ตอนที่ 581 ทดสอบพิษ / ตอนที่ 582 อร่อยก็กินมากๆ

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ตอนที่ 581 ทดสอบพิษ 

 

 

 

 

 

“ดี” หลิงอ๋องพยักหน้า “พ่อกำลังหิวอยู่พอดี” 

 

 

“เชิญเสด็จพ่อเพคะ” อวี้อาเหรายื่นชามที่มีเนื้อที่ย่างสุกแล้วให้หลิงอ๋อง เขารีบชิมในทันที แล้วก็รู้สึกชื่นชมนัก กินไปได้ไม่กี่คำก็ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “เนื้อนี่ไม่เลวเลย เจ้าทำอย่างไรกัน เหตุใดจึงไม่เหมือนกับที่กินยามปกติ ก่อนหน้านี้พ่อก็เคยกินเนื้อย่างมาก็มาก แต่ก็ไม่ได้หลากรสเท่าเนื้อพวกนี้ นี่ก็เหมือนอาหารล้ำค่าไม่มีผิด” 

 

 

“ทูลเสด็จพ่อ” อวี้อาเหราอธิบาย “ที่เนื้อนี้อร่อยเพราะเครื่องปรุงรส ซึ่งเป็นเครื่องปรุงที่ลูกตั้งใจปรุงอย่างดี ดังนั้นจึงได้อร่อยเช่นนี้เพคะ และยิ่งทุกคนนั่งล้อมวงทานร่วมกันเช่นนี้ ทำให้จิตใจเบิกบาน จึงทำให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น ที่จริงแล้ววัตถุดิบก็ธรรมดาทั่วไป แต่เป็นเพราะจิตใจยามที่ทานต่างหากเพคะ” 

 

 

“ที่เจ้าพูดมาก็ฟังดูมีเหตุผล” หลิงอ๋องเห็นด้วยเต็มที่ “วันนี้จื้อเอ๋อร์กลับมาแล้ว พ่อก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ กินอะไรก็รู้สึกอร่อยไปเสียหมด” 

 

 

จากนั้น อวี้อาเหราก็หันไปทางสามแม่ลูกที่ยืนอยู่ เห็นอวี้จื้อยื่นหน้าเข้าไปมองสำรวจเนื้อย่าง 

 

 

เช่นนั้นมุมปากนางจึงยกโค้งขึ้น แล้วจึงยื่นเนื้อย่างไปให้เขา ยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าอยากลองชิมสักหน่อยหรือไม่” 

 

 

“ดียิ่งนัก ขอบคุณพี่รองมาก” อวี้จื้อไม่พูดอะไรมาก รับเนื้อย่างมาแล้วเตรียมจะกิน ทว่าอนุรองก็ขวางเขาไว้ จ้องมองอวี้อาเหราอย่างไม่ไว้ใจ เพราะไม่เชื่อว่านางจะใจดีถึงเพียงนี้ กลัวว่านางจะมีลูกไม้อะไรขึ้นมาอีก 

 

 

อวี้จื้อเปรียบเหมือนเสาหลักสุดท้ายที่พวกนางสามารถยึดถือได้ แน่นอนว่าพวกนางจะสะเพร่าไม่ได้เป็นอันขาด 

 

 

อวี้อาเหรายกยิ้ม “อนุรองห้ามน้องสามด้วยเหตุใดหรือ” 

 

 

ทันทีที่พูดออกไปนั้น สายตาของคนทั้งหมดก็มองไปที่ร่างของนาง เมื่อเห็นสายตาประเมินค่าของหลิงอ๋องแล้ว อนุรองขึ้งรีบพูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก “หม่อม…หม่อมฉันเพียงอยากลองดูบ้างเพคะ” 

 

 

“ที่แท้อนุรองก็อยากกินหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็ให้อาเหราแบ่งให้เถิด เหตุใดจะต้องไปห้ามน้องสามด้วยเล่า หากไม่รู้คงคิดว่าอนุรองเกรงกลัวอะไรเสียแล้ว” เมื่อวี้อาเหราพูดออกมาเช่นนี้ แม้ว่าจะฟังดูไม่ซับซ้อน แต่ก็สามารถทำให้คนฟังรู้สึกแปลกๆ ได้ 

 

 

กลัวหรือ? กลัวอะไรกัน กลัวว่าเนื้อย่างของอวี้อาเหราจะมียาพิษเช่นนั้นหรือ 

 

 

คนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่ฉลาดเฉลียว ไหนเลยจะไม่เข้าใจ ทว่าก็พากันปิดปากเงียบไม่พูดจา เพื่อดูว่าอนุรองจะรับมืออย่างไร 

 

 

น้ำเสียงของอนุรองเริ่มสั่นไหว “ที่นี่ยังมีพวกท่านอ๋องน้อยอยู่อีก ข้าน้อยกินกับจื้อเอ๋อร์ก็ได้ หากมีไม่พอจะไม่ดี จื้อเอ๋อร์ รีบเอามาให้แม่ชิมหน่อยเร็ว” 

 

 

นางไม่ควรจะมีท่าทีสงสัยอะไรมาก หากพูดเรื่องวางยาพิษต่อหน้าทุกคน แน่นอนว่าต้องเท่ากับรนหาที่ตาย 

 

 

แต่ใครจะรู้เล่าว่าอวี้อาเหราต้องการที่จะรนหาที่ตายให้นางหรือไม่ มิเช่นนั้นจะใจดีเช่นนี้ได้อย่างไร 

 

 

อีกอย่าง หากว่าเป็นยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าเล่า ต่อไปจะมีใครจับได้หรือว่าเป็นฝีมือของอวี้อาเหรา 

 

 

ลูกชายคนนี้ของนางไม่ควรได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น หากในเนื้อย่างนี่มียาพิษ นางก็จะลองชิมเสียก่อน 

 

 

อวี้จื้อได้ยินเช่นนั้นก็ส่งให้ทันที อนุรองลังเลอยู่บ้าง ผ่านไปนานก็ยังไม่ยอมชิมเสียที 

 

 

อวี้อาเหราพูดขึ้นมาว่า “อนุรองไม่อยากกินหรือ ลองรีบชิมดูเถิด ดูสิว่ารสชาติเป็นอย่างไร” 

 

 

“ข้า…ข้าน้อยเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้ข้าน้อยมีครรภ์ คงไม่อาจลองชิมได้แล้วเจ้าค่ะ” อนุรองหาข้อแก้ตัวได้ทันท่วงที 

 

 

อวี้อาเหรารีบส่ายหน้าในทันที “อนุรองวางใจเถิด นี่ไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์เลย มิน่าเล่าอนุรองถึงได้ดูลังเลใจเหลือเกิน คงเพราะกลัวว่าจะไม่สบายใช่หรือไม่? อย่างนั้นก็เรียกหมอมาตรวจชีพจรเถิด เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการทำร้ายเด็กทารกในครรภ์” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 582 อร่อยก็กินมากๆ 

 

 

 

 

 

หลิงอ๋องขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกังวลใจ “อาเหราพูดได้ไม่เลว หากเจ้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย เราก็จะให้คนไปเรียกหมอมาดูอาการ อย่างไรก็ไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นได้แน่” 

 

 

“ไม่…ต้องต้องหรอกเพคะท่านอ๋อง” อนุรองรีบปฏิเสธ หากจะให้หมอมาดูอาการจริงๆ ก็เท่ากับนางหาเรื่องไม่อยากกินเนื้อย่างที่อวี้อาเหราทำใช่หรือไม่? ใครกันจะดูไม่ออกบ้าง เช่นนั้นนางต้องไม่เปิดเผยให้เห็นถึงลูกไม้อะไร 

 

 

เมื่อเห็นเนื้อย่างที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า นางจึงจำต้องยื่นมือออกไปหยิบตะเกียบขึ้นมา เงยหน้าขึ้นไปมองอวี้อาเหราว่านางจะมีท่าทีอย่างไร เห็นว่านางมีสีหน้าแย้มยิ้มน้อยๆ เช่นเดิม อนุรองก็กัดฟันแน่น ก่อนจะอ้าปากกัดเนื้ออย่างระมัดระวัง 

 

 

อวี้อาเหราถามขึ้นยิ้มๆ “อนุรอง อร่อยหรือไม่” 

 

 

“อร่อย” อนุรองถูกทุกคนจ้องมองมาเป็นสายตาเดียว จึงจำต้องกลืนเนื้อที่อยู่ในปากลงไป รสชาตินั้นไม่เลวเลย แต่เมื่อกินลงไปแล้วก็รู้สึกตกใจ ใครจะคิดว่าอวี้อาเหราจะซ่อนความสามารถเช่นนี้เอาไว้ แต่หลังจากกินไปนานแล้วก็ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ในเมื่อเป็นเนื้อย่างที่ทุกคนบอกว่าอร่อย ก็คงจะไม่มีพิษหรอกกระมัง? 

