ตอนที่ 1775 เยว่เย่ (6)
จวินอู๋เสียยืนมองกลุ่มเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นความเจ็บและความตกใจทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
[พลังวิญญาณสีม่วง?]
[นั่นคือพลังวิญญาณสีม่วง!]
ในบรรดาศิษย์รุ่นใหม่ของวิหารเงาจันทราคนที่สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณสีม่วงก่อนอายุ 20 ปีมีเพียงเยว่อี้คนเดียวเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงแม้คนจะไม่ชอบเยว่อี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขา
แต่วันนี้ตรงหน้าพวกเขากลับมีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อายุต่ำกว่า 20 ปีปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
และคนผู้นั้นก็เป็นคนที่พวกเขาดูถูกมากที่สุดฉางฮวน!
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับพวกเด็กหนุ่มและเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้!
“อะไร?เจ็บใจมากหรือ?” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วมองพวกเด็กหนุ่มที่อยู่บนพื้น ชื่นชมสีหน้าตกใจและเจ็บปวดของพวกเขา
นางไม่สนว่าฉางฮวนเป็นคนแบบไหนและไม่อยากใส่ใจว่าในอดีตฉางฮวนเป็นอย่างไร สิ่งเดียวที่นางต้องการคือทำให้ชื่อ “ฉางฮวน” เป็นตัวตนที่วิหารเงาจันทราไม่อาจมองข้ามได้ มีแต่ทำเช่นนั้นนางจึงจะสามารถเข้าสู่จุดศูนย์กลางของอำนาจในวิหารเงาจันทราได้ เพื่อจะได้มีโอกาสส่งวิหารเงาจันทราอันเน่าเฟะนี้ไปลงนรก!
เมื่อโดนสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียกวาดมองเด็กหนุ่มทุกคนก็รู้สึกราวกับเลือดในร่างกายกำลังจะแข็งตัว พวกเขาพากันส่ายหน้าตัวสั่นงันงก ไม่กล้าพูดกับจวินอู๋เสียอีกแม้แต่คำเดียว
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบฉางฮวนแต่พวกเขาก็ไม่กล้าหาเรื่องผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
ระดับพลังสูงสุดในหมู่พวกเขาก็แค่พลังวิญญาณขั้นสีฟ้าทั้งกลุ่มรวมกันก็ยังสู้จวินอู๋เสียที่ใช้นิ้วเดียวไม่ได้!
“พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ?”ขณะที่พวกเด็กหนุ่มกำลังกลัวจนสติเตลิดอยู่นั้น เสียงไร้เดียงสาของเด็กก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา
จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไปเมื่อได้ยินเสียงนั้นและเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งพันตัวด้วยเสื้อคลุมยืนอยู่ในเรือนอย่างขลาดกลัว นางมีใบหน้างดงามและดูเหมือนเยว่อี้มาก หน้าตาของเยว่อี้โดดเด่นอยู่แล้ว และหน้าตาของเด็กผู้หญิงคนนี้เหมือนกับเยว่อี้มาก แต่งดงามในแบบที่อ่อนโยนมากกว่า ผมของเด็กผู้หญิงคนนี้ยังมีน้ำหยดอยู่ เท้าเปล่าของนางเหยียบอยู่บนแผ่นหินเย็นๆ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสงสัย
[นี่คือเยว่เย่?น้องสาวของเยว่อี้งั้นหรือ?]
จวินอู๋เสียรู้ตัวตนของเยว่เย่ได้อย่างรวดเร็ว
“พวกเจ้าบาดเจ็บหรือ?ข้าจะไปตามผู้รักษามานะ!” เมื่อเยว่เย่เห็นพวกเด็กหนุ่มนอนกระอักเลือดอยู่บนพื้น ใบหน้าของนางก็แสดงความกังวลออกมา นางกำลังจะวิ่งออกไป จวินอู๋เสียก็ยื่นมือออกมาหยุดนางไว้
เมื่อเด็กหญิงขี้อายเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเย็นชาของจวินอู๋เสียนางก็หดคอลงโดยไม่รู้ตัว
“พวกเขาไม่เป็นไรไม่จำเป็นต้องตามผู้รักษาหรอก” แม้ว่าจวินอู๋เสียจะพูดกับเยว่เย่ แต่ดวงตาของนางเลื่อนไปมองพวกเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้น
เจอสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียกวาดมองมาครั้งเดียวพวกเด็กหนุ่มก็เริ่มตัวสั่นทันทีราวกับลูกนกที่ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนต่างรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่แล้ว แต่ก็ต้องฝืนยิ้มออกมา ทำให้พวกเขาดูน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม พวกเขาพากันร้องบอกเยว่เย่ว่า “ไม่เป็นไร……พวกเราไม่เป็นไร พวกเราสบายดี……ฮ่าๆ……พวกเราแค่ซ้อมมือกับศิษย์น้องฉางฮวนเล่นๆเท่านั้น……”
เมื่อเห็นจวินอู๋เสียละสายตากลับไปพวกเด็กหนุ่มก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกทันที จิตใจของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว พวกเขาทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาโดนแบบนี้?
