ตอนที่ 794 พนักงานที่ต้องตกตะลึง

Godly Model Creator

GMC ตอนที่ 794 พนักงานที่ต้องตกตะลึง

 

ตําหนักเทียนหลง

 

ในห้องบ่มเพาะทุกคนต่างฝึกฝนเหมือนคนบ้า

 

นี่คือห้องบ่มเพาะที่ทันสมัยที่สุดในวิทยาลัยและในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง แม้จะผ่านมานานมากแล้วแต่ก็มีคนเข้าน้อยมาก สิ่งที่น่าสนใจคือหลังจากซูฮ่าวสร้างสถิติที่นี่จํานวนคนเข้าใช้ก็เพิ่มขึ้น เหล่านักเรียนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจเริ่มตั้งเป้ามาที่ห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง!

 

โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง

 

ดูที่ซูฮ่าว?

 

ดูทีวานเฉิง?

 

หนึ่งในนั้นใครที่ไม่ได้สร้างประวัติศาสตร์ไว้ในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง สิ่งนี้พิสูจน์ว่าห้องนี้เป็นสัญลักษณ์ของเอสเปอร์ที่แข็งแกร่งในอนาคต! โดยการบ่มเพาะปลูกในห้องเพาะปลูกระดับหนึ่งนี้เท่านั้นคุณจึงจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นเอสเปอร์ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

 

ปัจจุบัน วานเฉินแข็งแกร่งแค่ไหน?

 

เอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์! เป็นตํานานที่ยังมีชีวิตของตําหนักเทียนหลง

 

แล้วซูฮ่าว?

 

เขาพิการ!

 

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาได้เผชิญกับเอสเปอร์โลกที่ทรงพลัง ไม่มีใครกล้าที่จะลืมเรื่องราวก่อนที่ซูฮ่าวจะไปถึงตระกูลเทียน เขาได้สร้างเส้นทางแห่งเลือดไม่มีใครทําได้! สิ่งนี้หมายความว่ายังไง? หมายความว่าหากไม่มีเอสเปอร์โลกเข้ามาแทรกแซงตระกูลเทียนทั้งตระกูลก็ไม่สามารถหยุดซูฮ่าวได้! นี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขา!

 

ขณะที่พวกเขายังคงดิ้นรนในขอบเขตมืออาชีพ เป้าหมายของซูฮ่าวกลับคือขอบเขตโลกแล้ว?

 

แค่คิดมันก็ทําให้พวกเขาหวาดกลัว

 

ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าเขาจะพิการ มันก็ไม่ได้ขัดขวางตัวตนที่แท้จริงของซูฮ่าว ผู้นําตระกูลของหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ ดังนั้นด้วยนักเรียนตํานวนสองคนนี้ ใครก็ตามที่สร้างสถิติในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง แม้จะผ่านไปหลายปีศักดิ์ศรีนี้ก็ไม่มีใครเทียบเคียง

 

“ปุ~”

 

อีกหนึ่งร่างที่ถูกตัดออกไป

 

อีกหนึ่งคนที่ล้มเหลว

 

“ไม่น่าเชื่อ นั่นเป็นอัจฉริยะของตระกูลจาง ข้าได้ยินมาว่าเขาแทบจะตามทันจางเย่ติ้งจากชุดก่อนหน้านี้ทันอยู่แล้ว ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะไม่สามารถอยู่ในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งนี้ได้” 

 

“ไร้สาระ เจ้าคิดว่ามันง่ายงั้นรึ”

 

“เหอะ… มีผู้คนจํานวนมากที่พยายาม แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้เลย”

 

“ย่อมแน่นอน การที่สามารถบ่มเพาะภายในห้องนั้นได้มันบ่งบอกถึงการปรากฏขึ้นของคนที่มีความสามารถเหมือนอย่าง วานเฉิง และ ซูฮ่าว มันง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร”

 

“ที่เจ้าพูดนั้นก็จริง”

 

ทุกคนเห็นด้วยพร้อมกัน

 