 

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็วางใจลงอย่างมาก 

 

 

อวี้อาเหรายิ้มรับ “ในเมื่ออนุรองบอกว่าอร่อย เช่นนั้นก็กินมากๆ เถิด ได้ยินมาว่าทุกวันนี้อนุรองกินแต่ยาบำรุงครรภ์ คงจะกินของคาวเช่นนี้ไม่ค่อยลง แต่ก็วางใจได้ เนื้อนี่ไม่มีความคาวเลยแม้แต่น้อย กินมากๆ จะได้เป็นการบำรุงเด็กในท้อง ต่อไปร่างกายจะได้แข็งแรง” 

 

 

“ขอบคุณคุณหนูรองที่ใส่ใจ” ยามที่อนุรองมองไปทางอวี้อาเหรา สายตาของนางก็ซ่อนแววอำมหิตไว้ 

 

 

หลังจากที่อวี้อาเหราแกล้งอนุรองจนพอใจแล้ว นางก็นั่งลงข้างเตาไฟ ตบที่นั่งข้างๆ ตัว แล้วพูดกับอวี้จื้อว่า “น้องสาม มานั่งกินด้วยกันสิ” 

 

 

“ขอรับ พี่รอง” อวี้จื้อยัดถ้วยที่มีเนื้อย่างอยู่สองสามชิ้นใส่มืออนุรอง จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ อวี้อาเหราแล้วเริ่มกิน 

 

 

อนุรองและอวี้จื่อเยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ค่อยยินดีเท่าไรนัก แต่เมื่อเห็นหลิงอ๋องกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย เช่นนั้นก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดขึ้นมา 

 

 

หลังจากผ่านไปสักครู่ อวี้อาเหราก็ทำราวกับได้สติขึ้นมา หันกลับไปหาอนุรองและอวี้จื่อเยียน “พวกท่านก็มากินด้วยกันสิ” 

 

 

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” พวกนางเอ่ยปฏิเสธพร้อมๆ กัน 

 

 

แต่เดิมพวกนางก็ไม่ถูกกับอวี้อาเหราอยู่แล้ว ไหนเลยจะวิ่งเข้าใส่เนื้อย่างที่นางทำกันเล่า ไม่รู้ว่าเนื้อย่างนี้เป็นของสดใหม่หรือไม่ กลัวว่าอีกสักครู่ท้องจะเสียเอา 

 

 

แต่เมื่อเห็นอวี้จื้อที่กำลังนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองก็นิ่งเงียบไป 

 

 

หลิงอ๋องกล่าวขึ้นมาว่า “หากพวกเจ้าไม่กินก็นั่งลงดื่มชาเถิด อีกสักครู่เราถึงจะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนจื้อเอ๋อร์และพวกเจ้า หรือหากเมื่อครู่นี้พวกเจ้าเดินจนเหนื่อย ก็กลับไปพักที่ห้องเถิด”  

 

 

“หม่อมฉันไม่เหนื่อยเพคะ จะรออยู่ที่นี่เพคะ” อนุรองได้ยินหลิงอ๋องพูดว่าอีกสักครู่จะไปเดินเล่นด้วยกัน เช่นนั้นก็เปลี่ยนจากอารมณ์ไม่ดีกลายเป็นยินดี ไหนเลยนางจะปล่อยโอกาสที่ดีเช่นนี้ให้หลุดมือไปได้ เช่นนั้นจึงปล่อยให้สาวใช้พยุงพาไปนั่งลงเก้าอี้ แล้วจึงดื่มชาเพื่อมองพวกเขากินเนื้อย่าง 

 

 

มองไปมองมา ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ ดูไปแล้วก็น่าอร่อยยิ่งนัก 

 

 

กลุ่มคนพากันนั่งล้อมวงกินเนื้อย่างไม่วางมือ แต่ชิงอวิ๋นที่เป็นคนหั่นนั้นดูจะลำบากอยู่บ้าง ยิ่งมีคนมาเพิ่มมากถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าคงไม่พอกิน ต้องโทษที่เขามีเพียงสองมือ หากหั่นช้า คนกินก็กินหมดไปเสียแล้ว 

 

 

ในยามนี้เอง จวินอู๋เหินที่นั่งอยู่ข้างๆ อวี้อาเหราก็ค่อยๆ เข้าไปใกล้นาง แล้วพูดเสียงแผ่วเบาให้เป็นเสียงหัวเราะที่ได้ยินกันเพียงสองคนก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า…