เกราะพลังของอัศวินอวกาศ สามารถปล่อยพลังออกมาได้ดีกว่าขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ เกราะพลังทำให้ความแข็งแกร่งของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณด้วยยศกัปตันของเขา ซิกฟรีดไม่เพียงได้รับเกราะพลัง MK 2 ที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขามากยิ่งขึ้นแล้ว แต่มันยังรวมถึงค้อนระดับ 4 ที่เขาถืออยู่ตอนนี้ด้วย
ในขณะที่อัศวินอวกาศอีก 2 คน กำลังจะถูกผ่าครึ่งจากดาบของเอลฟ์ ซิกฟรีดเข้าไปแทรก และช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ เขาเคลื่อนตัวเข้าใกล้อัศวินอวกาศ และเหวี่ยงค้อนของเขาในทันที
ค้อนปะทะ และขวางดาบของเอลฟ์ ดาบของมันกระแทกกับพื้น และหยุดลงด้วยค้อนของกัปตันซิกฟรีด พวกเอลฟ์ลากดาบออกไป มันรีบถอยกลับหลังในทันที
เอลฟ์มองดูศัตรูรายใหม่ของพวกมัน การปะทะในครั้งนี้กลายเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างเอลฟ์กับกัปตันซิกฟรีด ในตอนนี้อัศวินอวกาศ 2 คนที่ได้รับการบาดเจ็บถอยกลับไปตั้งหลัก และมองดูการต่อสู้ของเขาอยู่ห่างออกไป
บนแท่น เอลฟ์ผมขาวดูไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนัก แม้พวกมันจะสามารถฆ่าอัศวินอวกาศไปแล้วถึง 2 คน
“ เกิดอะไรขึ้น?! มีอะไรผิดปกติ? ทำไมเขาไม่แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาออกมา! “
หลังพูดจบ ก็อบลินหยิบเครื่องมือควบคุมขึ้น และเริ่มใช้งานมันด้วยความโกรธ
ในขณะการต่อสู้ ซิกฟรีดีรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเอลฟ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และน่าสยดสยองมากยิ่งขึ้น ครั้งหนึ่งซิกฟรีดพยายามผลักเอลฟ์เข้ามุม แต่ในเสี้ยววินาที สถานการณ์ก็พลิกกลับ เอลฟ์เหวี่ยงดาบของมันในลักษณะที่เขาคาดไม่ถึง ทำให้อัศวินอวกาศคนนึงได้รับบาดเจ็บ กัปตันซิกฟรีดรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคู่ต่อสู้ของเขา เขาตัดสินใจจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีโอกาสเขารีบจัดการเอลฟ์ในทันที
ซิกฟรีดยกค้อนระดับ 4 ขึ้น เขารอโอกาสที่เหมาะสม และเปิดใช้งานความสามารถอาวุธระดับ 4 ของเขา [Thunder Strike] ในทันที
ประจุไฟฟ้าปรากฎขึ้นบนค้อน และค่อยๆไหลออกมาจนทำให้เกิดสายฟ้า ซิกฟรีดยืนอย่างมั่นคง รอจังหวะเหมาะเจาะเพื่อเริ่มการโจมตี เขาเห็นเอลฟ์ยืนนิ่งอีกครั้ง กัปตันซิกฟรีดรีบเหวี่ยงค้อนของเขาอย่างรวดเร็ว
ปัง!
บูม!
[Thunder Strike]
กัปตันซิกฟรีดมักจะเก็บไพ่ใบนี้ไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ใช้เฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น ความสามารถของค้อนมีประสิทธิภาพมาก นั่นทำให้เขามั่นใจได้ว่าพลังของการโจมตีแรงพอที่จะทำให้เขาหลบหนีได้อย่างปลอดภัย
เอลฟ์พ่ายแพ้ต่อการโจมตีที่ทรงพลังของเขา ร่างกายของมันถูกเหวี่ยงไปข้างหลังอีกครั้ง และกลิ้งไปบนพื้นหลายครั้งก่อนที่จะนิ่งไป
ในขณะที่เอลฟ์ล้มลง และแน่นิ่งไปกับพื้น กัปตันซิกฟรีดรีบพุ่งไปหามันอีกครั้ง เขาโจมตีด้วยค้อนยักษ์อีกหลายครั้งจนมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงค้อนยักษ์ปะทะร่างของเอลฟ์ดังก้องกังวานไปทั่ว กัปตันซิกฟรีดยังคงโจมตีเอลฟ์อย่างต่อเนื่อง กัปตันยืนอยู่ข้างๆเอลฟ์ที่บาดเจ็บสาหัส และมองสิ่งมีชีวิตนั้นอย่างเย็นชา ในขณะที่เขากำลังจะฆ่าเอลฟ์ด้วยการโจมตีครั้งสุดท้าย
“ กัปตัน! จำเป้าหมายของภารกิจน้ีไว้! “
ซิกฟรีดนิ่ง และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ มันเป็นเพียงส่วนหนึ่ง และมันไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่! “
กัปตันกำลังจะส่งระเบิดสังหารอีกครั้ง
อัศวินอวกาศพูดขึ้นอีกครั้ง “ กัปตัน แต่เซ็นเซอร์แสดงผลบอกว่าพวกมันเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ “
ปัง!
