การทำความดีเป็นสิ่งที่ไร้มนุษยธรรมเช่นเดียวกับการเป็นคนชั่วโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดเป็นเพียงโทนสีเทาที่ถูกกำหนดขึ้น
ในที่สุดทริสตันต้องเผชิญกับสองทางเลือกอีกครั้ง ระหว่างฆ่ากลุ่มมนุษย์ที่สวมชุดเกราะโลหะขนาดใหญ่อยู่ตามคำสั่งของก็อบลิน หรือการปล่อยให้กลุ่มมนุษย์เหล่านั้นทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการกับก็อบลิน
“ เจ้ากำลังยืนทำอะไรอยู่? ทำไมไม่ฆ่าพวกมันให้หมด! “ เคอร์แซคตะโกนใส่ทริสตันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบสนองต่อคำสั่งของมัน
สิ่งประหลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับทริสตัน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามันสามารถครอบงำมนุษย์ธรรมดาได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับเขาแล้วในตอนนี้เขาแค่ต้องการมุ่งเน้นไปที่คนสำคัญของเขาเท่านั้น
ทริสตันก้มหัว และจ้องไปที่ก็อบลินด้วยความโกรธแค้น
“ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องสาวของฉันยังมีชีวิตอยู่! “
“ ชิปพวกนั้นต้องพังแล้วแน่ๆ เจ้ากล้าตั้งคำถามกับข้าได้อย่างไร? “ เคอร์แซครีบตะโกนกลับ
ผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง ก็อบลินจึงยอมจำนนต่อทริสตัน
“ ก็ได้! ในขณะนี้ข้าสนใจแต่ตัวของเจ้า นั่นหมายความว่าข้าไม่มีเวลาไปสนใจผู้ถูกเลือกคนอื่น! พวกเขายังคงอยู่ในห้องขังที่เจ้าเคยอยู่ก่อนหน้านี้! ”
“ เอาล่ะ ฆ่ามนุษย์พวกนั้นซะ ถ้าเจ้าต้องการพบน้องสาวของเจ้าอีก! ” เคอร์แซคพูดอีกครั้ง และถอนหายใจออกมาอย่างแรง
ทริสตันจ้องมองไปยังกลุ่มมนุษย์ที่สวมชุดเกราะ พวกเขามีอาวุธครบมือที่พร้อมต่อสู้ แต่น่าแปลกที่นั่นไม่ได้ทำให้ทริสตันเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงทริสตันไม่ได้มีความตั้งใจที่จะฆ่ามนุษย์เหล่านั้น แม้พวกเขาจะโจมตีทริสตันจนเกือบจะก้าวเข้าสู่ความตายก็ตาม
แน่นอนทริสตันไม่มีทางให้ก็อบลินเอาเปรียบเขาได้อย่างง่ายๆ ในตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจเหนือกว่า และมีอำนาจต่อรองกับก็อบลิน ทริสตันกวาดสายตาไปยังรอบๆโดม ในตอนนี้มีออร์ก และก็อบลินเหลืออยู่ไม่มากนัก มันเป็นไปได้ที่ยังคงมีออร์กอยู่ในบริเวณรอบๆ นั่นทำให้ทริสตันสงสัยว่าในตอนนี้มีออร์กกี่ตนที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เมื่อหัวหน้าของพวกมันถูกควบคุมตัว
ทริสตันเงียบไปครู่หนึ่งเขากำลังคำนวณความเสี่ยง และผลลัพธ์ของทั้งสองทางเลือก ไม่นานในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ระหว่างการทำตามคำสั่งของเคอร์แซคในการฆ่ามนุษย์เหล่านั้น หรือปล่อยให้มนุษย์เหล่านั้นควบคุมตัวเคอร์แซคไป ทริสตันเลือกทางเลือกที่สาม ซึ่งนั่นเป็นทางเลือกที่เขาสร้างขึ้นมาเอง
ทริสตันเอื้อมไปคว้าคอเคอร์แซค และดึงตัวของมันออกจากแท่นบินกลไกทันทีในขณะที่มันไม่สามารถขัดขืนเขาได้
“ เจ้าต้องพาข้าไปพบพวกเขาก่อน หลังจากที่ข้าแน่ใจว่าน้องสาวของข้าปลอดภัยแล้ว ข้าจะช่วยเจ้าเอง เจ้าต้องทำตามข้า! ”
เคอร์แซคตกใจกับคำพูดของทริสตันก่อนที่ความโกรธจะเข้ามาแทนที่ “ อ๊ากกกกก!!! เจ้ากล้าดียังไงมายื่นข้อเสนอกับข้า! แค่คำเดียวจากข้าก็สามารถทำให้น้องสาวเจ้าตายในทันที! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! ”
เมื่อเคอร์แซคพูดจบทริสตันดึงหน้าของมันเข้ามาใกล้เขาในทันที เขาจ้องตาเคอร์แซคอย่างเขม็ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ ตราบใดที่น้องสาวของข้าปลอดภัย ข้าจะปกป้องเจ้าจากคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน เจ้าจะทำตามข้าไหม? ”
