ตอนที่ 605 ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ / ตอนที่ 606 อำนาจความชอบธรรม

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 605 ปิดฉากอย่างสมบูรณ์

 

 

สวีอันหรานออกมาพูดอธิบายเรื่องของตนเองกับสวีรั่วชีอย่างชัดเจน ไม่ได้มีตรงไหนที่ทำเกินไปหรือให้คำสัญญาอะไร แค่เพียงออกมาอธิบายกับนักข่าวให้ชัดเจนเท่านั้นเอง

 

 

“ผมหวังว่าทุกคนจะไม่มาวุ่นวายกับครอบครัวของผมอีก ผมจะดูแลภรรยาของผมให้ดีไม่ให้ออกมาเจอกับนักข่าว แต่ก็หวังว่าพวกคุยก็จะไม่มารบกวนพวกเราเช่นกัน”

 

 

สวีอันหรานพูดออกมาอย่างชัดเจนขนาดนี้แล้ว ถ้ายังมีการมาเปิดโปงหรือตามตอแยสวีรั่วชีอีกก็คงต้องต้องใช้กฎหมายมาคุยกัน

 

 

เคลียร์จบไปแล้วเรื่องหนึ่ง เซ่าหมิงฟ่านก็รีบรับช่วงต่อทันที “เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวทำให้วันนี้ประธานเหยียนไม่สามารถมาร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ได้ แต่มีความจริงบางอย่างที่ผมอยากจะให้ทุกคนทำความเข้าใจ”

 

 

เขาเอาหลักฐานและข้อมูลที่เหยียนเค่อเพิ่งส่งมาให้ออกมาให้ทุกคนได้เห็น และด้วยความที่เตรียมได้เหมาะสมกับเวลาถึงแม้สุดท้ายจะทำได้แค่ช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ YAN แม้ไม่ได้มีการให้คำอธิบายเพิ่มเติมในด้านอื่นๆอย่างชัดเจนนักแต่คนที่ฉลาดก็ต่างพอมองออกว่ามันคือการจัดฉากชำระหนี้แค้นกันเองเฉยๆ แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อYANหรือเหยียนเค่อสักเท่าไหร่นัก

 

 

“ทั้งหมดนี้ก็คือเนื้อหาที่เราจัดแถลงการณ์ในวันนี้ ปัญหาที่เหลือเราจะไม่มานั่งตอบอีก หวังว่าปัญญาชนทุกคนจะมองแยกแยะเรื่องนี้ออกอย่างถูกต้อง วันนี้การแถลงข่าวก็คงจบเท่านี้ ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานนะคะ”  อันหรานหลังจากทำหน้าที่พิธีกรเสร็จขาก็เริ่มอ่อนแรง ความจริงวันนี้คนที่ขึ้นไปพูดต้องเป็น Belle แต่เนื่องจากสถานะของหล่อนคค่อนข้างพิเศษจึงไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้านักข่าวตอนนี้ได้ อันหรานจึงต้องรับหน้าที่แทน

 

 

สวีอันหรานกับเซ่าหมิงฟ่านโค้งตัวขอบคุณ จากนั้นก็เดินกลับไปหลังเวที

 

 

“น่ารำคาญจริงๆ แค้นนี้ถ้าไม่ชำระอย่ามาเรียกฉันว่าลูกผู้ชาย” สวีอันหรานอดทนไม่ไหวระเบิดออกมาก

 

 

เซ่าหมิงฟ่านยังดี เขานั่งอยู่ตรงนั้นดูเรื่องสนุกอยู่เป็นนาน ออกมาช่วยพูดแค่เป็นช่วงๆเท่านั้นเองดังนั้นจึงไม่ถือว่าเหนื่อยมาก แต่ในใจของเขาก็จดหนี้ของเหยียนเฟิงไว้อย่างโกรธแค้นแล้วเหมือนกัน

 

 

“ไม่รู้ว่าเหยียนเค่อจะกลับมาเมื่อไหร่ ถ้าถึงตรุษจีนจะยิ่งยุ่งกว่านี้ จนว่าฉันคงเหนื่อยจนหาทางกลับบ้านไม่เจอ” เซ่าหมิงฟ่านทำท่าทางหน้าสงสาร

 

 

เหยียนเฟิงยังอยู่ในห้องหนังสือไม่รู้ว่าพ่อจะพูดอะไรกับตน แต่เห็นว่าพ่อก็ยังคงนั่งเขียนหนังสืออยู่นิ่งๆไม่ได้แสดงอาการแบบที่เขาคาดหวังจะได้เห็น จึงคิดคำนวณอยู่ในใจว่าจะพูดให้เหยียนเค่อดูแย่ลงไปอีกได้อย่างไร

 

 

พ่อเหยียนมีประสบการณ์ผ่านเรื่องการแก่งแย่งชิงดีกันมามากมายกว่าจะได้มาอยู่ถึงจุดนี้ การลงมือของเหยียนเฟิงถ้าอยู่ที่ตระกูลอื่นหรือหรือลงมือกับตระกูลเหยียนเมื่อสมัยก่อนจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าพ่อเหยียนกลัวตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสองจะต้องมาทะเลาะกันเลยบอกออกมาชัดเจนว่าคนที่จะได้รับช่วงต่อจากเขาคือเหยียนเฟิง ดังนั้นเรื่องพวกนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งคู่อีก

