ตอนที่ 394 พวกมือไม้พายเอาเท้าราน้ำ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ผู้คนในโลกออนไลน์ส่วนใหญ่ต่างตกใจกับเรื่องราวเหลือเชื่อนี้ ถังซีไม่คาดคิดว่าสวีฟังจะไร้ยางอายขนาดนั้น! หล่อนไม่สมควรได้รับความรักจากพี่ชิงอวี่! พี่ชิงอวี่ผู้น่าสงสารต้องสูญเสียแม้กระทั่งชีวิตเพราะคนแบบนี้!

 

 

แฟนคลับสวีฟังที่ด่าและโจมตีถังซีในไมโครบล็อกหายไปทันที ถังซีพบว่าความคิดเห็นร้อนแรงที่โจมตีเธอถูกลบไปแล้ว และบางคนถึงกับขอโทษเธอในไมโครบล็อกของเธอ โดยบอกว่าพวกเขาไม่รู้สันดานที่แท้จริงของสวีฟังมาก่อน…

 

 

ถังซีดีใจที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมืออันน่าทึ่งนี้ เธอยิ้มและเผยแพร่ข้อความอีกครั้ง ‘ก้าวทีละก้าว ฉันคิดว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะประสบความสำเร็จ ไม่มีใครในโลกสามารถไปถึงท้องฟ้าได้ในการก้าวกระโดดเพียงก้าวเดียว นับประสาอะไรกับการใช้กลอุบายสกปรก’

 

 

ข้อความของเธอดึงดูดความสนใจอย่างมากในทันที หลายคนที่คาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าทำไมเธอกับสวีฟังถึงได้กลายเป็นศัตรูกัน ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทั้งสองฝ่ายแตกหักกันเพราะสวีฟังแสวงหาชื่อเสียงเงินทองด้วยวิธีสกปรก และถังซีไม่ชอบวิธีการนี้

 

 

คนในโลกออนไลน์จำนวนมากบอกว่า เอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์โชคดีที่ยกเลิกสัญญากับสวีฟังไปแล้ว หากยังไม่ยุติสัญญา บริษัทจะต้องได้รับผลกระทบอย่างมากจากเรื่องอื้อฉาวของสวีฟัง…

 

 

เมื่อเห็นว่าความคิดเห็นของสาธารณชนกลับกลายมาอยู่ข้างเธอ ถังซีก็ยิ้ม วางโทรศัพท์ลง และเริ่มทานอาหารเช้าโดยกล่าวว่า “ฉันคิดว่าเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์อาจได้รับผลกระทบเสียหายจากเรื่องอื้อฉาวนี้ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะกังวลมากเกินไป”

 

 

 

 

ในเวลานี้เหล่าผู้บริหารอาวุโสของเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์กำลังตกอยู่ในความโกลาหล ไม่มีใครคาดคิดว่าสวีฟังจะทำเรื่องแบบนี้! หนึ่งนาทีก่อนที่จะมีรายงานเรื่องอื้อฉาว พวกเขายังคงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ท่านประธานต่อสัญญากับสวีฟัง เพราะคิดว่าจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ หากเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์จะต้องสูญเสียสวีฟัง ดาราชื่อดังที่มีแฟนคลับมากมายในประเทศจีน และกำลังปลื้มปริ่มกับอนาคตอันสดใส แต่ตอนนี้เรื่องอื้อฉาวได้ทำลายอาชีพเธอลงแล้วโดยสิ้นเชิง…

 

 

ผู้กำกับคนหนึ่งดูคลิปวิดีโอด้วยสีหน้าเข้มอย่างเดือดดาล “สวีฟังทำบ้าอะไร! ผมอุตส่าห์ลงทุนสร้างละครทีวีให้เธอ! เธอทำแบบนี้ได้ยังไง!”

 

 

“คุณลงทุนสร้างละครทีวีให้เธองั้นหรือ” ผู้กำกับอีกคนกล่าวด้วยท่าทางเกลียดชัง “เพื่อให้เธอยังอยู่กับเรา ผมลงทุนใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวและเงินเป็นจำนวนมาก ทำให้เธอได้รับบทบาทสำคัญถึงสองเรื่อง ตอนนี้ฝ่ายโน้นปฏิเสธไม่เอาเธอแล้ว และไม่คืนเงินให้ผมด้วย!”

 

 

“ผมคิดว่าผมเป็นคนที่น่าเห็นใจที่สุด!” ผู้กำกับอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เธอบอกว่าอยากเข้าสู่วงการฮอลลีวูด และสัญญากับผมว่าเธอจะให้เงินครึ่งหนึ่งที่เธอได้รับแก่ผม ถ้าเธอทำสำเร็จ ผมจึงพยายามเต็มที่ในการติดต่อผู้กำกับฮอลลีวูดให้เธอ ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าผมอยู่เบื้องหลังเธอ และผมให้ความมั่นใจกับทุกคนไปแล้วว่าสวีฟังจะมีอนาคตที่สดใส! แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ บัดซบที่สุด ผู้หญิงสำส่อนคนนี้ทำให้ผมตกที่นั่งลำบากหนักเลย!”