อะไรเข้าสิงฉางฮวนกันแน่เขาถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนหลังกลับมาจากวิหารจิงหง……
ตอนที่ 1776 การต่อสู้และกลอุบาย (1)
“พวกเจ้าไม่เป็นไรแน่นะ?”เยว่เย่ยังคงมองพวกเด็กหนุ่มอย่างไม่วางใจ
พวกเด็กหนุ่มแทบจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าเยว่เย่
[แม่นาง!ถึงเป็นพวกเราก็ไม่กล้าพูดหรอก! ขอร้องล่ะ อย่าถามอีกได้ไหม? เจ้าไม่เห็นแววตาที่จ้องจะฆ่าพวกเราของเจ้ามารร้ายที่อยู่ข้างๆเจ้าเลยเรอะ?]
[พวกเราอยากถูกลืมแล้วอย่าสนใจพวกเราอีกเลย……ขอร้องล่ะ!]
“ไม่เป็นไรสบายดีมากๆ” พวกเด็กหนุ่มกลัวอย่างมากว่าจะถูกจวินอู๋เสียทำร้ายอีกครั้ง จึงพยายามลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะเจ็บแทบตายก็ตาม พวกเขายังต้องฝืนยิ้มบิดๆเบี้ยวๆ ขณะช่วยกันตะเกียกตะกายออกไปให้ห่างจากสายตาของเยว่เย่และจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียมองดูเด็กหนุ่มพวกนั้นหลบหนีไปอย่างน่าอนาถแล้วเลิกคิ้วขึ้น
“พี่ฉางฮวน?”ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง นางหันหน้าไปและพบว่าเยว่เย่กำลังดึงเสื้อผ้าของนาง
“หืม?”อาจเป็นเพราะเยว่เย่คือน้องสาวของเยว่อี้ จวินอู๋เสียจึงไม่ได้เย็นชากับเยว่เย่มากนัก
“พี่ฉางฮวนก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหรือ?”เยว่เย่เอียงคอถาม นางมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าสับสน
“อืม”จวินอู๋เสียพยักหน้า
“ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงแข็งแกร่งมากใช่ไหม?เหมือนพี่ชายของข้า เขาก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง……แต่……ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บ พี่ฉางฮวนรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” เยว่เย่มองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้ากังวล แม้ว่าเยว่อี้จะบอกนางว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บมาก แต่เยว่เย่เห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ดีเลย เห็นชัดๆเลยว่าเขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ
“ไม่มีอะไรมากหรอก”จวินอู๋เสียรู้ว่าเยว่อี้ห่วงใยน้องสาวของเขามากแค่ไหน นางรู้ว่าเยว่อี้ไม่อยากให้เยว่เย่รู้ถึงความมืดดำของโลกใบนี้ นางจึงไม่บอกอะไรเยว่เย่มากนัก
เยว่เย่อ้าปากเหมือนกำลังจะถามต่อแต่นางก็เห็นผู้อาวุโสเยว่เดินนำศิษย์กลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาหาจวินอู๋เสียด้วยสีหน้ามืดมน เยว่อี้ก็เดินตามหลังผู้อาวุโสเยว่มาด้วยเช่นกัน เขาเดินอยู่ข้างหลังกลุ่ม เมื่อเห็นจวินอู๋เสียและเยว่เย่ยืนอยู่ข้างกัน สายตาของเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งสายตาเตือนให้จวินอู๋เสียอย่างรวดเร็วก่อนจะละสายตาออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉางฮวน”ผู้อาวุโสเยว่เดินเข้ามาหาจวินอู๋เสีย เมื่อเขาเห็นแสงพลังวิญญาณสีม่วงที่อยู่รอบๆตัวจวินอู๋เสียซึ่งกำลังสลายไปพอดี ดวงตาของเขาก็ทอประกายมุ่งร้ายออกมา
[เป็นไปได้ยังไง!?]
[เจ้าเด็กนี่กลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงตั้งแต่เมื่อไร?]
ผู้อาวุโสเยว่รู้สึกตกใจเล็กน้อย
“ขอรับ”จวินอู๋เสียขานรับอย่างเฉยเมย
ท่าทางเฉยเมยไม่แยแสนั่นทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสเยว่ยิ่งไม่น่าดูมากขึ้น
“เจ้ารู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป?”ผู้อาวุโสเยว่ถามเสียงเย็นชา
“โอ้?ข้าทำอะไรไปงั้นหรือ?” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
ผู้อาวุโสเยว่ส่งเสียงฮึออกมาอย่างเย็นชา“ในวิหารเงาจันทรา ห้ามศิษย์ต่อสู้กันเองอย่างเด็ดขาด เจ้ารู้แต่ก็ยังทำ ตอนนี้ศิษย์หลายคนได้รับบาดเจ็บกลางวันแสกๆ ความผิดนี้ของเจ้าควรลงโทษยังไง!”
จวินอู๋เสียหรี่ตามองผู้อาวุโสเยว่ที่เตรียมตัวมาอารมณ์เย็นชาเกิดขึ้นในใจนาง
ผู้อาวุโสเยว่มาถึงที่นี่เร็วเกินไปเด็กหนุ่มพวกนั้นเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ผู้อาวุโสเยว่ก็พาคนมาที่นี่แล้ว ถ้าบอกว่าผู้อาวุโสเยว่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ “ข้อตกลงของฉางฮวน” กับเด็กหนุ่มพวกนั้น จวินอู๋เสียจะไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
ดูจากกลุ่มคนที่เขาพามาผู้อาวุโสเยว่ต้องวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่ต้น!
จวินอู๋เสียไม่คิดเลยว่านางเพิ่งมาถึงวิหารเงาจันทราแท้ๆก็ได้เจอกับการแสดงที่น่าสนุกเช่นนี้!