 

 

“เรื่องพวกนี้พ่อจะไม่ขุดคุ้ยต่อไปอีก หวังว่าแกจะรู้ตัวเองบ้าง หลายปีมานี้พ่อก็พูดเอาไว้แล้ว แกคือเมล็ดที่พ่อปั้นมากับมือ น้องชายแกก็ลำบากมาเยอะ ต่อไปอย่าทำเรื่องที่ทำให้คนอื่นเขามาหัวเราะเยาะได้แบบนี้อีก”

 

 

ในใจของพ่อเหยียนยังมีหวังในตัวเหยียนเฟิงอยู่ ถึงแม้ในชีวิตนี้เขาจะรู้สึกว่าเหนียนเค่อมีความสามารถมากกว่า แต่เขายังคงมีความเชื่อในเรื่องที่ว่าลูกชายคนโตต้องเป็นคนสืบทอดธุรกิจ

 

 

“พ่อ…” เหยียนเฟิงยังอยากจะแก้ต่าง

 

 

แต่พ่อเหยียนโบกมือให้หยุด “ไปแถลงการณ์ให้ชัดเจน ไม่ว่าแกจะใช้วิธีไหนแต่ว่าห้ามใส่ร้ายน้องชายแกเด็ดขาด”

 

 

เหยียนเฟิงกำหมัดแน่น รับไม่ได้กับคำตัดสินของพ่อตนเอง แต่เขาก็รู้ดีว่าพ่อพูดออกมาชัดเจนขนาดนี้แล้ว หากเขาไม่ทำตามคำสั่งเขาก็จะกลายเป็นคนที่ดูแย่ในสายตาพ่อทันที

 

 

“ครับ” เหยียนเฟิงรับคำ “น่าจะเป็นเพราะรุ่นน้องของผมอยากจะทำลายความสัมพันธ์ของผมกับเหยียนเค่อ” เหยียนเฟิงพูดแก้ต่างให้ตนเองในเรื่องนี้ได้อย่างชาญฉลาด

 

 

พ่อเหยียนไม่สนใจว่าลูกชายจะพูดอธิบายอย่างไร โบกมือเป็นทำนองว่าให้เขาออกไปได้แล้ว

 

 

เหยียนเฟิงเดินไปถึงหน้าประตูพ่อเหยียนก็นึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ “บอกน้องชายแกด้วย ว่าให้มันน้อยๆหน่อย”

 

 

“ครับ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 606 อำนาจความชอบธรรม

 

 

หลังจากที่เหยียนเฟิงปิดประตูแล้วก็อดยิ้มเย็นไม่ได้

 

 

คนรับใช้ต่างไม่กล้าเข้าใกล้คุณชายใหญ่ผู้เยือกเย็น ทั้งหมดไม่มีใครกล้ามองสีหน้าของคุณชายใหญ่

 

 

ในใจของเหยียนเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธ

 

 

เขาคือต้นหกล้าที่พ่อเลี้ยงมากับมือ แต่พ่อกลับไม่เคยพูดเลยว่าเขาเป็นผู้สืบต่อตำแหน่งประมุขของตระกูลต่อจากท่านในอนาคต ดังนั้นเวลาเขาเห็นเหยียนเค่อเลยรู้สึกขัดใจตลอดกลัวว่าสักวันพ่อจะยกตำแหน่งประมุขของตระกูลให้กับมันแทน

 

 

พวกเฉิงนั่ว หลี่หมิงฉวียังรอฟังข่าวดีจากเขาอยู่ ตอนที่เซ่าหมิงฟ่านเริ่มแถลงข่าวยังนึกอยู่เลยว่าเหยียนเค่อไม่มีปัญญาทำเองแล้ว แต่ผ่านไปไม่เท่าไหร่ตระกูลเหยียนกลับออกมาประกาศว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัท YAN อยากจะทำให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องต้องแตกคอจึงได้ทำแบบนี้ อีกทั้งยังประกาศบอกอีกว่าเหยียนเค่อสร้าง YAN มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากบริษัทตระกูลเหยียนเลยสักนิด

 

 

ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ แต่หุ้นของ YAN ก็ยังมีบางส่วนตกอยู่ดี

 

 

เซ่าหมิงฟ่านกับสวีอันหรานออกมากินข้าวด้านนอก คาดเดาได้ว่าตระกูลเหยียนคงออกมาให้คำแถลงการณ์แล้ว พอเปิดดูเห็นเนื้อหาแล้วก็รู้สึกสะอิดสะเอียด

 

 

“นายคิดว่าโยนเรื่องทั้งหมดไปที่ชวีหน่ายก็จบแล้วเหรอ ชวีหน่ายฟ้องร้องมันได้เลยนะ”

 

 