ทันใดนั้นประตูก็เกิดเสียงดังขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะได้ทําอะไรคนๆ นั้นก็ถูกเตะออกไป จากนั้นก็มีคนเข้ามาในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง

 

“นั่นใคร? หึมนั่นไม่ใช่คนที่สร้างเรื่องกับจีเซว่ไฮ่งั้นเหรอ? เขาได้เข้าสู่ตําหนักเทียนหลง และเป็นตัวทําลายชื่อเสียงของตําหนักเทียนหลง”

 

“นั่นก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทั้งตระกูลเทียนและตระกูลจีต่างอยากที่จะสนับสนุนเขา”

 

“สุนัขที่ดีต้องมีการกระตุ้นจากกระดูก แต่แล้ว? ชายคนนั้นกลับขับไล่พวกเขาทั้งหมด เขาเป็นคนที่เข้าถึงยากเกินไป”

 

“ถ้าฉันจําไม่ผิดชื่อของเขาคือ จ้าวเฟิง”

 

มีคนพูดขึ้นด้วยความไม่มั่นใจ ด้วยระยะห่างที่ค่อนข้างไกล ดังนั้นเขามองเห็นอไม่ชัดนัก

 

“จ้าวเฟิง?”

 

หัวใจของทุกคนเริ่มตื่นตัว

 

จ้าวเฟิง!

 

นี่ไม่ใช่คนที่อยู่ข้างกายซูฮ่าวงั้นเหรอ? แม้ว่าเขาจะลึกลับและไม่เป็นที่รู้จัก แต่ทุกคนต่างรู้ว่าภายในกลุ่มของซูฮ่าวมีนักฆ่าที่น่ากลัวอยู่! ในช่วงสุดท้ายระหว่างการบุกโจมตีตระกูลเทียน กระสุนนัดนั้นทําให้ทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

ความสามารถเจาะทะลวงระดับ B ธรรมดากลายเป็นทักษะสังหารที่น่ากลัว!

 

การเจาะทะลวงเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งงั้นหรอ?

 

ไม่!

 

ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่ามันอ่อนแอ ไม่เช่นนั้นมันคงไม่ได้รับคะแนนเกรด B ในการเผชิญหน้าโดยตรง จ้าวเฟิงอาจไม่สามารถเอาชนะผู้ที่อยู่ในชุดเดียวกันที่มีความสามารถพิเศษเกรด A แต่หากเป็นการเผชิญหน้าในเงามืด…

 

ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน

 

ความสามารถนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังภายใต้การควบคุมของจ้าวเฟิง มันกลายเป็นความสามารถพิเศษที่น่ากลัวสําหรับการใช้งานในระยะยาว

 

จ้าวเฟิงถูกประเมินไว้สูงโดยคนระดับสูงของสหพันธ์!

 

ซูฮ่าวไม่สามารถเข้าร่วมได้เพราะเขาเป็นผู้นําตระกูลของตระกูลซู แต่จ้าวเฟิงล่ะ? แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าเขาและซูฮ่าวมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ตราบใดที่มีโอกาสทุกตระกูลก็อยากชวนเชิญเขา หากตระกูลใดประสบความสําเร็จ พวกเขาจะมีมือสังหารที่น่ากลัวอยู่ในบังคับ

 

นี่ไม่ใช่เกม

 

ทุกวันนี้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องในสหพันธ์หลายคนได้พบเห็นมาแล้ว พายุที่อันตรายซึ่งก่อตัวอยู่อาจปะทุขึ้นและกวาดทั้งสหพันธ์ไปในไม่ช้า

 

ความวุ่นวายเริ่มเพิ่มมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

 

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าผู้ชายคนนั้นคือจ้าวเฟิง ไอ้โง่ที่ยั่วยุจ้าวเฟิงคนนี้ก็คงถือว่าเป็นคนบ้า”

 

“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าทุกคนรู้เหตุการณ์งั้นหรือ? การต่อสู้ในตระกูลเทียนมีเพียงเหล่าศิษย์จากตระกูลใหญ่เท่านั้นที่ทราบและได้รับคําเตือนให้หลีกเลี่ยงการยุยงจ้าวเฟิง แล้วสําหรับเขา?”

