ตอนที่ 770 ทฤษฎีแห่งความยุ่งเหยิง

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ตอนที่ 770 ทฤษฎีแห่งความยุ่งเหยิง

 

”ฉันรอให้นายถามคำถามนี้มาตลอดแต่นายนิ่งจริงๆ” รอยยิ้มของฮูเหมิงฮาวให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งมันยิ่งทำให้ชูฮันสับสน “ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถของฉันที่สามารถมองผ่านการขยับแม้เพียงนิดเดียวของบนกล้ามเนื้อใบหน้านายได้ออกละก็ ฉันคงโดนนายหลอกไปแล้วสนิทใจว่านายไม่ได้สนใจใยดีพ่อแม่นายเลยสักนิด”

 

ยิ่งได้ฟังชูฮันก็ยิ่งรู้สึกว่าฮูเหมิงฮาวมีการบิดเบือนทางจิตวิทยาที่รุนแรงมาก!

 

”ช่วยพูดมาตรงๆซะทีเถอะ”ชูฮันที่เบื่อหน่ายกับการอ้อยอิ่งเวลาไปมาของฮูเหมิงฮาว “เรื่องพ่อแม่ฉันเป็นเรื่องของฉัน นายมาสนใจอะไรด้วย?”

 

”เพราะฉันได้ศึกษาปรัชญาเชิงลึกมา”ฮูเหมิงฮาวเหมือนจะตอบคำถาม แต่มันกลับคนละเรื่อง ทำให้ความอดทนของชูฮันยิ่งแทบไม่เหลือ “เราเป็นมนุษย์ ทุกชีวิตในโลกนี้ปฏิบัติตามกฎบางอย่างหรือทางเดินที่กำหนดไว้? เช่นเดียวกับโลกที่ต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ พระจันทร์หมุนรอบโลก…”

 

”นายจะบอกฉันเรื่องปรัชญาพวกนี้ทำไม?!แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคำถามที่ฉันถามไป?” ชูฮันทั้งอึ้งและหมดความอดทนกับเรื่องไร้สาระพวกนี้เต็มที!

 

”ชูฮันนายใจร้อนเกินไปจนไม่มีเวลาหยุดพักและคิด” ฮูเหมิงฮาวดูเหมือนเป็นอีกคนละคน ไหนจะสายตาที่น่ากลัวนั้นอีก “นายคิดว่าทุกอย่างที่มนุษย์ค้นพบทั้งสูตรทั้งหมด ทฤษฎี มันคือใช่เรื่องบังเอิญจริงเหรอ? ฟิสิกส์ เคมี ดาราศาสตร์ ประวัติศาสตร์และอีกมากมาย ทั้งหมด! การจำแนก การศึกษาทั้งหลาย มันคือความจริงงั้นเหรอ?”

 

ชูฮันรู้สึกงุนงงนี้มันโรคประสาทแบบไหน?!

 

”นายไม่เชื่อเหรอ?”ฮูเหมิงฮาวไม่ชอบการถูกข้องใจ น้ำเสียงของเขาเย่อหยิ่งชัดเจน “ฉันค้นพบสูตร ซึ่งมันคือความพยายามของฉันตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมากับความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต มันแลกมากับความละเลยต่อความรู้สึกของน้องชายของฉัน ผลลัพธ์มันจึงย่ำแย่แบบนี้”

 

”ขอโทษที!”ชูฮันตัดบทอย่างรวดเร็ว “แต่ฉันไม่ได้มาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับทฤษฎีที่ไม่มีมูลนี่กับนาย”

 

ฮูเหมิงฮาวพยักหน้า”นี่เป็นสูตรที่ฉันใช้เวลาหลายร้อยวันคิดค้น ที่จริงฉันไม่ได้เข้าใจการรับรู้ทางด้านอารมณ์ และนายก็คงไม่อยากจะฟัง แต่มันก็ธรรมดาเพราะฉันเองก็ไม่ชอบตัวเองเหมือนกัน”

 

”ถ้างั้นนายจะเล่าเรื่องไร้สาระพวกนี้ให้ฉันฟังทำไม?”ชูฮันที่แทบจะระเบิดอยู่แล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่ปล่อยให้การสนทนามาถึงจุดนี้ได้

 

”ฉันพูดมากมายขนาดนี้เพื่อพิสูจน์ความไว้วางใจ”อีกครั้งที่คำตอบของฮูเหมิงฮาวอยู่เหนือความคาดหมายของชูฮัน “นายก็รู้ว่าฉันไม่มีการรับรู้ทางด้านอารมณ์ใดๆเลย เพราะงั้นเพื่อที่จะปกป้องตัวเองเวลามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ฉันจะใช้ทฤษฎีที่ฉันคิดค้นขึ้นเพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่มากที่สุด”

 

ชูฮันหมดคำพูดอย่างสิ้นเชิงพวกคนที่IQสูงเกินไปมักจะกลายเป็นบ้าได้ง่ายๆ

 

”และเรื่องก่อนหน้านี้ที่นายคิดว่ามันไร้สาระที่จริงแล้วมันคือกระบวนการพิสูจน์ของฉันจากกฏของพลังในการสื่อสาร ซึ่งเมื่อนำไปใช้กับสูตรที่ฉันค้นพบ จะแสดงให้เห็นผลลัพธ์ว่าทัศนคติของนายที่มีต่อพ่อแม่ของนายนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวเอง และการเป็นมนุษย์ ทัศนคติของคนๆหนึ่งที่ส่งผลอีกต่ออีกคนนั้นจะเป็นตัวตัดสินมูลค่าของความเชื่อใจที่มีต่อกัน และก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญของความสามารถในการร่วมมือกัน นายถามว่าฉันอยากเจอเหว่ยอันมั้ย…ความสำคัญของทั้งสองเรื่องมันพอๆกัน ฉันกับนายเลยมีความสมดุลกัน”