 

 

สมาชิกฝ่ายบริหารทุกคนมีท่าทางโกรธและหงุดหงิด ผู้ช่วยถังซีเฝ้าดูสถานการณ์นี้อยู่เงียบๆ เธอเม้มริมฝีปาก แล้วลุกขึ้นกล่าวอย่างใจเย็น “พวกคุณจะกังวลไปมากมายทำไมล่ะคะ ถึงสวีฟังจะต้องถูกจับเข้าคุกอย่างแน่นอน แต่เธอก็มีเงินเก็บ พวกคุณฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเธอได้นี่คะ ยังไงซะเธอก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทไหน และจะไม่มีใครให้การสนับสนุนเธออีกต่อไปในวงการบันเทิง…”

 

 

คนอื่นๆ หันมาสบตากับผู้ช่วยถังซี กรรมการบริหารคนหนึ่งลุกขึ้น มองหน้าผู้ช่วยอย่างเคร่งเครียดขณะกล่าวว่า “ผู้ช่วยหวัง โปรดช่วยพูดถึงพวกเราในแง่ดีๆ ให้ท่านประธานถังฟังด้วยเถอะนะ เราโง่เกินกว่าจะมองออกว่าสวีฟังเป็นคนแบบไหน โชคดีที่ท่านประธานถังยืนกรานที่จะไม่ต่อสัญญากับสวีฟัง และประกาศว่าบริษัทของเราได้ยกเลิกสัญญากับเธอแล้ว ไม่งั้นเราคงต้องเผชิญความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่านี้แน่”

 

 

ผู้ช่วยหวังเลิกคิ้ว มองไปยังกรรมการท่านอื่นๆ ที่พยักหน้ากันหงึกหงัก และตอบว่า “ใช่แล้วค่ะ ท่านประธานถังเป็นคนที่มีสายตาเฉียบคมมาก ขอบคุณที่เธอทำให้บริษัทของเรารอดพ้นจากเรื่องอื้อฉาวนี้ ไม่อย่างนั้นพนักงานคนอื่นๆ ในบริษัทเราก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน และอาจมีหลายคนบอกเลิกสัญญากับเรา พวกเราวิสัยทัศน์สั้นมาก ที่พยายามรักษาสวีฟังไว้ เราจะโทรหาท่านประธานถังเพื่อขอโทษในภายหลังค่ะ”

 

 

ผู้ช่วยหวังกวาดตามองพวกเขา นัยน์ตาเธอมีประกายถากถาง ตอนที่เธอกำลังจะออกประกาศเรื่องสัญญากับสวีฟัง ตามที่ท่านประธานถังสั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา คนพวกนี้ขู่เธอว่าถังซีจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้อย่างแน่นอน และพวกเขาไม่เห็นด้วย! เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็เปลี่ยนสีเสียแล้วตอนนี้! ช่างเป็นพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำจริงๆ!

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงสิ่งที่ถังซีบอกกับเธอ ผู้ช่วยก็ยิ้มออกมา “ท่านประธานถังไม่เพียงแต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเอ็มไพร์กรุปเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมถึงเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ด้วย ท่านกล่าวว่าในฐานะนักธุรกิจ ท่านจะไม่มีวันยอมขาดทุน และท่านตระหนักดีว่าใครควรจะอยู่ ใครควรจะไป ตอนนี้พิสูจน์ได้แล้วว่าท่านพูดถูกเกี่ยวกับสวีฟัง ท่านหวังว่าพวกเราจะสนับสนุนการตัดสินใจใดๆ ของท่านในอนาคต โดยไม่ขัดขวางอีกนะคะ”

 

 

ทันทีที่เธอกล่าวเช่นนี้ กรรมการทุกคนก็พยักหน้าด้วยความกระดากอาย “แน่นอน พวกเราทุกคนรู้ดีว่าท่านมีความสามารถแค่ไหน! เราจะสนับสนุนการตัดสินใจของท่านในอนาคตอย่างเต็มที่”

 

 

“ใช่ เราเชื่อมั่นในความสามารถของท่าน ตั้งแต่ท่านได้เริ่มพัฒนาเอ็มไพร์กรุปมาจนถึงปัจจุบันนี้ เราจะสนับสนุนท่านประธานถังของเราอย่างแน่นอน”

 

 

ผู้ช่วยหวังยิ้ม “ดีค่ะ ฉันจะแจ้งให้ท่านประธานถังทราบ ตอนนี้ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

 

 

 

 

ทางอีกด้านหนึ่ง ฉินซินหยิ่งซึ่งกำลังอ่านข่าวโมโหมาก เธอกระแทกแก้วในมือลงกับพื้นอย่างแรงด้วยสีหน้าเข้มจัด เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับจะกินคนได้ทั้งเป็นขณะคำราม “สวะ! หล่อนมันแค่เศษสวะ! หล่อนไม่ได้แค่ถูกเหยียดหยาม แต่ถังซีเหยียบหล่อนจมดิน!”

 

 

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอมองดูชื่อผู้โทร และเห็นว่าสายนี้มาจากหมายเลขในปารีสที่เธอไม่รู้จัก เธอขมวดคิ้วขณะรับสาย “นั่นใครคะ”

 

 

“คุณฉินซินหยิ่งใช่ไหม” น้ำเสียงนิ่งเรียบดังเข้ามา

 

 

ฉินซินหยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด และทันใดนั้นก็รู้สึกมีลางสังหรณ์บางอย่าง เธอเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “คุณฉินไม่อยู่ค่ะ นั่นใครคะ”