 

“เขาไม่ใช่แม้แต่สุนัขในตระกูลจี”

 

“ นั่นหมายความว่าจะมีการแสดงดีๆ ให้เห็นงั้นหรอ”

 

การมีโชว์การแสดงดีๆ คือสิ่งที่ทุกคนต่างชอบที่จะได้ยินและได้เห็น

 

จ้าวเฟิงเป็นคนลึกลับ จึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

แม้แต่ภายในกองกําลังขนาดใหญ่สิ่งที่พวกเขาเข้าใจเกี่ยวกับจ้าวเฟิงก็คือกระสุนลึกลับและช็อตซุ่มโจมตีระยะไกลที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้!

 

ถ้าเช่นนั้นการต่อสู้ของจ้าวเฟิงจะเป็นอย่างไร

 

ข่าวลือบอกว่าเขาแข็งแกร่งในช่วงขอบเขตพื้นฐาน แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดเป็นเอสเปอร์มืออาชีพ ใครจะสนใจเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้พื้นฐานกัน? ด้วยลักษณะของกระสุนทําให้ออร่าความลึกลับของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นทีละน้อย ตอนนี้ด้วยการถูกยั่วยุโดยกลุ่มตัวตลกกลุ่มหนึ่ง พวกเขาจะได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของจ้าวเฟิงหรือไม่?

 

“ดูเหมือนว่าจะมีโอกาส”

 

ดวงตาของทุกคนสว่างขึ้น

 

มีสุนัขจํานวนมากในตระกูลจีและตระกูลเทียน ไม่นานหลังจากนั้นประตูทางเข้าก็ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนจํานวนมาก ในขณะนี้ทุกคนต่างได้รู้ว่าจ้าวเฟิงได้เข้าสู่ห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง

 

และมันก็เป็นเวลานาน

 

“จ้าวเฟิงเข้าไปนานแค่ไหนแล้ว?”

 

“ไม่แน่ใจประมาณสองนาที่ได้”

 

“WTF! นี่เป็นข่าวใหญ่ ฉันได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้อัจฉริยะของตระกูลเทียนสามารถเข้าไปอยู่ที่นั่นได้เพียงหนึ่งนาทีครึ่งเท่านั้น จ้าวเฟิงทรงพลังเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน”

 

“เป็นไปได้อย่างไร”

 

“รอ! พ่อแกคนนี้ไม่เชื่อว่าเขาจะอยู่ได้นานกว่านี้!”

 

หลังจากห้านาที จ้าวเฟิงก็ยังไม่ออกมา

 

หลังจากครึ่งชั่วโมง จ้าวเฟิงก็ยังไม่ออกมา

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมาก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจ้าวเฟิงจะออกมา

 

สามชั่วโมง

 

ขณะที่เวลาค่อยๆ ผ่านไปเหล่าผู้คนต้องตกตะลึง มองไปที่ห้องบ่มเพาะระดับที่หนึ่งซึ่งยังไม่แสดงอาการของการเคลื่อนไหวใดๆ “บอส … “

 

เสียงร้องดังขึ้น

 

“รอ! พ่อแกคนนี้ไม่เชื่อว่ามันจะสามารถอยู่ได้ทั้งคืน!”

 

วันรุ่งขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสาดแสงมายังหน้าห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งที่มีใบหน้าสีเขียวมองไปที่ห้องบ่มเพาะที่เงียบสนิทในขณะที่กําลังกัดฟัน แม้แต่ผู้ชมที่กําลังเพลิดเพลินกับการแสดงก็ยังตะลึง จ้าวเฟิงสามารถทนอยู่ได้ถึงเพียงนั้น!

 

หนึ่งวัน!

 

เขาอยู่ในห้องนั้นตลอดทั้งวัน!