พื้นสั่นสะเทือน ฝุ่นฟุ้งกระจายไปรอบ ๆ
ซิกฟรีดกระแทกค้อนของเขาลงกับพื้นข้างเอลฟ์ที่ถูกโจมตี
อ๊ากกก!!!”
เสียงคำรามด้วยความโกรธของเขาจากเหตุการณ์ที่อัศวินอวกาศตาย
สะท้อนไปทั่วทั้งโดมเขารู้ว่าสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาพูดนั้นเป็นความจริง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงระงับความโกรธ และไม่ฆ่าสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาต้องทำ และสิ่งที่เขาต้องการจะทำนั้นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน เขาชี้ไปที่ก็อบลินบนแท่น พร้อมตะโกนระบายความโกรธทั้งหมดที่อยู่ในตัวเขาออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ ไอ้สวะ! แกมีอะไรให้ฉันอีก!!!! “
สีหน้าของก็อบลินเปลี่ยนไปในทันที เมื่อเห็นการจ้องอย่างเขม็ง และเสียงยั่วยุของซิกฟรีด
“ ก – แก …. การทดลองของข้า?!!! “
“ ข้าควรมีเวลาอยู่กับเขามากกว่านี้สิ! “ ก็อบลินพูดขณะที่มือของมันกำลังสั่น
“ ฆ่ามนุษย์พวกนั้นให้หมด! “ ก็อบลินพูดอย่างโกรธเคือง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สิ้นสุดคำสั่ง อุรุกที่เหลือทั้งหมดเริ่มต้นการโจมตีอีกครั้งอย่างดุเดือด
อัศวินอวกาศที่กำลังเฝ้ามองพวกมันอยู่ตั้งแต่เริ่มต้น ได้ยิงอาวุธของพวกเขาขึ้นในทันที
บูม!
บูม!
บูม!
การระเบิดปรากฏขึ้นรอบตัวพวกเขา พวกออร์คค่อยๆ ถูกทำลายด้วยการโจมตีอย่างหนักจากอัศวินอวกาศ หนึ่งชั่วโมงต่อมา การต่อสู้จบลง พวกอุรุกเสียชีวิตมากกว่า 100 ตน ในขณะที่อัศวินอวกาศสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ก็อบลินสังเกตว่าสถานการณ์กำลังแย่ลง มันต้องการหลบหนี แต่น่าเสียดายที่มันถูกจับได้เสียก่อน
“ นักวิทยาศาตร์ก็อบลิน เคอร์แซค คุณถูกจับกุมแล้ว อาณาจักรของคุณจะถูกควบคุม! “
“ เห่อะ! ข้าจะไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจมนุษย์ ฆ่าฉันซะ! “ ก็อบลินพูดอย่างเย้ยหยัน
เราไม่สนใจว่าคุณจะทำ หรือไม่ทำ งานของพวกเราคือส่งคุณกลับอาณาจักร
ก่อนหน้านี้สีหน้าของก็อบลินเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่ในตอนนี้มันหันไปมองทางอื่น และหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง กัปตันซิกฟรีดมองตาม สีหน้าของเขารับไม่ได้กับภาพที่อยู่ตรงหน้าเขา
กลางปล่องเล็ก ๆ ร่างที่ควรจะถูกบดขยี้ด้วยสามัญสำนึกกำลังออกมา ตัวของมันเต็มไปด้วยเลือด
“ ฮ่าฮ่าฮ่า! ตอนนี้คงถึงวาระของพวกเจ้าแล้ว! “