บทที่ 286 คัดเลือกสาวใช้
หลิงตู้ฉิงที่ยังคงมีลักษณะนิสัยไม่ค่อยอยากจะผูกสัมพันธ์อะไรกับใครเขามากนัก อันที่จริงเขาไม่ต้องการที่จะหาใครมาอยู่กับเขาเพิ่มมาแบบนี้มากสักเท่าไหร่
แต่น่าเสียดายที่สถานการณ์ตอนนี้มันบังคับให้เขาจำเป็นต้องมีคนมาช่วยเหลือเพิ่มเติม
เนื่องจากพวกเขาจะอยู่ในเมืองเจินไห่อีกแค่เพียงไม่กี่ปี ดังนั้นเมื่อพวกเขาจากไปมันจะต้องมีคนคอยเฝ้าสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากมี่ตั้วตั้วจะยังไม่มาถึงที่นี่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน ส่วนโอกาสของทางด้านหลิงยี่เทียนและคนอื่น ๆ ที่จะมาที่นี่นั้นยิ่งมีน้อยยิ่งกว่า
ฉะนั้นสำหรับช่วงเวลาช่องว่างจนกว่าที่มี่ตั้วตั้วจะมาที่นี่ เขาจำเป็นต้องหาคนที่ไว้ใจได้ให้เฝ้าที่นี่ไว้สัก 2 คน แต่แล้วปัญหามันก็เกิดจากเพราะว่าตอนนี้มีคนมาให้เขาเลือกถึง 12 คนและเขาต้องหาวิธีคัดคนออก 10 คนอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง เด็กสาวทั้ง 12 คนก็มองหน้ากัน จากนั้นก็รีบแยกย้ายกันไปหาห้องที่จะอยู่
“อาเหม่ยทำความสะอาดห้องของข้าเร็ว ๆ ข้าจะอยู่ที่นี่! นี่อาจจะเป็นห้องหอของข้าก็ได้”
“เจ้าค่ะ คุณหนู ข้าจะทำเดี๋ยวนี้”
คู่สาวใช้กับคุณหนูนางหนึ่ง ซึ่งถูกส่งมาที่นี่โดยตระกูลของพวกนางกำลังจัดห้องกันอย่างมีความหวัง
“ท่านพี่ เมื่อครู่เจ้าของที่นี่เขาบอกว่าเขาต้องการดูความสามารถของพวกเราก่อน นี่มันไม่ใช่ว่าเขาต้องการให้เราทำหน้าที่อุ่นเตียงให้เขาใช่ไหม?”
“เจ้าจะไปกลัวอะไรกัน การได้ติดตามผู้ใช้อักขระเวทย์ที่ทรงพลังเช่นนี้ถ้าเจ้ากลัวก็กลับไปได้เลย”
“ข้าไม่กลัว…คือข้าแค่อยากถามท่านว่าข้าควรไปก่อนหรือท่านไปก่อน?”
“เอ่อ…เขาคิดว่าด้วยจำนวนคนเยอะขนาดนี้และเรามีเวลาแค่คืนเดียว…พวกเราทั้งคู่ควรเข้าไปพร้อม ๆ กันเลยก็แล้วกัน”
“ ……”
ทางด้านของคู่สาวน้อยที่เด็กที่สุดในตอนนี้พวกนางก็มองหน้ากันไม่รู้จะทำยังไง
“เขาคงไม่ต้องการเราใช่ไหม?”
“แต่พวกเรายังเด็กมาก…”
“ข้าได้ยินท่านป้าเคยพูดว่า แม้ผู้หญิงจะอายุน้อยแต่ก็สามารถทำเรื่องอย่างว่าได้เช่นกัน แต่ว่ามันอาจจะทรมานสักหน่อย และข้ายังได้ยินมาอีกว่าพวกผู้ชายบางคนก็ชอบเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ”
“หา! งะ งั้นข้าไม่เอาแล้ว ข้าอยากกลับเรือน!”
“เรากลับไปไม่ได้แล้วผู้อาวุโสต้องการให้เรารับใช้เขา!”