 

นั่นไม่ได้หมายความว่าจ้าวเฟิงสามารถบ่มเพาะได้อย่างปกตินั้นหรอ

 

บูม!

 

ทั้งวิทยาลัยต่างสั่นสะท้าน

 

เขาเป็นคนที่สามรองจาก วานเฉิน และ ซูฮ่าว ที่สามารถฝึกฝนได้อย่างปกติ! นั่นหมายความว่าอัจฉริยะคนที่สามกําลังจะเกิดขึ้น?

 

“ผลัดกันเฝ้าประตู!”

 

“เมื่อจ้าวเฟิงออกมา ให้เรียกทุกคนทันที!”

 

เรื่องนี้ได้ยกระดับมาถึงสถานการณ์ดังกล่าว ผู้ที่พร้อมจะสอนบทเรียนให้จ้าวเฟิงรายงานกลับไปหาตระกูลจีทันที เมื่อศิษย์หลักของตระกูลจีได้ยินเรื่องนี้พวกเขาก็ส่งการสนับสนุนทันที! นี่ไม่ใช่เรื่องตลก พวกเขาเคยได้ยินถึงพลังของจ้าวเฟิง หากพวกเขาต้องการทดสอบจ้าวเฟิง กลุ่มคนเหล่านั้นจาก เมืองเจียงเหอคงไม่เพียงพอ

 

“ส่งกําลังเสริม!”

 

“ในเมื่อเขากล้าต่อกรกับตระกูลของฉันนี่จึงถือเป็นโอกาส เมื่อเขาออกมาให้ทดสอบความแข็งแกร่งของเขา ถ้าเป็นไปได้สอนบทเรียนให้เขา” คนในตระกูลจยิ้มเยาะ “ในระยะไกลไร้เทียมทาน? ครั้งนี้เราจะได้สัมผัสกันอย่างแน่นอน แม้ว่าเจ้าจะไร้เทียมทานในระยะไกล แต่เจ้ากําลังจะได้ต่อสู้ระยะใกล้”

 

“เจ้าจะได้เป็นหมาป่าหรือสุนัข มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า”

 

“จ้าวเฟิง!”

 

ด้านนอกห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง

 

นอกเหนือจากคนที่มาจากตระกูลจีแล้วยังมีผู้เข้าชมอีกมากมาย ความขัดแย้งระหว่างตระกูลจีและจ้าวเฟิงรวมถึงประวัติของห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งเพียงแค่คิดมันก็น่าตื่นเต้นมากแล้ว ล้อมรอบประตูมีผู้คนจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากําลังรอดูว่าการต่อสู้ระหว่างจ้าวเฟิง และตระกูลจีจะปรากฏออกมาอย่างไร

 

ยกเว้น…

 

หลังจากครึ่งวันจ้าวเฟิงก็ยังไม่ออกมา

 

เมื่อท้องฟ้ามืดมิด จ้าวเฟิงก็ยังคงไม่ปรากฏกายออกมา

 

อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ยังไม่ออกจากห้อง

 

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นซีด!

 

WTF! เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้

 

มันกําลังโกหก

 

มันไม่ออกมา!

 

เป็นไปได้อย่างไร

 

รวมกับเมื่อวานนี้มันเป็นเวลาสองวัน จะมีคนที่บ่มเพาะสองวันติดได้อย่างไร? นั่นไม่ใช่แค่ห้องบ่มเพาะธรรมดาทั่วไป แต่เป็นห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง! ด้านนอกประตูมีผู้คนจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับข่าวและมารวมตัวกันอยู่รอบๆ ในความเป็นจริงมีแม้กระทั่งนักเรียนบางคนที่สั่งซื้อของมากินและรอดูอยู่ที่นี่

 

สิ่งต่างๆ เริ่มน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

 

อีกวันผ่านไป

 

สองวันผ่านไป

 

สามวันผ่านไป

 