ก็อบลินเริ่มหายใจหอบเมื่อทริสตันไม่ปล่อยมือง่ายๆ “ หึ! … ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้ยังไง!? ”
“ เพราะนั่นคือคำพูดของข้า! .. ไม่ใช่คำพูดที่ออกจากปากเจ้า! “
ในตอนนี้สายตาของทริสตันกำลังเล็งไปที่เป้าหมายต่อไปของเขา ประตูบานใหญ่ที่เขาเคยถูกพาตัวเข้าไปยังห้องหลังประตูนั้น ซึ่งนั่นคือห้องที่นักโทษทั้งหมดของเคอร์แซคอยู่ในตอนนี้ ทริสตันพุ่งตัวเข้าไปที่ประตูบานนั้นอย่างรวดเร็วโดยที่ก็อบลินยังคงอยู่ในมือของเขา
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทริสตันจะเข้ามาใกล้ประตู สาวกอวกาศหญิงที่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้หยุดอยู่ตรงหน้าเขา และขวางทางไว้
“ หยุดเดี๋ยวนี้!! .. คุณไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้น! “ สาวกอวกาศหญิงกล่าว ขณะที่กำลังขวางประตู
“ ถอยไป!! “ ทริสตันรีบตะโกน
เมื่อสังเกตได้ว่าทริสตันยังคงไม่หยุด สาวกอวกาศหญิงรีบใช้พลังของเธออกมาในทันที สายฟ้าหลายลูกพุ่งออกมาจากอากาศอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าหาทริสตัน
[สายฟ้าฟาด]
โชคร้ายที่ทริสตันใช้เคลย์มอร์ของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีได้ ด้วยความก้าวหน้าของเขา ทริสตันจึงสามารถเหวี่ยงดาบขนาดใหญ่ด้วยมือเดียวได้อย่างง่ายดาย
“ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนคุณผู้หญิง .. !! “ ทริสตันพูดพลางเหวี่ยงดาบไปยังสาวกอวกาศหญิงควบคู่ไปกับพลังที่เขาค้นพบใหม่ คมดาบสร้างเสียงทะลุกลางอากาศ
ปัง!!!!!
เสียงดังขึ้นเมื่อมันปะทะเข้ากับสาวกอวกาศหญิง คมดาบฟันเข้ากับบาเรียพลังงานบางอย่าง แต่ไม่นานบาเรียทุกฟันแตกอีกครั้ง ใบหน้าของสาวกอวกาศหญิงซีดอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนั้นทริสตันเหลือบเห็นชายคนหนึ่งกำลังถือค้อนยักษ์วิ่งเข้ามาหาเขาจากด้านหลัง เขาไม่ต้องการเสียเวลากับมนุษย์เหล่านี้อีกต่อไป จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าน้องสาวของเขาจะปลอดภัยดี
ทริสตันตัดสินใจเหวี่ยงดาบของเขาไปทางหญิงสาวที่กำลังถอยหลบอีกครั้ง เขาเหวี่ยงดาบในระดับต่ำลง ทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้นขณะที่ขาทั้งสองของเธอได้ขาดลง สาวกหญิงอวกาศกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ทริสตันไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป เขาพุ่งไปข้างหน้าเพื่อไปยังประตูบานใหญ่อีกครั้ง
ชั่วขณะหนึ่งทริสตันคิดในใจว่า บาดแผลที่ผู้หญิงได้รับน่าจะทำให้คนเหล่านั้นหยุดชะงักการโจมตีเขาได้ และชัดเจนว่าทริสตันพูดถูก สมาชิกคนอื่นๆ และกัปตันตัดสินใจรักษาบาดแผลของผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะไล่ตามเขา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหมดไป ออร์กจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งเข้าโจมตีทริสตัน เมื่อเห็นว่าหัวหน้าของพวกมันกำลังถูกจับเป็นตัวประกัน
ทริสตันเร่งความเร็วในการเคลื่อนที่ เขาเดินเข้าไปในห้วงของความมืด หลังจากเคลื่อนที่ผ่านห้องต่างๆ นับไม่ถ้วน ในที่สุดเขาก็พบประตูเหล็กที่คุ้นเคย เขากระโดดขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะหมุนและส่งแรงไปที่ประตูเหล็กในทันที
ปัง!!!
ประตูถูกเปิดออกอย่างบิดเบี้ยว ทริสตันเห็นน้องสาวของเขาอยู่ท่ามกลางกลุ่มมนุษย์ที่อยู่ในอาการตกใจ
“ เลห์ลา “