 

”ฉันก็เลยได้ข้อสรุป”ในที่สุดฮูเหมิงฮาวก็จบการวิเคราะห์ “ตราบใดที่ฉันจริงใจต่อนาย นายก็จะทำตามคำขอของฉัน ง่ายๆก็คือถ้าฉันดีกับนาย นายก็จะดีกับนาย”

 

ชูฮันแทบจะถอนหายใจใส่ฮูเหมิงฮาว”นายพูดวนอ้อมไปไกลเพื่อพิสูจน์เรื่องแค่นี้? มันเป็นธรรมดาที่จะร่วมมือกับคนแปลกหน้าและตัดสินใจมอบความจริงใจให้กัน!”

 

”ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย”ฮูเหมิงฮาวยังคงอธิบายต่อ “ข้อเสนอที่พิสูจน์โดยทฤษฎีจะทำให้ฉันรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะถึงอย่างไรแล้วเนื่องจากการรับรู้ทางอารมณ์ของฉันมันต่ำมาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะระหว่างดีกับชั่ว”

 

ชูฮันทำตัวไม่ถูกกับโรคประสาทที่ได้เจอความคิดของฮูเหมิงฮาวมันไม่ต่างอะไรกับเครื่องกลจริงๆเลย?

 

ชูฮันที่มึนงงเอ่ยถามออกมาอย่างเลื่อนลอย”ไปตกหลุมรักคนแบบนี้ได้ยังไง?”

 

คนตรงหน้าเขามันเหมือนหุ่นยนต์การรับรู้ทางอารมณ์เป็นศูนย์ แต่ทำไมคนแบบนี้ถึงมีแฟนได้?

 

”แม้ว่าฉันจะการรับรู้ทางอารมณ์ที่ต่ำแต่ฉันก็ยังมีการรับรู้ทางอารมณ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์อยู่!” ฮูเหมิงฮาวค่อนข้างตื่นเต้น “ฉันไม่สามารถบอกความรู้สึกที่ฉันมีต่อเหว่ยอันได้ตรงๆ แต่ฉันใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะแยกแยะอารมณ์พิเศษที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเหว่ยอันได้…”

 

”หยุด”ชูฮันทนไม่ไหวอีกต่อไป “ฉันเข้าใจนาย นายไม่ต้องอธิบายอะไร พูดเข้าประเด็นเลย แต่ดูจากที่ตอนนี้การรับรู้ทางอารมณ์ของนายดูจะติดลบ ถ้างั้นฉันจะพูดเอง นายแค่ฟังก็พอ”

 

”โอเค”ฮูเหมิงฮาวถอนหายใจด้วยความโล่งใจเพราะตัวเขาไม่เก่งเรื่องการสื่อสารกับผู้คน

 

ในที่สุดชูฮันก็ได้มีเวลาพักให้หัวโล่ง”เราสองคนจำเป็นต้องลงนามสัญญาระหว่างกันก่อนรึเปล่า?”

 

”ไม่จำเป็น”ฮูเหมิงฮาวตอบ “ฉันได้พิสูจน์แล้วว่าเราทั้งสองเชื่อใจกันได้ ฉันยืนยันได้ว่าฉันจะไม่ทรยศนาย ตราบใดที่นายไม่ทรยศฉัน”

 

”งั้นก็ดีฉันสามารถรับรองความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของเหว่ยอันได้ ก็เหมือนกันกับนาย เราเสมอกันเพราะนายก็รู้เรื่องของพ่อฉัน”

 

”ดี”อีกครั้งที่ฮูเหมิงฮาวตั้งทฤษฎีอยู่ในหัวตัวเอง “ฉันจะตอบคำถามของนายตอนนี้ พ่อของนาย…ชูยุนเทียนไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาอยู่กับซาวชุนฮุย ส่วนที่ว่าอยู่ที่ไหนฉันเองก็ไม่รู้”

 

ชูฮันพยักหน้าและถามต่อ”พ่อฉันตกอยู่ในอันตรายรึเปล่า?”

 

”ไม่”ฮูเหมิงฮาวตอบเสียงนิ่งๆราวกับหุ่นยนต์ “เขารู้วิธีป้องกันตัวเอง และหลังจากที่ซาวชุนฮุยรู้ว่าเขาไม่สามารถควบคุมฉันได้ เขาก็พยายามหาทางที่จะได้รับความเชื่อใจจากพ่อนาย รวมถึงสมาชิกหลักคนอื่นๆในMensaด้วย”

 

ชูฮันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกถ้าพ่อเขาไม่ได้อยู่อันตราย ถ้างั้นเขาก็พอวางใจได้บ้าง

 

”นายไม่รู้ว่าซาวชุนฮุยอยู่ไหนแล้วมีอะไรที่พอจะเป็นเบาะแสให้ฉันตามหาเขาได้มั้ย?” ชูฮันยังคงไล่ถามคำถามต่อ

 

”ไม่”คำตอบของฮูเหมิงฮาวทำให้ชูฮันผิดหวัง แต่แล้วเขาก็รีบถามต่อทันที “แต่มันมีทางที่เราจะล่อเขาออกมาได้”

 

หัวใจของชูฮันเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำตอบ