ตอนที่ 325 นายห้ามนอนกรน + ตอนที่ 326 พี่หมิงซุ่นใส่เครื่องแบบทหารดูดีมาก โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 325 นายห้ามนอนกรน
จ้าวอิงหนานจ้องเขม็งไปทางพ่อสยงอย่างไม่สบอารมณ์ เธอหันไปด่าเฮ่อเหวินจิ้ง “ร้องไห้ทำไม? ตอนนี้จะร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ควรทำตั้งแต่แรกหรือเปล่า?”
อู่เหมยหดคอลง ขยับไปเข้าชิดสยงมู่มู่ที่อยู่มุมกำแพง เธอกะพริบตาดวงน้อย เธอนับถือจ้าวอิงหนานเป็นอย่างมาก
“แม่บุญธรรมช่างเก่งจริงๆ ฉันต้องเรียนรู้กับแม่บุญธรรมซะแล้ว!”
อู่เหมยรู้สึกว่าตัวเธอเองไม่ค่อยมีประโยชน์ หากเธอสามารถเก่งได้ครึ่งหนึ่งของจ้าวอิงหนาน ไหนเลยจะยังต้องกลัวเหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยอีก?
สยงมู่มู่ทำเสียงฮึดฮัดอย่างเหยียดหยาม เขากระซิบ “โง่ๆ อย่างเธอ ตลอดชีวิตอย่าได้คิดว่าจะเรียนรู้ทักษะนี้ได้ แม่ของฉันไม่ธรรมดา”
อู่เหมยเบ้ปากด้วยความโกรธที่โดนดูถูก ต่อไปเธอจะต้องทำให้ไอ้คนนี้เปลี่ยนมุมมองใหม่ ฮึ!
จ้าวอิงหนานไม่ได้ด่าทอเฮ่อเหวินจิ้งอีก เธอครุ่นคิดแล้วพูด “คืนนี้เธอไม่ต้องกลับที่พักของเธอ อยู่ที่บ้านพี่นี่แหละ พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปทำงาน พรุ่งนี้พี่จะลาให้เธอเอง ไม่สิ ต่อไปนี้เธอไม่ต้องทำงานแล้ว น้าเฮ่อโทรหาฉันพอดี บอกว่าจะให้เธอกลับเมืองหลวง พี่ว่าเธอถือโอกาสนี้กลับไปเร็วหน่อยก็ดีนะ”
“ไม่ พี่หนานคะ ฉันบอกกับหัวหน้าเรียบร้อยแล้ว ฉันจะสอนจนจบเทอมนี้ ถ้าตอนนี้ฉันไปกะทันหัน นักเรียนของฉันจะทำยังไง? พี่คงจะไม่ปล่อยให้ฉันเป็นคนไม่น่าเชื่อถือหรอกนะ!”
เฮ่อเหวินจิ้งน้ำตาคลอเบ้าเงยหน้าขึ้นมามองจ้าวอิงหนานด้วยสีหน้าหนักแน่น
จ้าวอิงหนานก็ลังเลเช่นกัน เธอเป็นห่วงเฮ่อเหวินจิ้งจริงๆ ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้น เธอก็ไม่มีหน้ากลับไปที่เมืองหลวง แต่หากทำงานที่นี่ก็มีปัญหา เธอทิ้งภาระหน้าที่กลางคันไม่ได้แน่นอน
“เธอจะตัดขาดกับผู้ชายคนนั้นจริงไหม? จ้าวอิงหนานถาม
เฮ่อเหวินจิ้งยิ้มอย่างดูแคลนตัวเอง “ฉันคิดดีแล้วล่ะ รอให้เทอมนี้เสร็จสิ้น ฉันต้องกลับเมืองหลวง และก็จะไม่กลับมาเมืองจินอีกแล้ว”
“หวังว่าเธอพูดแล้วคงจะทำได้นะ ผ่านพรุ่งนี้ไปเธอค่อยไปทำงาน อาหญิงของเหมยเหมย พี่จะไปจัดการเอง แต่ต่อไป หากว่าเธอยังมีเยื่อใยกับผู้ชายคนนั้นอยู่ ฉันจะโทรบอกน้าเฮ่อทันที ให้แม่ของเธอมาสั่งสอนเธอเอง”
จ้าวอิงหนานสีหน้าเย็นชา ในแววตามีทั้งความเกลียดชัง เสียใจ และก็ความปวดใจ ถ้าเฮ่อเหวินจิ้งไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่เกรงใจอย่างนี้ ป่านนี้เธอคงตบไปสักฉาดตั้งนานแล้ว และก็ไม่พูดอะไร ต้องทำให้คนมีสติเสียก่อน
เฮ่อเหวินจิ้งได้แต่พยักหน้า เธอไม่กล้าต่อต้านสักนิด ถึงแม้ในใจจะอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไป แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ต่อไปก็ไม่ต้องทนกับความรู้สึกผิดในใจอีกต่อไป และยังสามารถออกไปข้างนอกได้อย่างสง่าผ่าเผย!
อู่เหมยถือโอกาสนี้พูดขึ้นมาว่าจะกลับไปนอนที่บ้านตัวเอง จ้าวอิงหนานเป็นห่วงเล็กน้อยที่อู่เหมยอยู่บ้านคนเดียว
จึงให้สยงมู่มู่เอาเตียงเหล็กลงไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ จะได้มีที่ให้เฮ่อเหวินจิ้งนอนพอดี
อู่เหมยพาสยงมู่มู่กลับบ้านอย่างไม่เต็มใจ มือชี้ไปที่ห้องรับแขกพลางพูด “นายหาที่นอนเองนะ ผ้าห่มไม่พอค่อยมาเอาที่ฉัน!”
สยงมู่มู่ทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ เขาขี้เกียจจะใส่ใจอู่เหมย ตัวเองที่ปูเตียงเหล็กออก แล้วก็ปูฟูกนอนกับหมอนอย่างรวดเร็ว หันไปตะโกนใส่อู่เหมย “กลางคืนห้ามแอบมาดูฉันนอนล่ะ!”
“ใครอยากดูนาย เข้าข้างตัวเองชะมัด!”
อู่เหมยตอบกลับอย่างแค้นเคือง เธอรับไม่ได้กับท่าทางที่ชอบเอะอะโวยวายของสยงมู่มู่มาก แต่พอคิดๆ บางอย่างได้แล้วก็โพล่งออกมา “กลางคืนนายห้ามนอนกรนล่ะ ถ้าทำให้ฉันตื่นละก็ คอยดูละกันว่าฉันจะจัดการนายยังไง!”
“ใครนอนกรน? อู่เหมย เธออย่ามาใส่ร้ายคนอื่น ตัวเองนั่นแหละที่นอนกรน!”
สยงมู่มู่โก่งคอตะโกน เหมือนกับได้รับการสบประมาทอย่างมาก อู่เหมยทำเสียงฮัมอย่างภาคภูมิใจ เธอกลับห้องของตัวเอง เห็นเหยียนหมิงซุ่นที่กำลังฝึกซ้อมกายบริหารบ่าเดียวจากทางหน้าต่าง ในใจก็รู้สึกตื้นเต้นขึ้นมา เธอหยิบภาพวาดออกมาจากลิ้นชักแล้วก็เดินออกไป
……………………………………………………….
ตอนที่ 326 พี่หมิงซุ่นใส่เครื่องแบบทหารดูดีมาก
“เที่ยงคืนกว่าแล้ว เธอจะไปไหนล่ะ?” สยงมู่มู่ตะโกน
“ฉันจะไปสนามกีฬายืดเส้นยืดสายน่ะ นายก็นอนของนายไปสิ พูดมากทำไม?”
อู่เหมยไม่หันมามอง เธอเดินตรงออกประตูไป สยงมู่มู่คิดๆ ดูแล้ว ไม่วางใจ เขายังแอบตามไป ไปเดินเล่นยังต้องถือภาพวาดไปด้วย เอาไปขู่เด็กสามขวบเถอะ!
ตอนนี้ยายตัวดีเป็นน้องสาวของเขาแล้ว เขาต้องเฝ้าคุมสักหน่อย นี่คือหน้าที่ของพี่ชายนะ!
อู่เหมยไม่รู้เลยว่า มีผู้ชายลับๆ ล่ออยู่ข้างหลังเธอ เธอวิ่งไปทางด้านหลังสนามกีฬา เหยียนหมิงซุ่นเห็นเธอตั้งนานแล้ว จึงค่อยๆ ลดความเร็วลง เขากระโดดลงมาจากบาร์เดี่ยว ยิ้มพลางมองเด็กสาวที่วิ่งมา
“พี่หมิงซุ่นคะ ภาพวาดนี้ฉันให้พี่ค่ะ ขอบคุณที่พี่ช่วยฉันหลายอย่าง”
อู่เหมยหายใจหอบเล็กน้อย เธอยื่นภาพวาดที่วาดเสร็จนานแล้วออกไป เธอมีความกังวลเล็กน้อย กลัวว่าเหยียนหมิงซุ่นจะรังเกียจที่เธอวาดไม่สวย
เหยียนหมิงซุ่นคิดไม่ถึงว่าอู่เหมยจะมาเพื่อเอาภาพวาดมาให้ เขามีความประทับใจเล็กน้อย เขาก็ใจอ่อนขึ้นมาอีกครั้ง เขาค่อยๆ คลี่ภาพที่ม้วนอยู่ออก บนภาพมีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง กำลังชู้ตบาส ใบหน้ามีหลายส่วนที่คล้ายกับเขา แต่เค้าโครงคมกว่า และก็มีมิติกว่า
“นี่วาดพี่เหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มพลางถาม
อู่เหมยพยักหน้า เหยียนหมิงซุ่นอดถามไม่ได้ “เธอทำไมถึงวาดพี่สวมเครื่องแบบทหารล่ะ? ควรจะสวมชุดกีฬาไม่ใช่เหรอ?”