“ตะ แต่ว่าก็ข้ากลัวนี่นา ข้าไม่เอาด้วยแล้ว ข้าจะกลับเรือน ทำไมเราทั้งคู่ไม่รีบกลับเรือนของพวกเราตอนนี้เลยล่ะ พวกเราไปกันเถอะ! และพอพวกเรากลับไปแล้วพวกเราก็อ่างว่าเขาไม่ชอบเราเท่านั้นก็พอไง!”
“แต่ที่ผ่านมาผู้นำตระกูลดีกับพวกเรามากเลยนะ…”
“……”
การถกกันทุกประเภทต่างเกิดขึ้นภายในห้องแต่ละห้องแตกต่างกันไป
หรือไม่บางคนก็แอบออกมาจากห้องของตัวเอง เพื่อย่องไปที่ห้องของหลิงตู้ฉิง
เพราะพวกนางมีเวลาเพียงคืนเดียว มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกนางถูกหญิงสาวคนอื่น ๆ ตัดหน้าไปก่อน?
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกนางมาถึงทางเดิน พวกนางก็เจอกับคนอื่น ๆ ที่มีความคิดเช่นเดียวกัน
“นี่พ่อของเจ้าเต็มใจส่งเจ้ามาจริง ๆ งั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขางั้นหรือไง?” ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้นด้วยเสียงต่ำ
“ก็ข้ายังไม่ได้แต่งงานไม่ใช่หรือไง? และอีกอย่างนี่มันผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ที่มีผู้ติดตามเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์เชียวนะ ทำไมข้าถึงจะไม่เต็มใจมาที่นี่กันล่ะ ว่าแต่ตัวเจ้าเองเถอะ เจ้าก็มาที่นี่เหมือนกันไม่ใช่รึไง?” ผู้หญิงอีกคนกระซิบตอบ
“ว่าแต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
“ไม่รู้! เราต้องลองเดินหารอบ ๆ แต่ข้าบอกไว้ก่อน เจ้าห้ามตัดหน้าข้า รอจนกว่าข้าจะโชคดีก่อนค่อยถึงตาเจ้า”
“แล้วทำไมเจ้าถึงได้เป็นคนแรกล่ะ?”
“ข้าอายุมากกว่าเจ้า และครอบครัวของข้าก็มีอำนาจมากกว่าตระกูลเจ้า”
“เหอะ! ไม่เกี่ยวสักหน่อย คราวนี้มันแตกต่างออกไปบางทีรอบนี้เจ้าอาจจะต้องเรียกข้าว่าพี่หญิงก็ได้!”
“ ……”
ขณะที่เหล่าสาว ๆ ถกเถียงกัน พวกนางก็พยายามเดินมองหาห้องของหลิงตู้ฉิงไปด้วยและเตรียมตัวที่จะใช้เสน่ห์ทุกอย่างที่พวกนางมีมัดใจของเขา
แต่ในขณะที่พวกนางเดินไปได้สักพัก จู่ ๆ ร่างกายของพวกนางก็แข็งค้างทันที
เมื่อรู้สึกตัวเช่นนี้ พวกนางก็เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองโชคดีที่ร่างกายของพวกนางถูกควบคุมโดยเจ้าของหมู่ตึกผู้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อยืนแข็งค้างไปได้สักพักมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อหลังจากนั้น
นอกจากพวกนางแล้วยังมีบางคนที่กระสับกระส่ายอีก 2-3 คน ที่ออกมาเดินเผ่นผ่านนอกห้อง ซึ่งทั้งหมดถูกตรึงแข็งอยู่กับที่เช่นกัน จะมีก็แต่เพียงผู้ที่เชื่อฟังอยู่เพียงแต่ในห้องเท่านั้นที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
1 คืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลิงตู้ฉิงเดินออกมาจากห้องของหลิวเฟ่ยเฟ่ยและพูดกับเหล่าเด็กสาวที่ถูกแช่แข็งว่า “พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว ส่วนอีก 4 คนที่เหลือเป็นคนที่ข้าต้องการ”
จาก 4 คนที่เหลือ สองคนคือคนที่มีสถานะเป็นบ่าวรับใช้จากตระกูลที่ส่งพวกนางมา
ถ้าจะถามว่าทำไมพวกนางถึงอยู่ในห้องไม่ออกไปไหน? นั่นก็เพราะว่าพวกนางถูกสั่งให้อยู่แต่ในห้องไม่ให้ออกไปไหนโดยคุณหนูของพวกนางที่มาด้วยกัน
ส่วนอีกสองคนเป็นคู่เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งมีอายุเพียง 11 และ 12 ปี ด้วยความที่พวกนางต่างกลัวว่าจะถูกหลิงตู้ฉิงเรียกตัวให้ไปรับใช้ ดังนั้นพวกนางจึงไม่กล้าที่จะก้าวขาออกมาจากห้อง
เด็กสาวที่ถูกเชิญให้ออกไปพูดด้วยความไม่พอใจว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อรับใช้ท่าน ท่านขังข้าไว้ แล้วข้าจะปรนนิบัติท่านได้อย่างไร? ทำไมท่านไม่ให้ข้าลองตอนนี้ล่ะ?”
