้างกายอยู่แล้ว หนูไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอของคุณแม่หรอกค่ะ” เธอยกยิ้มมุมปากน้อยๆ

 

 

           สิ่งเดียวที่พอจะทำให้เธอมีความสุขได้ในยามนี้ นั่นก็คือการได้พูดคุยกับคุณแม่

 

 

           แต่คำพูดของคุณแม่ทำให้เธอรู้สึกแปลกพิกล อย่าบอกนะว่าอยากจะถามเรื่องจิ้นหยวนน่ะ?

 

 

           “แล้วจิ้นหยวนล่ะ? ตอนนี้อยู่กับลูกหรือเปล่า?”

 

 

           “เปล่าค่ะ เขาไปดูงานที่ต่างประเทศ” เธอเอ่ยตอบ  

 

 

           “ออ ออ รู้แล้ว…” เวินเยวี่ยฉิงลังเลเล็กน้อยราวกับมีเรื่องที่อยากจะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา

 

 

           เธอหาเรื่องคุยสัพเพเหระกับเฉียวซือมู่สักพักจึงวางสายไป

 

 

           เฉียวซือมู่กำโทรศัพท์มือถือแน่น รู้สึกว่าวันนี้คุณแม่ดูแปลกๆ ชอบกล เธอคิดๆ แล้วกดเข้าหน้าเว็บไซต์ข่าว

 

 

           และเธอเข้าใจทันทีว่าเหตุใดวันนี้คุณแม่จึงพูดจาแปลกๆ

 

 

           ภาพประกอบข่าวหน้าเว็บไซต์เด่นหราจนทำให้สายตาเธอสะดุดกึก

 

 

           จิ้นหยวนในชุดสูทอาร์มานี่สั่งตัดพิเศษ ใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางอกผายไหล่ผึ่ง เขาดูหล่อมากจนสาวๆ ที่ได้เห็นคงพากันกรี๊ดกร๊าดน่าดู

 

 

           แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญอยู่ที่หญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขาต่างหาก เจียงจื่อเสียนสวมชุดราตรีสีแดงเพลิงคอคว้านลึกจนเผยให้เห็นเนินอกยวนตายวนใจ เธอดูสวยหยาดเยิ้มและกำลังคล้องแขนจิ้นหยวนอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ส่วนจิ้นหยวนนั้นกำลังเอียงศีรษะยิ้มให้เธอ ราวกับกำลังพูดอะไรสักอย่าง

 

 

           ท่าทางสองหนุ่มสาวดูเหมือนคู่รักที่เหมาะสมกันมาก ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

 

 

ตอนที่ 439 เสียใจและโกรธแค้น

 

 

           เธอรู้สึกเหมือนถูกมือล่องหนขนาดใหญ่บีบหัวใจแน่น

 

 

           ทรมานจนแทบจะหายใจไม่ออก

 

 

           เธอจับคอเสื้อเพื่อให้หายใจโล่งขึ้น แต่มันกลับไร้ผลสิ้นดี

 

 

           ทำไม? ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย?

 

 

           ถ้าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ทำตัวเย็นชาแบบนั้นกับเธอ เธออาจจะไม่รู้สึกทรมานมากขนาดนี้ก็ได้

 

 

           ถึงตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่าทำไมตอนนั้นน้ำเสียงเขาถึงได้เย็นชาราวกับน้ำแข็งแบบนั้น

 

 

           ที่แท้ก็เพราะเขามีเจียงจื่อเสียนอยู่ข้างกายนี่เอง

 

 

           จิ้นหยวน คุณใจร้ายมาก

 

 

           เธอสูดหายใจลึก ค่อยๆ ลุกออกจากเตียง

 

 

           เธอกวาดสายตามองไปทั่วห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนี้ถูกออกแบบให้ทันสมัยที่สุด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ยกเว้น เธอเดินไปหยุดยืนข้างหน้าต่าง เห็นสวนดอกไม้เล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลนัก สวนดอกไม้สีสันสวยงามที่ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

 

 

           แต่มันกลับไม่สามารถสร้างความอบอุ่นให้กับหัวใจที่เย็นเฉียบของเธอในยามนี้ได้เลย

 

 

           รู้ทั้งรู้ว่าฉันเกลียดผู้หญิงคนนั้น ทำไมคุณถึงยังให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างกายอีก? หรือคุณจะชอบเธอคนนั้นจริงๆ?

 

 

           แล้วเธอล่ะ?

 

 

           เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขานะ!

 

 

           คุณทำแบบนั้นกับฉันได้อย่างไร?