ไม่มีใครรู้ความคิดที่เขาอยากจะเป็นทหาร นอกจากลุงหมิง ไม่นึกเลยว่าอู่เหมยจะวาดภาพเหมือนที่เขาสวมเครื่องแบบทหาร สิ่งนี้ทำให้เขาทั้งตื่นเต้นและดีใจมาก
อู่เหมยงงงันอยู่พักหนึ่ง เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้เหยียนหมิงซุ่นเป็นแค่นักเรียน การเป็นทหารเป็นเรื่องอีกสองปีถัดไปตอนนี้เธอวาดเร็วขึ้นมาเล็กน้อย เธอครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วก็กล่าว “ฉันก็แค่รู้สึกว่าพี่หมิงซุ่นสวมเครื่องแบบทหารต้องดูดีมากๆ เลย ก็เลยวาดออกมา”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่รู้สึกว่าอู่เหมยคงไม่ได้ตั้งใจ เขาเห็นสายตาของเธอดูอ่อนโยนขึ้น จึงพูดหยอก “เธอวาดรูปพี่หล่อเกินไปนะ พี่ไม่ได้หล่อเหมือนกับภาพวาดนี้”
อู่เหมยหน้าแดงขึ้นมา ยิ้มด้วยความเขินอาย ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็เลยไม่พูดมันเสียเลย
“พี่ชอบภาพวาดพี่มาก ขอบใจนะเหมยเหมย”
เหยียนหมิงซุ่นม้วนภาพวาดด้วยความระวังระวัง แล้วก็วางบนพื้นหญ้า เดี๋ยวถือกลับบ้านไปก็จะเก็บไว้อย่างดีเลย อู่เหมยยิ้มอย่างเบิกบานใจ “พี่หมิงซุ่นชอบก็ดีแล้วค่ะ”
บาดแผลบนใบหน้าของยายตัวดีดีขึ้นมาก แต่ยังมีรอยแผลจางๆ อยู่ เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกสงสารขึ้นมา เขาถาม “คืนนี้เธอยังค้างอยู่ที่บ้านครูจ้าวไหม?”
“ไม่แล้วค่ะ แม่ของฉันไม่อยู่บ้าน ฉันกลับมาอยู่ที่บ้านคนเดียว แม่บุณธรรมจึงให้สยงมู่มู่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน” อู่เหมยตอบซื่อๆ
เหยียนหมิงซุ่นหน้านิ่วเล็กน้อย เขามองใครบางคนที่ลับๆ ล่อๆ แอบอยู่หลังต้นไม้ นี่คือข้อเสียของการดองญาติบุญธรรม จนสามารถเดินบุกรุกเข้าไปถึงห้องนอนได้อย่างเปิดเผย ยังดีที่ยายตัวดีกับสยงมู่มู่อายุไม่มาก ต่อไปถ้าโตกว่านี้ เขาต้องสั่งสอนอู่เหมยเสียหน่อยว่า ให้พึงระวังคนคิดร้าย อย่าได้โง่เขลา
สยงมู่มู่กัดฟันด่ากรอดๆ ยายตัวแสบวาดรูปให้เหยียนหมิงซุ่น แม้กระทั่งเขาที่เป็นพี่ชายก็ยังไม่วาดให้เลย!
ยายตัวแสบที่ไร้น้ำใจ กลับไปค่อยสะสางกับเธอ!
มีภาพเงาสีขาวแวบผ่านอู่เหมยไป เหยียนหมิงซุ่นตาไว มือไว เขาดึงหางเจ้าสัตว์ตัวเล็กไว้ได้ ฉิวฉิวโกรธหันหลังกลับมา และส่งเสียงร้องจิ๊กจิ๊กใส่เขา
“ปล่อยให้เจ้าไปอาบน้ำไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังไม่อาบ?” เหมียนหมิงซุ่นมองเจ้าสัตว์ตัวน้อยอย่างไม่พอใจ และก็ไม่รู้ว่าทั้งตัวไปโดนกลิ่นเหม็นเน่าที่ไหนมา เมื่อตะกี้เขาเหม็นจนเกือบเป็นลม เหม็นจนทะลุเข้าไปในอ้อมแขนของยายตัวดี ถ้าเธอทนได้สิถึงจะแปลก
“จิ๊กจิ๊ก”
ฉิวฉิวแยกเขี้ยวแหลมเล็กด้วยความโมโห เขาเกลียดการอาบน้ำที่สุด พอเปียกน้ำก็จะกลายเป็นกระรอกที่ซูบผอม จะมีขนปุกปุยที่สวยงามเหมือนตอนนี้ได้อย่างไร ประเดี๋ยวเขายังต้องไปหยอกเย้ากับกระรอกตัวเมียในป่าอีก!
………………………………………………………….