โดยไม่พูดอะไรสักคำ หลิงตู้ฉิงกระทืบเท้าลงบนพื้นเบา ๆ จากนั้นเด็กสาวผู้นั้นก็ถูกส่งลอยออกจากหมู่ตึกหยูอี่ทันที
เมื่อเด็กสาวอีกสองคนเห็นเช่นนี้ พวกนางก็รีบพูดว่า “ก็ได้ งั้นพวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ แต่ว่าบ่าวรับใช้ของพวกเรายังคงอยู่ที่นี่ พวกข้าต้องการจะพาพวกนางกลับไปด้วย!”
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปยังพวกนางและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ข้าจะพูดอีกครั้งเดียว จงรีบไปซะ ถ้าพวกเจ้ายังพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่ครึ่งคำข้าจะส่งพวกเจ้าออกไปเหมือนคนก่อนหน้านี้”
ทุกคนเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความกลัว และจากนั้นจึงค่อย ๆ พากันเดินออกไปข้างนอก
หลังจากเหล่าเด็กสาวที่ไม่ถูกรับเลือกได้ออกไปกันจนหมดแล้ว หลิงตู้ฉิงก็เรียกคนรับใช้สองคนและเด็กสาวขี้อายสองคนออกมา จากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าอยากจะเก็บพวกเจ้าทั้งสี่ไว้ แต่ถ้าใครไม่อยากอยู่ก็ออกไปได้ ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสองชั่วยามเพื่อคิดทบทวน แต่ถ้าหากพวกเจ้าตัดสินใจจะอยู่กับข้า เราค่อยมาคุยกันถึงรายละเอียดต่าง ๆ อีกที ใครมีคำถามอะไรไหม?”
เด็กสาวทั้งสี่มองหน้ากัน เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งถามขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า “ทะ ท่านจะเรียกพวกเราไปนอนกับท่านด้วยไหม? คือมันไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการจะรับใช้ท่าน…แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าข้ายังเด็กเกินไป ท่านจะรอจนกว่าข้าจะโตกว่านี้ก่อนได้ไหมเพื่อที่เราจะ…”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ไม่!”
“ท่านจะไม่รังแกพวกเราจริง ๆ งั้นเหรอ?” เด็กสาวถามอย่างไม่แน่ใจ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถ้าเจ้าต้องการติดตามข้า เจ้าต้องเชื่อใจข้า มิฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องติดตามข้า”
เด็กสาวทั้งสองมองเขาและพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน “ถ้าอย่างนั้นเรายินดีที่จะอยู่!”
คนรับใช้อีกสองคนครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะถามว่า “ท่านจะสอนวิธีบ่มเพาะให้พวกเราไหม?”
“อาจจะ!” หลิงตู้ฉิงตอบ
“แล้วเราต้องทำอะไรบ้าง?” สาวใช้ทั้งสองถาม
“เจ้าจะรู้เมื่อถึงเวลา!”
“เราจะต้องกลับไปดูแลนายหญิงของเราอีกรึเปล่า?”