ในที่สุดก็มีคนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป “ไอ้เด็กเหลือนั่นยังอยู่ข้างในแน่เหรอ? โดยไม่กินไม่ดื่มติดต่อกันเป็นเวลาห้าวัน อย่าว่าแต่การบ่มเพาะเลยไม่ใครก็ย่อมตายจากความหิวโหยในตอน

 

ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

 

นักเรียนคนหนึ่งชี้ไปที่ห้องนั้นบนหน้าจออย่างเงียบๆ “ทั้งหมดปกติ ไฟแสดงสถานะระบุว่าการทํางานของร่างกายของจ้าวเฟิงนั้นปกติ ไม่มีสัญญาณของความอ่อนแรง ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นอย่างที่พวกเจ้ากล่าวมา ห้องนี้จะหยุดทํางานโดยอัตโนมัติ “

 

“ปกติ”

 

ทุกคนหวาดกลัว

 

สิ่งนี้หมายความว่า….!

 

นี่แสดงให้เห็นว่าร่างกายของจ้าวเฟิงนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก โดยไม่ต้องกินและดื่มเขาสามารถรักษาสถานะสูงสุดของเขาไว้ได้! การไม่กินอาหารเป็นเวลาห้าวันไม่มีผลกับเขา!

 

ร่างกายของเขาทรงพลังแค่ไหน?

 

จ้าวเฟิงนั้นน่าหวาดกลัวจริงๆ

 

ทุกคนต่างเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นโดยไม่รู้ตัว แล้วอย่าลืมอีกว่าจ้าวเฟิงกําลังฝึกฝนอยู่ในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง การที่สามารถฝึกฝนได้ภายในสถานที่ที่น่ากลัวเช่นนั้นเป็นเวลาห้าวัน

 

แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มันก็ทําให้พวกเขาขนลุกไปทั้งตัวแล้ว

 

“รอต่อไป!”

 

ผู้ชมจํานวนมากห้อมล้อมรอบด้านนอกห้อง

 

ขณะที่ฝูงชนเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นแต่พวกเขาก็ยังรอต่อไป ศูนย์ควบคุมของวิทยาลัยสูญเสียการควบคุมทันที ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเหล่าพนักงานรู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อพบว่าพลังงานภานในห้องบ่มเพาะของวิทยาลัยลดลงอย่างรวดเร็ว!

 

มันเป็นอัตราที่น่าเหลือเชื่อมากๆ!

 

ทรัพยากรที่มีอยู่ในห้องบ่มเพาะนั้นหมดไปนานแล้วและตอนนี้ห้องนั้นกําลังได้รับการสนับสนุนจากทรัพยากรที่มีไว้สําหรับระบบอื่นๆ ทุกสถานที่ที่ต้องการพลังงานภายในวิทยาลัยขณะนี้อยู่ในสภาพไร้แสง

 

“เป็นไปได้อย่างไร”

 

เหล่าพนักงานร้องอุทาน

 

หลังจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ด้วยการฝึกฝนของซูฮ่าว ทางวิทยาลัยได้ปรับปรุงห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งจนสมบูรณ์และปรับเป็นโหมดการบ่มเพาะแบบไม่สิ้นสุดด้วยการแบ่งปันทรัพยากร แล้วมันจะยังคงหมดไปได้อย่างไร?

 

“ความผิดปกติ้งั้นหรอ?”

 

นี่เป็นปฏิกิริยาแรกของเขา เพราะมันแปลกมากเกินไป!

 

ภายในห้องบ่มเพาะปลูกมีทรัพยากรกชนิด! แต่พวกมันเกือบทั้งหมดถูกดูดซับไป มันเป็นไปได้อย่างไร? โอ้…ไม่สิไม่เพียงแต่มันถูกใช้จนหมดทรัพยากรจากระบบอื่นๆ ภายในวิทยาลัยยังถูกนํามาใช้ด้วย! หลังจากแก้ไขปัญหาและตรวจสอบแล้วเหล่าพนักงานก็สับสน

 

หลังจากตกตะลึงมานาน เขาก็พูดขึ้น “สิ่งประหลาดนี้คืออะไร”