“ว-วิชาระดับสวรรค์…”
เหล่าศิษย์ต่างพากันมองดูเขาด้วยใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
“ท่านผู้นำนิกาย… พวกเราจะได้รับวิชาฝึกปราณระดับสวรรค์อย่างนั้นรึ…”
เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ แต่พวกเจ้ามิได้จำกัดอยู่เพียงแค่วิชาระดับสวรรค์ ถ้าพวกเจ้าสามารถพิสูจน์ให้ข้าเห็นว่าพวกเจ้าฝึกฝนวิชาอย่างจริงจัง ข้าเองก็ยินดีที่จะแบ่งปันวิชาปราณระดับเซียนให้แก่พวกเจ้า”
“วิชาระดับเซียน”
เหล่าศิษย์ต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
วิชาระดับสวรรค์ก็นับว่าเลอค่ามากแล้วในโลกนี้ ถึงขั้นที่ว่าผู้ฝึกวิชาส่วนใหญ่ในโลกนี้อยู่มาตลอดชีวิตโดยไม่เคยเห็นแม้แต่น้อย ดังนั้นผู้คนสามารถจินตนาการได้ว่าวิชาระดับเซียนนั้นมีค่ามากมายเพียงใด
อย่างไรก็ตามในสายตาของซูหยางซึ่งได้มีสายสัมพันธ์กับสำนักที่ทรงอำนาจและตระกูลลึกลับในชีวิตก่อนของเขา เขาได้เห็นวิชาระดับสวรรค์และวิชาระดับเซียนมานับไม่ถ้วน
ในฐานะเซียน ความทรงจำของเขานั้นโดยปกติแล้วถือว่าสมบูรณ์แบบ ยอมให้เขาจดจำวิชาทั้งหมดที่เขาเคยเห็นมาก่อน ดังนั้นถ้าเขาต้องการวิชาให้กับศิษย์เหล่านี้ เขาสามารถดึงพวกมันออกมาจากความทรงจำของเขาเขียนออกมาให้กับพวกเขา
“ข้าจักเริ่มให้วิชาฝึกปราณแก่นพวกเจ้าในวันมะรืนนี้ เนื่องจากว่าข้าจักติดธุระในวันพรุ่งนี้” ซูหยางกล่าว
“นั่นคือทุกอย่างที่ข้ามีในวันนี้ ตอนนี้เมื่อพวกเจ้ามีระดับแล้ว ผู้อาวุโสนิกายจักดำเนินการต่อมอบเสื้อผ้าและที่พักให้แก่พวกเจ้า”
“ตามข้ามา ข้าจักแจกจ่ายเสื้อผ้าของพวกเจ้าตามระดับของพวกเจ้า” ผู้อาวุโสซุนกล่าวก่อนที่จะนำศิษย์ไป
ยามเมื่อศิษย์ทั้ง 887 คนไปจากพื้นที่นั้นกับผู้อาวุโสซุนแล้ว ซูหยางก็หันไปมองศิษย์ที่เหลือ ศิษย์ประมาณหนึ่งร้อยคนที่ยินดีที่จะเป็นผู้ฝึกวิชาคู่
“แรกสุดและก่อนอื่นทั้งหมด ให้ข้าจัดระดับของพวกเจ้าก่อน”
หลังจากนั้นเหล่าศิษย์ก็ได้รับระดับของตนเอง
จากศิษย์ทั้งสิ้น 110 คนที่นั่น 80 คนของพวกเขาเป็นศิษย์นอก ในขณะที่ 27 คนได้เป็นศิษย์ใน และมีเพียง 3 คนนในหมู่พวกเขาที่ได้เป็นศิษย์หลัก
ในบรรดาศิษย์หลักสามคนนั้น เยี่ยนเยี่ยน อัจฉริยะที่เป็นที่รักของสวรรค์เป็นหนึ่งในนั้น
“เจ้ามั่นใจรึที่จะเป็นผู้ฝึกวิชาคู่ เจ้ายังเด็กเกินไป ดังนั้นเจ้าจึงมิสามารถที่จะเริ่มฝึกได้จนกว่าเจ้าจะถือว่าเป็นผู้ใหญ่เมื่ออายุได้ 16 ปี และเมื่อพิจารณาตามพรสวรรค์ของเจ้า… จะเป็นการดีที่สุดถ้าเจ้าฝึกแบบปกติ” ซูหยางกล่าวกับเธอ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะได้แนะนำเธอแล้ว ท่าทางของเยี่ยนเยี่ยนก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เธอกล่าวว่า “ข้าต้องการเป็นผู้ฝึกวิชาคู่”
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ โหลวหลานจีก็ถามเธอว่า “เรามาเริ่มต้นจากเจ้ารู้ไหมว่าอะไรคือการเป็นผู้ฝึกวิชาคู่”
และพวกเขาก็ต้องประหลาดใจกับคำตอบที่เยี่ยนเยี่ยนให้กับโหลวหลานจี เมื่อเธอส่ายหน้า
“เจ้าต้องการที่จะเป็นผู้ฝึกวิชาคู่โดยที่เจ้ามิรู้กระทั่งความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนั้นงั้นรึ” โหลวหลานจีถอนใจ “ข้าเสียใจ อย่างไรก็ตามข้าคิดว่าเจ้าควรจะเข้าร่วมกับศิษย์เหล่านั้นแทน”
อย่างไรก็ตามเยี่ยนเยี่ยนยังคงเยือกเย็นและกล่าวว่า “ในกรณีนั้น ถ้าข้าเข้าใจความหมายของการฝึกวิชาคู่ ท่านก็จักมิวุ่นวายกับการที่ข้าจะเป็นผู้ฝึกวิชาคู่ใช่ไหม”
“นี่..”