สวีอันหรานส่ายหน้า “ถ้าชวีหน่ายไม่ได้ชอบเหยียนเค่อต้องยื่นฟ้องเหยียนเฟิงแน่ๆ แต่ตอนนี้รักเปลี่ยนเป็นแค้น หล่อนไม่ฟ้องเหยียนเฟิงหรอก แต่จะใส่ร้ายไปที่เหยียนเค่อแทน”

 

 

เซ่าหมิงฟ่านไม่เข้าใจผู้หญิงสติไม่ดีแบบหล่อน แต่ว่า… “นายไม่ได้กลับบ้านมาทั้งวัน แล้วก็ไม่แวะไปดูด้วย สวีรั่วชีต้องเป็นห่วงนายมากแน่ๆ”

 

 

“เธอไม่เป็นห่วงหรอก เห็นหน้าฉันก็รู้สึกรำคาญแล้ว” สวีอันหรานปวดหัวมากขึ้น มีทั้งเรื่องภายนอกภายในถาโถมกันเข้ามา

 

 

เซ่าหมิงฟ่านเห็นใจแล้วชนแก้วกับเพื่อน “เอาเถอะ อย่างนั้นวันนี้อยู่ทำโอทีกับฉันต่อที่ YAN จะได้พา Belle ไปด้วยเลย”

 

 

“อือ” คนที่กลับบ้านไม่ได้เลยทำได้แต่มารวมตัวกันที่ YAN

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมั่วตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เธอสะลึมสะลือควานหาโทรศัพท์มาดูเวลาแต่กลับต้องตื่นขึ้นมาเต็มตากับข่าวประเด็นร้อนที่เห็นแล้วต้องตกใจ

 

 

“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” ซย่าเสี่ยวมั่วเปิดดูแล้วก็เลื่อนดูคอมเม้นต์ไร้สาระด้านล่าง ในใจรู้สึกไม่สงบ อยากจะโทรหาเหยียนเค่อแต่ลังเลอยู่นานก็ไม่กล้ากดปุ่มโทรออกสีเขียว

 

 

“บางทีเขาอาจจะยุ่งอยู่ ฉันไม่ควรโทรไปรบกวน” ซย่าเสี่ยวมั่วปลอบตัวเอง จากนั้นกดดูภาพที่ฉินซื่อหลานส่งมาให้เมื่อคืนใจก็ยิ่งหดหู่กว่าเดิม

 

 

ไม่มีเธออยู่ด้วยชายหนุ่มดูมีความสุขยิ้มแย้มทุกภาพ พออยู่กับเธอมีแต่ทำหน้าโมโหตลอดเวลา ดูท่าแล้วเธอไม่ควรจะไปปรากฏตัวในโลกของเหยียนเค่อ

 

 

เหยียนเค่อไม่รู้ว่าในใจซย่าเสี่ยวมั่วคิดอะไรอยู่ แต่ว่าตอนนี้เขาว่างจนอยากจะโทรหาซย่าเสี่ยวมั่วแต่ก็ไม่รู้จะอ้างเหตุผลอะไรที่เหมาะสมดี จึงรอให้ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นข่าวแล้วกังวลใจส่งข้อความมาหาเขาบ้างก็ยังดี

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วสงบใจอยู่พักหนึ่ง หลังจากทำกับข้าวกินเสร็จมาดูข่าวอีกครั้งเรื่องกลับกลายเป็นอีกแบบนหนึ่ง แต่ยังมีคนบางส่วนต่อว่าเหยียนเค่อ ขนาดมีคนกล้าพูดว่าเหยียนเค่อหน้าตาน่าเกลียด

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วโต้กลับคนนั้นอย่างโมโหทันที “คุณพูดว่าคนอื่นน่าเกลียดแล้วจิตใจคุณสวยงามนักหรือไง คุณไม่เคยเห็นหน้ากล้าดีอย่างไรมาบอกว่าเขาน่าเกลียด”

 

 

คนคนนั้นส่งรูปประหลาดๆน่าเกลียดตอบกลับซย่าเสี่ยวมั่วมา “ฉันเคยเห็นเขาแล้ว นี่คือหน้าตาของเขา ถ้าคุณยังคิดว่าเขาหล่อล่ะก็คุณก็คงตาบอดแล้วล่ะ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วอยากจะส่งภาพที่ฉินซื่อหลานส่งมาให้เธอเมื่อคืนออกไปตบหน้าคนคนนั้นเสียจริง เหยียนเค่อขาวจนจะเปล่งแสงได้ ไอ้รูปภาพดำๆอย่างชาวแอฟริกานี่มันอะไรกัน

 

 

แฟนคลับของซย่าเสี่ยวมั่วเห็นว่าซย่าเสี่ยวมั่วโพสต์ก็เริ่มตื่นเต้น กะว่าจะเข้าไปช่วยเถียงแต่ถูกซย่าเสี่ยมั่วห้ามเอาไว้ก่อน

 

 

ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากดึงแฟนคลับมาร่วมด้วยกับปัญหาของเธอคนเดียว ไม่อย่างนั้นคนหน้าไม่อายคนนั้นอาจจะหาว่าเธอจ้างคนมาแกล้งก็เป็นได้