“ถ้าพวกเจ้าติดตามข้า พวกเจ้าก็จะเป็นคนของข้า พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องรับใช้ใครอีกนอกจากข้าเพียงคนเดียว” หลิงตู้ฉิงเตือนพวกนาง “แต่ถ้าพวกเจ้าตกลงติดตามข้า พวกเจ้าจะต้องทำสัญญากับข้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะเรียนรู้อะไรจากข้า พวกเจ้าต้องไม่บอกใครทั้งนั้นไม่งั้นพวกเจ้าจะต้องตาย!”
เมื่อคนรับใช้ทั้งสองได้ยินดังนั้น ท่าทีของพวกนางก็เปลี่ยนไปอย่างมาก หลังจากคิดอยู่นานพวกนางก็จากไป
เนื่องจากด้วยสถานะของพวกนางที่เป็นเพียงบ่าวรับใช้จากตระกูลเดิม ถ้าคนในตระกูลของพวกนางถามขึ้น หากพวกนางบอกไป พวกนางจะต้องตาย แต่ถ้าพวกนางไม่พูดอะไร พวกนางก็อาจจะตายเช่นเดียวกัน
หลิงตู้ฉิงไม่สนใจทั้งสองคนที่จากไป เขามองไปที่เด็กสาวอีกสองคนที่เหลือและถามขึ้น “พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหม? หลังจากทำสัญญาแล้วหากพวกเจ้าเปิดเผยความลับพวกเจ้าจะต้องตายทันทีพวกเจ้าเข้าใจใช่ไหม?”
คนที่สูงกว่าเล็กน้อยมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความกลัวและพูดว่า “ผู้นำตระกูลของพวกเราเพียงสั่งมาว่าให้เรารับใช้ท่านเท่านั้นและไม่ได้ขอให้เรามาสืบหาความลับของท่าน ดังนั้นเราจะไม่บอกอะไรเขา”
“ดี! งั้นก็มาทำสัญญา!” หลิงตู้ฉิงเขียนสัญญาขึ้นกลางอากาศทันที “แค่ส่งหยดเลือดของพวกเจ้าไปที่มันก็พอ!”
หลังจากที่ทั้งสองทำสัญญาแล้ว หลิงตู้ฉิงก็ถามว่า “พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง?”
เด็กสาวที่อายุมากกว่าพูดว่า “ข้าชื่อ หยุนจื่อรุ่ย ข้าอายุ 12 ในปีนี้!”
เด็กหญิงอายุน้อยพูดอย่างขี้อาย “ข้าชื่อ เปียนเฉียวเฉียว ข้าอายุ 11 ปีครึ่ง!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ดีมาก งานของพวกเจ้าที่ต้องทำให้กับข้าก็คือการคอยเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูเพื่อต้อนรับเหล่าผู้คนที่จะเข้ามาให้ข้า หน้าที่ของพวกเจ้าคือบังคับใช้กฎที่ข้าวางไว้อยู่ข้างประตูกับทุกคนที่จะเข้ามาหาข้าโดยไม่สนว่าพวกคนเหล่านั้นจะเป็นใคร มีฐานะอะไร หรือแข็งแกร่งแค่ไหน ตราบใดที่พวกเขาไม่ปฏิบัติตามกฎ พวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องนำเขาเข้ามา ส่วนคนที่ใช้กำลังบังคับเข้ามาข้าจะจัดการพวกเขาเอง!”
“และพวกเจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทำร้าย ถ้าใครกล้ามาหาเรื่องพวกเจ้า ข้าจะฆ่าคนคนนั้นทิ้งซะ!”
“ข้าเห็นว่าพวกเจ้าอยู่ในขอบเขตควบแน่นลมปราณ เดี๋ยวข้าจะช่วยหลอมเหล่าโอสถต่าง ๆ ให้พวกเจ้าเพื่อช่วยเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าไปทำงานได้แล้ว!”
เด็กสาวทั้งสองที่ได้ยินคำสั่งของหลิงตู้ฉิง พวกนางเดินออกมาด้วยอาการงุนงง
หน้าที่ของพวกนางง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?
แล้วนี่เจ้านายใหม่ของพวกนางไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์งั้นเหรอ? เขาสามารถหลอมโอสถให้พวกนางอีกได้ไง?