โหลวหลานจีพูดไม่ออก ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่จะต้องรับมือกับเด็กอายุ 12 ปี ที่ยุ่งยากเหมือนดังเช่นเยี่ยนเยี่ยน
“ข้าจักปล่อยเธอให้เจ้าจัดการ ซูหยาง…” โหลวหลานจีรีบยอมแพ้กับการหว่านล้อมเยี่ยนเยี่ยนและโยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้กับเขา
ซูหยางพยักหน้าจากนั้นเขาก็กล่าวกับเยี่ยนเยี่ยนว่า “การฝึกวิชาคู่ต้องการคนสองคนโอบกอดกันด้วยความเสน่หา กล่าวง่ายๆ ก็คือพวกเขามีเพศสัมพันธ์กัน”
“เพศสัมพันธ์รึ… มันคืออะไร” เยี่ยนเยี่ยนเอียงคอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
“เราคงต้องเริ่มต้นจากที่ตรงนั้นใช่ไหม” รอยยิ้มขมฝาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา
“จะเป็นสิ่งที่รวดเร็วกว่ามากในการแสดงให้เจ้าเห็น”
หลังจากที่กล่าวถ้อยคำเช่นนั้นแล้ว ซูหยางก็จิ้มนิ้วของเขาที่มีแสงอ่อนๆตรงปลายไปยังหน้าผากของเธอ
สองสามวินาทีให้หลัง ภาพสมจริงก็เริ่มปรากฏขึ้นในใจของเยี่ยนเยี่ยน
ภายในใจของเธอ มีคนสองคนอยู่ตรงหน้าเธอ หนึ่งชายและหนึ่งหญิง และพวกเขาก็ทำการร่วมฝึกวิชาคู่กับอีกฝ่าย
“นี่คือความหมายของการฝึกวิชาคู่…” เสียงของซูหยางดังขึ้นในใจของเยี่ยนเยี่ยนขณะที่เธอกำลังชมคนทั้งคู่ร่วมฝึกวิชา
หลังจากนั้นครั้นเมื่อการสาธิตในใจของเธอจบลง ซูหยางก็ถามเธอว่า “เจ้ายังคงต้องการที่จะเป็นผู้ฝึกวิชาคู่อยู่อีกหรือไม่”
เยี่ยนเยี่ยนตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวว่า “ต้องการ”
“อย่างงั้นรึ… เช่นนั้นข้าก็มิมีอะไรที่จะพูดอีก แต่ทว่าเจ้ายังคงต้องรอจนกระทั่งเจ้าเป็นผู้ใหญ่ก่อนที่เจ้าจะสามารฝึกวิชาคู่ได้ สำหรับตอนนี้นั้น ถึงแม้ว่าเจ้าจะถือว่าเป็นศิษย์หลัก เจ้าก็ยังเป็นศิษย์รุ่นเยาว์จนกว่าเจ้าจะกลายเป็นผู้ใหญ่”
“เช่นเดียวกันเพราะว่าเจ้ามีพรสวรรค์เฉพาะตัว บางทีข้าอาจจะเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่สามารถสอนเจ้าได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นเจ้าจักเป็นศิษย์โดยตรงของข้า”
“เจ้าค่ะอาจารย์” เยี่ยนเยี่ยนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“ทำไมเธอจึงไม่แยแสคนอื่นนอกจากเขา…” โหลวหลานจีครุ่นคิดในใจ
หลังจากนั้นซูหยางก็พูดกับศิษย์คนอื่นต่อว่า “ตอนนี้เมื่อพวกเจ้าทุกคนได้มีระดับแล้ว พวกเราก็จะมาพูดกันถึงเรื่องความไม่สมดุลระหว่างศิษย์”
“มีศิษย์ชายทั้งหมดเก้าคนและศิษย์หญิงทั้งหมด 101 คนที่นี่ และข้าก็มิได้เยาะเย้ยถากถางพวกเจ้าเหล่าชายเมื่อข้าพูดเช่นนี้ แต่ข้าสงสัยว่าพวกเจ้าจักสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับคู่ฝึกได้มากกว่าหนึ่งในเวลานั้นหรือไม่ นั่นหมายความว่าจักมีศิษย์หญิงอีก 92 คนที่จะมิมีคู่ฝึก”
“ตอนนี้ จะมีทางเลือกสามทางให้เลือกสำหรับเหล่าศิษย์หญิง”
“หนึ่ง เจ้าสามารถรอจนกว่าจะมีศิษย์มาเพิ่มมากกว่านี้ในปีหน้าเพื่อหาคู่ฝึก หรือเจ้าสามารถเดินทางออกไปข้างนอกและหาคู่ฝึกของตัวเจ้าเอง มิว่าอย่างไรก็ตามก็มิมีชายมากพอในที่แห่งนี้ในเวลานี้”
“ส่วนสำหรับตัวเลือกที่สอง เจ้าสามารถร่วมฝึกกับข้าจนกว่าเจ้าจะสามารถหาคู่ฝึกใหม่ได้”
ทันทีที่เหล่าศิษย์หญิงได้ยินตัวเลือกที่สอง ก่อนที่ซูหยางจะทันได้พูดต่อ พวกเธอทั้งหมดต่างก็ตอบด้วยเสียงอันดังว่า “พวกเราจักเลือกตัวเลือกที่สอง ท่านผู้นำนิกาย”
“ยังมีตัวเลือกที่สาม พวกเจ้ารู้รึเปล่า” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“พวกเรามิต้องการที่จะได้ยินตัวเลือกที่สาม ท่านผู้นำนิกาย พวกเราจักเลือกตัวเลือกที่สองโดยมิมีเงื่อนไข” เหล่าศิษย์กล่าว ดวงตาของพวกเธอเปี่ยมไปด้วยความยินดี