ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 707

ไม่นานหลังจากนั้น อีธาน ฮันต์ก็ได้เดินมาถึงที่นั่งตรงกลางซึ่งเหลือว่างไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะโดยมีโยนาธานและควินตัน ยอร์กเดินประกบอยู่เคียงข้างเขา

โยนาธานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พันโทฮันต์ครับ! ที่นั่งนี้สงวนไว้สำหรับท่านโดยเฉพาะ ไม่มีใครนอกจากท่านแล้วในงานนี้ที่ควรค่าแก่การนั่งที่นี่”

“เชิญนั่งก่อนครับ พันโทฮันต์!” แม้แต่ผู้บังคับบัญชาอันดับสองแห่งเซาท์ไลท์ก็ยังทำท่าทางเชื้อเชิญต้อนรับเขาให้นั่งลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

เขาจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีงามกับอีธาน ฮันต์ไว้

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดนั้น อีธานกลับนิ่งเงียบและขมวดคิ้วเข้าหากัน

เขาไม่ได้นั่งลงทันทีหรือขยับตัวแม้แต่นิดเดียว เขาจ้องไปที่ที่นั่งตรงหน้าเขาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

ในขณะนั้น ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยกับเหตุการณ์เบื้องหน้า

โดยเฉพาะเหล่าตระกูลยอร์ก พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เบื้องหน้าของพวกเขาเลย

ชายผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เฉกเช่นเดียวกับตระกูลยอร์ก

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้แต่การกระทำหรือสิ่งเล็ก ๆ น้อยจากเขา มันก็ได้ส่งผลให้ยอร์กรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

ขณะนั้น เหล่ายอร์กบางคนก็รู้สึกอึดอัดและอยากที่จะถอนหายใจเพื่อระบายมันออกมาเต็มทน

หากเมื่อสามปีที่แล้วผู้ที่มีอำนาจปกครองตระกูลคือ ‘ชายคนนั้น’ ยอร์กจะมีอำนาจสูงสุดและไม่ต้องมาคอยเคารพและระมัดระวังการกระทำของพวกเขาเช่นนี้ใช่ไหม?

หรือต่อให้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงจากโวลซิ่ง, โกลเด้น แซน, ซานฟรานซิสโก, มอดู, เขตบริหารพิเศษฮ่องกง หรือลาสเวกัส มาเยี่ยมพวกเขา พวกเขาก็คงไม่ต้องมาคอยปรนนิบัติดูแลเฉกเช่นตอนนี้ ใช่ใหม?

อย่างไรก็ตาม ความคิดเหล่านั้นก็หายวับไปอย่างรวดเร็วจากจิตใจของเหล่าตระกูลยอร์ก

วันนี้มันสำคัญมาก ๆ มันคือวันที่ชี้เป็นชี้ตายว่าตระกูลยอร์กจะก้าวขึ้นเป็นตระกูลแนวหน้าอันดับหนึ่งของเซาท์ไลท์เหมือนเมื่อสามปีที่แล้วได้หรือไม่ และเพื่อข่มขู่ทุกคนเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กล้าแม้แต่จะแข่งขันแก่งแย่งตำแหน่งนี้กับพวกเขาไป

เรียกได้ว่ายิ่งคุณใส่ใจมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งพังพินาศไปมากเท่านั้น

ควินตันชำเลืองมองไปที่โยนาธานขณะที่เขาขมวดคิ้วและไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ

ในทางกลับกันโยนาธานสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มออกมา

“ผู้พันฮันต์? คุณกำลังมีความสงสัยเคลือบแคลงอะไรในใจอยู่หรือเปล่าครับ? บางทีผมอาจที่จะช่วยคุณจัดการปัญหานั้นได้”

“เมื่อสักครู่คุณบอกว่าที่นั่งนี้สงวนไว้สำหรับคนที่มีเกียรติและสำคัญที่สุดในงานนี้ใช่ไหม?”

อีธานถามพร้อม ๆ กับขมวดคิ้วเข้าหากัน

แม้ว่าเขาจะยังเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย แต่โยนาธานก็ยังพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ครับ ที่นั่งนี้เป็นที่ที่สงวนไว้สำหรับแขกที่สำคัญที่สุดในบรรดาที่นั่งของแขกทั้งหมด พวกเราได้จองและเตรียมที่นั่งนี้ไว้สำหรับคุณโดยเฉพาะครับ”

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอีธานและเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะนั่งบนที่นั่งนี้ ฉันคงทำได้เพียงนั่งที่นั่งด้านข้างนี้เท่านั้นแหละ”

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ใบหน้าของพวกเขาดูสยดสยองกับสิ่งที่อีธานเพิ่งพูดออกมา

“อะไรกัน? แม้แต่ระดับผู้พันฮันต์ก็ยังไม่มีสิทธิ์นั่งที่นี่หรือ? แล้วใครจะเหมาะสมไปกว่าเขากัน? ผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งเซาท์ไลท์เหรอ?”

“แต่ว่าถ้าเทียบผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งเซาท์ไลท์กับเขา พวกเขาก็น่าจะอยู่ในระดับพอ ๆ กันไม่ใช่เหรอ?”

“หรือบางทีเขาอาจจะหมายถึงผู้บัญชาการของกองทัพเซาท์ไลท์?”

“ไม่น่าใช่ แม้ว่าจะเป็นเขา ตำแหน่งของเขาก็ไม่ได้สูงไปกว่าพันโทฮันต์เลย!”

“หรืออาจจะเป็นมาเฟียจากใต้ดินของเซาท์ไลท์? ชายชราในตำนาน?”

โยนาธานและควินตัน ส่งสัญญานให้กันผ่านสายตา

หลังจากที่อ่านความคิดภายในใจของทุกคนผ่านใบหน้าของพวกเขาแล้ว โยนาธานก็พูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ผู้พันฮันต์ ได้โปรดอย่าทำให้เราดูโง่เขลาไปเลย…”

“ในความเห็นของพวกเรา ท่านเป็นแขกผู้มีเกียรติที่สุดในงานนี้แล้ว คุณเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์นั่งที่นี่…”

อีธานยังคงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ฉันไม่สมควรที่จะนั่งที่นี่จริง ๆ !”

“ฮะ? ถ้าอย่างนั้น พันโทฮันต์ ได้โปรดบอกผมทีว่าจะมีใครคู่ควร? ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ !”

โยนาธานไม่เข้าใจสถานการณ์เลยสักนิด เขาเผลอนึกถึงฮาร์วีย์ แต่ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปแทบจะในทันที

บางทีถ้าเป็นเมื่อสามปีที่แล้วเขาก็อาจจะนั่งที่นี่ได้อย่างสมเหตุสมผล

แต่ปัจจุบันเขาเป็นเพียงแค่ไอ้ขี้แพ้ไร้หัวนอนปลายเท้า และยิ่งไปกว่านั้นเขาได้สูญเสียการสนับสนุนจากตระกูลยอร์กไปแล้ว

แม้ว่าเขาจะกลับมาพร้อมกับชื่อเสียงที่ดี แต่ตระกูลยอร์กก็ไม่สะทกสะท้านและไม่ได้มองว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรเหมาะสมกับตระกูลแนวหน้าอย่างตระกูลยอร์กเลยแม้แต่นิดเดียว