 

 

           เธอหวนนึกถึงความเกรี้ยวกราดของเขาในคืนนั้น สภาพจิตใจที่ค่อยๆ สงบลงแล้วกลับมีไฟแห่งความโกรธแค้นปะทุขึ้นอีกครั้ง

 

 

           ในสายตาเขา เขาคงเห็นเธอเป็นเพียงแค่เสื้อผ้าหรือแจกันดอกไม้ชิ้นหนึ่งที่มีไว้เป็นเครื่องประดับเท่านั้น เวลาอารมณ์ดีก็หยิบมาสวมหยิบมาเล่น เวลาอารมณ์ไม่ดีก็โยนมันทิ้งไว้ในหลืบอย่างไม่ไยดี แล้วออกไปกับผู้หญิงอีกคนอย่างหน้าชื่นตาบาน โดยไม่สนใจความรู้สึกของเธอสักนิด

 

 

           มันก็ถูกของเขา ในเมื่อเธอเป็นเพียงแค่แจกันดอกไม้ชิ้นหนึ่งเท่านั้น แล้วเหตุใดเขาต้องสนใจใยดีความรู้สึกของเธอด้วยเล่า?

 

 

           ถ้าเช่นนั้น เธอเองก็จะไม่ยอมเป็นแจกันดอกไม้อีกแล้ว เธอเป็นคน มีเกียรติมีศักดิ์ศรีมีความคิดเป็นของตนเอง ไม่ใช่ของเล่นที่เขานึกอยากจะเล่นสนุกเมื่อไหร่ก็ได้!

 

 

           สายลมโชยเอื่อยอยู่ข้างหน้าต่างที่เธอยืนอยู่ เธอค่อยๆ ตัดสินใจ

 

 

           เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไปหาคุณแม่ หาเหตุผลอยู่ที่นั่นสักพัก เพราะเธอไม่อยากอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขาอีกต่อไปแล้ว

 

 

           เธอทนไม่ไหวแล้ว ขืนอยู่ที่นี่ต่อ มีหวังเธอได้เป็นบ้าแน่!

 

 

           แม้พ่อบ้านจะคอยเป็นห่วงสุขภาพของเธอ และสามารถสั่งให้หมอสั่งให้เธอนอนพักผ่อนอยู่แต่บนเตียงได้ แต่พอเธอยืนกรานสีหน้าเด็ดขาดว่าจะออกจากบ้านให้ได้ เขากลับห้ามอะไรไม่ได้เลย

 

 

           ขณะที่เธอหมุนตัวเดินหิ้วกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านนั้น ดูเหมือนเธอจะได้ยินพ่อบ้านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุย

 

 

           มุมปากเธอยกขึ้นนิดๆ อย่างเยาะๆ

 

 

           เขาคงโทรศัพท์หาจิ้นหยวน ตอนนี้จิ้นหยวนมีผู้หญิงคนใหม่แล้ว แล้วจะมาสนใจน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างเธออีกทำไม?

 

 

           เป็นไปตามคาด ขณะที่เธอยืนรอรถแท็กซี่อยู่นั้น คฤหาสน์ที่อยู่เบื้องหลังกลับไร้วี่แววความเคลื่อนไหวใดๆ

 

 

           หากจิ้นหยวนมีคำสั่ง พ่อบ้านจะต้องพาคนออกมาพาตัวเธอกลับไปแน่

 

 

           แต่ตอนนี้ไม่มีวี่แววความเคลื่อนไหวใดๆ เลย เป็นเครื่องหมายบ่งบอกชัดเจนว่าจิ้นหยวนไม่สนใจเธอแม้แต่นิดเดียว

 

 

           หรือเขาคิดว่าเธอแค่ทำเป็นแง่งอน จึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจ

 

 

           เธอยิ้มเยาะตัวเอง หัวใจเย็นเยียบกว่าเดิม

 

 

           เธอขึ้นรถแท็กซี่และบอกที่อยู่กับคนขับ จากนั้นพิงศีรษะกับเบาะแล้วปิดเปลือกตาลง ในใจหวนคิดถึงแต่ข่าวที่เพิ่งได้อ่านเมื่อครู่

 

 

           พูดตามตรง ในฐานะที่เธอเป็นนักข่าวมืออาชีพ ย่อมรู้ดีว่าบางครั้งสื่อก็นำเสนอข่าวไร้จรรยาบรรณเพื่อแลกกับยอดการอ่าน จึงตั้งใจนำเสนอข่าวเกินจริง